ตอนที่แล้วบทที่ 12 หวังเย่ยอมจำนน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 เฮ้…เจ้าทำสบู่ตก

บทที่ 13 เรียกหาบิดา


บทที่ 13 เรียกหาบิดา

การโยนมีดสั้นครั้งนี้ มันทำให้เตียวเหยียงประหลาดใจและสับสนเล็กน้อย:อู๋จวงจู๊ผู้นี้มาจากไหน?

แม้แต่หวังเย่ก็ยังชื่นชมเขางั้นเหรอ?

【คะแนนกิจกรรม +500】

อู๋ฉีรู้สึกตลกในใจมากในเวลานี้: พี่ชาย…คุณเงยหน้าขึ้นมองฉันสิ! ทักษะของฉันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คุณคิด!

ปรากฎว่าหวู่ฉีค้นพบตอนที่เขาทำภารกิจมือใหม่ก่อนหน้านั้น ทุกครั้งที่เขาทำการโจมตี ระบบจะเพิ่มความสามารถของเขาตามนั้น

มันทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก!

เพียงแค่ชกหนึ่งหมัด ระบบจะให้ความสามารถในการต่อย +5 หรือทำให้เกิดการโจมตีคริติคอล +10

หรือเขาขว้างก้อนหิน ระบบจะให้ความสามารถในการขว้าง +5 อะไรแบบนี้

เช่นเดียวกับขวาน ดาบ หอกและอื่นๆ ที่คล้ายกัน ถ้ามีเขาใส่ถั่วลงในถุงผ้าแล้วขว้างใส่ใครสักคน ระบบจะถือว่ามันเป็นโซ่ค้อนทันที

เพราะดาบสังหารมังกรคือดาบที่เขาฝึกฝนมากที่สุดในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เขาจะใช้ดาบทุกครั้งที่ไม่มีอะไรทำ เขาได้พัฒนาทักษะด้านดาบให้อยู่ในระดับที่สูงมากและทำให้เกิดคุณสมบัติใหม่:

เขามีคุณสมบัติ: ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธ

  

【ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธนั้นคล้ายคลึงกับทักษะเสริม ซึ่งมันจะปรับปรุงการเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านอาวุธ ระดับสูงสุดคือห้าดาว

ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธดาบหรือมีดในปัจจุบันของโฮสต์คือห้าดาว ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้โฮสต์สามารถใช้อาวุธอย่างดาบหรือมีดอย่างเชี่ยวชาญแล้ว แต่มันยังเพิ่มพลังโจมตีและอัตราคริติคอลอย่างมากเมื่อสวมใส่ดาบหรือมีด

ในทางกลับกัน หากโฮสต์ไม่มีคุณสมบัติ: ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธของอาวุธที่โฮสต์ใช้ มันจะมีการลงโทษในด้านพลังโจมตีและอัตราคริติคอลเมื่อใช้อาวุธที่โฮสต์ไม่เชี่ยวชาญ]

ดังนั้นอู๋ฉีจึงประกาศอย่างภาคภูมิใจได้ว่า: ไม่มีใครรู้จักมีดดีไปกว่าฉัน!

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าอู๋ฉีสามารถเอาชนะหวังเย่ ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาสามารถทรมานกวนอูด้วยกระบี่ได้ เพราะไม่ว่าคุณจะสามารถเอาชนะเขาได้หรือไม่นั้น มันไม่ได้ถูกกำหนดโดยความเชี่ยวชาญด้านอาวุธเพียงอย่างเดียว มันยังมีความแข็งแกร่ง ความคล่องตัว ประสบการณ์การต่อสู้ ทักษะพิเศษ การปรับตัวด้านสิ่งแวดล้อม...มันมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

อู๋ฉีไม่มีความมั่นใจในการเอาชนะหวังเย่เลยจริงๆ

แต่ถ้าเราแค่พูดถึงการแสดงทักษะดาบและการแสดงทักษะที่เป็นเอกลักษณ์... ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันได้เห็นผลลัพธ์แล้ว และแม้แต่หวังเย่ยังหมดความมั่นใจ

ในตอนนี้ อู๋ฉีเพิกเฉยต่อความคิดของพวกเขาทุกคน และยังคงรักษาเล่าหงต่อไป

เขาหยิบแท่งไม้จากมือของเตียวเสี้ยน แล้วยัดเข้าไปในปากของเล่าหง

“ของข้า(แท่งไม้)มันใหญ่มาก โปรดอดทนเล็กน้อย!” อู๋ฉีบอกออกมา

  

เขาเปิดปากของเล่าหง

หลังจากนั้น...

อู๋ฉีหันหลังกลับและจากไป

เตียวเหยียงรู้สึกประหลาดใจ: "อู๋จวงจู๊ เจ้าจะไปไหน?"

อู๋ฉีหันมาและตอบว่า "ข้า…อู๋ฉี ข้าพยายามอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งชีวิต แล้วทำไมข้าจะต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย"

(ประโยคนี้ อู๋ฉีเอามาจากคำพูดของพระเอกในเรื่องRebirth Of The Urban Immortal Cultivatorนะครับ ผมเห็นมีแปลไทยอยู่ ลองไปหาอ่านดูครับ)

เตียวเหยียง “?”

  

【ตรวจพบว่าผู้เล่นใช้วลีเด็ดจากนิยายชื่อดัง คะแนนสุดท้ายของกิจกรรมจะถูกตัดสินโดยการคูณด้วยสอง! 】

อู๋ฉี "ข้าจะไปซื้อส้ม เจ้าอยู่ที่นี่และอย่าเดินไปมาล่ะ"

เตียวเหยียง “???”

เขาเห็นความเร็วในการเดินของอู๋ฉีเพิ่มขึ้น และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา!

เตียวเหยียงคิดว่า: ชายผู้มั่งคั่งคนนี้ อู๋ฉี...เขาอาจคิดได้ว่า เขาไม่สามารถรักษาฝ่าบาทให้หายขาดได้...

เขากำลังยอมแพ้ใช่ไหม? !

เอ่อ นี่...

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเขาก็กระตุกทันที

ทว่าเขาไม่โกรธอีกแล้ว

เหตุผลที่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะโกรธ เพราะว่าเขายังมีความหวังที่จะช่วยเหลือเล่าหงอยู่

ตอนนี้แม้อู๋ฉีดูเหมือนว่าจะยอมแพ้ ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่า เตียวเหยียงจะยอมแพ้อย่างสมบูรณ์...

แต่ใครจะรักษาฝ่าบาทได้ล่ะ?

เอ่อ……

  

ถ้าจักรพรรดิสิ้นพระชนม์ ความมั่งคั่งและอำนาจในการปกคลุมท้องฟ้าด้วยมือข้างเดียว เขาที่อยู่เหนือคนนับหมื่นแต่อยู่ภายใต้บุคคลเพียงผู้เดียว..ทั้งหมดจะสลายหายกลายเป็นฝุ่น

ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร อู๋ฉีก็เดินไปไกลแล้ว เมื่อเขากำลังจะไปถึงทางเข้าลานบ้าน ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเรียก...

"爸(ปา)……爸(ปา) (บิดา)!"

อู๋ฉีตกใจ เขาหันกลับไปและเห็นว่าเป็นเตียวเหยียงที่พูดอย่างนั้น!

เขาตะโกน "爸爸(ปาปา)" มาทางเขาจริงดิ!

อะไรวะเนี่ย!?

ทันใดนั้น อู๋ฉีก็มีความสุขและยิ้มอย่างเต็มที่ให้กับเตียวเหยียง: "เห้ย! ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้! ข้าแค่ล้อเล่นเจ้าเท่านั้น"

“ฮะ?”เตียวเหยียงรู้สึกสับสน

เดิมทีเตียวเหยียงตระหนักถึงอนาคตอันเยือกเย็นของเขาแล้วถอนหายใจ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทันใดนั้นการรู้แจังบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

เขามองไปที่ร่างที่จากไปของอู๋ฉีแล้วถอนหายใจ:

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน!”

อู๋ฉีหันมา คิดว่าฉันจะเล่นตลกกับคุณเหมือนเรื่อง "บิดา" ของจูจื่อชิง เมื่อคุณเรียกฉันว่าพ่อจริงๆ งั้นเหรอ?

ไม่สิ เขาซึ่งเป็นคนโบราณจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

เป็นไปได้ไหมว่า...

ชายชราผู้นี้ก็เป็นนักเดินทางข้ามเวลาด้วยงั้นเหรอ?

“อู๊จวงจู๊?” หัวใจของเตียวเหยียงที่จมอยู่ก็ลุกขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาได้ยินอู๋ฉีกล่าวว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น เขาก็ถามอย่างมีความหวังว่า "ท่านมีวิธีที่จะช่วยฝ่าพระบาท(ปี่เซี่ย)ได้หรือไม่?"

  

อู๋ฉีงุนงง "หืม? อะไรนะ? นายน้อยของเจ้าชื่อไป๋เซี่ย?"

เตียวเหยียง: "เอ่อ...อ่า…นั่น...ใช่แล้ว!"

อู๋ฉีไม่สงสัยอะไร เขาโบกมือแล้วพูดว่า  "แน่นอนอยู่แล้ว ข้าย่อมช่วยได้!"

“อา เยี่ยมมาก!”เตียวเหยียงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ในตอนนี้เอง มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น!

ทันทีที่อู๋ฉียกมือขึ้น วัตถุที่ไม่รู้จักก็ถูกโยนออกมาจากมือของเขา และตรงไปที่เตียวเหยียง!

“กงกง ระวัง!” หวังเย่วรีบเตือน

เตียวเหยียงมองเห็นไม่ชัด แต่หวังเย่มองเห็นได้อย่างชัดเจน... แม้ว่าเขาจะมองเห็นได้ชัดเจนเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็เห็นอู๋ฉียกมือขึ้นเพื่อขว้างปา ซึ่งมันเป็นท่าทางแบบเดียวกับที่เขาขว้างมีดทุกประการก่อนหน้านี้!

เขาขว้างมีดออกและมันสามารถทะลุกำแพงหินได้ ไม่ว่าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อมันกระทบหน้าของ เตียวเหยียง มันคง...

หวังเย่วรู้สึกว่า แม้เตียวเหยียงจะมีผิวหน้าที่หนา แต่เขาคงไม่หนากว่ากำแพงหิน!

เนื่องจากมีชีวิตและความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง หวังเย่วจึงยื่นมือออกทันทีและดึงเตียวเหยียงออกไปข้างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมันอย่างหวุดหวิด

ทว่ามันเป็นเพียง...

วัตถุที่ถูกขว้างหลังจากตกไปยังตำแหน่งที่เตียวเหยียงยืนอยู่เมื่อครู่ มันชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นค่อย ๆ ปลิวลงกับพื้น...

มารดาเจ้า มันคือผ้าเนี้ยนะ!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ว่าผ้าชิ้นนี้จะโดนเตียวเหยียง แต่มันก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ กับเขา

แม่งเอ้ย…สัญญาณเตือนที่ผิดพลาด!

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้หวังเย่ชื่นชมอู๋ฉีมากยิ่งขึ้น…

เจ้ารู้ไหม การขว้างมีดไม่สำคัญ ใครๆ ก็ทำได้ แม้ว่าหลายคนจะเจาะกำแพงหินไม่ได้ก็เถอะ

แต่การขว้างผ้าที่เบาและฟู จนมันสามารถบินออกไปเป็นเส้นตรงและเร็วเหมือนของหนัก มันต้องใช้ทักษะที่สูงมาก สิ่งนี้ไม่สามารถบรรลุได้ด้วยการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งเลย หากไม่มีทักษะหรือวิชาชั้นยอด แม้จะฝึกฝนมาเป็นร้อยปี มันก็ทำไม่ได้

ผู้เชี่ยวชาญ!

ปรมาจารย์!

สุดยอดปรมาจารย์!

ทักษะของสุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริง!

หวังเย่วรู้สึกประทับใจมากจนเขาตกเริ่มหลุมรักอู๋ฉีมากยิ่งขึ้น

“ท่านปรมาจารย์หมู่บ้านตระกูลอู๋มีทักษะยอดเยี่ยมยิ่งนัก หวังเย่เต็มใจที่จะด้อยกว่า!” หวังเย่แสดงความเคารพอู๋ฉีอย่างมาก!

【คะแนนกิจกรรม +4,000】

อู๋ฉีโบกมือแล้วยิ้ม: ไม่มีใครรู้จักการขว้างได้ดีไปกว่าฉัน!

  

【ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธขว้างปาของโฮสต์ในปัจจุบันคือห้าดาว โฮสต์สามารถใช้เทักษะการขว้างที่ซับซ้อนต่างๆ ได้】

อู๋ฉีอธิบายให้เตียวเหยียงอีกครั้ง  "ข้าแค่เห็นว่าเจ้าเหงื่อออก ข้าจึงส่งผ้าให้เจ้าเช็ด ดูสิ! เจ้าหวาดระแวงไปทำไม?"

“เอ่อ...ขอบคุณ จวงจู๊!” ตอนนี้เตียวเหยียงเสียอารมณ์ไปกับอู๋ฉีไปอย่างสิ้นเชิง

อู๋ฉีเพิกเฉยต่อเขา เขามองไปที่ปากที่เปิดกว้างของเล่าหง เขากะระยะห่างด้วยสายตา หลังจากนั้นหยิบถั่วออกมาจากแขนของเขา

ก่อนที่ใครจะทันโต้ตอบ อู๋ฉีโบกมือแล้วถั่วก็ตกลงไปในปากของเล่าหงอย่างแม่นยำ

“เอาล่ะ ข้ารักษาเสร็จแล้ว!” อู๋ฉีปรบมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“นี่คือ...รักษาแล้วเหรอ?” จู่ๆ พวกเตียวเหยียงทั้งสามคนก็รู้สึกสงสัย พวกเขาสงสัยว่าอู๋ฉีกำลังพยายามเล่นตลกอะไรอีก?

หวังเย่ก็งงมากเช่นกัน: มีนักต้มตุ๋นเร่ร่อนมากมายในโลกที่ชอบใช้วิธีการแปลกๆ ในการรักษาโรค เห็นได้ชัดว่าพวกเขารักษาไม่ได้หายขาด แต่พอถามหาวิธีให้หายขาด พวกเขาก็วิ่งหนีไป

อู๋จวงจู๊ผู้นี้คงไม่...

ไม่ ไม่ บุคคลระดับสุดยอดปรมาจารย์แบบนี้ เขาไม่ควรจะหลอกลวง!

เมื่อทั้งสามคนเกิดความสงสัยและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป จู่ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียง...

“หืม ทำไมข้าถึงมานอนที่นี่ล่ะ อาฟู(บิดา) พวกเราอยู่ที่ไหน?”

(เล่าหงเรียกเตียวเหยียงเป็นพ่อบุญธรรมนะครับ)

เสียงของเล่าหง!

  

และที่สำคัญคือ...

เสียงของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง!

เตียวเหยียงหันกลับมาทันที  "ฝ่าบา...เอ่อ นายน้อย!"

เขาตื่นเต้นมากจนเกือบจะเรียกผิดอีกครั้ง

เขาเห็นเล่าหงในเวลานี้มีผิวที่แดงก่ำและดวงตาที่สดใส เขาลุกขึ้นจากเสื่อฟางแล้วมองเตียวเหยียงด้วยความสับสน

เตียวเหยียงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและรีบวิ่งไปหาเขา เขาสำรวจซ้ายสำรวจขวาและในที่สุดก็ได้รับการยืนยัน...

เล่าหง...หายขาดแล้วจริงๆ!

  

มันไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เขาหายแล้วจริงๆ!

เตียวเหยียงระล่ำระลัก "นี่...นี่...นี่มันสุดยอดมาก!"

องครักษ์ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญว่า "อู๋จวงจู๋ช่างล้ำเลิศมากด้านการแพทย์ เขาสามารถรักษาโรคได้ด้วยโอสถเพียงเม็ดเดียว นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน!"

【คะแนนกิจกรรม +10,000】

อู๋ฉียิ้มและไม่พูดอะไร: ไม่สำคัญ ไม่มีใครรู้ทักษะทางการแพทย์ดีไปกว่าฉัน!

หลังจากนั้น เขาก็ตะโกนออกมาผ่านความคิดของเขา  "ระบบ..."

(ตอนนี้งงๆ นะครับ ไม่รู้ว่าเตียวเหยียงเรียกพระเอกเราว่า 爸爸(ปาปา) บิดาทำไม เหมือนมันอาจมีความหมายอื่น ใครรู้ก็บอกทีนะครับ)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด