ตอนที่แล้วบทที่ 9 : คำเชิญชวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 พิธีมอบพันธ   

บทที่ 10 : ศาสตร์ปืนเร้นลับ


ลินดี้และเฟยหลินออกจากห้องทดลองและเดินข้ามถนน

บนถนนมีรถม้าสีขาวลากโดยม้าสองตัวที่มีขนสีขาวบริสุทธิ์ ข้าง ๆ รถม้ามีหญิงสาวผมบลอนด์ยาวยืนอยู่

หญิงสาวคนอายุยี่สิบกลาง ๆ สวมแว่นตากรอบบางและมีรูปร่างสมส่วน แทนที่จะสวมกระโปรงเธอสวมแจ็กเก็ตสีเหลืองและกางเกงสีเบจ

เป็นชุดที่หายากในหมู่ผู้หญิงในยุคนี้ แม้จะเป็นเทรนด์ใหม่แต่ผู้หญิงชั้นสูงส่วนใหญ่ก็ยังไม่ยอมรับ

"การเชิญชวนเป็นไปด้วยดีสินะคะ?" เมื่อเห็นเฟยหลินที่ออกมาพร้อมกับลินดี้ เธอจึงถามเสียงดัง

"อืม เรียบร้อยดี" ลินดี้พยักหน้าแล้วแนะนำเฟยหลิน

"นี่คือจูลี่ เคท เลขาของเขาเอง และเป็นคนที่ค้นพบทักษะของคุณ"

"สวัสดีครับคุณเคท" เฟย์หลินทักทายจูลี่อย่างสุภาพ บุคลิกของหญิงสาวตรงหน้านั้นดูแอบน่าเกรงขามเล็กน้อย

"สวัสดีค่ะคุณซุกส์" จูลี่ยื่นมือออกไป

เฟยหลินรีบเอื้อมมือออกไปและจับมือกับเธอ มือของจูลี่ขาวและเรียวนุ่ม แต่ซ่อนความเย็นชาไม่น้อย มันไม่สุภาพถ้าเขาปล่อยมือออกด้วยการจับเบา ๆ

"งั้นกลับกันเถอะ"

เมื่อเห็นว่าทั้งสองทักทายกันแล้วลินดี้จึงเป็นผู้นำในการขึ้นรถม้า จูลี่และเฟยหลินตามเข้าไปในรถม้า

สมเป็นรถม้าของหญิงสาว การตกแต่งภายในรถม้ามีความเป็นผู้หญิงมาก และยังมีกลิ่นหอมจาง ๆ อบอวลอยู่

คนขับรถม้าดึงบังเหียนและรถม้าก็เดินไปข้างหน้าอย่างราบรื่น

พวกเขามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ขับรถม้าเข้าสู่พื้นที่ทางตะวันออกของย่านที่อยู่อาศัยของผู้ดี ในที่สุดก็เข้าไปในวิลล่าดูธรรมดาท่ามกลางวิลล่าที่มีอยู่มากมาย

นี่คือสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรสาขาเมืองคอนสแตนติน

ลงจากรถม้าแล้วทั้งสามก็เดินเข้าไปข้างใน

"รองผู้อำนวยการ"

"รองผู้อำนวยการ"

มีคนไม่มากนักในสาขา แต่พวกเขาพบปะผู้คนเป็นครั้งคราวเท่านั้น ไม่รู้เลยว่ายังเหลืออีกกี่คนที่ออกไปทำงานข้างนอกและยังไม่ได้กลับมา

ทุกคนที่พบทักทายลินดี้อย่างสุภาพ พลางมองไปที่เฟยหลินผู้มาใหม่

เข้าไปในห้องทำงานรองผู้อำนวยการ จากนั้นทั้งสามนั่งลงบนโซฟา

ด้วยความรู้ของเฟยหลินเกี่ยวกับเครื่องประดับและการประเมินของเก่า ไม่นานเขาก็ค้นพบว่าของตกแต่งต่าง ๆ ในสำนักงานนั้นไม่ธรรมดาและมีราคาแพงมาก

โดยเฉพาะโซฟาหนังที่พวกเขานั่งอยู่ตอนนี้ มันมีราคาแพงที่สุด เพราะเย็บจากหนังปลาวาฬหลังเงินหายาก

จูลี่ เคทรินชาดำให้คนละแก้ว ลินดี้จิบชาดำขณะมองเฟยหลินแล้วถาม

"คุณซุกส์ ฉันสงสัยว่าคุณเคยได้ยินเรื่องคุณไสยหรือพวกไสยศาสตร์มนต์ดำบ้างหรือเปล่า?"

"ไม่เลยครับ"เฟยหลินส่ายหน้า ก่อนที่ลินดี้จะจ้างเขาเขารู้แค่ว่ามีองค์กรลึกลับอยู่

สำหรับองค์กรลึกลับนั้นมีความลับแบบไหนและพลังแบบไหนที่ใช้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาด หรืออะไรทำนองนั้นเฟยหลินไม่รู้อะไรเลย

เขาถามด้วยความสงสัย

"เป็นไปได้ไหมที่องค์กรลึกลับอาศัยพลังของศาสตร์ลับในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดน่ะครับ?"

"ใช่แล้ว เราอาศัยเทคนิคลับที่ว่านั่นเป็นรากฐานของพลัง ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญในการใช้พลังเราเรียกกันว่า นักเล่นไสยศาสตร์" ลินดี้พยักหน้าและอธิบาย

"พลัง… นักเล่น… ไสยศาสตร์?"

เฟยหลินมีความปรารถนาอันแรงกล้าอยู่ในใจ นี่คือพลังที่เขาต้องการจึงรีบถาม

"แล้วผมสามารถฝึกศาสตร์ลับนั้นได้หรือไม่?"

"แน่นอนนั่นเป็นเหตุผลที่เราพบคุณ คุณไม่เพียงแต่มีความถนัดในการฝึกฝนศาสตร์ลับ แต่ยังมีความถนัดที่สูงมากอีกด้วย" ลินดี้พยักหน้าเห็นด้วย

"เป็นเพราะผมฝึกทักษะนักแม่นปืนถึงระดับชำนาญพิเศษในสองปีเหรอครับ?"เฟยหลินถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย

ครอบครัวของเขารู้เรื่องของเขาดีและทักษะนักแม่นปืนจัดว่าอยู่ในระดับปานกลาง เหตุผลที่เขาสามารถเป็นนักแม่นปืนระดับนี้ได้นั้นเป็นเพราะแผงระบบหรือนิ้วทองคำที่เขาเพิ่งได้รับมา

"ใช่แล้ว"

จากนั้นลินดี้เสยผมยาวปานกลางสีน้ำตาลหยิกไปด้านหลังใบหู เผยให้เห็นใบหูอันบอบบางที่สวมต่างหูพลอยสีน้ำเงิน ทันใดนั้นเธอก็ดูมีเสน่ห์แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก

ไม่สามารถต้านทานเสน่ห์นี้ได้เลยเฟยหลินฝืนมองไปทางอื่นและถาม

"องค์กรลึกลับอย่างสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ไม่ใช่เพียงแค่รับสมัครนักแม่นปืนระดับนี้ แต่รับสมัครอาชีพอื่นที่มีระดับนี้ด้วยใช่ไหมครับ?"

"แน่นอน เรารับสมัครอาชีพส่วนใหญ่ที่ไปถึงระดับชำนาญพิเศษ นั่นคือเกณฑ์พื้นฐานเลยล่ะ"

จูลี่เป็นคนตอบเฟยหลินเธอมีหน้าที่รับผิดชอบในการสรรหาดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี

"พวกเขาทั้งหมดมีคุณสมบัติในศาสตร์ลับด้วยไหม?"เฟยหลินมองจูลี่ด้วยความประหลาดใจ

"ถูกต้อง พวกเขาทั้งหมดมีทักษะที่ใช้ฝึกได้" จูลี่พยักหน้า

"มันเป็นยังไงเหรอ?"เฟยหลินรู้สึกเหลือเชื่อ

"คุณควรถามว่าไสยศาสตร์คืออะไรมากกว่า" จูลี่พูดด้วยรอยยิ้มก่อนเริ่มเล่าที่อีกฝ่ายจะถามต่อ

"อันที่จริงยกเว้นศาสตร์ลับเบื้องต้นต้องใช้พลังที่มีโดยกำเนิด หรือทักษะอื่น ๆ ที่ยากจะพัฒนาเป็นพลังหลักในการฝึก ซึ่งศาสตร์ลับส่วนใหญ่นั้นใช้พลังจากทักษะหลังจากบรรลุระดับชำนาญพิเศษก็ฝึกได้"

"ศาสตร์ลับส่วนใหญ่เป็น… ความก้าวหน้าของอาชีพทั่วไป หลังจากบรรลุระดับชำนาญพิเศษนี่มัน… เป็นไปได้ยังไง?"

เฟยหลินตกตะลึงและไม่เข้าใจอย่างต่อเนื่อง

สรุปว่าอาชีพที่มีทักษะใด ๆ ก็ตาม หลังจากถึงระดับชำนาญพิเศษแล้ว มันสามารถใช้เป็นแกนพลังในการใช้ไสยศาสตร์ได้

ในความคิดของเขามันแปลกประหลาดเกินไป เขาแทบจะไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าอาชีพทั่วไปในชีวิตนั้น เกี่ยวข้องกับศาสตร์ลับที่อีกฝ่ายอธิบายยังไง

"ภายใต้สถานการณ์ปกติก็ยังฝึกได้ยากอยู่ดี แต่ถ้าเพิ่มยาเสริมลึกลับหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับความลึกลับ มันอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและฝึกศาสตร์ลับได้ง่ายขึ้น"

"คุณไม่เคยสัมผัสสิ่งนี้โดยตรงมาก่อนเลยเหรอ?" จูลี่ชี้แนะ

"ประสบการณ์โดยตรง? คุณหมายถึงการฟื้นคืนชีพของศพอาจารย์ผมเหรอ?"

เฟยหลินอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรย์ โรมาโนผู้ฟื้นคืนชีพจากความตาย และกลายเป็นสัตว์ประหลาดเมื่อคราวก่อน

"แต่เดิมเป็นเพียงคนธรรมดา พอเผลอไปสัมผัสกับยาลึกลับที่ใช้กันขโมยในสุสาน เขาจึงตายและฟื้นคืนชีพกลายเป็นผีปอบในข่าวลือยังไงล่ะ"

"มียาลึกลับที่มีผลต่อคน และยังมีรากฐานจากศาสตร์ลับด้วยงั้นเหรอเนี่ย?"

จูลี่พยักหน้า

"อาจารย์กลายเป็นแบบนั้นเพราะเขาสัมผัสกับยาลึกลับที่ใช้ป้องกันขโมยสุสาน เพราะแบบนี้นี่เอง เท่านี้ก็สามารถอธิบายทุกอย่างได้มากขึ้น   "

เมื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของอาจารย์เฟยหลินรู้สึกเศร้าเล็กน้อยแต่ในขณะเดียวกันก็ตกตะลึงด้วย

พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าศพของอาจารย์กลายเป็นสัตว์ประหลาด ดูเหมือนว่าเป็นไปได้ทักษะอาจารย์สูงและเผอิญได้รับยาลึกลับ

เมื่อเห็นว่าจูลี่ได้แนะนำศาสตร์ลับให้ฟังอย่างละเอียดแล้ว เขาก็มีความเข้าใจในศาสตร์ลับนี้มากขึ้น จากนั้นลินดี้พูดขึ้น

"คุณเป็นนักแม่นปืนระดับชำนาญพิเศษ ดังนั้นศาสตร์ลับที่เหมาะสำหรับคุณในการฝึกฝนก็คือปืนเร้นลับ"

"ปืนเร้นลับ?"

เฟยหลินรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นศาสตร์ลับที่เขาจะฝึกฝนในอนาคตหรือเนี่ย?

ในเวลาเดียวกันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

แม้ทักษะนักแม่นปืนของเขาจะถึงระดับนั้นแล้ว แต่มันไม่ได้มาจากตัวเขาเองนี่สิ แต่ได้มาจากการเพิ่มแต้มพลังเร้นลับในแผงระบบ

ทักษะนักแม่นปืนของเขาสามารถอธิบายได้ว่าอยู่ในระดับปานกลางเท่าเดิม

สิ่งนี้จะส่งผลต่อการเรียนรู้ปืนเร้นลับและทำให้เขาไม่สามารถเรียนรู้ได้หรือไม่?

แม้จะสามารถปรับปรุงผ่านแผงระบบได้ แต่ถ้าไม่ทำให้ปืนเร้นลับอยู่บนแผงระบบได้ คราวนี้จะพัฒนาและเรียนรู้ยังไง

ถ้าไม่สามารถสร้างปืนเร้นลับ 1 ในศาสตร์ลับให้แสดงบนแผงระบบได้ ไม่ว่าจะมีแต้มพลังเร้นลับแค่ไหนก็ใช้ศาสตร์ลับไม่ได้

"ศาสตร์ลับนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว เมื่อยิงปืนบวกกับใช้พลังนี้ จะสามารถเพิ่มพลังทำลายของกระสุนหลายเท่า" ลินดี้อธิบาย

"พลังลึกลับที่ว่านั่นล่ะคืออะไร?"

เมื่อได้ยินคำศัพท์ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเฟยหลินอดไม่ได้ที่จะถาม

"นี่คือพลังพื้นฐานที่ขับเคลื่อนศาสตร์ลับทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเวทมนตร์หรือพลังพิเศษที่ครอบครองโดยสัตว์ประหลาด พลังนี้จำเป็นต่อการขับเคลื่อนด้วยทักษะหรือพลังต้นกำเนิด มันก็คล้ายกับไอน้ำที่ขับเคลื่อนเครื่องจักรไอน้ำนั่นแหละ"

"พลังแบบนี้มีอยู่ทุกที่ แต่พื้นที่ต่างกันก็มีความหนาแน่นต่างกันด้วย" ลินดี้อธิบาย

"แล้วจะระดมพลังลึกลับได้ยังไง?"

เฟยหลินยังคงถามต่อไป

"นักเล่นไสยศาสตร์ทุกคนจะให้กำเนิดอวัยวะลึกลับของตัวเอง เมื่อเข้าสู่การเป็นนักเล่นไสยศาสตร์แล้ว อวัยวะที่ตัวเรากำหนดจะเป็นตัวดูดซับพลังลึกลับ"ลินดี้กล่าว

"งั้นไปเตรียมตัวทำพิธีซะ!"

หลังจากประโยคสุดท้าย เธอมองไปที่จูลี่

"รับทราบค่ะ" จูลี่ตอบรับก่อนยืนขึ้นและเดินออกจากห้อง

หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอกลับมาและแจ้งว่าพิธีพร้อมแล้ว

ทั้งสามเดินออกจากห้องและเดินลงบันไดไปยังห้องหนึ่งในชั้นใต้ดิน

เขาเห็นว่าในห้องมีรูปแบบวงกลมสีม่วงที่ซับซ้อนและลึกลับถูกวาดขึ้น

รูปแบบวงกลมสีม่วงมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณห้าเมตร และตรงกลางเป็นปืนลูกโม่สีเงิน

"พันธเร้นลับ 1 แต้มเพิ่มให้กับแต้มพลังเร้นลับ!"

ทันทีที่เข้ามาในห้องนี้ บรรทัดข้อความก็ปรากฏขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าเฟยหลิน

เมื่อเห็นข้อความนี้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

วันนี้เพิ่งเข้าร่วมองค์กรลึกลับอย่างสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เผลอแป๊ปเดียวก็ได้แต้มพลังแล้ว

การเข้าร่วมองค์กรลึกลับนั้นป็นความคิดที่ถูกต้องจริง ๆ ไม่เพียงแต่สามารถเรียนรู้พลังลึกลับแล้ว แต่ยังสามารถรับแต้มพลังเร้นลับได้ด้วยการติดต่อเหตุการณ์ลึกลับอีกด้วย

"รูปแบบพิธีกรรมถูกวาดด้วยยาลึกลับหลายชนิดที่ปนเปื้อนด้วยวัสดุลึกลับ รวมถึงปืนที่ปนเปื้อนด้วยพลังลึกลับนั่นด้วย และนี่คือพิธีมอบพันธแก่ปืน… นี่แหละศาสตราวุธของคุณ"

"ทุกคนที่ถูกเชิญเข้าร่วมในองค์กรจะต้องพร้อมสำหรับพิธีมอบพันธ เพื่อได้ศาสตร์ลับสอดคล้องกับทักษะของตน ค่าใช้จ่ายที่แลกเปลี่ยนส่วนใหญ่คือวิถีชีวิตคนธรรมดาถ้าไม่ได้มีทักษะ… แต่ก็จะมีปัญหาในการฝึกอยู่ดีถึงจะไม่มีทักษะระดับนั้นแต่แรก"

"แต่คุณในฐานะผู้มีทักษะพิเศษ สิ่งเหล่านี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นและนี่เป็นเพียงหนึ่งในสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับผู้มีทักษะ" ลินดี้อธิบาย

"ถ้าคนธรรมดามาทำ นอกจากวิถีชีวิตล่ะต้องจ่ายอะไรบ้าง?"เฟยหลินถามด้วยความสงสัย

"สัก 2,000 ทองคำได้ล่ะมั้ง" จูลี่ตอบ

"2,000?"เฟยหลินตกใจมาก

เขาเปิดห้องทดลองและมีรายได้ประมาณ 4 ปอนด์ทองคำต่อสัปดาห์ ถ้าคำนวณแล้วรายได้ต่อเดือนประมาณ 17 ปอนด์ทองคำ

ถ้าเขาจ่าย 2,000 ปอนด์ทองคำ เพื่อใช้เป็นทางลัดตอบสนองการมีศาสตร์ลับ โดยที่ไม่มีทักษะระดับสูงคงเป็นอะไรที่โง่มาก

"แต่ไม่ต้องกังวลหรอก ถึงจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการได้พลังมา แต่ต้องเสียค่าบริการด้วย… ทำงานสักสองปีเดี๋ยวก็ใช้คืนได้แล้ว" จูลี่หยิบปืนให้เฟยหลิน

"ยาลึกลับมีเวลาจำกัด ถ้าหมดอายุจะต้องกำหนดค่าใหม่ คุณต้องเริ่มแล้วล่ะ"

"ไปยืนในวงกลมแล้วถือปืนเอาไว้ เราจะได้เริ่มพิธีกัน"

"อืม"

เฟยหลินตอบรับและเดินไปเข้าพิธี

แม้เขาจะเป็นนักแม่นปืนระดับชำนาญพิเศษ แต่เขาไม่มีทักษะในการเป็นนักแม่นปืนที่สอดคล้องกัน เพราะทักษะนั้นได้จากแผงระบบ

แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่กัดฟันเพื่อไปต่อเท่านั้น ทุกอย่างจากนี้ต้องลองดูกันสักตั้ง

"เอาล่ะเว้ย"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด