ตอนที่แล้วบทที่ 117: ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (4-1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 119 : ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (5-1)

บทที่ 118 : ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (4-2)


บทที่ 118 : ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (4-2)

ยังมีสถานที่แบบนี้อยู่แม้ในเมืองที่มีการจัดการอย่างดี

ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างทางลุกขึ้นยืน

ใบหน้ามันเยิ้มของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาเดินหัวเราะคิกคักเขามาหาเรา

พูดให้ถูกก็คือ เขามุ่งหน้าไปยังหญิงสาวที่อยู่ตรงกลางของพวกเรา

“ฮิฮิ จะไปไหนกันเหรอ?”

เธอหลบด้วยความตกใจและก้าวถอยหลัง

“เด็กน้อย หลงทางเหรอจ้ะ? หรือว่าหนีออกจากบ้าน? ฉันสามารถแนะนำที่พักได้นะ…”

ดูเหมือนชายคนนั้นจะไม่ทันมองอีดิสที่อยู่ข้างๆ ขณะที่เขาเดินผ่านไป

อีดิสกระชากตัวเขาและเตะขาของเขาอย่างแรง

ชายคนนั้นหมุนตัวไปกลางอากาศและล้มลงกับพื้น

ตุ้บ!

อีดิสทุบหัวเขาด้วยส้นเท้าของเธอ ตามมาด้วยเสียงที่เหมือนกับกระดูกหัก และเลือดก็พุ่งออกมา

ชายคนนั้นกองอยู่บนพื้น

เราไม่สนใจและเดินผ่านเข้าไปในสลัม

ทันทีที่เราเข้าไป เศษขยะก็ถูกลมพัดปลิวไปรอบๆ นอกจากนั้นกลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียนที่ไม่อาจพรรณนาออกมาได้ก็ลอยคละคลุ้งในอากาศ หญิงสาวย่นจมูกและบีบมันไว้

ราวตากผ้าถูกแขวนไว้ระหว่างกำแพงสูง

เสื้อผ้าสกปรกถูกแขวนอยู่บนนั้น

แต่ไม่มีผู้คนปรากฏตัวออกมา

“แถวนี้เป็นสลัม แต่ก็เป็นที่ซ่อนที่ดี เส้นทางพันกันเหมือนเขาวงกตและมีอาคารมากมาย”

ฉันพยักหน้าให้กับคำพูดของอีดิส

ก่อนอื่นเราต้องการที่พักจนกว่าจะมืด แล้วจึงจะทำภารกิจต่อไป

ทันใดนั้นข้อความก็ปรากฏขึ้น

[คำแนะนำ : สำหรับภารกิจระยะยาว]

[บางครั้งภารกิจอาจใช้เวลานาน แม้ว่านายท่านจะออกจากระบบ แต่ฮีโร่ก็ยังคงทำภารกิจต่อไป]

มันเป็นข้อความแนะนำเกี่ยวกับภารกิจที่ยาวนาน

เนื่องจากมีสัญญาณของภารกิจลากยาว ดูเหมือนว่าระบบได้ทำการตัดสินแล้ว

“ฉันจะไปตรวจสอบก่อน”

อีดิสก้มลงต่ำราวกับผสานกับเงาของกำแพง

ร่างนั้นเริ่มพร่ามัว มันเป็นผลของอีดิสที่เปิดใช้งานทักษะพิเศษของหัวขโมย “ซ่อนตัว” อีดิสซึ่งเป็นผู้ใช้ทักษะก็ได้หายตัวไปในส่วนด้านในของถนน

“ยืนอยู่ข้างหลังฉัน”

ฉันเดินสำรวจรอบๆ ตัวอย่างช้าๆ

ในสลัมแทบไม่มีคนเลย

แต่อีกไม่นานทหารก็จะหลั่งไหลเข้ามาที่นี่ และการค้นหาก็จะเริ่มขึ้น

ฉันมองไปข้างหลัง

หญิงสาวสีหน้าตึงเครียด แต่เธอยังคงนิ่งอยู่ ไม่มีอาการงอแงหรืออารมณ์ฉุนเฉียว

'เธอคงไม่ใช่เด็กธรรมดาสินะ'

หากเป็นเช่นนั้น เธอคงจะปฏิเสธข้อเสนอที่จะมากับเราแล้ว

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย เธอคิดหาทางเอาชีวิตรอดอย่างรวดเร็วว่ามากับเราอาจจะรอดมากกว่า

หลังจากนั้นไม่นาน อีดิสก็กลับมา และเราก็ตามเธอเข้าไปในอาคารเก่าๆ

อาคารหินสองชั้นที่ใกล้จะพังทลาย หน้าต่างถูกปิดด้วยผ้า ข้างในมีแสงลอดเข้ามาเล็กน้อยมากจนแทบจะมืด นอกจากประตูหน้าแล้ว ยังมีประตูหลังอีกด้วย และฉันสังเกตเห็นตรอกที่สามารถใช้เป็นทางหลบหนีสำรองได้อีกด้วย

'สมบูรณ์แบบ.'

แม้ว่าทหารจะเข้ามาใกล้ แต่ก็มีทางที่จะหลบหนี

เราตัดสินใจจะหลบที่นี่ อีดิสเริ่มวางกับดักทันทีโดยใช้เชือกและก้อนหินบางๆ เธอวางหินกองหนึ่งที่ผูกด้วยเชือกไว้ที่ด้านบนของทางเข้าหลังจากขึงเชือกแน่นแล้วพาดไว้ หากมีใครแตะเชือก กองหินก็จะพังทลายลงทำให้เกิดเสียงดัง

มันเป็นทักษะของอีดิส “การติดตั้งกับดัก”

ทักษะจากกลุ่มโจรเก่าของเธอสามารถนำมาใช้ได้เหมาะที่สุดในภารกิจประเภทนี้ อีดิสคงได้รับทักษะมากมายจากกลุ่มนั้น

“เราจะหลบอยู่ที่นี่ก่อน”

เด็กสาวพิงกำแพงแล้วนั่งลง

ชุดสีขาวของเธอตอนนี้สกปรกไปด้วยโคลนและฝุ่น

ฉันดึงเก้าอี้ที่เต็มไปด้วยฝุ่นออกจากห้องนั่งเล่นแล้วนั่งลงบนนั้น ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าที่มองเห็นผ่านช่องว่างในผ้าตอกตะปูมีแสงสลัวๆ

“ฉันจะออกไปข้างนอกนะ”

“จะออกไปอีกแล้วเหรอ?”

“ฉันก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเช่นกัน นายคนเดียวก็น่าจะปกป้องเธอได้ ฉันจะไปหาทางหนี”

อีดิสยิ้มเบาๆ แล้วออกไปอย่างเงียบ ๆ

'บางทีฉันน่าจะพาเจนน่ามาแทนเธอ'

ในที่แบบนี้ ฉันไม่มีอะไรให้ต้องทำมากนัก

ฉันเท้าคางและรอเวลาอย่างเงียบๆ ได้ยินเสียงแมลงนอกหน้าต่าง

เวลาก็ได้ผ่านไปประมาณสิบนาทีเช่นนั้น

“เฟรียซิส อัล แลงเนอร์”

ฉันหันไปมองหญิงสาว

เด็กผมสีเงินยาวและดวงตาสีทองนั้นกำลังมองมาที่ฉัน

“นั่นชื่อของฉัน ฉันเป็นรัชทายาทคนที่สองผู้สืบทอดบัลลังก์ชองจักรวรรดินี้”

"แล้ว?"

“ดูเหมือนจะไม่มีผลกับนายสินะ”

เธอหัวเราะอย่างขมขื่น

เธอก็มีสีหน้าจริงจังและพูดต่อ

"นายมาจากที่ไหน?"

'เป็นคำถามที่แปลกจริงๆ'

อย่างไรก็ตาม เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว

ฉันจึงตอบไปสั้นๆ

“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”

“ฉันเปิดเผยตัวตนและชื่อของฉันแล้วนะ อย่างน้อยนายเองก็น่าจะบอกฉันด้วยไม่ได้เหรอ?”

“บอกไปเธอก็ไม่เข้าใจหรอก”

“มันซับซ้อนขนาดนั้นเลยเหรอ? นายมาจากที่ไหนสักแห่งที่ฉันไม่รู้จักเหรอ?”

“จะว่าแบบนั้นก็ได้”

“บางที…นายอาจจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยเนลซ่าใช่หรือเปล่า?”

ฉันขมวดคิ้ว

ชื่อนั้น

เป็นชื่อเมืองในชั้น 10

“ดูเหมือนว่าฉันจะได้คำตอบแล้วนะ”

"เธอรู้ได้ไง?"

“ฉันเห็นมันในความฝัน”

"ฝัน"

“ในความฝันนั้น เหล่าทหารกลุ่มหนึ่งกำลังดิ้นรนต่อสู้เพื่อปกป้องเมือง ฉันไม่เห็นหน้าพวกเขาหรอก แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเป็นนาย”

เธอหัวเราะเบาๆ แต่ก็กลับมาจริงจังและพูดอีกครั้ง

“เป็นเวลาหนึ่งปีที่ฉันฝันอะไรแปลกๆ ในความฝันนั้นทุกสิ่งกำลังจะจบลง เมืองหลวงของจักรวรรดิ เมืองหลวงของตระกูลทั้งสี่ เมืองใหญ่ เมืองเล็ก และหมู่บ้านทั้งหมด ทุกสิ่งในทวีปลุกเป็นไฟ”

“….”

“ความฝันนั้นทำให้ฉันมั่นใจ หากสิ่งต่างๆ ดำเนินต่อไปเช่นนี้ ทั้งทวีปก็จะพบจุดจบแน่นอน”

เธอหรี่ตาลง

“นายรู้ไหม? มีสิ่งแปลกๆ ที่เลวร้ายเกิดขึ้นทั่วทั้งทวีปเมื่อเร็วๆ นี้ โรคลึกลับไม่ทราบสาเหตุกำลังแพร่กระจาย แมลงกำลังรุมเร้า และสัตว์ประหลาดบ้าคลั่ง การที่เนลซ่าถูกโจมตีก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง แต่เดิมทีพวกมันไม่ได้บุกรุกดินแดนของมนุษย์”

เฟรียซิสพูดอย่างเชื่องช้า

ฉันรู้สึกงงและถามเธอออกไป

“ทำไมถึงมาเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง?”

“…ฉันต้องการพลัง”

"พลัง?"

“พลังที่จะกอบกู้โลกใบนี้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด