บทที่ 87 อมยิ้มของหม่าคัง (แถมฟรี)
บทที่ 87 อมยิ้มของหม่าคัง
.
“การตรวจจับเสร็จสิ้น! ความน่าเชื่อถือของวัตถุเป้าหมายคือ 76 คะแนน!”
“การตรวจจับเสร็จสิ้น! ความน่าเชื่อถือของวัตถุเป้าหมายคือ 55 คะแนน!”
“การตรวจจับเสร็จสิ้น! ความน่าเชื่อถือของวัตถุเป้าหมายคือ 63 คะแนน!”
…….
ตั้งแต่เย็นจนถึงดึกดื่น หลี่ซวนนั่งอยู่บนดาดฟ้าของอาคารแห่งนี้ และใช้กล้องส่องทางไกลตรวจจับผู้คนที่เดินไปมาในย่านใจกลางเมืองทีละคน โดยอาศัยความมืดมิดยามค่ำคืนปิดบัง
น่าเสียดาย หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง หลี่ซวนตรวจจับผู้คนไปประมาณ 5-6 ร้อยคน แต่ไม่มีใครตรงตามความต้องการของเขา
แม้ว่าจะมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาในย่านใจกลางเมือง แต่หลี่ซวนไม่กล้าตรวจจับบ่อยเกินไป ทำให้พลาดคนส่วนใหญ่ไป อย่างไรก็ตาม 5-6 ร้อยคนก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ดังนั้นคนที่เขาเจอจึงไม่ใช่ผู้ที่มีคะแนนต่ำทั้งหมด
และไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนที่มีคะแนนเกิน 95 ในบรรดาคน 5-6 ร้อยคนนี้ มีคนได้คะแนน 96 และ 97 คะแนน แต่ในสองคนนี้ หนึ่งคนถูกแม่ของเขาแบกผ่านย่านใจกลางเมืองมา โดยมีจุกนมอยู่ในปากของเขาด้วย ส่วนอีกคนอยู่บนรถเข็น บนศีรษะเต็มไปด้วยเส้นผมสีกระดำกระด่าง และมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยลึก ซึ่งบ่งบอกถึงอายุของเขา
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสองคนนี้ ต่อให้ได้คะแนนเต็ม หลี่ซวนจึงทำได้เพียงปล่อยผ่านไปด้วยความเสียใจเท่านั้น ไม่มีทางเลือก คนหนึ่งหลี่ซวนไม่สามารถรอเขาได้ ส่วนอีกคน เขาทนรอหลี่ซวนไม่ไหว!
ส่วนคนอื่นๆ ไม่ว่าจะมีความรู้ระดับไหน และไม่ว่าลักษณะจะเป็นอย่างไร คะแนนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 70 คะแนน ที่มีคะแนนสูงจะอยู่ที่ประมาณ 90 คะแนน ที่ค่อนข้างต่ำจะประมาณ 50 คะแนน และค่าเฉลี่ยของทั้งหมดก็อยู่ที่ 70 คะแนน
“ไว้ค่อยกลับมาคืนพรุ่งนี้ดีไหม?” หลังจากตรวจจับอีกครั้ง หลี่ซวนก็พึมพำในใจ
ในกรณีนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นหาคนที่มีคะแนนสูงกว่า 95 อย่างไรก็ตามหลี่ซวนไม่เคยมีนิสัยยอมจำนนต่อความยากลำบาก ถึงแม้จะไม่มีความหวังก็ตาม แต่เขาก็จะทำงานอย่างหนัก เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ท้ายที่สุดถึงตอนนี้เขายังมีความหวังอีกหรือไม่?
“35 คะแนน! เยี่ยม! ทำลายสถิติ!” หลี่ซวนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดร้องอุทาน เขามองวัตถุเป้าหมายอีกครั้งผ่านกล้องส่องทางไกล
คนที่ถูกตรวจจับครั้งนี้เป็นชายหนุ่มที่แต่งตัวแปลกประหลาดมาก ใบหน้าของเขาราวกับได้รับการแต่งหน้าแบบสโมคกี้อายและมีเส้นผมชี้ชันเหมือนนกแก้ว แต่รูปร่างหน้าตาไม่ใช่ทุกอย่าง ด้วยคะแนน 35 นี้ แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้มีนิสัยแย่ขนาดไหน
เช่นเดียวกับคนอื่นๆ หลังจากถูกตรวจจับ ชายคนนี้ก็มองมายังตำแหน่งของหลี่ซวน ด้วยสีหน้าหวาดกลัว แต่ที่แตกต่างจากคนอื่นก็คือ ชายคนนี้รีบเผ่นออกจากตรงนั้นอย่างตื่นตระหนก เหมือนโดยผีไล่ล่า
“เอ๋?” หลังจากมองดูชายคนนั้นจากไป ในขณะที่กำลังจะเก็บกล้องส่องทางไกลและเตรียมจะกลับบ้าน แต่จู่ๆ เขาก็เห็นชายคนหนึ่งและจำได้ “ชายคนนั้น มันเจ้าอ้วนหม่าคังไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากนึกถึงด้วยความสงสัย หลี่ซวนก็รู้ว่าความจำของเขาถูกต้อง ชายอ้วนที่เขาเห็นตอนนี้คือหม่าคังที่เคยร่วมงานกันมาก่อน
หลี่ซวนไม่มีความประทับใจที่ดีต่อเจ้าอ้วนหม่าคังคนนี้
แม้ว่าการถูกกดดันอย่างต่อเนื่องในช่วงที่น้องชายของเขาป่วยจะเป็นสาเหตุหนึ่งเช่นกัน แต่นั่นก็เป็นเพียงตัวกระตุ้น สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือในขณะที่เจ้าอ้วนหม่าคังกำลังใช้ประโยชน์จากหลี่ซวน แต่เขายังปฏิบัติต่อผู้ถูกเขาเอารัดเอาเปรียบเหมือนเป็นคนโง่
และหลี่ซวนก็ไม่ใช่คนโง่ นับตั้งแต่หม่าคังติดต่อกับหลี่ซวนเป็นครั้งแรกก็เล่นตุกติกกับหลี่ซวนแล้ว
ตอนแรกชายคนนี้ก็คิดว่าหลี่ซวนเป็นคนโง่ และคิดจะใช้ ‘ราคาสูง’ เอาชนะหลี่ซวน แต่ก็ล้มเหลว หลังจากนั้นยังคิดจะใช้ราคาสูงเพื่อควบคุมหลี่ซวนและผูกขาดซุปให้เป็นของตัวเอง หลังจากล้มเหลวอีกครั้ง ชายคนนี้ก็ได้รับบทเรียนว่าหลี่ซวนไม่ใช่คนที่ชอบถูกบังคับ หลังจากนั้นหม่าคังก็ใช้วิธีใหม่ นั่นคือวิธีเอาชนะใจคน
หม่าคังเสนอที่จะสละสัญญา และมอบอมยิ้มให้หลี่ซวนเพื่อรับผลประโยชน์ที่มากขึ้น
(ผู้แปล – มอบอมยิ้ม มาจาก รังแกเด็กจนร้องไห้แล้วมอบอมยิ้มให้เพื่อปลอบใจ ทำนองเดียวกับตบหัวแล้วลูบหลังของไทย)
ปรากฏว่าหม่าคังทำถูก! หากมีสัญญา หลี่ซวนสามารถร่วมมือกับเขาได้สูงสุดตามระยะเวลาสัญญา นั่นคือหนึ่งสัปดาห์ แต่ต่อมาหลี่ซวนร่วมมือกับหม่าคังนานกว่าสามสัปดาห์ นั่นเป็นเพราะอมยิ้มของหม่าคัง
แม้ว่าการตบหน้าผู้หญิงของตัวเองจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ทั้งหมดนี้ก็สามารถอธิบายจุดประสงค์ในการทำเช่นนั้นของหม่าคัง นั่นคือผลประโยชน์!
ถ้าหลี่ซวนไม่มีซุป ผลลัพธ์จะแตกต่างออกไป ไม่เพียงหม่าคังจะไม่ตบผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น บางทีหม่าคังอาจพูดแทนเธอจากมุมมองของเธอด้วยซ้ำ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายไม่ว่าวิธีใดก็ทำได้ นั่นเป็นความประทับใจแรกที่หลี่ซวนมีต่อเจ้าอ้วนหม่าคัง ในความเป็นจริง หลี่ซวนรู้ว่ากำลังถูกหม่าคังชักจูงเพื่อใช้งาน แต่ตอนนั้นเขาขาดเงินจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เมื่อเขาไม่ขาดเงินในอนาคต เขายังคงยึดหลักการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความซื่อสัตย์ และปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา
นับตั้งแต่หลี่ซวนเริ่มขายอาหารจานด่วน เขาก็ไม่จำเป็นต้องขายซุปอีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้วการขายซุปไม่ได้กำไรเลย อาจกล่าวได้ว่า หลี่ซวนให้ช่วยเหลือด้วยความสมัครใจ
การที่หลี่ซวนยังคงขายซุปให้กับเจ้าอ้วนหม่าคังต่อไป ก็เพราะอมยิ้มที่หม่าคังมอบให้ ทำให้เขาเต็มใจที่จะจัดหาซุปให้กับหม่าคังต่อไป แม้รู้ว่าถูกหลอกใช้ก็ตาม
ความจริง ตั้งแต่เริ่มแรกหลี่ซวนพยายามสร้างบรรยากาศของความร่วมมือที่ซื่อสัตย์ เขาอยากมีคู่ค้าที่จริงใจ ดังนั้นเมื่อหม่าคังป้อนอมยิ้มให้เขาโดยบอกว่าจะไม่ควบคุมเขา และเพียงขอซื้อซุปให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขามี อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจความหมายของหม่าคังซะเมื่อไหร่ แต่หลี่ซวนก็ยอมรับอมยิ้มและพยายามทำซุปให้กับหม่าคังอย่างดีที่สุด เพื่อรักษาบรรยากาศนี้ไว้
หากหม่าคังเต็มใจที่จะแทนที่อมยิ้มด้วยความจริงใจอย่างแท้จริงแล้วล่ะก็ หลี่ซวนก็จะไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมาและขยายขอบเขตความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน แล้วเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน
น่าเสียดายที่หลังจากน้องชายของหลี่ซวนล้มป่วย บรรยากาศนี้ก็พังทลายลง ในตอนนั้นหลี่ซวนรู้ว่าหม่าคังเป็นกังวลจึงโทรศัพท์ไปอธิบาย แต่ดูเหมือนเจ้าอ้วนหม่าจะลืมสิ่งที่เคยพูดว่า ‘ไม่มีใครที่จะไม่มีเรื่องเร่งด่วน’ และเพิกเฉยต่อคำอธิบายของหลี่ซวน แล้วพยายามเร่งรัดวันละหลายครั้งอีกด้วย
แม้ว่านักธุรกิจจะขับเคลื่อนด้วยผลกำไร แต่หลี่ซวนที่ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ ยังคงทำตามสัญญา ช่วยเหลือผู้ที่เอาเปรียบเขาอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่เกิดเหตุฉุกเฉิน บางทีความร่วมมือนี้อาจดำเนินต่อไป
เพียงแค่เออออไปตามความต้องการของหลี่ซวนไม่กี่คำ ก็ได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากหลี่ซวน หม่าคังจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?
อาจเป็นเพราะมีความสุขมานานเกินไปใช่ไหม? ในใจของหม่าคังจึงอาจมองว่าหลี่ซวนเป็นคนโง่ หรือบางทีอาจคิดว่าอมยิ้มสองสามอันที่มอบให้มีมูลค่าสูงมาก และสูงมากจนหลี่ซวนต้องช่วยเหลือเขาไปตลอดชีวิต ดังนั้นในช่วงเวลาที่ต้องหยุดชะงักกะทันหัน หม่าคังจึงแสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมา
ความซื่อสัตย์ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายหนึ่งละทิ้งการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างจริงใจ อีกฝ่ายก็จะกลายเป็นคนโง่หากยังติดต่อกันต่อไป
แน่นอนว่าหลี่ซวนไม่ใช่คนโง่!
“ไม่รู้ว่าเจอกับประสบการณ์แบบนี้แล้ว เจ้าอ้วนคนนี้จะกลับใจบ้างหรือยัง? หากมีคะแนนเกิน 95 ก็คงไม่แย่ที่จะขอให้เขามาช่วย!” หลี่ซวนเชื่อเช่นนั้นมาโดยตลอด หม่าคังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่หายาก และสิ่งที่ร้านอาหารของหลี่ซวนขาด ก็คือคนที่มีความสามารถที่รู้วิธีจัดการร้านอาหารประเภทนี้
หลี่ซวนเชื่อว่าหลังจากสูญเสียข้อได้เปรียบเรื่องซุปไปแล้ว หนงจื่อหยวนก็คงไม่ให้ความสำคัญกับอีกต่อไปใช่ไหม? อาศัยของดีของเขา การล่าตัวหม่าคังก็ไม่น่าจะยาก
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลี่ซวนก็ตรวจจับหม่าคังที่กำลังคุยกับคนอื่นอยู่
“กำลังตรวจจับ…”
ขณะที่หลี่ซวนใช้จิตสำนึกสั่งการ หม่าคังที่กำลังจดจ่อกับการสนทนา จู่ๆ ร่างอ้วนๆก็สั่นไปทั้งตัว และมองมาทางเขาด้วยความสงสัย
“การตรวจจับเสร็จสิ้น! ความน่าเชื่อถือของวัตถุเป้าหมายคือ 65 คะแนน!”
“เฮ้อ! ช่างเถอะ! กลับบ้านดีกว่า!” หลี่ซวนส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขาหันหลังและเดินจากไป
.
*******
ผู้แปล – บทนี้น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง แถมฟรีแล้วกัน