บทที่ 115 : คาคุซึ ฮิดัน และร่างสถิตย์หกหาง
บทที่ 115 : คาคุซึ ฮิดัน และร่างสถิตย์หกหาง
เมฆมืดครึ้มเคลื่อนตัวเข้ามา ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆหนาทึบจนสุดสายตา
"เปรี๊ยะะะะ" ฟ้าแลบส่องสว่างในท้องฟ้าที่มืดมน และสายฟ้าสีน้ำเงินนั้นหมุนวนและตกลงที่พื้นมาราวกับมังกร กำลังบินอยู่จากนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก
แคว้นน้ำ หมู่บ้านคิริ
หมู่บ้านคิริเป็นหมู่บ้านนินจาเล็กๆ
ในเวลานี้ หมู่บ้านคิริมีซากศพอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเลือดสีแดงก็ไหลลงมาตามสายฝนที่ตกหนักราวกับแม่น้ำ
ในอาคารที่ทรุดโทรม
"อืม" ฮิดันสวมเสื้อคลุมของแสงอุษาขาดๆ โดยมีแท่งเหล็กแหลมคมสองแท่ง แทงเข้าไปในช่องท้องของเขา หลังจากที่เขาดึงแท่งเหล็กออกมา เลือดก็ไหลทะลักออกมาจากบาดแผล
ฮิดันได้รับบาดเจ็บสาหัสทั่วร่างกาย ถ้าเป็นคนธรรมดาคงเสียชีวิตตั้งแต่โดนไปสองหรือสามแท่งแล้ว
แต่เขาไม่สนใจบาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกายนั้นเลย
"แค่นี้สบายมาก" ฮิดันส่ายคอไปมา กระดูกของเขาลั่นก๊อบแกร๊บ และเขาก็วาดภาพดาวหกดวงบนผนังด้วยเลือดของคนอื่น
จากนั้นเอง…
ฮิดันคุกเข่าต่อหน้าดวงดาวทั้งหกดวง จากนั้นเขาก็อธิษฐานเหมือนผู้ศรัทธาจากใจจริง
“อย่าเสียเวลาอธิษฐานเลย ที่สำคัญคือนายมีเงินอยู่ใช่ไหม?” คาคุซึมองไปที่ฮิดันที่กำลังคุกเข่าและสวดภาวนาด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “ในช่วงที่สวดภาวนา พวกมันก็คงจะเน่าจนเปื่อยแน่ พอมันเน่า เดี๋ยวเงินที่ได้ก็จะน้อยลงเอาหรอก”
ในสายตาของเขา เงินคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ความเชื่อ?
ตลกสิ้นดี
“คาคุซึ นายกำลังดูหมิ่นท่านจาชิน ฉันจะสาปแช่งนายอย่างแน่นอน!” ตัวอักษร [底] ปรากฏบนหน้าผากของฮิดัน และหลังจากลืมตาขึ้นมา เขาก็จ้องมองไปที่คาคุสึด้วยความโกรธ
เขาเชื่อในท่านจาชินมาตลอดตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และเชื่อว่าท่านจาชินนั้นเป็นความจริงของทุกสรรพสิ่ง
คาคุซึพูดด้วยท่าทีที่สงบ น้ำเสียงแหบแห้งและแผ่วเบา “การไม่มีเงินถือเป็นคำสาป แต่ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ฉันจะรวยแล้ว”
“คาคุซึ นายคงอยากตกนรกหลังจากตายสินะ” ฮิดันสวมเสื้อคลุมและลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปหาชายผมดำที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติตรงนั้น
ชายผมดำคนนี้คือนินจาถอนตัวระดับ A ของหมู่บ้านคิริ ร่างสถิตย์ของหกหาง อูทาคาตะ
จุดประสงค์ของการมาเยือนที่นี่ของฮิดันและคาคุซึในครั้งนี้คือเพื่อจับร่างสถิตย์ของหกหาง พวกเขาออกล่าตั้งแต่ชายแดนหมู่บ้านโคโนฮะไปจนถึงหมู่บ้านคิริเลย
"ไปกันเถอะ" คาคุซึอุ้มร่างที่ไร้วิญญาณของนักบวชทั้งสองขึ้นมา เหลือบมองร่างสถิตย์ของหกหางอย่างเฉยเมย แล้วพูดว่า "เอาพวกนี้ไปแลกเงินก่อน จากนั้นค่อยส่งร่างสถิตย์ของหกหางกลับไปให้ทางแสงอุษา"
ฮิดันพูดอย่างโกรธๆ “เฮ้ นายคิดจะแลกพวกเขาเป็นค่าหัวเหรอ? การปฏิบัติต่อนักบวชแบบนี้มีแต่ต้องตกนรกนะ”
“การพิพากษาในนรกนั้นก็ต้องใช้เงิน นั่นต่างหากคือสิ่งที่ฉันต้องการมากกว่า” คาคุซึตะคอกอย่างเย็นชา “อีกอย่าง นายบอกว่าความเชื่อของนายสามารถทำเงินได้ ฉันก็เลยร่วมมือกับนาย”
“อย่างน้อยนายควรคิดถึงฉันสิ ฉันเป็นผู้ดูแลเรื่องเงินของแสงอุษานะ”
คาคุซึเกลียดฮิดันมาก เหตุผลที่เขาก่อตั้งทีมร่วมกับฮิดันก็เพราะว่าฮิดันเคยหาเงินด้วยการคุยเรื่องลัทธิกรอกหูตลอดทั้งวัน
ฮิดันตะโกนบ่นว่า "นายกล้าที่จะบอกไหมล่ะว่าถ้าไม่ใช่เพราะว่านายรับภารกิจเสริมแบบนี้ การตามหาร่างสถิตย์ก็คงจะไม่เลื่อนออกไปหรอก!”
เขาเกลียดคาคุซึมาก เพราะคาคุซึดูถูกความศรัทธาของเขาตลอด
แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสทุกครั้ง ก็มีแต่ต้องให้คาคุซึมาเย็บแผลให้
แน่นอนว่าอย่างการเย็บแผลต้องจ่ายเงินด้วย
คาคุซึรับภารกิจเสริมทุกวัน และเนื้อหาของภารกิจส่วนใหญ่จะเป็นการล่านินจาที่ให้เงินค่าหัวสูงๆ
“พวกนายเป็นเพื่อนกัน ก็เลยเข้ากันได้ดีสินะ” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น
ทั้งสองคนต่างตกใจเล็กน้อย พวกเขาเงยหน้าขึ้นเพื่อมองมายังที่มาของเสียง
สิ่งที่ดึงดูดสายตานั้นก็คือ
ชายผู้มีผมสีดำที่ดูยุ่งเหยิงและสวมเสื้อผ้าสีดำ คนผู้นี้กำลังนั่งอย่างสงบบนเสาหิน เขาสวมแว่นกันแดดแม้ในวันที่มีเมฆมาก
มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ขี้เล่นและมีอมยิ้มคาอยู่ในปาก
แม้ว่านิสัยเขาจะดูขี้เล่นและไม่สนใจอะไร แต่จักระที่แผ่ออกมาเบาๆ ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความอันตราย
ยางิว ซาโตรุ
"โย่ว" ซาโตรุทักทายด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่ฮิดันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กำเคียวสีแดงที่อยู่ข้างๆ แน่นพร้อมกับชี้เคียวไปที่ซาโตรุที่อยู่ไกลออกไป
“เฮ้ นายเป็นนินจามาจากหมู่บ้านไหนกัน? ทำไมถึงไม่สวมผ้าคาดหัวกัน?”
“นั่นมันซาโตรุ” คาคุซึสะดุ้งเล็กน้อยด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก เขาเคยเห็นรูปถ่ายของซาโตรุในตลาดมืดที่ล่ารางวัลค่าหัวมาก่อน
ซาโตรุได้รับการเสนอรางวัลเป็นค่าหัวมูลค่า 1.5 พันล้านเรียว
เมื่อนานมาแล้ว โอโรจิมารุนินจาในตำนานได้เสนอรางวัลมูลค่า 500ล้านเรียวโดยขอเพียงแค่เซลล์ของซาโตรุ
หัวของซาโตรุมีค่ามาก แต่เพราะความแข็งแกร่งระดับคาเงะขั้นสุดยอดของเขา จึงไม่มีใครยอมรับข้อเสนอนั้น
เมื่อมหาอำนาจทั้งห้าหมู่บ้านได้เสนอรางวัลสำหรับการล่านินจาถอนตัว องค์กรรากเองก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่เช่นกัน
“นายคือซาโตรุงั้นเหร?” ฮิดันลูบคางของเขา เขามองไปยังซาโตรุด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า "มานับถือลัทธิเดียวกันกับฉันเถอะ เทพเจ้าปีศาจจะอวยพรนายเอง"
"ขอโทษ ขอโทษที ฉันไม่สนใจที่จะเข้าร่วมงานรวมตัวของชนชั้นต่ำหรอก" ซาโตรุมองฮิดันด้านล่างด้วยสีหน้ารังเกียจราวกับกำลังดูคนโง่
“ฉันแค่พูดตรงๆ นะ อย่าโกรธกันเลย”
ซาโตรุชี้ไปที่ฮิดันด้วยอมยิ้ม และพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยว่า "ความเชื่อแบบลวงตาของนายน่ะมีค่าน้อยกว่าอึของหมาข้างถนนเสียอีก"
“อย่างน้อยอึของหมาก็มีดีที่กลิ่นเหม็น”
พวกเคร่งลัทธิ?
น่ารังเกียจเสียจริง
ขนมหวานแสนอร่อย สาวๆ คนสวย สาวน้อยตัวเล็กๆ มือนุ่มนิ่มที่แสนฟัดน่ากอด
ของแบบนี้ดูดีกว่าเป็นไหนๆ!
“อึของหมาข้างถนนเหรอ?” ใบหน้าของฮิดันเปลี่ยนสี ดวงตาของเขาแสดงความโกรธออกมา เขาตะโกนออกมาทันทีว่า "คาคุสึ อย่าเข้ามายุ่ง ฉันจะใช้มันทำพิธี!"
“แกล้าดูหมิ่นเทพเจ้าปีศาจได้ยังไง วันนี้ฉันจะสาปแกให้ได้!”
ฮิดันเป็นผู้ศรัทธาที่ภักดีต่อท่านจาชิน แต่ซาโตรุกลับบอกว่าความจริงเพียงอย่างเดียวที่เขาเชื่อนั้นไม่มีคุณค่าเท่ากับอึของหมาข้างถนน
ตลกสิ้นดี!
ใครก็ตามที่ดูหมิ่นจะต้องถูกสาป!
“คนที่แกกำลังอุ้มอยู่ดูน่าสนใจมากเลยนะ” ซาโตรุที่สวมแว่นกันแดดสีดำมองไปยังร่างสถิตย์ของหกหางที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติไป
ความสามารถของหกหางนั้นพิเศษมาก
มีขีดจำกัดทางสายเลือดอยู่ไหมนะ?
ในเมื่อหกหางก็อยู่ที่นี่ด้วย งั้นดึงหกหางออกมาเลยดีกว่า
เพราะอาการบาดเจ็บของร่างสถิตย์ของหกหางนั้นก็ใกล้ถึงแก่ความตายแล้ว
ก่อนที่ร่างสถิตย์จะตาย เขาขอดึงหกหางออกมาก่อนแล้วกัน
“ถอยกลับไปพร้อมกับร่างสถิตย์ซะ เรายังไม่รู้ความแข็งแกร่งของซาโตรุ ทั้งนายและฉันอาจตกอยู่ในอันตรายถ้าเราเริ่มโจมตี” ภายนอกคาคุซึมีท่าทีที่สงบมาก แต่เขาก็รู้สึกตื่นตระหนกยิ่งในใจ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้กับรู้จักกับซาโตรุมาก่อน แต่ก็พอจะได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับซาโตรุ
ซาโตรุไม่มีประวัติในโลกนินจา แต่เอาชนะไรคาเงะที่สี่ของหมู่บ้านคุโมะและสึจิคาเงะที่สามของหมู่บ้านอิวะได้
นอกเหนือจากเรื่องในอดีตแล้ว มาพูดถึงเรื่องล่าสุดของซาโตรุดีกว่า
ซาโตรุสามารถเอาชนะอิทาจิ และคิซาเมะด้วยตัวคนเดียว จากนั้นก็เอาชนะซาโซริและเดอิดาระด้วยตัวคนเดียวอีกเหมือนกัน
ในองค์กรของแสงอุษา สมาชิกระดับคาเงะสี่คนกลับพ่ายแพ้ต่อซาโตรุทั้งหมด
นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของซาโตรุ เขาไม่ใช่แมวหรือสุนัขที่อยู่ข้างถนนเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องต่อสู้กับซาโตรุในตอนนี้
แม้ว่าคาคุซึจะรักเงิน จนถึงกับยังอยากได้ค่าหัวที่สูงจากโอโรจิมารุ
แต่เมื่อต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบหลังจากเห็นช่องว่างของความแข็งแกร่งแล้ว....
คาคุซึก็ไม่คิดจะหน้าเงินโดยไร้สติเด็ดขาด
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ เฮ้ อย่าคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนนายสิ ไอ้หนูคาคุซึ” ฮิดันมีท่าทีที่บ้าคลั่งมาก เขาไม่ได้วางแผนที่จะถอยเลย หลังจากที่ซาโตรุดูหมิ่นท่านจาชิน เขาก็ต้องสาปแช่งซาโตรุให้ได้เท่านั้น!
ขีดจำกัดทางสายเลือดของซาโตรุพิเศษมากเหรอ?
มันไม่สำคัญหรอก!
เขา ฮิดันคนนี้ได้รับการปกป้องจากท่านจาชิน!
“ฮิดัน คาคุซึ ถอยไป” เสียงแหบห้าวดังก้องไปทั่ว จากนั้นคนที่สวมชุดคลุมขององค์กรแสงอุษาที่มีใบหน้าสีดำทางด้านซ้ายและใบหน้าสีขาวทางด้านขวาก็ผุดหัวขึ้นมาจากพื้นดิน
เขาคงเป็นหนึ่งในสมาชิกของแสงอุษาอีกคนสินะ
“ซาโตรุ...มันอันตรายมาก ยังเร็วเกินไปที่เราจะศัตรูกับเขา” คาคุซึมองไปที่ซาโตรุอย่างระมัดระวัง
เขารู้ว่าซาโตรุแข็งแกร่งมาก ในองค์กรแสงอุษามีเพียงโอบิโตะ อุจิวะและนางาโตะเท่านั้นที่สามารถสู้กับ ซาโตรุได้
ถ้านอกนั้น ผลลัพธ์คือความตาย
แผนการที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการหลีกเลี่ยงการปะทะกับซาโตรุ และดึงสัตว์หางออกมาอย่างรวดเร็ว
เพราะอีกนาน อุจิวะ มาดาระก็จะฟื้นแล้ว!
“มาดาระฟื้นคืนชีพแล้ว ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครก็ไม่มีทางชนะเราได้!”
ซาโตรุโบกมือแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นเสียหน่อย"
ศัตรูทั้งหมดที่เขาพบก่อนหน้านี้มั่นใจในตัวเองมาก
แต่ศัตรูทั้งหมดจะถอยทันทีหลังจากพบเขา
ดูเหมือนการมีพลังากเกินไปก็ถือเป็นอาชญากรรมเช่นกันสินะ
เซตสึพูดด้วยเสียงแหบแห้ง “นี่คือคำสั่งของผู้นำ”
“ผู้นำที่ตายแล้วน่ะเหรอ? งั้นคงได้แต่ต้องสาปแช่งในครั้งถัดไปสินะ” ฮิดันเกาศีรษะด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
ถอย ถอย รู้จักแค่คำว่าถอยรึไงกัน?
ตอนนี้เขายังคงมีอารมณ์ค้างคามาก คงได้แต่ต้องวางแผนที่จะสาปแช่งซาโตรุอย่างเคียดแค้นในภายหลังกระมัง
แต่เนื่องจากเป็นคำสั่งของผู้นำ เขาจึงทำได้เพียงแค่ถอยก่อนเท่านั้น