ตอนที่แล้วบทที่ 4 นิ้วทองบ้ากาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 ไออุ่นจากห้องครัว

บทที่ 5 จับเจ้านายทุ่ม


หลินโจวทำความสะอาดบันไดและห้องนั่งเล่นอย่างง่ายๆ เช็ดคราบน้ำที่ไหลมาจากห้องน้ำบนชั้น 2 ส่วนประตูห้องน้ำที่เสียหายนั้น คงต้องเรียกให้ช่างเข้ามาซ่อมในภายหลัง หลินโจวมองขึ้นไปบนชั้นสองอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆ

บางทีซูชิงเหม่ยอาจจะหลับไปแล้ว

หลินโจวกลับไปที่ห้องของเขา ปิดประตู แล้วหยิบกีตาร์ขึ้นมา

แม้ว่าเขาจะไม่ได้เดบิวต์เป็นศิลปิน แต่เขาก็ยังคงชอบเล่นดนตรีในยามว่าง

จริงๆ แล้ว ในบ้านที่เขาและเซิ่นเหยาเคยอาศัยอยู่ร่วมกันก่อนหน้านี้ มีเปียโนอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นของเขา แต่การขนย้ายมันนั้นไม่ค่อยสะดวก ดังนั้นหลินโจวจึงตัดสินใจนำเพียงกีตาร์ติดตัวออกมาด้วยเท่านั้น

เพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" เวอร์ชันออริจินอลนั้นไม่มีกีตาร์ แต่ด้วยเงื่อนไขที่จำกัดในเวลานี้ หลินโจวจึงทำได้เพียงบรรเลงโดยใช้กีตาร์ไปก่อน

ที่จริงแล้ว ตราบใดที่มีทักษะดีพอ ก็สามารถบรรเลงและร้องเพลงอะไรก็ได้ด้วยกีตาร์เพียงตัวเดียว ผลลัพธ์นั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

ด้วยฝีมือการร้องบวกกับเนื้อร้องและท่วงทำนองที่สมบูรณ์แบบของเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" เพียงพอที่จะกวาดชาร์ทเพลงฮิตของ"เอสสเตชั่น" ได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่า เพลงนี้เดิมทีเป็นเพลงที่เหมาะกับเสียงร้องของผู้หญิงมากกว่า แต่หลินโจวก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้เพลงนี้ทำให้เขาดังเปรี้ยงปร้างในชั่วข้ามคืน หรือแม้แต่ทำลายกำแพงระหว่างนักร้องมือสมัครเล่นและนักร้องมืออาชีพในคราวเดียว

อาวุธลับที่แท้จริงของเขาก็คือเพลง "ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว" เพลงนี้สื่อถึงความรู้สึกร่วมได้ดีมาก ทุกคนที่ได้ฟังมันจะรู้สึกซาบซึ้งในแบบของตัวเอง

เพลงแบบนี้ต้องปล่อยออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมมากที่สุด รับรองว่ามันจะต้องดังระเบิดไปทั่วโลกออนไลน์อย่างแน่นอน อาจจะกลายเป็นเพลงฮิตระดับตำนานได้เลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าในการคัดลอกเพลง "ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว" ในปัจจุบันยังคงอยู่ที่ 35% เท่านั้น ดูเหมือนว่ายังต้องอดทนรอต่อไป

หลินโจวหยิบกีตาร์ขึ้นมา ดีดสายสองสามครั้ง เพื่อทำความคุ้นเคย จากนั้นจึงเริ่มบรรเลงทำนองเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ"

มันเหมือนกับว่ารายละเอียดทั้งหมดของเพลงนี้ถูกตราตรึงไว้ในสมองของเขา การแปลงเนื้อเพลงและโน้ตเพลงต้นฉบับให้กลายเป็นคอร์ดกีตาร์เขาก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

หลังจากทดลองร้องเพลงกับกีตาร์ไปหลายรอบ หลินโจวก็พบว่าการบรรเลงเพลงนี้โดยใช้กีตาร์คลอไปกับเนื้อเสียงของผู้ชายก็ฟังดูดีเหมือนกัน มันสามารถกลบบางท่อนของเพลงต้นฉบับที่ไม่เหมาะกับช่วงเสียงผู้ชายได้อย่างแนบเนียน

เมื่อเขาฝึกซ้อมพอใช้ได้แล้ว หลินโจวก็ใช้โทรศัพท์มือถือของเขาตั้งกล้องถ่ายวิดีโออย่างจริงจัง จากนั้นจึงใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอแก้ไขอีกเล็กน้อย

เพิ่มชื่อเพลงลงไป จากนั้นก็ใส่ชื่อนักร้อง นักแต่งเพลง ผู้เรียบเรียง และมือกีตาร์ อ้อ ขออภัย ทั้งหมดเป็นคนเดียวกัน — เสวี่ยโจว (เรือหิมะ)

“เสวี่ยโจว”

"เอสสเตชั่น"เป็นแพลตฟอร์มสำหรับมือสมัครเล่นในการเผยแพร่ผลงาน การอัปโหลดสิ่งต่าง ๆ นั้นสะดวกมาก เพียงแค่ใช้โทรศัพท์มือถือของคุณบันทึกวิดีโอ ตัดต่ออีกเล็กน้อย ก็สามารถอัปโหลดไปที่ "เอสสเตชั่น" ได้แล้ว

โดยปกติแล้ว หลินโจวเองก็มักจะแวะเวียนไปที่ "เอสสเตชั่น" อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวดดนตรี หมวดบทกวี หรือคลิปตลก ดังนั้นเขาจึงมีบัญชีอยู่แล้ว ซึ่งชื่อ ID ก็คือ : เสวี่ยโจว

หลังจากใส่เนื้อเพลงลงไป ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ส่วนเรื่องหน้าตานั้น เขาไม่จำเป็นต้องใส่ฟิลเตอร์หรืออะไรทำนองนั้น เพราะหลินโจวได้ทำการปกปิดใบหน้าของตัวเองในวิดีโอแล้ว

เขาไม่ได้อยากเป็นแค่นักร้องเพียงอย่างเดียว แต่อยากเข้าสู่ในวงการในฐานะของนักร้องนักแต่งเพลง ก่อตั้งสตูดิโอของตัวเอง เติบโตจนกลายเป็นบริษัทบันเทิงในท้ายที่สุด

สิ่งที่เขาจะทำก็คือยื่นข้อเสนอสัญญาให้คนอื่น ไม่ใช่ให้คนอื่นมาเสนอสัญญาให้เขา

เคยเห็นเจ้านายคนไหนต้องออกไปโชว์ตัวตลอดทั้งวี่วันบ้าง?

ชายผู้บริสุทธิ์ในอดีตหายไปตั้งแต่วินาทีที่หย่ากับเซิ่นเหยาแล้ว ตอนนี้คนที่ยังคงอยู่ก็คือเครื่องจักรสร้างความสำเร็จที่ไร้หัวใจเท่านั้น

หลินโจวแตะหน้าจอโทรศัพท์เข้าสู่เข้าแอป "เอสสเตชั่น" เมื่อเข้าไปแล้วบัญชีไอดี “เสวี่ยโจว” ก็ล็อกอินเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ

จากนั้นเลือกไอคอน "อัปโหลดผลงาน" อัปโหลดวิดีโอเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" ลงไป

"โปรดเลือกหมวดหมู่สำหรับผลงานที่อัปโหลด"

‘หมวดดนตรี’

"โปรดเพิ่มคำบรรยายสำหรับผลงานของคุณ"

หลินโจวคิดอยู่ครู่หนึ่ง เพลงนี้เคยเป็นเพลงฮิตที่โด่งดังมากในชีวิตที่แล้วของเขา ผู้คนยังคงร้องเพลงนี้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ มันเป็นอันดับต้นๆ ในแง่ของจำนวนครั้งในการกดเล่นมากที่สุด

หลายคนถึงกับร้องไห้เพราะเพลงนี้ โดยเฉพาะเหล่าคนอกหักทั้งหลาย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มุมปากของหลินโจวก็ยกยิ้มน้อยๆ และรีบใส่คำบรรยายสำหรับผลงานแรกของเขาบน "เอสสเตชั่น" ทันที:

“เพลงต้นฉบับฮีลใจ คนอกหักจะหายขาดทันทีหลังจากได้ฟัง”

>>คลิกเพื่อยืนยันการอัปโหลด<<

จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการตรวจสอบ และการจดทะเบียนลิขสิทธิ์

หากเป็นเพลงต้นฉบับ หลังจากผ่านการอนุมัติแล้ว ทางแอปพลิเคชันก็สามารถช่วยเจ้าผลงานจดทะเบียนลิขสิทธิ์ได้โดยตรง

แพลตฟอร์มสำหรับมือสมัครเล่นนั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก หลังจากผ่านไปเพียง 1 ชั่วโมง ขั้นตอนการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ก็เสร็จสิ้น และได้รับการอนุมัติ

หลินโจวเลื่อนดูหน้าแรกของ "เอสสเตชั่น" ทันที แต่เขากลับหาวิดีโอของตัวเองไม่เจอ

เขาจึงค้นหาคำว่า "เสวี่ยโจว" จึงได้พบวิดีโอที่เพิ่งอัปโหลด รีบเข้าไปดูข้อมูล

รับชม: 2; ชอบ: 0; รางวัล: 0; บันทึก: 1

ก็น่ะ!! เพิ่งอัปโหลดไปไม่นาน อีกอย่างเขาก็ไม่ใช่เน็ตไอดอลชื่อดังอะไร หวังให้มีคนมาฟังเร็วขนาดนั้นได้ยังไง?

เพล้ง!!

ในขณะนั้นเอง หลินโจวก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากข้างนอก

จู่ๆ หัวใจของหลินโจวก็กระตุกวูบ!

หรือว่าจะเป็นโรคจิตที่ส่งรูปคุกคามซูชิงเหม่ย นี่มันกล้าถึงขั้นบุกมาถึงบ้านเลยงั้นเหรอ?

เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ เอื้อมไปปิดไฟในห้อง เดินไปที่ประตู แล้วค่อยๆ เปิดประตูออกไปอย่างเบามือ

ขณะนี้เป็นเวลาดึกสงัด ภายในห้องนั่งเล่นก็มืดสนิท แต่กลับมีเสียงอะไรบางอย่างดังออกมาอย่างแผ่วเบา!!

มีคนอยู่จริงๆ ด้วย!

หลินโจวหาอาวุธอะไรไม่ได้ในตอนนี้ เขาจึงทำได้เพียงย่องไปที่ห้องเล่นด้วยฝีเท้าที่เงียบที่สุด แต่เมื่อเขาลองฟังเสียงดูดีๆ อีกครั้ง เขากลับได้ยินเหมือนเสียงเคี้ยวอย่างชัดถ้อยชัดคำ เสียงนั้นก็กลายเป็นเสียงแหลมอีกครั้ง เหมือนกับว่ามีคนกำลังกินอะไรบางอย่างอยู่

เสียงนี้ดังมาจากในห้องครัว

นี่มันยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่!

ในครัวมีของมีคมเต็มไปหมด!

แต่ไอ้คนโรคจิตที่คุกคามซูชิงเหม่ยเข้าไปทำอะไรในห้องครัว? แล้วยังแอบกินของในครัวอีก หรือนี่จะเป็นเรื่องปกติที่พวกโรคจิตชอบทำ? คนปกติแบบเราคงไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ

หลินโจวไม่สนใจเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว ยังไงซะซูชิงเหม่ยก็เป็นนายจ้างของเขา แถมเธอยังเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอีก เขาคงไม่สามารถหนีไป และทิ้งเธอไว้คนเดียวในบ้านได้หรอก

หลินโจวย่อตัวลง และเดินตามเสียง "แจ๊บๆๆ " เงียบ ๆ ไปเรื่อยๆ ในความมืด ก่อนจะมองเห็นเงาร่างๆ อยู่ข้างหน้า

หลินโจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นก็กระโจนออกไป รวบตัวร่างนั้นจากด้านหลัง แล้วทุ่มลงไปบนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายใช้อาวุธ หลินโจวจึงรัดแขนของอีกฝ่ายไว้แน่นจากด้านหลัง

ขาทั้งสองข้างของเขาก็รัดอีกฝ่ายเอาไว้เช่นกัน!

"อย่าขยับ!"

หลินโจวตะโกนลั่น หากเสียงของเขาสามารถปลุกให้ซูชิงเหม่ยตื่นได้ก็จะดีที่สุด ตัวเขาควบคุมตัวคนร้ายเอาไว้ แล้วให้เธอรีบโทรแจ้งตำรวจ

แต่จู่ๆ หลินโจวก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เขาไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้โรคจิตนี่ถึงมีรูปร่างผอมขนาดนี้?

ผิวแขนเนียนนุ่ม บั้นเอวคอดกิ่ว ขาเรียวยาวได้รูป...

จากนั้นข้อความที่คุ้นเคยสองสามบรรทัดก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาอีกครั้ง:

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [เส้นทางธรรมดา] คืบหน้า 90%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [พบเจอ] คืบหน้า 80%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว] คืบหน้า 45%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน 《รวมบทกวีสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง》คืบหน้า 30%...

ความคืบหน้าในการคัดลอกเพลงฮิตของโลกเก่าเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย และยังมีข้อความใหม่ปรากฏขึ้นอีกด้วย

รวมบทกวีสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง?

นึกไม่ถึงว่านอกจากเพลงแล้ว ยังมีงานวรรณกรรมและศิลปะประเภทอื่นๆ บนโลกด้วย

เดี๋ยวก่อน!! ทำไมการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไอ้โรคจิตที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ คนนี้แล้วกระบวนการคัดลอกความทรงจำถึงได้เพิ่มขึ้นด้วย?

หรือว่าคนที่ฉันจับทุ่มจะเป็น...

"ปล่อยฉันนะ" เสียงเย็นชาที่แฝงความไม่พอใจดังขึ้น

“......”

หลินโจวตกตะลึง นี่เขาทุ่มซูชิงเหม่ยจริงๆ งั้นเหรอ? !

เดี๋ยวก่อน เธอแอบลงมาทำอะไรข้างล่างดึกๆ ดื่นๆ แล้วยังเสียง “แจ๊บๆๆ” นั่นอีก?

แบบนี้จะไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดได้อย่างไร?

หลินโจวรีบปล่อยเธอออกไป และลุกขึ้นไปเปิดไฟ ก่อนจะเห็นซูชิงเหม่ยในชุดนอนกำลังพยายามดันตัวเองลุกขึ้นมาจากบนพื้น

ในเวลานี้ เทพธิดาสาวผู้แสนเย็นชาตกอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงเล็กน้อย ผมยาวของเธอกระชายปกคลุมใบหน้า เสื้อผ้าท่อนบนถูกดึงจนไม่เป็นระเบียบ เผยให้เห็นหน้าท้องขาวเรียบเนียนใต้เสื้อผ้า

รองเท้าแตะข้างหนึ่งของเธอไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว เท้าสีขาวเนียนข้างหนึ่งไม่รู้ว่าจะวางไว้ที่ไหน จึงได้แต่วางแปะกับพื้นอย่างเก้ๆ กังๆ นิ้วโป้งเท้ากลมขยับไปมาโดยไม่รู้ตัว

“คุณซู ขอโทษครับ ผมคิดว่าคนร้ายที่คุกคามคุณลอบเข้ามา ว่าแต่ ทำไมคุณถึงไม่เปิดไฟเหรอครับ? แล้วคุณกำลังทำอะไรอยู่ในครัว?”

หลินโจวเองก็รู้เก้อเขินเช่นกัน

ตนเองเพิ่งเริ่มทำงานวันแรกก็เห็นเรือนร่างของเธอหมดแล้ว ตอนนี้เขายังจับเธอทุ่มอีก

นี่มันช่างวุ่นวายจริงๆ

หลินโจวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่ผู้ช่วยหน้าซาลาเปาอย่างโจวหยุนพูดไว้: "มันเป็นการคอยรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง!"

เอ่อ แบบนี้มันก็ดูจะใกล้ชิดเกินไปนะ...

ซูชิงเหม่ยไม่ตอบ เธอก้มหน้าลง ผมยาวยังคงปิดบังใบหน้าของเธอไว้ อย่างไรก็ตาม หลินโจวสังเกตเห็นรอยคราบเปื้อนน้ำมันที่มุมปากของเธอ เขาหันกลับไปมองบนโต๊ะอาหาร และพบกับจานข้าวราดแกงเนื้อที่ถูกกินไปครึ่งหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ . .

หลินโจวตกตะลึง: "นี่คุณลงมาทานข้าวงั้นเหรอครับ? "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด