ตอนที่แล้วบทที่ 47 : จุดเริ่มต้นของแผนบดขยี้หมู่บ้านโคโนฮะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 49 : ตรึงไว้ห้านาทีงั้นเหรอ?

บทที่ 48 : ซาโตรุถูกผนึกงั้นเหรอ?


บทที่ 48 : ซาโตรุถูกผนึกงั้นเหรอ?

*บูม*

พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และเสาหลายต้นที่เกิดจากผลึกสีชมพูปนแดงลอยขึ้นมาจากพื้นดิน กลายเป็นกรงเพื่อผนึกซาโตรุไว้ข้างใน

"ขังกันงั้นเหรอ?" ซาโตรุถืออมยิ้มไว้ในปาก ล้วงมือในกระเป๋ากางเกงแล้วมองผ่านแว่นกันแดดตรงไปที่กรงผลึก อักขระสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของเสา ซึ่งดูเหมือนมันจะเป็นคาถาที่ใช้ในการผนึก

ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างตกตะลึง

“นี่คือของขวัญที่ฉันใช้เวลาเตรียมการให้นายตั้งหนึ่งชั่วโมงเลยนะ” กุเร็นมองไปที่ซาโตรุในกรงและยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นจึงประสานอินด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนจะกระแทกมือลงกับพื้น

"[คาถาผลึก·เสามรกตหกเหลี่ยม]"

หมอกสีชมพูปกคลุมทั่วทั้งสนาม และผลึกหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมาจากอากาศเพื่อคลอบคลุมบริเวณที่ซาโตรุอยู่

พื้นผิวผลึกมีจักระหนาแน่นอย่างอัศจรรย์ มันเป็นคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของกุเร็น อีกทั้งยังสามารถดักจับสามหางได้ชั่วคราวอีกด้วย

“ผนึกทั้งสองนี้สามารถผนึกจักระของนายไว้ได้ แต่มันอาจจะดูจุกจิกไปหน่อยที่เอามาใช้กับมนุษย์แบบนี้” กุเร็นหอบหายใจแรงๆ และมองดูซาโตรุที่ถูกผนึกไว้ด้วยสายตาเย็นชา

“แต่เพราะนายคือยางิว ซาโตรุ ก็อย่าหาว่าฉันว่าใจร้ายแล้วกันนะ”

หลังจากที่เธอใช้ผนึกทั้งสองนี้ เธอก็ได้ใช้จักระไปจำนวนมหาศาล

“ซาโตรุ!” คุเรไนมองไปไกลๆ เห็นซาโตรุอยู่ในผลึกหกเหลี่ยม ดวงตาสีแดงสดราวกับอัญมณีของเธอบ่งบอกถึงความกังวล

“เป้าหมายของเธอคือซาโตรุงั้นเหรอ?” คุเรไนดึงคุไนออกมาและกำลังจะโจมตีกุเร็น

“อย่าขยับ ถ้าขยับเด็กนี้ตายแน่” กุเร็นกอดซากุระด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกมือหนึ่งวางบนคอของซากุระ

“เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!” ซาสึเกะตกตะลึง เขาใช้เนตรวงแหวนตลอดเวลา แต่เขากลับไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของกุเร็นได้อย่างชัดเจนเลยด้วยซ้ำ

“ซากุระจัง บ้าเอ้ย ปล่อยซากุระจังนะ!” ผิวของนารูโตะเริ่มเปลี่ยนไป และเขากำลังจะใช้คาถาร่างแยกโดยกำลังจะเอามือขึ้นมา

“ใจเย็นๆ อยากให้เด็กผู้หญิงคนนี้ตายเหรอ?”

กุเร็นเจาะลำคอของซากุระด้วยคุไนที่แหลมคม เลือดสีแดงสดได้ไหลลงมาจนถึงพื้น

"บ้าเอ๊ย!" นารูโตะกัดฟัน รีบปล่อยมือและจ้องกุเร็นด้วยสายตาที่โกรธแค้น

ใบหน้าของซากุระซีดเซียว เธอรู้สึกเจ็บที่คอและดวงตาก็เต็มไปด้วยความกลัว แต่ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าและตะโกนออกไปอย่างกล้าหาญ

“คุเระ...อาจารย์คุเรไน ไม่ต้องเป็นห่วงหนู สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการจัดการกับศัตรูก่อน”

"จิ้" คุเรไนหยุดชั่วคราวและขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องไปที่กุเร็นแล้วถามว่า "เธอเป็นนินจาจากหมู่บ้านโอโตะงั้นเหรอ? เป้าหมายของเธอคืออะไรกันแน่?"

“ยัยบ้าใครจะบอกแผนให้ศัตรูฟังกัน” เสียงหยาบคายได้ดังขึ้น

นินจาจากหมู่บ้านโอโตะสี่คนลงมาจากท้องฟ้าและแยกกันลงไปในสี่ทิศของผลึกหกเหลี่ยม จากนั้นพวกเขาก็สร้างผนึกใช้ในเวลาเดียวกัน

"[กำแพงเพลิงสี่ทิศ]"

กำแพงแสงทั้งสี่ปรากฏขึ้นมาปกคลุมผลึกขนาดใหญ่ ก่อตัวเป็นแนวกั้นขนาดใหญ่รอบๆ ซาโตรุโดยไม่มีช่องว่างใดๆ เหลืออยู่

ผนึกระดับสูงสองอัน และคาถาป้องกันระดับสูงอีกหนึ่ง

พวกเขาใช้ทรัพยากรไปมากมายและเริ่มวางแผนเมื่อเดือนที่แล้ว พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดักจับซาโตรุให้หยุดอยู่ห้านาที

บนที่นั่งที่สูงที่สุด ฮิรุเซ็นมองลงไปที่เหล่านินจาจำนวนมากที่กำลังปะทะกัน จากนั้นมองไปที่ซาโตรุที่ถูกผนึกไว้ด้วยผนึกสองชั้น พร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

อาสึมะและชิกามารุนำคนอื่นๆ ออกจากสนามรบพร้อมกับบรรดาเกะนินแล้ว

หลังจากที่พวกเขาพาเกะนินไปที่ปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็จะกลับมาร่วมที่สนามรบด้วย

นินจาในหมู่บ้านก็เข้าร่วมการต่อสู้ทันทีเพื่อหยุดการบุกรุกของนินจาหมู่บ้านโอโตะและหมู่บ้านสึนะ

“หมู่บ้านสึนะงั้นเหรอ? พวกมันกำลังพยายามสร้างสงครามที่ไร้สาระขึ้นอีกครั้งหรือไง?!”

ไดเมียวจากดินแดนแห่งไฟได้กระโดดลงไปที่เบื้องหน้าฮิรุเซ็น เขาถอดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของเขา

โอโรจิมารุ!

“ฮ่าฮ่า…อาจารย์ซารุโทบิ ไม่ได้เจอคุณมานานมาก ยังคงไร้เดียงสาเช่นเดิมสินะ” โอโรจิมารุเลียมุมปากของเขา แววตาซีดสีทองที่เหมือนงูคู่นั้นมีความเสียดสีสะท้อนออกมา

สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเขาไม่คิดว่าฮิรุเซ็นจะยังพูดคำพูดที่ดูอ่อนแอและไร้เดียงสาเช่นนี้ออกมาได้

“โอโรจิมารุ” ฮิรุเซ็นผงะเล็กน้อย และใบหน้าของเขาเหยเกทันทีที่เขาเห็นโอโรจิมารุ ภาพในอดีตพลันปรากฏขึ้นในใจของเขา

ในสมัยก่อน โอโรจิมารุเป็นนักเรียนคนโปรดของเขา แต่สุดท้ายโอโรจิมารุก็เดินไปในวิถีที่ผิด

“ถ้าไม่มีซาโตรุ ก็ไม่มีภัยคุกคาม แต่เผื่อไว้ก่อนแล้วกัน” โอโรจิมารุพูดเสียงแหบแห้ง

งูสี่ตัวเจาะออกมาจากพื้นดิน จากนั้นก็กลายเป็นร่างแยกของโอโรจิมารุ ร่างแยกทั้งหมดกระโดดกลับไปและตกลงไปในสี่ทิศทาง

"[กำแพงเพลิงสี่ทิศ]"

ร่างแยกทั้งหมดก่อตัวเป็นผนึกในเวลาเดียวกัน และกำแพงแสงทั้งสี่ก็ปรากฏขึ้นมาจากอากาศก่อตัวเป็นแนวกั้นล้อมรอบพวกมัน

“โอโรจิมารุ เธอยังไม่อาจละทิ้งความเกลียดชังในใจได้หรือ?” ฮิรุเซ็นสูบบุหรี่เพื่อระงับความโกรธในใจ และมองดูโอโรจิมารุอย่างสงบ

“อาจารย์ซารุโทบิ คุณน่ะแก่มากแล้ว” โอโรจิมารุเหลือบมองลงไปที่กาอาระที่ตอนนี้บริเวณโดยรอบเขาถูกปกคลุมไปด้วยทราย

ต้องใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่ชูคาคุจะตื่นเต็มที่สินะ?

โอโรจิมารุมองย้อนกลับไปอีกครั้ง ก็เห็นซาโตรุที่ถูกผนึกด้วยผนึกผลึกระดับสูงสองชั้นพร้อมกำแพงคลุมอีกชั้นหนึ่ง

ตราบใดที่สามารถรั้งซาโตรุเอาไว้ได้ เขาก็สามารถทำลายหมู่บ้านได้สำเร็จ

เพราะเขายังมีไพ่ลับอยู่

คาถาอัญเชิญสัมภเวสีคืนชีพ!

“ดาบคุซานางิ” คอของโอโรจิมารุยาวขึ้น และด้วยดาบอันแหลมคมในปากของเขา มันก็ฟันลงไปอย่างโหดหี้ยมเข้าไปที่คอของฮิรุเซ็น

ในเวลาเดียวกันอีก ณ พื้นที่หนึ่ง

“คิบะ ชิโนะ พาฮินาตะไปจากที่นี่ซะ” คุเรไนถือคุไนไว้ในมือ จ้องมองไปที่กุเร็นอย่างเย็นชา

ซาโตรุถูกผนึก โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถูกโอโรจิมารุโจมตี และมีนินจาจำนวนมากบุกรุกเข้ามาในหมู่บ้าน

กาอาระบนสนามดูเหมือนกำลังจะปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

ซากุระก็ถูกจับเป็นตัวประกันเช่นกัน

และโจนินระดับสูงจำนวนมาก เช่นคาคาชิและคนอื่นๆ ยังคงติดภารกิจอยู่

ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี?

"แต่..." ใบหน้าของคิบะเครียดมากขึ้น เขาเหลือบมองโฮคาเงะรุ่นที่ 3 จากนั้นจึงมองไปที่ซาโตรุที่อยู่ในผนึก และมองไปที่ซากุระที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

คำพูดของคิบะได้หยุดลงทันที แม้ว่าเขาจะหยิ่งผยองและมักจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวเสมอ แต่สถานการณ์นี้เขาก็เข้าใจว่าการอยู่ที่นี่ต่อไปรังแต่จะกลายเป็นภาระให้กับบรรดาโจนิน

“อาจารย์คุเรไน ไอ้โง่งี่เง่านารูโตะ ผมขอฝากด้วยนะ” คิบะอุ้มฮินาตะขึ้นมา กอดอากามารุเพื่อนรักของเขา แล้วหันหลังแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากการต่อสู้กับนารูโตะ เขาก็ยอมรับว่านารูโตะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

ชิโนะเองก็เดินตามไปอย่างรวดเร็ว

“แกปล่อยซากุระจังเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะทุบแกให้แหลกเป็นชิ้นๆ เอง!” นารูโตะโกรธมาก ดวงตาสีฟ้าของเขากลายเป็นรูม่านตาจิ้งจอกสีแดง และทั่วทั้งร่างกายเผยให้เห็นจักระสีแดงเข้ม

“เธอคือร่างสถิตย์ของจิ้งจอกปีศาจสินะ? ฉันเองอยากลองทดสอบดูว่าเธอเร็วกว่าหรือฉันเร็วกว่ากันแน่?” กุเร็นถือคุไนไว้ในมือ แทงเข้าไปในผิวหนังของซากุระอีกเล็กน้อย พร้อมทั้งมองลงไปที่นารูโตะอย่างไม่แยแส

“ร่างสถิตย์ของจิ้งจอกปีศาจ?” นารูโตะหยุดการโจมตีและหลังจากได้ยินคำว่า 'ร่างสถิตย์ของจิ้งจอกปีศาจ' เขาก็ตอบโต้ด้วยความโกรธ "ฉันน่ะคืออุซึมากิ นารูโตะ และคือคนที่จะเป็นโฮคาเงะในอนาคตต่างหาก!"

“ไม่ต้องห่วงฉัน นินจาต้องให้ความสำคัญของภารกิจก่อน” ซากุระก้มหน้าลง ร่างกายอันบอบบางของเธอสั่นเทาเพราะความกลัว

เพราะฉันเอง อาจารย์คุเรไนจึงทำอะไรไม่ได้ และเสียเวลาไปมากขนาดนี้

บางทีที่อาจารย์ซาโตรุอาจจะทำลายผนึกไม่ได้ก็เพราะเธอใช่ไหม?

เธอจำได้ที่โรงเรียนเคยสอนไว้ว่า

นินจาควรจัดลำดับความสำคัญของภารกิจ และเมื่อนินจาถูกจับเป็นตัวประกัน พวกเขาก็ไม่มีค่าอะไรเลย

เธอจำได้ว่าประโยคนี้เป็นคำสอนของคุณปู่จอมเผด็จผู้มีร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล

ซากุระมองคุไนอันแหลมคมบนคอของเธอด้วยความกลัว จากนั้นมองไปที่ทุกคนในทีมที่เจ็ด เธอยิ้มแล้วพูดว่า "ขอบคุณมาก"

ขอโทษนะคะอาจารย์ซาโตรุ

ซากุระกัดริมฝีปากและกระแทกคอไปทางคุไนโดยตั้งใจจะฆ่าตัวตาย เธอมันไม่มีคุณค่าอะไรเลยเพราะถูกจับเป็นตัวประกัน

"ยุ่งยากแล้วสิ" เสียงหัวเราะดังขึ้น

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนในกลุ่มก็ตกใจเล็กน้อย พวกเขามองไปที่ซาโตรุที่อยู่ในผนึกหลายชั้น

ซาโตรุยกมือขึ้น เคาะไปที่ผลึกแล้วใช้อมยิ้มชี้ไปที่กุเร็น และพูดด้วยสีหน้ารังเกียจว่า "ไม่มีระบบป้องกันเสียงให้ด้วยเหรอ? ระวังโดนฉันเอ็ดเอานะ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด