บทที่ 6 ไลค์กองใหญ่และความในใจ

บทที่ 6 ไลค์กองใหญ่และความในใจ

พูดถึงเรื่องที่อยู่อาศัยก็เหมือนกัน ผู้คนต้องการซื้อบ้านที่ใกล้กับกิลด์ที่ฮันเตอร์มารวมตัวกัน ผู้คนในชนบทจะย้ายไปยังเมืองเล็กๆ ที่มีกำแพงป้องกัน เพื่อให้พวกเขามีโอกาสรอดชีวิตได้ดีขึ้นไปอีก ในทางกลับกันคนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยในการอยู่อาศัยในเมืองเล็กๆ ก็ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองใกล้ๆเมืองหลักหรือรอบๆ กรุงโซลหรือเข้าไปในกรุงโซลเลย ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมายทั้งราคาค่าเช่าที่เช่าบ้านราคาซื้อขายที่ดินที่คนชั้นกลางไม่มีทางจะเอื้อมถึง อัตราการว่างงานที่มากมาย ปัญหาอาชญากรรมต่าง และปัญหาอื่น ๆ ที่คล้ายกัน

ดังนั้นผู้คนจึงพยายามเลี้ยงดูลูกๆ ของตนให้มีชีวิตที่ดี และมันจะบอกพวกเขาว่าอย่าไปเป็นผู้ช่วยฮันเตอร์เมื่อพวกเขาโตขึ้น ถึงกระนั้นมันก็ยากยิ่งกว่าที่จะได้งานแบบจีชอค เพราะเขาโชคดีที่ได้อยู่กลับกองกำลังที่แข็งแกร่ง มันต่างจากที่อื่นๆที่มีอัตราการตายและอุบัติเหตุสูงมาก

โลกถูกปกครองโดยบริษัทที่เกี่ยวกับด้านการป้องกันประเทศ พลังงาน และความบันเทิง ส่งผลให้เกิดสังคมที่คนรวยรวยขึ้นและคนจนจนลง สมาชิกของระดับสูงอาจจะลงมือทุบตีใครก็ได้ที่พวกเขาต้องการ จากนั้นก็โยนกองเงินใส่พวกเขาเพื่อทำให้พวกเขาเงียบ

และความจริงที่น่าเศร้าที่สุดคือผู้คนรอบๆสนใจอยากรู้ว่ามีเงินอยู่ในห่อนั้นเท่าไหร่ มากกว่าที่จะสนใจคนที่ถูกทุบตีเหล่านั้นเสียอีก ผู้คนต้องไต่เต้าในบริษัทและหาอพาร์ตเมนต์ที่มั่งคงเพื่อที่จะอยู่อาศัย หากทำไม่ได้พวกเขาก็ต้องหาที่อยู่อาศัยในเขตของกรุงโซล หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องอยู่ในเมืองใหญ่สักเมืองหนึ่ง

ส่วนผู้ที่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้จะทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง การเอาชีวิตรอดเป็นเรื่องมากขึ้น และการหางานทำก็ยากยิ่งขึ้นไปอีก

การอเวคนั้นแทบจะหาได้ยากพอๆ กับการถูกลอตเตอรี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือที่ความปรารถนาที่จะเป็นผู้อเวคจะสะท้อนให้เห็นในความกระตือรือร้นทางการศึกษาเหล่านั้น? ทำให้นักเรียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องศึกษาเพิ่มเติม และครอบครัวที่ไม่พอใจกับการบรรยายออนไลน์ก็ส่งบุตรหลานของพวกเขาไปเรียนกวดวิชาส่วนตัว มันเป็นโลกที่โหดร้ายกสำหรับเด็กๆ

และมีแม้กระทั่งเด็กที่ฆ่าตัวตายเพราะความกดดันและเพราะความอ่อนแอของตัวเอง

'ถ้าฉันปลุกพลังขึ้นมาได้ล่ะก็'

คำเหล่านี้มักถูกเขียนทิ้งไว้ในบันทึกการฆ่าตัวตายของพวกเด็กๆ และมันยากที่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่จะยอมรับได้ หรือแม้แต่สังคมก็ยากจะยอมรับเช่นกัน

เจ้าหน้าที่ของรัฐกล่าวเสริมว่า “มันจะปรากฏตัวในสื่อเร็วๆ นี้”

"อืม เข้าใจแล้ว” จีชอคกล่าว เขาไม่แปลกใจเลย

"แต่ก็มีคนเช่นคุณที่สามารถต่อสู้กับพวกมันได้เหมือนกัน แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับต่ำกว่าก็ตาม แต่พวกเขายังสามารถต่อสู้ได้

..แต่จิตใจของมนุษย์… ไม่สามารถเอาชนะความกลัวได้ทุกเมื่อที่ต้องการ” เจ้าหน้าที่ยอมรับ

แน่นอนว่ามันสมเหตุสมผล ใครๆ ก็ต้องกลัวสัตว์อสูรและไม่ใช่ว่าทุกคนจะถูกฝึกให้เป็นฮันเตอร์ สำหรับจีชอคถ้าเขาไม่มีทักษะหัวใจที่มั่นคงใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?

“ขอบคุณพระเจ้า อย่างน้อยก็มีคนหนึ่งที่นี่ที่จัดการกับสัตว์อสูรก่อนที่เราจะสามารถช่วยได้ทันเวลา” เจ้าหน้าที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาถามจีชอคอีกสองสามคำถาม จากนั้นจึงยื่นมือจับมือกันในที่สุด

“ถึงแม้ว่าคุณเพิ่งจะตื่นขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าคุณมีความสามารถทั้งการโจมตีและการป้องกัน ทั้งระยะประชิดและระยะไกล ผู้เล่นที่เก่งรอบด้านนั้นหายากมาก และเราโชคดีมากที่มีคุณอยู่ที่นี่ในเวลาที่เหมาะสม” เจ้าหน้าที่กล่าวชมจีชอคพร้อมจับมือกับเขา

“คุณสามารถกลับไปพักได้แล้ว เราจะติดต่อกลับหาคุณ อา..ใช่ สำหรับก็อบลินที่คุณฆ่าได้ เราจะเก็บเกี่ยวศพของพวกมันและนำทรัพยากรกลับมาให้คุณเมื่อพวกเราทำความสะอาดเสร็จแล้ว” เจ้าหน้าที่พูดแล้วเดินจากไป

[เจ้าหน้าที่ภาครัฐหมายเลข 1 รู้สึกเคารพคุณอย่างสุดซึ้ง]

[คุณได้รับ 10 ไลค์]

* * *

เมื่อจีชอคกลับถึงบ้าน เขาก็ตรงไปนอนบนเตียงโดยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย เหตุการณ์ในวันนี้นั้นดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของความฝันไปแล้ว

'ฉันกำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาด…'

เขายังคงรู้สึกถึงความรู้สึกของการทุบหัวของก็อบลินอยู่ มันแปลกๆเล็กน้อย และยังมีความรู้สึกที่กั้นพวกมันไว้ด้วยโล่ของเขา… ต้นแขนของจีชอคเจ็บมาก มันเจ็บมาก

ตอนนั้นเองที่การแจ้งเตือนภารกิจปรากฏขึ้น

ติ้ง-

[บันทึกวิดีโอหมายเลข 1 แล้ว]

[คุณมีภารกิจ!]

[ภารกิจ: เปิดตัวบนก็อตทูบ]

[ความยาก: ไม่มี

วันนี้คุณทนทุกข์ทรมานมาก คุณควรอัปโหลดวิดีโอของคุณไปที่ก็อตทูบเพื่อรับไลค์มากขึ้น!

รางวัล: เพิ่มระดับทักษะเริ่มต้น]

ทั้ง 'หัวใจที่มั่นคง' และ 'ดาบและโล่' เป็นทักษะที่คุ้มค่าจริงๆ

“ฉันแค่อัพโหลดมันเหรอ? แต่ฉันไม่รู้วิธีตัดต่อวิดีโอจริงๆ” จีชอคครุ่นคิดขณะที่เขาถอดกล้องติดตัวออก เส้นทางทั้งหมดของเขาในการช่วยชีวิตและสังหารก็อบลินได้ถูกบันทึกไว้แล้ว

“งั้นก็อัปโหลดตามที่เป็นอยู่นี้แหละ” เขายักไหล่

การเพิ่มเพลงลงในวิดีโอหรือการแก้ไขเป็นภาพตัดต่อมีประโยชน์หรือไม่ จีชอคนั้นห่างไกลจากเรื่องพวกนี้มากจนเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำบรรยายทำงานอย่างไร ดังนั้นเขาจึงอัปโหลดวิดีโอดิบทั้งหมด

[การอัปโหลดเสร็จสมบูรณ์]

[ภารกิจเสร็จสิ้น]

[รับรางวัลของคุณ]

หลังจากเห็นข้อความเหล่านั้น จีชอคก็นอนเหยียดยาวบนเตียงและหลับไปทันที เขาไม่มีแรงเหลือที่จะอาบน้ำอีกต่อไป

* * *

เป็นเวลานานแล้วที่จีชอคฝันถึงปู่ของเขาครั้งสุดท้าย

ปู่ของเขาวางจีชอคน้อยที่มีไข้สูงอย่างมากลงในตะกร้าจักรยานและถีบให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ จีชอคสังเกตว่าตัวเขาเองยังเด็กแค่ไหน เท่าที่เขาจำได้เขาพูดได้แค่ว่าแม่ พ่อ คุณปู่ อาหาร … และคำสั้นๆอีกหลายคำ

ทันใดนั้น ปู่ของเขาก็หยุดพร้อมกับห่อจีชอคเป็นเบอร์ริโตแล้วมัดเขาไว้กับหลังด้วยผ้า จากนั้นเขาก็ปั่นจักรยานขึ้นเนินโดยไม่หยุด ย้อนกลับไปนั้นแผ่นหลังของปู่ของเขาราวกับปราการเหล็ก

“คุณปู่” จีชอคเรียก

“แน่นอน หลานชายที่รักของปู่ อดทนอีกสักหน่อยนะ เราจะไปถึงโรงพยาบาลเร็วๆ นี้” เขากล่าวอย่างปลอบโยน

การเป็นฮันเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่และการปิดกั้นประตูเป็นเรื่องราวที่ให้ความรู้สึกเหมือนผ่านมาทั้งชีวิต เกตและฮันเตอร์ดำรงอยู่และเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่นี่เป็นช่วงเวลาก่อนที่คลื่นสัตว์อสูรขนาดมหึมาจะปะทุขึ้น ย้อนกลับไปตอนนั้นโลกมีทั้งหมดสี่ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว และยังคงเป็นไปได้ที่จะข้ามประเทศด้วยการเดินเท้า มนุษย์ยังคงครองโลก

ชาวเน็ตเคยล้อเล่นว่าโลกจะน่าอยู่ขึ้นได้อย่างไรหากไม่มีมนุษย์อยู่บนโลกนี้ เพราะมนุษย์ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมมากเพียงใด และเมื่อโลกมีประชากรมากเกินไป ในที่สุดผู้คนก็มาถึงข้อสรุปว่ามนุษย์จำเป็นต้องถูกกำจัดจริงๆ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของโลกนี้

ในสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่นั้น ผู้คนเพาะปลูกข้าวและพืชผลอื่นๆ และขับรถแทรกเตอร์เพื่อเก็บเกี่ยว เสียงกบร้องเข้ากันได้ดีกับความชื้นในฤดูร้อน และทำให้อากาศดูชื้นยิ่งขึ้นไปอีก

“คุณปู่…” จีชอคตะโกน มีบางอย่างทำให้เขาเจ็บคอ

“เมื่อไข้คุณลดลง ปู่จะซื้อไอศกรีมให้หลานกิน ตอนนี้มาทำให้แน่ใจว่าไข้ของหลสยจะลดลงก็พอ” ปู่ของเขายังคงถีบต่อไป

“จีชอค ผู้คนจะบอกให้หลานใช้ชีวิตอย่างมีน้ำใจ นั่นเป็นเพราะว่าความเมตตาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อย่าทำตัวเหมือนคุณปู่ของเจ้า หลานต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีและฉลาดเมื่อหลานโตขึ้น” เป็นคำพูดเดียวกับที่เขาพูดซ้ำกับจีชอคตั้งแต่เขาเกิด

* * *

กรี้งงงงงงง!

โทรศัพท์ดังขึ้น จีชอคอยากจะสานฝันร่วมกับปู่ของเขาแต่กลับถูกขัดจังหวะ

“เอ่อ...” จีชอคตื่นขึ้นมา

วันที่เขาฝันถึงปู่ครั้งสุดท้ายคือวันที่เขาได้อเวค และวันนี้เองที่เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก เขาฝันก็ถึงปู่ของเขาและอดีตอีกครั้ง มีอะไรเกี่ยวข้องกับมันหรือป่าวนะ? จีชอคครุ่นคิดเล็กน้อย

'ฉันเคยป่วยบ่อยมากเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก'

ตอนนั้นเขาจะไอมากและมีไข้ค่อนข้างสูง เขาเป็นเด็กที่ต้องการการดูแลและช่วยเหลืออย่างมาก จีชอคจำได้ว่าตอนนั้นพ่อแม่ของเขาทะเลาะกัน ปู่ของเขาจึงเข้ามาเลี้ยงดูเขาแทน ปู่ของเขาได้เสียสละมาให้เขามามากแล้ว ยิ่งกว่านั้นยายของจีชอคนั้นเสียชีวิตเร็วมาก

โทรศัพท์ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เขาควรรับโทรศัพท์หรือไม่? เขาควรปิดเครื่องแล้วกลับไปนอนไหม?

หลังจากดังอีกสองสามครั้ง จีชอคก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ

"สวัสดี…?"

“เมื่อวานคุณทำอะไรบ้าๆ นะ” อีกด้านคือคุณคิม

“อะไรนะ…คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?” จีชอคหลับตา พยายามแกล้งทำเป็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง

“คุณเป็นผู้อเวคแล้วเหรอ? มีข่าวออกไปทั่วแล้ว” คณคิมถามออกมาตรงๆ

"ข่าวหรือ?"

“ใช่แล้ว คุณไม่ดูข่าวหรือ ไอ้เด็กไม่รักดีนี้!”

เนื่องจากจีชอคเพิ่งตื่น เขาจึงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขามองหารีโมทอย่างรีบร้อยและจากนั้นเขาก็เปิดทีวี บนหน้าจอคือแผ่นหลังที่ค่อนข้างคุ้นเคยของคนที่เขาเคยเห็นมาก่อน มันเป็นตัวเขาเอง

แม้ว่าภาพในโทรศัพท์จะค่อนข้างสั่นคลอนและไม่มีคุณภาพและความละเอียดสูงเท่ากับกล้องถ่ายทำรายการทีวี แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุคคลนั้นคือจีชอค

“ฮันเตอร์เพียงคนเดียวถูกจับภาพได้ในขณะที่เขากำลังช่วยชีวิตคนนับไม่ถ้วน” ผู้ประกาศข่าวกล่าว

“ตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ บุคคลนี้เพิ่งจะกลายเป็นผู้อเวคเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ได้แสดงทักษะทั้งสามประเภทแล้ว: การรักษา กายภาพ และเวทมนตร์” ผู้ประกาศกล่าวต่อ

“จากนั้นฮันเตอร์คนนี้ก็ออกจากที่เกิดเหตุไปโดยไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทนใดๆ ตามพระราชบัญญัติการรักษาความลับส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่าข้อมูลของผู้อเวคคนนี้… เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าจะมีวิดีโออื่นอัปโหลดบนแพลตฟอร์มวิดีโอก็อตทูบ” หน้าจอเลื่อนไปที่วิดีโอของจีชอคที่เขาโพสต์เมื่อคืนก่อน

“ใช่ มันเป็นวิดีโอที่มีจำนวนการดูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อประตูเปิดในใจกลางกรุงโซล ขั้นตอนการลงมือช่วยชีวิตผู้อเวคเมื่อเร็ว ๆ นี้ถูกบันทึกไว้ทั้งหมด” คลิปหนึ่งแสดงให้เห็นจีชอคปลุกผู้คนที่อยู่ในรถบัสให้ตื่นในตอนแรกและพยายามช่วยชีวิตพวกเขา

"คุณสบายดีไหม? คุณได้ยินที่ฉันพูดไหม” จีชอคที่เป็นกังวลถามผู้บาดเจ็บในวิดีโอ

“เอ่อ...” คนตอบ

“ยืนขึ้นได้ไหม?” เขาถาม

“ขาของฉันขาของฉัน…” ขาของบุคคลนั้นเจ็บ

มือของจีชอคเรืองแสงและลอยอยู่เหนือขา ทักษะการปฐมพยาบาลของเขาเปิดใช้งาน และเขาก็เริ่มรักษาผู้บาดเจ็บ

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด

เขาปฏิบัติต่อผู้คนและช่วยให้พวกเขาเคลื่อนไหว ขอให้พวกเขาอดทนรอ ตรวจสอบด้านนอกเพื่อหาสัตว์ประหลาด และซื้อเวลาให้คนอื่นๆ วิ่งหนีไปอย่างปลอดภัย คลิปทั้งหมดของจีชอคที่ต่อสู้กับก็อบลินได้รับการแก้ไขอย่างระมัดระวังและออกอากาศโดยผู้เชี่ยวชาญ

คำบรรยาย: [วีรบุรุษผู้สัญจร]

ทั้งหมดนี้มันอะไรกัน?

ทันใดนั้น จีชอคสังเกตเห็นบางสิ่งกะพริบอยู่ใต้หน้าต่างสถานะของเขา

[999+ ข้อความของระบบที่ยังไม่ได้อ่าน]

ไลค์ที่เขาได้รับนั้นกองรวมกันสูงเท่ากับภูเขา

* * *

ทุกช่องรายงานเกี่ยวกับการโจมตีเกทเมื่อวันก่อน — และแน่นอนพวกเขารายงานด้วยว่าการที่ประตูปรากฏที่ใจกลางเมืองถือเป็นหายนะครั้งใหญ่ นับตั้งแต่มีการค้นพบศิลาผู้พิทักษ์ พวกมันก็ถูกใช้เพื่อป้องกันการปรากฏเกท และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผู้คนถึงไม่ค่อยเห็นเกทปรากฏขึ้นในเมือง

แต่ศิลาผู้พิทักษ์นั้นมีราคาแพงมากและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับมันมา เพราะศิลาผู้พิทักษ์มีโอกาสปรากฏขึ้นเมื่อเคลียร์ดันเจี้ยน 3 ดาวหรือสูงกว่าแล้ว ยิ่งอันดับดันเจี้ยนสูงเท่าไรโอกาสที่ศิลาผู้พิทักษ์จะดร็อปก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และมีกิลด์ไม่กี่กิลด์ที่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยน 3 ดาวหรือสูงกว่าได้ และจีชอคเคยได้ยิยในอดีตว่ามีทีมน้อยกว่าห้าทีมในเกาหลีที่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยน 4 ดาวได้ ส่วนดันเจี้ยน 5 ดาวหรือสูงกว่านั้นถือว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนเกาหลีจะสามารถเคลียร์ได้ ซึ่งพวกเขากลับต้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศแทน

ระดับความยากของดันเจี้ยนถูกกำหนดอย่างไร?

ในการเข้าสู่ดันเจี้ยน 1 ดาวที่ต่ำที่สุด จะต้องมีเลเวลต่ำกว่า 20 หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือดันเจี้ยนนั้นถือเป็น 1 ดาวเมื่อฮันเตอร์ที่มีเลเวล 20 หรือต่ำกว่าสามารถเข้าไปได้อย่างอิสระและล่ามอนสเตอร์ภายใน แต่ศิลาผู้พิทักษ์จะปรากฏในดันเจี้ยนที่มีระดับ 3 ดาวหรือสูงกว่านั้นเท่านั้น ดันเจี้ยน 3 ดาวยังถูกจำกัดเลเวล และอนุญาตเฉพาะฮันเตอร์ที่เลเวลต่ำกว่า 100 เท่านั้นสามารถเข้าไปได้ และมอนสเตอร์ข้างในจะถูกกำหนดให้เป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมสำหรับฮันเตอร์ระดับดังกล่าว แน่นอนว่าปัญหาก็คือมีฮันเตอร์ที่มีเลเวล 100 หรือสูงกว่าในเกาหลีนั้นมีไม่มากนัก

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถอัพเลเวลได้สูงขนาดนั้น และสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนเหล่านี้ได้ ทำให้การพบศิลาผู้พิทักษ์เกือบจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างมาก มันสมเหตุสมผลแล้วที่พวกมันมีราคาแพงมาก โดยมีหลายประเทศต้องการมันอย่างมาก ดังนั้นทุกๆปีพวกเขาจะต้องเสียภาษีจำนวนมากในการจัดหาและซ่อมแซมศิลาผู้พิทักษ์ ในทางกลับกันการเตรียมการสำหรับการรับมือกับประตูที่จะปรากฏจะไม่เพียงพอหากการเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ศิลาผู้พิทักษ์มาเกินไป และทุกปีก็มีการตัดงบประมาณ การบริหารครั้งล่าสุดได้ลดงบประมาณในส่วนนี้ลงมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ผู้ประกาศข่าวกำลังพูดคุยเรื่องงบประมาณอยู่

“ทุกวันนี้ รัฐสภายังคงอยู่ประมาณการ และงบประมาณอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ แต่ปัญหากำลังปรากฏขึ้นมาก่อน”

“อีกอย่างเป็นเพราะศิลาผู้พิทักษ์นั้นไม่สามารถรักษาให้คงสภาพได้เท่าที่ควร และทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้… มันทำให้คนทั่วไปเช่นดิฉันก็รู้สึกกังวลอย่างมาก” พลเมืองคนหนึ่งกล่าวขึ้น

มีการสัมภาษณ์ตามมา

“ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ต้องขอบคุณพลเมืองผู้กล้าหาญที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้นได้ อย่างไรก็ตามครั้งนี้เราถือว่าโชคดีมาก แต่ในอนาคตหากเราไม่ใช้มาตรการป้องกันแบบรัดกุม อุบัติเหตุแบบนี้ก็อาจเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน”

นักข่าวเอาไมค์ไปจ่อหน้าเด็ก พวกเขาถามคำถามสองสามข้อและเด็กก็ตอบ

“พ่อกอดผมตลอดตอนที่เราอยู่ในรถ มันน่ากลัวมาก” เด็กเล่าว่าพ่อของเขาพยายามปกป้องเขาด้วยทุกสิ่งที่เขามีอย่างไร

“เธอเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากรถหรือเปล่า” นักข่าวถาม

“ใช่ พ่อบอกผมตลอดว่าเราไม่ควรออกไปเพราะสัตว์อสูรกำลังจะออกมา จากนั้นผมก็เห็นสัตว์อสูรที่น่าเกลียดน่ากลัว”

"และเธอรู้สึกอย่างไร?"

“ผมกลัวมาก ผมร้องไห้กับพ่อ แต่พี่คนหล่อก็ปรากฏตัวขึ้นและเริ่มโจมตีสัตว์อสูรเหล่านั้น”

ภาพวงจรปิดปรากฏบนหน้าจอ ก็อบลินกำลังเข้าใกล้รถที่เด็กอยู่ จากนั้นก็มีลูกศพลังจิตที่จีชอคสร้างขึ้นเจาะหัวของก็อบลินตัวนั้น จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะยั่วยุ คลิปนั้นได้รับการแก้ไขอย่างประณีตจากวิดีโอในก็อตทูบที่อัปโหลดโดยจีชอค

“เธอไม่ได้รับบาดเจ็บเลยเหรอ?” นักข่าวกล่าวต่อ

“ไม่เลย” เด็กน้อยพูดยิ้มๆ เขายกมือขึ้นและกางนิ้วออก แต่แล้วใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในขณะที่เขากล่าวเสริมว่า “แต่ผมเห็นพี่คนนั้นได้รับบาดเจ็บ เขามีเลือดออก”

จากนั้นรายการก็ย้ายไปสัมภาษณ์คนต่อไป