ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 114
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 116

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 115


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 115

ราอนหรี่ตาลงเมื่ออ่านข้อความ

'พลังเลือดบริสุทธิ์...'

มันไม่ใช่แค่พลังเลือดธรรมดาแต่เป็นพลังเลือดบริสุทธิ์ ดูเหมือนว่ากริชแห่งเรควีเอ็มจะกลืนกินพลังจากเลือดพวกโลหิตขาวแล้วมอบส่วนที่บริสุทธิ์ให้กับเขา

'บริสุทธิ์มาก'

พลังของมันบริสุทธิ์กว่าหินเวททั่วไปเสียอีก และมันเป็นพลังที่ไม่ทำอันตรายเขาแต่อย่างใด

'มันกำลังเข้ามาในตัวฉัน'

เขาเอากำแพงออร่าที่ปิดกั้นมันไว้ออก แล้วพลังของกริชก็เริ่มซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา

วืด!

พลังที่บริสุทธิ์และสะอาดเริ่มกระจายไปทั่วร่างกาย

[พลังเลือดบริสุทธิ์กำลังเสริมสร้างร่างกายและจิตใจ]

[แต้มสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 แต้ม]

พลังอันบริสุทธิ์และสดชื่นเติมเต็มร่างกายของเขา ราอนกำหมัดแน่น

แต่ข้อความไม่ได้มีแค่นั้น

[คุณสมบัติ 'การปรับตัวเข้ากับพลังสยดสยอง' ถูกสร้างขึ้น]

หน้าต่างใหม่ปรากฏขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีการสร้างคุณสมบัติใหม่แล้ว

การปรับตัวเข้ากับพลังสยดสยอง(หนึ่งดาว)

ผู้ใช้งานจะใช้พลังน้อยลงเมื่อใช้งานอาวุธที่มีพลังสยดสยอง

ดวงตาของราอนเป็นประกายเมื่ออ่านคำอธิบาย

'นี่มันค่อนข้างดีเลย'

เขาใช้พลังกายและใจไปเยอะมากกับการใช้กริชเล่มนี้ที่มีพลังสยดสยอง แปลว่าตอนนี้เขาจะใช้ได้สะดวกขึ้นแล้ว

ช้าก่อน!

ในขณะที่ราอนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ราธก็โผล่ออกมาและมองด้วยสายตาจ้องเขม็ง

ทำไมเจ้าถึงได้คุณสมบัติใหม่?

'แกบอกเองนี่ว่าระบบจะให้สิ่งให้ที่เป็นประโยชน์กับฉัน มันน่าจะสร้างคุณสมบัตินี้ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ฉันใช้กริชแห่งเรควีเอ็มได้ดีขึ้น'

แล้วเจ้าคิดว่าระบบเอาคุณสมบัติมาจากไหน? มันเคยเป็นของราชาแห่งแก่นแท้ยังไงล่ะ! เห็นได้ชัดว่าระบบดึงมันมาจากร่างจริงของราชาแห่งแก่นแท้!

'มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไง?’

ฮึ่ย!

ราธขบฟัน น้ำแข็งเริ่มปรากฏขึ้นมาบนเปลวไฟสีน้ำเงิน

'นี่มันสะดวกจริงๆ'

เมื่อราอนปิดหน้าต่างสถานะกริชแห่งเรควีเอ็มก็สั่นเล็กน้อย มันเป็นการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลราวกับกำลังบอกว่ามันอยากสนิทกับเขา

'แกอยากให้เราเป็นคู่หูกันเหรอ?'

วืด!

กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นสะเทือนอย่างชัดเจนเพื่อยืนยันคำพูดของเขา

'แกทำตัวมีประโยชน์มากเลย ไม่เหมือนปรสิตหมายเลข 1 งั้นฉันจะยกเลิกการเป็นปรสิตหมายเลข 2 ให้แล้วเรามาสนิทกันเถอะ’

วืด!

กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นเพื่อแสดงความขอบคุณ

จ-เจ้าเพิ่งเรียกราชาแห่งแก่นแท้'ปรสิตหมายเลข 1'รึ? เจ้านั่นแหละที่เป็นปรสิต! เจ้าเป็นมนุษย์ที่ดูดพลังของข้าไปจนหมด!

'อืมๆ'

อ๊ากกกก!

ราอนตอบอย่างเย็นชา ราธก็เริ่มกรีดร้องและระเบิดความโกรธกับความหนาวเย็นออกมา ไฟสีน้ำเงินปะทุขึ้นเหมือนภูเขาไฟระเบิด

วือ!

อารมณ์โกรธแค้นที่มันมีอยู่ปะทุขึ้นอีกครั้งและบีบร่างกายของเขา

“อึก…”

มันเป็นความเจ็บปวดที่รุนแรงราวกับมีเข็มพันเล่มแทงเข้าที่ผิวหนัง ไม่ใช่แค่เขาที่แข็งแกร่งขึ้น ราธเองก็ฟื้นฟูพลังของมันกลับมามากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน ราอนค่อยๆ หายใจและเรียกใช้วงแหวนแห่งไฟกับหมื่นเปลวเพลิง

เมื่อระดับจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว ความเจ็บปวดที่เกิดจากราธก็เริ่มบรรเทาลง

วงแหวนแห่งไฟกับหมื่นเปลวเพลิงเป็นโล่ที่สามารถป้องกันความหนาวเย็นและความโกรธของราธได้

จงมอบร่างกายกับจิตวิญญาณของเจ้ามาให้ราชาแห่งแก่นแท้ซะ!

'ไม่มีทาง’

ขนของเขาตั้งชันเพราะความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่เขาแสร้งเป็นว่าไม่เป็นอะไรและยิ้มให้ราธ

“ฮู่ว...”

ในขณะที่เขาต้องทนกับความเจ็บปวดแสนสาหัส  ข้อความก็ปรากฏขึ้น

[คุณทนต่อการรบกวนของราธได้]

[ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 1]

[พละกำลังเพิ่มขึ้น 1]

มันเป็นรางวัลตอบแทนสำหรับการอดทนต่อความหนาวเย็นของกราธได้

บ้าเอ๊ย! ความสามารถของราชาแห่งแก่นแท้หายไปอีกแล้ว! อีกแล้ว!

ราธกระโดดออกมาจากร่างกายของราอน มันจ้องมองข้อความไร้สาระและกัดฟันกรอด

'แกเอาชนะฉันไม่ได้หรอกนะ’

ราอนเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากแต่แสร้งทำเป็นปัดผมขึ้น

'ประมาทไม่ได้เลยนะเนี่ย'

แม้จะพูดอย่างผ่อนคลายแต่หลังของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

ถึงอย่างไรมันก็เป็นราชาแห่งปีศาจ แม้ว่ามันช่วยเขาไว้มากมายแค่ไหนก็วางใจไม่ได้

'ตอนแรกฉันคิดว่ามันคงเป็นเหมือนแก แต่นั่นไม่ใช่เลย'

เจ้าพูดถึงอะไร?

'กริชแห่งเรควีเอ็มมีดีกว่าแกมาก'

ราอนเยาะเย้ยราธและเช็ดกริชแห่งเรควีเอ็มจนสะอาด

ดีตรงไหนกัน มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่พยายามครอบงำร่างกายของเจ้า

'แต่มันไม่ทำแบบนั้นแล้ว ใครจะเป็นเหมือนแก’

นั่นไง ถ้ามันแข็งแกร่งพอๆ กับราชาแห่งแก่นแท้มันก็คงไม่รามือหรอก

วืด!

กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นเพื่อปฏิเสธ

'มันบอกว่า อย่าคิดว่าฉันเหมือนแกสิ’

ในไม่ช้าข้าจะทำลายกริชผีสิงนั่นไปพร้อมกับเจ้า

ราธมองลงไปที่กริชแห่งเรควีเอ็มอย่างน่ากลัวและเริ่มปล่อยไอเย็นออกมา

'เอาเลยสิ แต้มสถานะของฉันจะได้เพิ่มอีก'

เฮอะ แกไม่มีวันตายดีแน่ต่อให้ไม่ใช่ฝีมือข้า เจ้ามันชอบแกว่งเท้าหาศัตรูอยู่แล้ว

'แต่ตอนนี้มีแค่แกที่เป็นศัตรูของฉัน'

ราอนมีศัตรูอีกคน แต่เขาไม่จะไม่บอกราธเด็ดขาด

"นักดาบราอน”

เกรียร์เดินเข้ามาหาเขาพร้อมห่อผ้าสีดำ

“เรารอดมาได้เพราะนาย ต้องขอบคุณอีกครั้ง”

เขายังคงทำตัวไม่เหมือนเจ้าชายอยู่เหมือนเดิม ราอนยิ้มและก้มหัวให้

"ผมคงต้องขอบคุณมันเหมือนกัน”

“นั่นก็จริง”

ราอนยกกริชให้เขาดูและเกรียร์ก็พยักหน้า

“มันเกินจินตนาการของฉันไปมาก พลังนั้นสุดยอดไปเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นอาวุธแบบนี้”

“ผมก็เหมือนกัน มันมีความแค้นสะสมอยู่มากกว่าที่ผมคิด”

"แล้วนายไม่เป็นไรใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่ามีดดาบที่ถูกสิงจะสามารถโจมตีเจ้าของ..."

“ตอนนี้มันยอมรับผมเป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์แล้ว”

"อืม ฉันว่าแล้วว่านายแข็งแกร่ง สุดยอดมาก”

เขายิ้มและบอกว่าเขาจะฝึกซ้อมหนักยิ่งขึ้นเพื่อไล่ตามราอนให้ทัน เขาเป็นคนที่เท่มากจริงๆ

“ตอนนี้เราคงเป็นเพื่อนกันแล้วสินะ ฉันมีอะไรจะให้ดู”

เกรียร์หยิบลูกปัดสีขาวขนาดเท่าหัวเด็กออกมาจากห่อผ้าสีดำ

"หรือว่า..."

"นี่คือของที่เราเอามาจากลัทธิโลหิตขาว อย่างที่รู้กันว่าลัทธิโลหิตขาวจะดูดเลือดของชาวบ้านครึ่งหนึ่งและลักพาตัวอีกครึ่งหนึ่ง เราเชื่อว่าลูกปัดนี่ช่วยให้พวกเขาสามารถย้ายคนที่ถูกลักพาตัวไปยังสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้”

สายตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

วืด!

กริชแห่งเรควีเอ็มเริ่มสั่นสะเทือนเมื่อได้ยินคำพูดของเกรียร์ เหมือนว่ามันต้องการแก้แค้นและช่วยเหลือผู้คนที่อาจยังมีชีวิตอยู่

'อืม'

ราอนมองไปที่กริชแห่งเรควีเอ็มด้วยความชื่นชม

'สุดยอดจริงๆ’

แม้จะเป็นแค่กริชแต่มันก็ยังต้องการช่วยเหลือผู้คน เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของชาวบ้านไซเรน

"แต่ว่าคุณชาย...”

ดอเรียนเริ่มพูด

“คุณเรียนรู้วิธีใช้กริชมาจากไหนครับ? นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคุณใช้มันแต่คุณทำได้ดีมากจริงๆ”

“อืม จริงด้วย”

“มันเป็นเทคนิคกริชที่มีแบบแผน”

เกรียร์กับอัศวินก็หันมามองเขาเช่นกัน พวกเขาสงสัยว่ามันเป็นเทคนิคแบบไหนและเขาเรียนรู้มันได้อย่างไร

“...ฉันเรียนมาจากอาจารย์ริมเมอร์”

“อ๋า!”

"อย่างนี้นี่เอง"

“ถ้าเป็นเขาก็พอเป็นไปได้อยู่หรอก”

ดอเรียน เจ้าชาย และอัศวินยอมรับมัน

'ใช้ได้เหมือนเดิมเลยแฮะ’

การอ้างชื่อริมเมอร์ใช้ได้ผลเสมอ

ราอนยิ้มและใส่กริชแห่งเรควีเอ็มไว้ในปลอกตรงเอว

* * *

* * *

วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยงวัน

ชายหนุ่มผมสีฟ้านั่งอยู่บนกิ่งไม้บางๆ ดวงตาของเขาเรียบนิ่งเหมือนกับป่าสน

ชายผู้มีบรรยากาศเงียบสงบผู้นี้เป็นหัวหน้าหน่วยหน่วยที่สามของอัศวินเงินแห่งอาณาจักรโอเว่น และเป็นหนึ่งในสิบสองดวงดาวแห่งทวีป: โบรินี คิทเท่น

ดวงตาสีน้ำตาลของเขากำลังจ้องมองราอนและเกรียร์ที่กำลังกล่าวคำอำลาและแยกทางกัน

“อืม”

โบรินีมองตามราอนไปแทนที่จะมองเจ้าชายลำดับที่สามที่เขาต้องปกป้อง

'เขารู้ตัวแล้วแน่นอน'

พลังของเขาลดลงไปพักหนึ่งตอนที่มีการโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวาน และราอนก็ค้นพบตำแหน่งของเขาในช่วงเวลานั้น

'น่าทึ่ง'

ราอนรู้ตัวว่าเขาไม่ใช่ศัตรูเลยมุ่งความสนใจไปที่การจัดการลัทธิโลหิตขาวเพียงอย่างเดียว สมาธิและการตัดสินใจของเขานั้นคล้ายคลึงกับอัศวินผู้มากประสบการณ์

'ในส่วนเทคนิคกริชของเขาก็น่าทึ่งมาก'

เขาเคยได้ยินจากเจ้าชายว่าราอนซีกฮาร์ทเป็นอัจฉริยะด้านดาบ แต่เขาไม่คิดว่าราอนจะสามารถเชี่ยวชาญการใช้กริชได้เช่นกัน

เขาใช้อย่างชำนาญมากราวกับว่าเขาได้ฝึกฝนมาเป็นพันๆ ครั้ง

'และช่วงสุดท้ายก็เป็นผลงานชิ้นเอก'

มันเป็นการโจมตีที่ผสมผสานพลังสยดสยองและออร่าเข้าด้วยกัน พลังและออร่าของเขาอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุด

"แล้วก็..."

สวยงามมาก

เจ้าชายและอัศวินคงไม่เห็น แต่โบรินีเฝ้าดูจากระยะไกลและเห็นทุกอย่าง

สิ่งที่ราอนแสดงตอนนั้นไม่ใช่แค่เทคนิคธรรมดา มันเป็นการร่ายรำดาบ ความโกรธแค้นที่อยู่ภายใต้การเต้นรำที่สวยงามช่างน่าเศร้า ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง

“ราอน ซีกฮาร์ท…”

เขาแทบไม่เชื่อเมื่อเจ้าชายบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง แต่นั่นก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้

หน่วยอัศวินเงินที่เขาสังกัดอยู่นั้นแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักร ไม่สิ แข็งแกร่งที่สุดในทวีป—แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นใครเหมือนราอนมาก่อน

“หึ”

โบรินีคิทเท่นยิ้มเล็กน้อย มองดูแผ่นหลังของราอนที่ห่างออกไปเรื่อยๆ

“อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงมีดาวดวงใหม่ของซีกฮาร์ทถือกำเนิดขึ้น”

* * *

หลังจากใช้ประตูมิติเพื่อไปยังป่าจูเดียนที่อยู่ใกล้กับปราสาทฮาบุนที่สุด ราอนกับดอเรียนก็ยังต้องเดินทางต่ออีกเป็นเวลาสองสัปดาห์

ตอนนี้พวกเขาต้องเดินทางอีกหนึ่งวันก็จะไปถึงปราสาทฮาบุน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นนรกตอนเหนือ

“เฮ้อ…”

ดอเรียนทิ้งตัวลงบนเตียงแบบพกพาที่เขาหยิบออกมาจากกระเป๋าหน้าท้อง เขาไม่หยุดตัวสั่นแม้กองไฟจะร้อนจัดและผ้าห่มก็หนามากก็ตาม

"ร-เราตายแน่ๆ เรากำลังจะไปชัดๆ!”

"ไม่ตายหรอก"

ราอนส่ายหัวขณะเช็ดทำความสะอาดกริชแห่งเรควีเอ็ม

“นายแค่ต้องทำสิ่งที่นายทำได้ ทำอย่างที่เคยฝึกฝนมาแล้วนายจะผ่านการทดสอบนี้”

ริมเมอร์ไม่ใช่อาจารย์ประเภทที่ให้พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ การที่ริมเมอร์ส่งพวกเขาไปที่นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะสามารถผ่านการสอบไปได้แน่นอน แม้ว่าตอนเกิดเรื่องปีศาจกระหายเลือดจะเป็นข้อยกเว้นก็ตาม

"แกก็เห็นด้วยใช่ไหม?”

วืด!

กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นเพราะเห็นด้วย ใช้เวลาเพียงสองสัปดาห์มันก็สนิทสนมกับเขาแล้วก็ดอเรียนแล้ว

“ผมรู้นะแต่ผมก็กลัว! มันน่ากลัวเกินไป!”

ดอเรียนวางตะเกียงไว้บนหัวเตียงแล้วมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม

ราอนคิดว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองจริงๆ ที่มีทั้งตะเกียงไฟและมีเตียงพกพามาด้วย แม้ว่านั่นจะทำให้เขานอนหลับสบายมากก็ตาม

"เสร็จแล้วล่ะ”

ราอนใส่กริชแห่งเรควีเอ็มลงในปลอกหลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว

ฮึ่ม!

ดูเหมือนว่าราธจะไม่พอใจกับอะไรสักอย่าง มันกระแอมไอและออกมาจากสร้อยข้อมือ

เจ้าไม่คิดว่าเจ้าทำดีเกินไปกับสิ่งที่เจ้าพึ่งรู้จักหรอ?

'ดีเกินไป?’

ใช่ เจ้าทำความสะอาดมันทุกวัน และเจ้าก็ยังคุยกับมันเป็นประจำด้วย

'แต่มันก็ช่วยฉันได้ตั้งหลายอย่าง'

แม้ว่าเขาจะไม่อยากใช้งานมันแต่กริชก็เสนอตัวเองให้เขาใช้มันเพื่อล่าสัตว์มาทำอาหาร

ต-แต่เรื่องนั้นเจ้าสามารถทำได้เองอยู่แล้ว

'แต่มันก็อยากทำเพื่อฉัน'

แน่นอนว่าเขาสามารถหาเหยื่อและจัดการเองได้อยู่แล้ว แต่เขารู้สึกขอบคุณที่มันเสนอตัวออกมาช่วย

'แล้วมันก็ยังสอนฉันถึงวิธีใช้พลังสยดสยองอีกด้วย'

กริชแห่งเรควีเอ็มสอนวิธีที่ดีที่สุดในการใช้พลังสยดสยอง รวมถึงวิธีทำความคุ้นเคยกับพลัง

ไม่แปลกที่เขาจะอยากทำความสะอาดและพูดคุยกับมันบ่อยๆ

การใช้พลังไร้สาระอย่างพลังสยดสยองมีแต่จะทำให้เจ้าดูน่าสมเพช

'แล้วไง ฉันจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น'

ราอนยิ้มเล็กน้อยและผลักราธที่กำลังทำหน้าบูดบึ้งออกไป

ราธเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ราอนสนทนากับกริชแห่งเรควีเอ็มบ่อยๆ และสนิทสนมกับมันมากขึ้น

วือๆ!

กริชแห่งเรควีเอ็มสะท้อนเสียงราวกับกำลังหัวเราะเยาะราธ

ช่างกล้านะ!

'หยุดเดี๋ยวนี้เลย'

ขณะที่ราธกำลังจะบดขยี้กริชแห่งเรควีเอ็มด้วยความหนาวเย็น ราอนก็ปิดกั้นพลังของราธโดยใช้หมื่นเปลวเพลิง

ทำไมกัน!

'เพราะแกกำลังหาเรื่องมัน'

ราชาแห่งแก่นแท้คือราชาแห่งปีศาจเชียวนะ! ข้าไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้ในเมื่อมันกำลังพยายามต่อต้าน…

'ฉันจะนอนแล้ว เงียบซะ'

ฮึ…

ราอนบังคับให้ราธกลับเข้าไปในสร้อยข้อมือแล้วเอนตัวลงบนเตียงพกพา เมื่อรู้สึกถึงความนุ่มของมันเขาก็หลับตาลง

เมื่อเขาหายใจช้าลงและใกล้จะหลับ ราธก็โผล่ออกมาอีกครั้ง สายตาของมันดูเศร้าเล็กน้อยไม่เหมือนปกติ

เจ้าหลับหรือยัง?

'ยัง'

ถ้างั้น...

ราธกลืนน้ำลายแล้วพูดต่อ

จ-เจ้าอยากเรียนรู้วิธีใช้พลังน้ำแข็งจากราชาแห่งแก่นแท้หรือไม่?

ราอนหันหลังให้มันแล้วยิ้มเล็กน้อย

หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ ในที่สุดราชาแห่งแดนปีศาจก็ตกเป็นเหยื่อ

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด