บทที่ 168 วันที่เซลล์ได้หวนคืนกลับมา
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 168
บทที่ 168 วันที่เซลล์ได้หวนคืนกลับมา
การฝึกอาจค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ไม่มีใครรู้สึกว่าเบื่อเลยเมื่อพวกเขาตัดสินใจแล้ว
ในชั่วพริบตา สามเดือนก็ผ่านพ้นไป
ในด้านของทรังคซ์ เบจิต้าและทรังคซ์จากอนาคต พวกเขาต่างเข้าใจถึงกุญแจสำคัญในการก้าวข้ามขีดจำกัดของซูเปอร์ไซย่าและเริ่มการฝึกฝนของตนเองแล้ว
ส่วนทางด้านของพิคโกโร่ พวกเขาได้ชำนาญในวิชาหมัดเจ้าพิภพและเริ่มฝึกเพื่อให้มีจำนวนการทะลวงขีดจำกัดสูงกว่าเป้าหมายของพวกเขา
ทางด้านโกฮังและลาซูลิ ทั้งคู่ต่างก็มีความก้าวหน้าที่ดีมากเช่นเดียวกัน
นอกเหนือจากนักรบ Z เหล่านี้ที่มุ่งมั่นเพื่ออนาคตของโลกแล้ว ในโลกมนุษย์ มนุษย์ธรรมดาต่างก็กำลังดิ้นรนเพื่อสร้างโลกมนุษย์ขึ้นมาใหม่เช่นกัน
เมื่อโบแจ็คยึดครองโลก มีชาวโลกจำนวนมากที่สมัครใจเข้าร่วมกับเขา
โจรสลัดจากกาแล็กซีทางช้างเผือกนี้เดิมทีเป็นพวกที่มุ่งใฝ่ในอำนาจชั่วอยู่แล้ว เหล่าทาสมนุษย์แต่ละคนที่เขานำมาอยู่ด้วยจึงเป็นมนุษย์ที่ชอบความรุนแรงและความโกลาหล
ดังนั้นโบแจ็คจึงมีผู้ร้ายและนักเลงจำนวนมากอยู่ภายใต้คำสั่งของเขา
สิ่งแรกที่หลินเฉินเห็นเมื่อเขามาถึงโลกนี้เป็นครั้งแรกเป็นการห้ำหั่นกันระหว่างมนุษย์ การต่อสู้ระหว่างพวกชั่วกับกองทัพกลุ่มต่อต้าน
หลังจากที่โบแจ็กและแก๊งของเขาเสียชีวิตไป คนชั่วพวกนั้นก็ยังคงรักษานิสัยเดิมในอดีตของพวกเขา โจมตีถิ่นฐานของมนุษย์ที่เหลืออยู่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าทำไมหัวหน้าของพวกเขาถึงหายตัวไปอย่างกะทันหันก็ตาม
เมื่อหลินเฉินเป็นผู้ชี้นำการฝึกของนักรบ Z กองทัพกลุ่มต่อต้านก็ขึ้นมาบนพื้นดิน นำโดยซาตาน บีเดลและผู้เฒ่าเต่า จากนั้นจึงเกิดการต่อสู้และปราบปรามพวกพวกชั่ว สร้างระเบียบของสังคมมนุษย์ขึ้นมาใหม่
เพื่อความสะดวกในการพูดคุย พวกเขาจึงอ้างกับโลกภายนอกว่าโบแจ็คได้ตายด้วยน้ำมือของซาตาน ทำให้สามารถรวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันภายใต้ธงของวีรบุรุษซาตาน
เคล็ดลับนี้มีประสิทธิภาพมาก ไม่ว่ากองทัพกลุ่มต่อต้านจะไปที่ใด ก็จะมีผู้รอดชีวิตที่สิ้นหวังเข้าร่วมอยู่ตลอดเวลา
ในสองเดือนผ่านไป สถานที่หลายแห่งตกอยู่ในเงื้อมมือกองทัพกลุ่มต่อต้านและความเร็วในการฟื้นฟูคำโลกมนุษย์จึงยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างบนโลกเป็นไปด้วยดี หลินเฉินก็เตรียมที่จะจากไปชั่วคราวและนำลูกแก้วมังกรซูเปอร์ลูกที่เจ็ดมา
"หลินเฉิน เจ้าจะไปแล้วเหรอ?"
วันนั้นเอง ในขณะที่หลินเฉินกำลังรวบรวมเสบียงในโลกมนุษย์และเตรียมที่จะขึ้นไปในอวกาศ ทันใดนั้นลาซูลิที่ควรจะฝึกในวังพระเจ้าก็เข้ามาหาเขา
“ข้าจะไปท่องอวกาศ ข้ามาที่จักรวาลนี้เพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างและมันไม่ได้อยู่บนโลก”
หลินเฉินไม่ได้อธิบายอะไรมาก
จากนั้นเขาจึงหันไปถามลาซูลิ “มีอะไรหรือเปล่า? เจ้ากลัวว่าข้าจะไม่กลับมาหรือ?”
“ไม่ ข้าก็แค่อยากรู้เรื่องจักรวาลอื่น”
ลาซูลิปัดผมของนางไปมาและกล่าวว่า “เจ้าอาจจะไม่รู้ แต่ข้าเคยคุยกับลาพิส…..โอ้ เขาเป็นมนุษย์จักรกลหมายเลข 17 เราเคยคุยกันว่าเราจะทำอย่างไรดีหลังจากฆ่าโกคูและทำตามคำสั่งที่ตั้งโปรแกรมไว้”
“ลาพิสบอกว่าเขาต้องการไปดูพวกสัตว์ ในขณะที่ฉันต้องการเดินทางไปทั่วจักรวาลและดูดาวเคราะห์มากมายที่แตกต่างกัน”
“ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์ที่แตกต่างกัน จักรวาลที่แตกต่างย่อมดูน่าสนใจมากกว่า”
“ลาซูลิ เจ้าต้องการที่จะ…” หลินเฉินรู้ทันทีว่าคำพูดของลาซูลินั่นมีจุดมุ่งหมายเช่นไร
“หลินเฉิน เมื่อเจ้าจากโลกนี้ไป เจ้าพาข้าไปด้วยได้ไหม?”
"อืม...."
หลินเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงส่ายศีรษะไปมาพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าเกรงว่าคงจะไม่ได้ ข้าใช้พลังพิเศษเพื่อเดินทางระหว่างจักรวาล และมันก็พาข้าไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น”
"โอ้..."
ลาซูลิพยักหน้า แต่ไม่มีอาการเสียใจเลย
“ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องคิดหาทางอื่นสินะ”
"ขอโทษด้วย" หลินเฉินขอโทษและกล่าวคำอำลากับลาซูลิ
ลาซูลิมองดูหลินเฉินหายตัวไปอย่างเงียบๆ เธอยืดเสื้อผ้าที่หย่อนคล้อยของเธอให้กระชับแล้วหันไปมองทางเมืองตะวันตก
ในเมืองตะวันตก กองทัพกลุ่มต่อต้านได้สร้างฐานที่มั่นและวางแผนที่จะสร้างเมืองใหม่ที่เป็นสัญลักษณ์ของระเบียบใหม่สำหรับมวลมนุษยชาติ บูลม่าและคนอื่นๆ รวมตัวกันอยู่ที่นั่นแล้ว
……
หลังจากออกจากโลกมา หลินเฉินก็กระโดดข้ามผ่านอวกาศอย่างต่อเนื่องและใช้เรดาร์ลูกแก้วมังกรเป็นครั้งคราว
หลังจากหนึ่งเดือนของการค้นหา ในที่สุดหลินเฉินก็พบลูกแก้วมังกรซูเปอร์ลูกเจ็ดที่หายไปในความมืดอันไร้ก้นบึ้ง!
เขาเก็บลูกแก้วมังกรซูเปอร์ไว้อย่างระมัดระวัง จากนั้นหลินเฉินจึงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วไปยังโลกศักดิ์สิทธิ์ของไคโอชิน
ทว่าเมื่อมาถึง มันก็เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า
เมื่อมองไปรอบๆ อันว่างเปล่า หลินเฉินก็ไม่ได้แปลกใจเลย
การไปยังโลกศักดิ์สิทธิ์ของไคโอชินเป็นเพียงแผนการหนึ่งที่หลินเฉินได้วางเอาไว้
นี่เป็นจักรวาลคู่ขนานที่สองที่หลินเฉินได้ข้ามมา
มองผิวเผิน ทั้งสองจักรวาลนี้ควรเป็นเอกภพคู่ขนาน นอกจากความแตกต่างในเรื่องประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนไปแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะเหมือนเดิม
แต่หลินเฉินกลับเพิ่งมารู้ว่าจักรวาลทั้งสองที่เขาไปมานั้นแตกต่างจากโลกของเขาอย่างมาก
สิ่งนั้นคือองค์ประกอบ
ตัวอย่างเช่น ไม่มีโลกศักดิ์สิทธิ์ของไคโอชินในจักรวาล 228 ที่หลินเฉินอยู่ในปัจจุบัน
ซึ่งหากไม่มีโลกศักดิ์สิทธิ์ของไคโอชิน ก็อาจไม่มีโลกที่เทพแห่งการทำลายล้างมีตัวตนอยู่
เมื่อคิดต่อไป หลินเฉินก็อดสงสัยไม่ได้ว่าโลกนี้อาจมีเพียงจักรวาลเดียว ซึ่งแตกต่างจากโลกดราก้อนบอลในงานดั้งเดิมที่มีอยู่สิบสองจักรวาล
ดังนั้นองค์ประกอบของจักรวาลนี้จึงน้อยกว่าจักรวาลของหลินเฉินมาก
แล้วเหตุใดจักรวาลทั้งสองจึงมีความแตกต่างกันอย่างมากขนาดนี้? มันมีการแยกแยะจำแนกประเภทระหว่างจักรวาลด้วยเหรอ?
หลินเฉินรู้สึกว่ามันอาจมีความลับแฝงอยู่ภายใน
“ช่างมันเถอะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าควรกังวลในยามนี้ ข้าควรกลับไปดูว่าทรังคซ์และคนอื่นๆ เป็นเช่นไรบ้าง เมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้น ก็คงถึงเวลาที่ข้าจะกลับไป”
เมื่อออกจากพื้นที่ว่างเปล่านี้ หลินเฉินก็กลับมายังโลก ซึ่งการฝึกของทุกคนยังคงดำเนินต่อไป
ไม่กี่เดือนก็ได้ผ่านพ้นไป
ในวันนี้ ทุกคนต่างมารวมตัวกันที่หน้าห้องกาลเวลา
วันนี้เป็นวันที่เชนรอนได้กล่าวว่าเซลล์กำลังกลับมาสู่โลก
ในขณะเดียวกัน ก็เป็นวันที่เบจิต้าและทรังคซ์จากอนาคตที่กำลังออกมาจากห้องกาลเวลา
ทั้งกลุ่มวางแผนที่จะรอให้พวกเขาออกมา จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซ็นทรัล ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่เชนรอนคาดการณ์ว่าเซลล์จะปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อกลับมายังโลก
“เฮ้ ทำไมเบจิต้าและทรังคซ์ยังไม่ออกมาล่ะ? พวกเขาคงไม่ได้ลืมใช่ไหมว่าวันนี้เป็นวันที่เซลล์จะกลับมา?” พิคโกโร่คำนวณเวลาและกล่าวออกมาอย่างกังวล
“พวกเขาไม่ได้ลืมหรอกท่านลุงพิคโกโร่ พ่อและข้าอีกคนต่างเตรียมการที่จะแก้แค้นอย่างสุดกำลัง พวกเขาจะไม่พลาดวันนี้แน่” ทรังคซ์กล่าวออกมา ซึ่งเมื่อในขณะที่เขาพูดจบ ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงออร่าที่น่าอัศจรรย์สองจุด
“นั่นเบจิต้าและทรังคซ์จากอนาคตใช่ไหม? พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก” พิคโกโร่กล่าวด้วยความประหลาดใจเมื่อรับรู้ถึงออร่าทั้งสองนี้