ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 299 - เปิดกระเป๋า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 301 - ศึกของจ้าวแห่งสัตว์ร้าย!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 300 - เดวิดปีกดำ


เดวิดซุกเก็บกุญแจดอกนั้นเอาไว้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันใช้สำหรับเปิดอะไร แต่เขาก็ไม่ทิ้งมันไปง่าย ๆ แน่ และหลังจากนั้น ก็ถึงคราวของอุปกรณ์หลากหลายชนิดที่วางกองอยู่บนเตียง เดวิดหยิบพวกมันขึ้นมาตรวจดูอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะโยนมันใส่ลงไปในกระเป๋าของตัวเองทีละชิ้น ๆ ด้วยรอยยิ้มอันเบิกบาน

ในที่สุด บนเตียงก็เหลือเพียงกล่องโลหะสีน้ำตาลที่บรรจุแก่นพันธุกรรมของพยัคฆ์ปีกโลหิตเอาไว้เท่านั้น

เดวิดสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนจะเปิดฝากล่องและหยิบแก่นพันธุกรรมนั้นโยนเข้าปากอย่างไม่ลังเล ตั้งแต่ได้ร่างเงินมาครอบครอง เขาเคยดูดซับแก่นพันธุกรรมมาจำนวนหนึ่งแล้ว มันเป็นแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าลูกแก้วจีโนมมาก แต่ยังไม่เกินความสามารถของร่างเงินที่จะทนทานและจัดการดูดซับมัน

ที่สำคัญไปกว่านั้น ทุกแก่นพันธุกรรมที่เดวิดดูดซับเข้าไป เขาสามารถรับรู้ได้ถึงทักษะพิเศษที่ติดมากับแก่นพันธุกรรมด้วย 100 เปอร์เซ็นต์! เดวิดเลือกได้ว่าจะยอมรับหรือฝึกฝนทักษะพิเศษนั้นหรือไม่ มันเหมือนกับว่าเขามีห้องเก็บทักษะพิเศษฝังอยู่ในตัว ถ้าต้องการใช้ก็แค่ควบคุมร่างกายให้สั่นไหวตามตัวอย่างที่รู้สึกได้เท่านั้น ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือ เดวิดไม่รู้ว่าทักษะพิเศษแต่ละชนิดคืออะไร อ้อ! เขาไม่แน่ใจด้วยว่าร่างกายมีขีดจำกัดในการรับทักษะพิเศษหรือไม่ ดังนั้น! พวกมันจึงต้องนอนอยู่เงียบ ๆ ในร่างกายต่อไป

แต่คราวนี้นั้นต่างกัน เดวิดรู้ว่าคราวนี้ทักษะพิเศษคืออะไร และเขาก็ต้องการมันด้วย

หลังจากกลืนแก่นพันธุกรรมของพยัคฆ์ปีกดำเข้าไปแล้ว เดวิดก็ยืนรอด้วยใจที่จดจ่อ ค่อย ๆ หมุนเวียนพลังที่เอ่อล้นออกมาไปทั่วร่างกาย 1 นาทีผ่านไป คิ้วของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันนิด ๆ 3 นาที! ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น 5 นาที! นอกจากพลังอันมหาศาลที่ถูกดูดซึมไหลเวียนอยู่ในร่างกาย เดวิดก็ไม่สามารถรับรู้อะไรอย่างอื่นได้อีก การสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อจากทักษะพิเศษไม่เกิดขึ้น! คิ้วของเขาขมวดติดกันแน่นแล้ว มันไม่เคยนานขนาดนี้มาก่อน!

เดวิดควบคุมสติที่กำลังจะกระเจิงจากความผิดหวังเอาไว้อย่างเต็มที่ เขาหลับตาลงและตั้งสมาธิสำรวจร่างกายทีละส่วน กล้ามเนื้ออยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติ หลอดเลือดที่แข็งแกร่งทนทานยังทำงานอย่างเรียบร้อย เนื้อเยื่อ เส้นเอ็น อวัยวะภายในทุกส่วนสงบนิ่ง นอกจากอาการมีชีวิตชีวามากขึ้นจากพลังงานที่ไหลเวียนมาหล่อเลี้ยง ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่านั้นเลย

กระดูก? เดวิดฉุกคิดขึ้นมาในใจ ก่อนจะเพิ่งสมาธิไปตรวจสอบกระดูกในร่างกายของตน และก็แจ็คพอตแตก! เมื่อสมาธิเขามุ่งอยู่ที่กระดูกสันหลังของตัวเอง ก็รับรู้ได้ว่ากระดูกสันหลังส่วนบนตรงช่วงอกมีการสั่นไหวอยู่เล็กน้อย การสั่นสะเทือนจากหัวใจที่เต้นอยู่แทบจะกลบการสั่นไหวนี้ไปจนหมดสิ้น

ปากของเดวิดเริ่มมีรอยยิ้มออกมาบางแล้ว ตอนที่เริ่มควบคุมให้การสั่นไหวนี้รุนแรงมากขึ้น ดวงตาของเขานั้นยังปิดอยู่ สมาธิทั้งหมดถูกทุ่มไปกับการสั่งให้เซลล์กระดูกสั่นไหวด้วยความถี่เดียวกัน จากกระดูกสันหลังข้อเดียว มันเริ่มขยายการสั่นไหวไปทั่วกระดูกสันหลังทั้ง 12 ชิ้นตรงช่วงอก และในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง กระดูกสันหลังทั้ง 33 ชิ้นของเขาก็สั่นไหวด้วยความถี่เดียวกัน

ความเจ็บปวดเริ่มเกิดขึ้นแล้ว มันเริ่มแผ่ซ่านขึ้นมาจากกระดูกก้นกบ อาการชาและเจ็บแปลบเหมือนเข็มแทงเข้าใส่เริ่มขยายบริเวณขึ้นมาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงกระดูกสันหลังข้อแรกที่อยู่ต่อจากกะโหลกศีรษะ กล้ามเนื้อแผ่นหลังเริ่มสั่นตัวตามกระดูกไปด้วย และเมื่อผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง กล้ามเนื้อทั้งตัวของเดวิดก็สั่นไหวไปด้วยความถี่เดียวกัน ความเจ็บปวดเริ่มมารวมตัวกันหนาแน่นที่กระดูกสันหลังช่วงอกทั้ง 12 ชิ้น เสียงกระดูกลั่นเริ่มดังออกมาอย่างแผ่วเบา

ในชั่วโมงที่ 3 และ 4 เดวิดได้แต่กัดฟันทนรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น เขารับรู้ได้ว่ากระดูกสันหลังของตัวเองเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว มันเริ่มงอกหนามแหลม ๆ ออกมาทิ่มแทงสร้างความเจ็บปวดอย่างแทบจะทนไม่ไหว การหมุนเวียนเลือดในร่างกายเริ่มผิดเพี้ยน โชคดีที่มันยังไม่ถึงขนาดไหลย้อนกลับ ในตอนนี้ เดวิดไม่ต้องควบคุมการสั่นไหวอีกต่อไปแล้ว เขาแค่ต้องควบคุมตัวเองไม่ให้เผลอหยุดมันเนื่องจากความเจ็บปวดแทน

กรอด!!!

เสียงกัดฟันดังออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน หนามที่งอจากกระดูกสันหลังเริ่มยาวออกมาเรื่อย ๆ และด้วยความเร็วที่มากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

ตุบบ!!

ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้เดวิดต้องทิ้งตัวลงคุกเข่าอยู่กับพื้นห้อง หนามที่งอกยาวแทงทะลุผิวหนังออกมา เนื้อเยื่อเริ่มสร้างตัวเกาะตามหนามแหลมเหล่านั้น เลือดในร่างกายสูบฉีดส่งพลังงานมาที่บริเวณแผ่นหลังของเขาอย่างต่อเนื่อง และมันถูกแปลงไปเป็นกระดูกและเนื้อเยื่อเกือบทั้งหมด

กรอด!!!

เสียงกัดฟันยังดังออกมาอย่างต่อเนื่องอีกเกือบ 2 ชั่วโมง เดวิดพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ส่งเสียงร้องโหยหวนให้ดังออกไป หนามแหลมที่พุ่งยาวออกมากลายร่างเป็นโครงของปีกอย่างสมบูรณ์ เนื้อเยื่อถูกสร้างปกคลุมและต่อกันเป็นแผ่นปีก ในที่สุด หลังจากทนมานานเกือบ 6 ชั่วโมงเต็ม ความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ สลายไป

เดวิดถอนหายใจยาวออกมา ก่อนที่จะล้มฟุบลงไปนอนคว่ำอยู่กับพื้น ความทนทานของเขานั้นหมดลงแล้ว พลังงานของแก่นพันธุกรรมนั้นไม่เพียงพอสำหรับการสร้างปีกนี้ออกมาเลย มันดึงพลังงานที่เดวิดสะสมเอาไว้ในร่างกายออกไปจนเกือบหมด เขาหมดแรงจนหลับไปอย่างไม่รู้เรื่องราวอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้ปีกพัฒนาตัวของมันเองต่อไป

...

หลังจากที่ได้หลับอย่างเต็มอิ่ม ดวงตาของเดวิดก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง เขาบิดตัวอย่างเมื่อยขบด้วยความสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงได้นอนอยู่ที่พื้น ก่อนจะตกใจเพราะเสียงแจกันที่ตั้งประดับไว้ที่หัวเตียงตกแตก และเมื่อหันกลับไปมอง เสียงโต๊ะล้มก็ดังขึ้นมาให้ได้ยินอีกครั้ง

ด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น เดวิดไม่กล้าขยับตัวอีกต่อไป ความทรงจำเริ่มกลับเข้ามาในหัว ใช่! เขามีปีกแล้ว และมันกางอยู่แบบไม่หุบเสียด้วย ดูเหมือนว่าระบบประสาทสั่งการจะติดอยู่กับระบบที่สั่งให้มือและแขนเคลื่อนไหว เพราะตอนที่เดวิดลองขยับแขนดู เสียงลมที่เกิดจากการกระพือปีกก็ดังออกมาให้ได้ยิน

เขาใช้เวลาสักพักก่อนจะแยกประสาทในการควบคุมออกได้ และหุบมันเข้ามาหาตัวเพื่อมองสำรวจให้ชัดเจนด้วยความหลงไหล ปีกคู่นี้มีสีดำสนิท ยกเว้นตรงปลายทั้ง 2 ข้าง ที่ข้างหนึ่งมีสีแดง และอีกข้างเป็นสีทอง ตัวปีกไม่ได้ปกคลุมไปด้วยขนเหมือนนก แต่มันเป็นเกล็ดสีดำแวววาวที่นุ่มนิ่ม ดูเหมือนว่ามันจะยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ด้วยสายตาที่เป็นประกาย เขากาง ๆ หุบ ๆ ปีกเข้าออกอย่างตื่นเต้น อาการเหมือนกับเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ที่ถูกใจอย่างไรก็อย่างนั้น

แล้วอารมณ์สนุกสนานของเขาก็ถูกขัดจังหวะลง

“เลิกเล่นได้แล้ว! อีก 40 นาทีเรือเหาะจะออกแล้ว หุบปีกของนายเสีย!” เป็นเสียงของเฮเซลที่ดังก้องอยู่ในหัว

เดวิดสบถออกมาอย่างหยาบคาย ก่อนที่จะขยับตัวไปหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายหลัง ไม่ได้! มันติดปีก! นั่นทำให้เขาขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเริ่มตั้งสมาธิเพื่อทดลองอะไรบางอย่าง

ลมหายใจของเขาเริ่มหนักแน่นขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ ที่ปีกเริ่มค่อย ๆ ลดขนาดลง มันหดตัวเข้าไปในแผ่นหลังได้อย่างเหลือเชื่อ แลกกับความเจ็บปวดที่ทำให้เดวิดต้องส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ รอยแผลที่หลังผสานตัวเข้าหากันด้วยความสามารถในการฟื้นฟูของร่างกาย แผ่นหลังนั้นนูนออกมาเล็กน้อยเหมือนกับกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้นผิดปกติ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย

สิ่งที่เดวิดเป็นกังวล? นี่เขาจะต้องทนเจ็บทุกครั้งที่กางปีกและเก็บปีกเลยใช่มั้ย? ให้ตายสิ!

สำหรับผู้ฝึกฝนทั่วไปที่ไม่มีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกาย รอยแผลทั้ง 2 แห่งจะเปิดอยู่อย่างถาวร และเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง อาจจะ 2-3 ปี รอยแผลนี้จะสมานตัวสร้างผิวหนังขึ้นมาปกคลุมตามรอยแยก และกลายเป็นช่องเปิดสำหรับกางและหุบปีกไปในที่สุด การที่เดวิดสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ มันกลายเป็นคำสาบที่เจ็บปวดในกรณีไปแล้ว

เดวิดเปลี่ยนเสื้อและเก็บของอย่างรวดเร็ว เขาใช้เวลาไม่นานนักในการจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายที่ทำให้ห้องพักเสียหาย และรีบมุ่งตรงกลับไปยังจุดที่เรือเหาะจอดเติมพลังงานด้วยความเร็วสูงสุดทันที

เดวิดกลับมาทันเวลา ยังเหลืออีกเกือบ 10 นาทีก่อนที่เรือเหาะจะออกเดินทาง เขาระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะเดินไปต่อแถวเพื่อแสกนป้ายประจำตัวเข้าห้องโดยสาร และตอนนั้นเอง แรงกดดันอันมหาศาลก็แผ่พุ่งลงมาครอบคลุมตัวยานเอาไว้ นักเรียนที่อยู่ด้านหน้าหลายคนทรุดตัวล้มลงไปกองอยู่กับพื้น เสียงตะโกนที่สั่นสะเทือนทั้งท้องฟ้าและเรือเหาะดังก้องออกมา

“เดวิด ซินเทค! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!!!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด