ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 102
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 104

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 103


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 103

ราอนแตะฝักดาบและหันหน้าไปทางริมเมอร์ที่อยู่กลางลานฝึก

“จะสู้เหรอครับ? แต่อาจารย์ไม่เคยสนใจที่จะดูผมสู้ด้วยซ้ำ”

“ฉันก็ต้องออกแรงบ้างสิจะได้ไม่มีสนิมเกาะ แล้วก็นะ...”

ริมเมอร์ยิ้มและชักดาบของเขาออก

“ฉันรู้สึกเศร้าใจมากเลยที่เห็นลูกศิษย์ของฉันต้องนั่งหดหู่เพราะคู่ซ้อมหนีไปหมด...”

"งั้นก็ได้ครับ"

ราอนพยักหน้าและชักดาบออกมา

'เขาเป็นเอลฟ์ที่ดีมากจริงๆ'

ริมเมอร์ไม่ชอบเรื่องน่ารำคาญแต่เขาคงเป็นห่วงนักเรียนมากกว่า ดูเหมือนว่าเขาเตรียมจะช่วยราอนอยู่แล้ว

'นี่เป็นโอกาสที่จะเพิ่มความเชี่ยวชาญของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตอย่างมากในคราวเดียว'

ริมเมอร์อยู่ในระดับที่สูงกว่าเขามาก การต่อสู้กับริมเมอร์จะไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสามารถของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตได้มากแต่ยังเพิ่มความสามารถโดยรวมของเขาอีกด้วย

“น่าเสียดายที่เรามีผู้ชมเพียงคนเดียว แต่มาเริ่มกันเลยดีไหม?”

"ครับ”

ทั้งสองมองไปที่รูนันซึ่งยืนอยู่ตรงกลาง

"เริ่มได้"

รูนันพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นแล้วลดลง

"ย้าก!”

ราอนกัดฟันและเตะพื้น เขาใช้หลักการของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตเพื่อแกว่งดาบของเขา

มันตัดผ่านบรรยากาศเหมือนเลื่อยตัดต้นไม้

“ว้าว เธอเก่งขึ้นมากนะ”

ริมเมอร์ชื่นชมเขาขณะที่ฟันดาบ พลังงานสีเขียวกระจายออกเป็นทรงกลม

แคร้ง!

การโจมตีที่รุนแรงของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตและพลังงานอันอ่อนโยนของริมเมอร์ปะทะกัน

'นี่มัน...'

รารอนหรี่ตาลง ริมเมอร์สยบพลังโจมตีของเขาโดยไม่ปัดออกหรือป้องกันมัน

มันน่าทึ่งจริงๆ ที่เขาหยุดการโจมตีอันดุร้ายของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตได้

"อยากรู้เหรอ?”

ริมเมอร์ควงดาบของเขาที่เรืองแสงเป็นสีเขียวเข้ม

“วิชาดาบอันนี้ควบคุมการโจมตีของคู่ต่อสู้โดยกระจายดาบออร่าบางๆ ออกมา มีหลายวิธีในการเผชิญหน้ากับดาบด้วยดาบ เธอสามารถหาวิธีการใช้ดาบของคู่ต่อสู้มาเป็นพลังของตัวเองได้”

"อย่างนี้นี่เอง"

ราอนพยักหน้าและลับดาบของเขาที่มีหลักการของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตให้คมยิ่งขึ้นและแทงเข้าไป

ในเวลาเดียวกัน เขาก็เตรียมพร้อมสำหรับเทคนิคต่อไป มันเป็นรูปแบบที่ห้าของเขี้ยวแห่งความวิกลจริต, ทิ่มแทงลื่นไหล

การโจมตีอันทรงพลังหลายชุดมุ่งเป้าไปที่ริมเมอร์

เคร้ง! เคร้ง!

ริมเมอร์ลดท่าทางลงและถือดาบในแนวทแยงเพื่อมุ่งเน้นไปที่การป้องกัน

'เข้าทางฉันล่ะ’

ดวงตาของราอนเป็นประกาย เขี้ยวแห่งความวิกลจริตเก่งมากในการรับมือกับคู่ต่อสู้สายป้องกัน เขาจึงมีโอกาสที่จะชนะ

แคร้ง!

เขาใช้ทุกเทคนิคของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตเพื่อเจาะทะลุการป้องกันของริมเมอร์

การโจมตีอันทรงพลังระเบิดราวกับหมาป่าตัวใหญ่แทะเหยื่อ แต่การป้องกันของริมเมอร์นั้นเหมือนกับกำแพงเหล็กที่ไม่มีวันแตกหัก

“เฮอะ!”

ราอนกัดริมฝีปาก เขาไม่สามารถหาช่องว่างใดๆ ได้แม้จะใช้ทุกเทคนิคแล้วก็ตาม

"ยอมแพ้แล้วเหรอ?”

เขามองเห็นรอยยิ้มของริมเมอร์ระหว่างช่องของดาบที่ปะทะกัน

“ดาบสัญชาตญาณที่เธอได้มานั้นทรงพลังมาก มันสามารถทะลุผ่านวิชาดาบอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายแม้ว่าเธอจะมีทักษะต่ำก็ตาม แต่มันก็มีข้อเสียอยู่!”

"อึ่ก!”

ริมเมอร์บิดข้อมือของเขา แรงมหาศาลทำให้ราอนกระเด็นออกไป

“อืม…”

ราอนค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

“ดาบสัญชาตญาณเป็นเทคนิคที่อาศัยเพียงสัญชาตญาณเหมือนกับชื่อของมัน แต่นั่นไม่ได้แปลว่าให้หยุดคิด เธอยังต้องคิดต่อไปในขณะใช้เทคนิคนั้น  ลองคิดดูสิว่าทำไมมันถึงมีชื่อแบบนั้น”

"ชื่อเหรอครับ? หมายความว่าไงครับ?"

"ฉันบอกใบ้ให้เยอะแล้ว บอกมากกว่านี้ก็ไม่ดีสิ”

ริมเมอร์ยักไหล่

“เฮ้อ…”

ราอนถอนหายใจอย่างเซ็งๆ และพยักหน้า

'เขาพูดถูก’

หากเขาเอาแต่พึ่งพาอาจารย์ต่อไปเขาคงทำเองไม่เป็น เขาได้รับคำใบ้มาแล้วต่อไปเขาต้องคิดและค้นหามันด้วยตัวเอง

'ชื่อของมัน, ชื่อของมัน...'

แม้ว่าเขาจะรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นหลังจากใช้เขี้ยวแห่งความวิกลจริต แต่เขาก็รู้สึกว่าความคิดของเขาค่อยๆ หายไป

เหลือเพียงความต้องการที่จะแทงดาบผ่านช่องโหว่ของคู่ต่อสู้

'เมื่อกี้ก็ด้วย'

ดาบของเขาแทงไปที่ช่องโหว่ที่ริมเมอร์จบจงใจสร้างขึ้น ก่อนที่เขาจะถูกหยุดไว้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่

"ผมคิดว่าผมต้องลองอีกหน่อย”

“โอเค เข้ามาได้เลย”

ริมเมอร์ยิ้มและกระดิกมือเรียกเขา

"ย้าก!”

เขาสูดลมหายใจลึกๆ และเตะพื้นดิน เขาแทงดาบไปที่ริมเมอร์ซึ่งยังตั้งท่าสำหรับการป้องกันไว้

แคร้ง!

เสียงเหล็กกระทบกันดังก้องไปทั่วสนามฝึกซ้อม

ซู่ว!

ราอนกระโดดกลับมาเล็กน้อยเพื่อฟันอีกครั้ง ดาบของริมเมอร์หันไปทางขวา มันเป็นการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามเจาะทะลุเหมือนก่อนหน้า

ราอนใช้วงแหวนไฟ วิชาดาบยังคงดุร้ายแต่จิตใจของเขาสงบลง

ทันใดนั้นราอนก็สังเกตเห็นเอวด้านซ้ายของริมเมอร์ มันไม่ใช่ช่องโหว่

'แต่ว่า...'

เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาจะสร้างช่องจากตรงนั้นได้

ฟึ่บ!

ราอนฟันดาบของเขาในแนวทแยง ริมเมอร์ยืดไหล่ของเขาอย่างนุ่มนวลเพื่อรับมือกับการโจมตีที่รุนแรง

แคร้ง!

ทันทีที่ข้อมือของริมเมอร์ถูกปัดออกเนื่องจากดาบที่ปะทะกัน ช่องโหว่ก็ปรากฏขึ้นที่เอวซ้ายของริมเมอร์

ราอนหันข้อเท้าทันทีเพื่อเปลี่ยนวิถีดาบ เขาเหวี่ยงดาบโดยใช้การหมุนจากน่องขากับต้นขาแล้วเหวี่ยงดาบ

"เฮือก!”

ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของริมเมอร์เป็นครั้งแรก เขาก้าวถอยหลังและยกดาบของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

แคร้ง!

เขาต้านทานการโจมตีอันทรงพลังของราอนไม่ได้และถอยหลังไปสามก้าว

“อ-อะไรกัน? เมื่อกี้เธอเปลี่ยนวิถีดาบ...”

"ผมเห็นมันแล้ว”

"เห็นเหรอ?”

"ครับ"

เขาสามารถมองเห็นช่องโหว่ของคู่ต่อสู้ได้แล้วหลังจากที่จิตใจของเขาเป็นอิสระจากเขี้ยวแห่งความวิกลจริต

ไม่สิ ไม่ใช่มองเห็นช่องโหว่ แต่เขาเห็นวิธีเปิดช่องโหว่ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเขาสามารถอ่านท่าถัดไปของคู่ต่อสู้ได้

"ได้ไงกัน?"

“ผมคงบอกไม่ได้ครับ”

ราอนยิ้มและตอบกลับแบบยอกย้อน

“ฉันไม่ได้สอนให้เธอพูดแบบนั้น”

“เด็กๆ เรียนรู้จากสิ่งที่เห็น”

ราอนใช้เท้าแตะพื้น จากนั้นพุ่งไปหาริมเมอร์ซึ่งยังไม่ตั้งท่า

"อีกรอบนะครับ!”

* * *

* * *

ริมเมอร์ผิวปากมองดูราอนที่พุ่งเข้ามาหาเขาและเหวี่ยงดาบขึ้น

“เธอยังมีหนทางอีกยาวไกล”

ในขณะที่เขาเตรียมการป้องกันอย่างสมบูรณ์ การเคลื่อนไหวของราอนก็เปลี่ยนไป เขายืดตัวขึ้นเพื่อจะป้องกันดาบที่เล็งไปที่ข้อมือซ้ายของเขา

'เฮ้ย!’

ริมเมอร์ขมวดคิ้วและหมุนตัว เขาสร้างออร่าที่ปลายดาบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตอบโต้

แคร้ง!

แต่ดาบของราอนก็ถอยกลับไปแล้ว มันไม่ใช่แค่สัญชาตญาณ เขาดูเหมือนสัตว์ร้ายกำลังมองหาช่องของคู่ต่อสู้ผ่านประสบการณ์

'เด็กคนนี้...'

เขาบอกใบ้ไปเพียงเล็กน้อยแต่ราอนก็เริ่มตระหนักถึงรูปแบบที่แท้จริงของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตได้แล้ว เขาประหลาดใจมากจนขนลุก

ฟรึ่บ!

ริมเมอร์ฟันดาบของเขาอย่างรุนแรง พลังงานสีเขียวบนดาบของเขากระจายออกไปเพื่อปกป้องทุกทิศทางจากด้านหน้า ยกเว้นเพียงที่ดียว

ดวงตาขอราอนส่องแสงสีแดงเข้ม เขาบิดดาบอันดุร้ายเพื่อเล็งไปที่ช่องว่างอันโดดเด่นนั้น

'เขาทำได้แล้ว!’

เขาทำได้เพียงหัวเราะกับความไร้สาระของสถานการณ์ ราอนสามารถเข้าใจ 'เขี้ยวแห่งความวิกลจริต' ที่แท้จริงในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ซ้อมกับริมเมอร์

'ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วยให้เขาไปได้เร็วกว่าอาจารย์ของเขา'

แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เป็นอาจารย์แต่มันก็สนุกสนานในทุกช่วงเวลาเพราะราอนและเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ

“เอาล่ะ เข้ามาอีกสิ!”

ริมเมอร์เหวี่ยงดาบของเขาอย่างต่อเนื่องและสร้างช่องโหว่เฉพาะที่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะค้นพบได้

และราอนก็แทงเข้ามาในช่องเล็กๆ นั้นอย่างโหดร้าย ราวกับว่าเขาอ่านใจได้

'บ้าไปแล้ว!'

เขาไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้หอบ การโจมตีที่รุนแรงนั้นมาจากวิถีที่สลับซับซ้อน เมื่อเขาสำเร็จวิชาดาบอันนี้แล้ว นักรบธรรมดาๆ ก็คงไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้

“ถ้ามันง่ายเกินไปก็ไม่สนุกสิ”

ริมเมอร์ลบช่องโหว่ออกไป เขาเหวี่ยงดาบไปในทางที่ราอนไม่สามารถเจาะทะลุได้ในสภาพปัจจุบันเพื่อกดดันเขา

เขาเหนือกว่าทั้งในด้านพลังและความแม่นยำ แต่ราอนก็ไม่ยอมแพ้

ราอนแกว่งดาบพร้อมสายตาที่ดุร้าย เลิกมองหาและเริ่มสร้างช่องโหว่ให้ริมเมอร์เอง

'ใช่แล้วล่ะ'

ริมเมอร์พยักหน้า ศัตรูในสนามรบไม่ได้สร้างช่องโหว่ให้ เราต้องค้นหามันเอง และเขี้ยวแห่งความวิกลจริตเป็นวิชาดาบที่เหมาะที่สุดในการสร้างช่องโหว่ขึ้นมา

เคร้ง! เคร้ง!

ริมเมอร์และราอนเหวี่ยงดาบเข้าหากันอย่างไม่หยุดยั้ง

'เขากำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ'

การโจมตีเริ่มแข็งแกร่งขึ้นและการเคลื่อนไหวของเขาไม่มีช่องโหว่อีกต่อไป ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นมาก

"ย้าก!”

ราอนเหวี่ยงดาบพร้อมกับกู่ร้อง ทันทีที่เขาตั้งท่าป้องกัน ราอนก็พยายามบิดเบือนการป้องกันของเขา มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจนน่ากลัว

'เขาเป็นใครกัน...'

ขาแทงทะลุแนวป้องกันครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะปล่อยให้ราอนได้สัมผัสกับชัยชนะ

“ไว้โตกว่านี้ก่อนนะ!”

ริมเมอร์ล้อมรอบดาบของเขาด้วยลมพายุและยิงออร่าไปที่ดาบ มันเป็นเทคนิคที่ขั้นสูงของเขา, ทิ่มแทงจิตวิญญาณลม

'ทีนี้จะทำยังไงล่ะ?'

เทคนิคนี้ยังทรงพลังเกินไปสำหรับราอน ริมเมอร์เลียริมฝีปากด้วยความคาดหวังว่าราอนจะจัดการกับมันอย่างไร

ฟรึ่บ!

ราอนวิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมดาบ เขาเหวี่ยงดาบโดยไม่สนใจว่าเสื้อผ้าของเขาจะขาดออกจากกันเพราะลมจากจากพลังของเขา

เคร้ง!

ทิ่มแทงจิตวิญญาณลมยังไม่สูฐสลายไปแม้จะเจอการฟันอันทรงพลังก็ตาม แต่ราอนไม่ได้หยุด เขาใช้จังหวะเท้าเพื่อถอยหลังและแกว่งดาบต่อไป

รอยแตกปรากฏขึ้นในทิ่มแทงจิตวิญญาณลมทีละน้อยและในที่สุดมันก็เริ่มพังทลายลง และเปิดช่องโหว่ขึ้นมา

เคร้ง!

ราอนหายใจออกยาวขณะที่เหวี่ยงดาบ แสงสีแดงสาดส่องราวกับดวงอาทิตย์ที่แผดจ้า และทิ่มแทงจิตวิญญาณลมก็ละลายหายไปในอากาศ

“ห๊า!”

ริมเมอร์อ้าปากค้าง

'เมื่อกี้เขาทำอะไร?’

เขาแค่อยากให้ราอนพัฒนาเขี้ยวแห่งความวิกลจริตจากการได้เห็นทิ่มแทงจิตวิญญาณลมของเขา แต่จริงๆ แล้วราอนสามารถกลับทำลายมันได้ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าราอนบ้าแค่ไหน

ฟรึ่บ!

ราอนยืนอยู่อย่างมั่นใจตรงกลางลานฝึกซ้อม ซึ่งมีฝุ่นฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ

"เฮ้ เธอ..."

"อย่าเข้าไปนะคะ”

ขณะที่เขากำลังจะเข้าใกล้ราอน รูนันก็มาคว้าแขนของเขาเอาไว้

"ฮะ?"

"อย่าพึ่งเข้าไปค่ะ”

ริมเมอร์มองไปข้างหน้าและสังเกตเห็นว่ารูม่านตาของราอนขยายออก

'อยู่ในภวังค์เหรอ?’

ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจแก่นแท้ของมันในขณะที่ต่อสู้กับทิ่มแทงจิตวิญญาณลม

'อะไรกัน...?'

ไม่รู้ว่าเขาทำได้บ่อยขนาดนี้ได้ยังไงในเมื่อเป็นสิ่งที่เราควรทำได้เพียงหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น

รูนันปล่อยมือของริมเมอร์และเดินออกนอกสนามฝึก ดูเหมือนว่าเธอจะไปหยุดคนอื่นๆ ไม่ให้เข้ามา

'เธอสังเกตด้วยเหรอ?’

ริมเมอร์เองยังไม่สังเกตเห็นภวังค์ของราอนเลย เขาไม่รู้ว่ารูนันสังเกตเห็นได้ยังในเมื่ออยู่ไกลขนาดนั้น

“ช่างเป็นเด็กที่โชคดีอะไรขนาดนี้”

ริมเมอร์ส่ายหัวของเขาและนั่งลง ดูเหมือนว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปกป้องราอน

“ฉันต้องรีบไปดื่มซะด้วยสิ”

เขาเลียริมฝีปากและมองดูพระอาทิตย์กำลังตก

***

"เฮ้อ..."

ราอนลืมตาขึ้น  รอบข้างมืดไปหมด ดวงอาทิตย์ที่เคยอยู่บนท้องฟ้ากลายเป็นดวงจันทร์ แต่เขาก็ไม่แปลกใจมากนัก

'ฉันตกอยู่ในภวังค์สินะ’

เขาได้ตกอยู่ในภวังค์ของการรู้แจ้งเมื่อเผชิญหน้ากับดาบอันทรงพลังของริมเมอร์ในตอนท้าย

เขาต้องเลือกระหว่างการรู้แจ้งอันใหม่หรือรักษาอันเก่าไว้ เขาจึงตัดสินใจทำมันไปพร้อมๆ กันเพื่อที่จะได้รับการรู้แจ้งที่สุดยอดยิ่งกว่าเดิม

"ผลลัพธ์ออกมาดีสินะ”

ริมเมอร์นอนอยู่บนพื้นและขมวดคิ้ว

“ขอบคุณนะครับ”

ราอนเก็บดาบเข้าฝักและโค้งคำนับอย่างสุภาพ

แม้ว่าเขาจะดูผ่อนคลาย แต่พลังของริมเมอร์ก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณ เขาคงอยู่เฝ้าเขามาจนถึงตอนนี้

"ควรไปขอบคุณเธอด้วย”

ริมเมอร์ชี้ไปทางด้านหลัง ผมสีเงินปลิวไสวอยู่ข้างประตูสนามฝึกซ้อม

"เสร็จแล้วเหรอ?"

รูนันเปิดประตูเข้ามา

“เธอสังเกตเห็นก่อนฉันซะอีก”

ราอนพยักหน้าและยืนอยู่หน้ารูนัน

“ขอบคุณนะ”

“นายแข็งแกร่งขึ้นหรือเปล่า?”

"ใช่"

“งั้น...เราไม่ต้องสู้กันอีกใช่ไหม?”

ราอนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วสีหน้าของรูนันก็สดใสขึ้นเล็กน้อย

“เธอคงได้รับการรู้แจ้งที่ดีสินะ เธอพูดว่าแข็งแกร่งขึ้นอย่างมั่นใจเลย”

ริมเมอร์ลุกขึ้นยืนและปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเขา

"ใช่ เขี้ยวแห่งความวิกลจริตอาจเป็นเขี้ยวของอสูรร้าย แต่ก็สามารถเกิดการรู้แจ้งได้เช่นกัน แท้จริงแล้วเขี้ยวแห่งความวิกลจริตคืออสูรที่มีจิตใจที่สงบ”

เขี้ยวแห่งความวิกลจริต ไม่ใช่ดาบสัญชาตญาณที่มีลักษณะเฉพาะคือความดุร้ายและความรุนแรง มันเป็นวิชาดาบพิเศษที่ใช้ประสบการณ์และจิตใจในการสร้างช่องโหว่ในคู่ต่อสู้

หนทางอีกยาวไกล แต่เขารู้สึกเหมือนอยู่ที่ขั้นแรกของเขี้ยวแห่งความวิกลจริตที่แท้จริงแล้ว

"ถือว่าคุ้มค่าเวลาของฉัน วันนี้เหล้าคงอร่อยน่าดู”

ริมเมอร์ยิ้มและเริ่มเดินไปที่ทางออกของสนามฝึก

“ขอบคุณครับ”

ราอนแสดงความขอบคุณอีกครั้ง ริมเมอร์โบกมือและออกจากสนามฝึกซ้อม

"ราอน, มาฝึกกันเถอะ”

เธอเข้ามาใกล้เขาแล้วชักดาบออกมา เธอไม่ได้พูดถึงการต่อสู้แต่เป็นการฝึกดาบของตัวเอง

"โอเค”

เขาเป็นหนี้บุญคุณรูนันอีกครั้ง เขายินดีช่วยเธอฝึกได้มากเท่าที่เธอต้องการ

ราอนสังเกตทักษะดาบของรูนัน ต้องขอบคุณที่ได้เรียนรู้เขี้ยวแห่งความวิกลจริต ทำให้เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าเธอขาดอะไร

“ในระหว่างเทคนิคที่สอง ให้เหยียดเท้าออกประมาณหนึ่งข้อนิ้ว และเหยียดเข่าให้ตรงขึ้นอีกนิดหน่อย”

“อึ้ม”

ดาบของรูนันคมขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น พรสวรรค์ของเธอคงอยู่ในระดับทวีป เธอสามารถปรับปรุงให้ถูกต้องจากคำแนะนำเพียงครั้งเดียว

ราอนให้คำแนะนำเพิ่มเติมกับเธออีกสองสามข้อก่อนจะเงยหน้าขึ้น เขาพยักหน้าเล็กน้อยและมองดูพระจันทร์ดวงใหญ่ที่ส่องแสงบนสนามฝึก

'เตรียมพร้อมเกือบหมดแล้ว'

เหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด