ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 99
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 101

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 100


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 100

"ไม่เหมือนเดิมเหรอ?”

ราอนเอียงหัวอย่างสงสัย การสอบจบการศึกษาของเด็กฝึกหัดซีกฮาร์ทที่ผ่านมาเป็นแบบทดสอบง่ายๆ ซึ่งก็คือการต่อสู้ระหว่างเด็กฝึกหัดด้วยกันหรือไม่ก็แค่ผ่านเกณฑ์บางอย่างของอาจารย์

เมื่อพิจารณาจากท่าทางเจ้าเล่ห์ของริมเมอร์แล้วแปลว่าการสอบค่อนข้างจะพิเศษ

“พวกเธอมีประสบการณ์มากกว่าเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ แล้ว”

ริมเมอร์เดาะลิ้นและกระดิกนิ้ว

“การแข่งขันแห่งเกียรติยศ การต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย และวิธีการต่อสู้ที่ใช้ระดับของเธอเอง มันเป็นประสบการณ์ที่จะได้เจอก็ต่อเมื่อเป็นนักดาบเต็มตัว”

เขาพูดถูก

แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับในชีวิตก่อนของราอน แต่เด็กฝึกหัดสนามฝึกซ้อมที่ห้าก็มีประสบการณ์หลายอย่างที่มากกว่าเด็กฝึกหัดตระกูลโรเบิร์ตหรือสนามฝึกอื่นๆ

พวกเขาคงจะผ่านได้อย่างง่ายดายในข้อสอบแบบเดิมๆ

“การทดสอบทั่วไปคงไม่ได้ช่วยเธอเติบโตเท่าไหร่ ฉันจึงตัดสินใจเปลี่ยนเนื้อหาของมัน”

“…”

"ครับ"

ทุกคนพยักหน้าหลังจากได้ยินคำอธิบายของริมเมอร์ มันเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติเนื่องจากผู้ฝึกหัดต้องการที่จะเป็นมากกว่านักดาบธรรมดาๆ หลังจากดูการต่อสู้ของราอนและเติบโตมากับเขา

“แล้วจะให้เราจะสอบแบบไหนล่ะครับ?”

เบอร์เรนยกมือขึ้นแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า

"เอาชีวิตรอด”

การแสดงออกของริมเมอร์เปลี่ยนไป เขาไม่ใช่เอลฟ์ขี้เกียจอีกแล้ว แรงกดดันที่หนักหน่วงและแหลมคมเล็ดลอดออกมาจากเขา

"มันคือการเอาชีวิตรอด เธอจะได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกโดยไม่มีการใช้ตำแหน่งเด็กฝึกหัดของซีกฮาร์ท สิ่งที่เธอจะได้รับอนุญาตให้พกติดตัวไปได้มีเพียงชื่อกับดาบหนึ่งเล่ม”

"อ-เอาชีวิตรอด"

“เอ๋!”

“เราต้องออกไปข้างนอกโดยมีแค่ชื่อกับดาบของเราเหรอ?”

พวกเขาอ้าปากค้างทันที

“ฉันเข้าใจที่จะสับสน มันคงแตกต่างจากที่พวกเธอคาดหวัง แค่ฉันมั่นใจว่าการทดสอบนี้จำเป็นสำหรับพวกเธอ”

ริมเมอร์นั่งบนเวทีและมองลงไปที่เด็กฝึกหัด

“ตอนนี้เธอคงมีแต่ความมั่นใจ พวกเธอได้เอาชนะอัศวินฝึกหัดแห่งอาณาจักรโอเว่น รอดชีวิตจากการต่อสู้กับเอเดน และได้รับยาอมฤตเพื่อพัฒนาทั้งออร่าและร่างกายแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล็กๆ เช่นการต่อสู้กับสนามฝึกที่หก แต่ส่วนใหญ่ก็เพราะใครบางคน”

เขามองราอนแวบหนึ่ง

“ตอนนี้พวกเธอคงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ดังนั้นพวกเธอควรได้ไปเห็นด้วยตาของตัวเองว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่แค่ไหน”

“…”

ในขณะที่เด็กฝึกหัดสับสนเกินกว่าจะพูดอะไร ราอนเป็นคนเดียวที่พยักหน้า

'เขาพูดถูก’

อย่างที่ริมเมอร์บอก ประสบการณ์ที่แท้จริงคือสิ่งที่พวกเขากำลังต้องการมากที่สุดเพราะพวกเขาแข็งแกร่งพอแล้วทั้งทางร่างกายและจิตใจ

การได้สัมผัสการต่อสู้ที่แท้จริงด้วยตัวเองโดยไม่ใช้ชื่อตระกูลจะพาพวกเขาไปสู่ระดับที่สูงขึ้น

“อย่างไรก็ตาม เธอสามารถปฏิเสธได้”

ริมเมอร์ยิ้มกว้างพร้อมเลิกคิ้ว

“มันไม่ง่ายเลยที่จะใช้ชีวิตข้างนอก เพราะพวกเธอมักจะกินและใช้ชีวิตกับสิ่งที่ตระกูลเตรียมไว้ให้มาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้น คราวนี้พวกเธออาจตายจริงๆ ก็ได้เพราะครั้งนี้จะไม่มีอาจารย์คนไหนไปด้วย”

เขาพยักหน้าช้าๆ

“ฉันจะเตรียการสอบแบบอื่นให้สำหรับคนที่กลัวเกินไป หลังจากคิดให้รอบคอบแล้วและต้องการปฏิเสธให้มาบอกฉันในวันพรุ่งนี้”

“อืม…”

“เอ่อ ข้อสอบอื่นเหรอ?”

“ฉันไม่ต้องการอะไรแบบนั้น”

ต่างจากเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ ที่กำลังกลอกตาและครุ่นคิด มาร์ธาแตะผมของเธอแล้วส่ายหัว ดวงตาสีดำของเธอส่องแสงขณะที่เธอก้าวไปข้างหน้า

"เอาชีวิตรอดเหรอ? ฉันต้องเอาชีวิตรอดมาตั้งแต่เกิดแล้ว จัดมาเลย"

มาร์ธายิ้มเยาะ

“ฉันก็เอาด้วยเหมือนกัน”

ของเบอร์เรนก้าวขึ้นไปอย่างเฉยเมย ดวงตาที่จริงจังของเขาไม่มีท่าทีลังเลใจ

“ข้อสอบจบการศึกษาเป็นการเอาตัวรอด ฉันเห็นด้วยว่ามันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับฉันที่จะเติบโต ฉันจะยอมรับมัน”

“เอาล่ะ เราได้มาสองคนแล้ว”

ริมเมอร์ยกสองนิ้วพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

“ผ-ผมก็จะทำเหมือนกัน!”

"หนูด้วย!”

"ผมเอาด้วยครับ!”

ทุกคนเริ่มยกมือขึ้น ตามเบอร์เรนและมาร์ธา

"ดีๆๆ”

ริมเมอร์ปรบมือและยิ้มทุกครั้งที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมบอกว่าจะเข้าร่วม

"รูนัน”

ราอนหันกลับไปเรียกรูนันที่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่า   ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

"เธอคิดว่าไงล่ะ?”

"นายจะเลือกอะไรเหรอ ราอน?”

"ฉันจะเข้าร่วม”

"งั้นฉันก็จะไปด้วยเหมือนกัน”

เธอก้าวขึ้นไปและบอกริมเมอร์ว่าเธอจะเข้าร่วม ด้วยเหตุนี้ เด็กฝึกหัดทั้งสี่สิบสองคนจึงยกมือขึ้น เหลือราอนเพียงคนเดียว

"ราอน,เธอล่ะ?”

"แน่นอนครับ“ผมจะไป”

“หืม จะไม่เป็นไรเหรอที่ตัวแทนของเด็กฝึกหัดจะตอบโดยไม่คิดให้ละเอียดก่อน? เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะส่งเธอไปที่ไหน”

ริมเมอร์แสดงสีหน้าซุกซน

"ไม่เป็นไรครับ”

ราอนยิ้มไม่ยอมสนใจการยั่วยุของเขา

“ผมมั่นใจว่ามันจะยากแน่นอน แต่อาจารย์ก็ไม่เคยให้บททดสอบที่ยากเกินกว่าความสามารถของพวกเรานี่ครับ”

"เธอ..."

ทันใดนั้นการแสดงออกของริมเมอร์ก็เปลี่ยนไปตามคำพูดที่มั่นใจของราอน เขาดูเขินอายมากกว่ามีความสุข

ริมเมอร์ได้วิเคราะห์คุณลักษณะ จุดแข็ง และจุดอ่อนของเด็กฝึกหัดทุกคนเพื่อสอนพวกเขาตามนั้น

ราอนเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้ แต่การกระทำส่วนใหญ่ของเด็กฝึกหัดก็เพื่อเด็กฝึกหัด

แม้จะมีพฤติกรรมและน้ำเสียงจะดูเหลาะแหละ แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่เชื่อใจเขา แค่เชื่อใจเขาก็พอ

"ผมเห็นด้วยกับเขา”

เบอร์เรนพยักหน้ายืนอยู่ข้างราอน

“อาจารย์มักจะขี้เกียจ มาไม่ตรงเวลาตลอด แล้วก็ชอบดื่มแอลกอฮอล์กับเล่นการพนัน แต่ผมไว้ใจเรื่องการสอนของอาจารย์”

“หึ”

มาร์ธาพนักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งหมายความว่าเธอเห็นด้วยกับเบอร์เรนและราอนในระดับหนึ่ง

“น่าประทับใจจริงๆ ที่นักเรียนของฉันคิดกับฉันแบบนั้น”

ริมเมอร์แสร้งทำเป็นร้องไห้ เขาส่งเสียงสูดจมูกด้วยปากของเขา เขาแกล้งทำเป็นพูดเล่น แต่เห็นได้ชัดว่าเขาพอใจกับมันเพราะปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

“แต่ไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมให้มันง่ายหรอกนะ เตรียมตัวกันให้ดีๆ ล่ะ”

เขายื่นมือไปข้างหลัง และอาจารย์คนอื่นก็ยื่นเอกสารให้เขา

"ฉันว่าจะบอกอาทิตย์หน้าแต่ในเมื่อทุกคนเห็นตรงกัน ฉันจะบอกตอนนี้เลยว่าพวกเธอจะได้ไปที่ไหน”

“พวกเราจะได้ไปที่เดียวกันเหรอครับ?”

เบอร์เรนยกมือขึ้นถาม

“แน่นอนว่า ไม่”

ริมเมอร์กระดิกนิ้ว

“พวกเธอมักจะพึ่งพาคนๆ หนึ่งมากเกินไป”

สายตาของเขามุ่งตรงไปที่ราอน และเด็กฝึกหัดก็มองตามเขาไป

“อืม…”

"นั่นก็จริง..."

“อืม ฉันว่ามันก็ถูกนะ...”

เด็กฝึกหัดเลียริมฝีปาก

พวกเขาเคยอิจฉาราอนและเกลียดเขา แต่ตอนนี้พวกเขาเชื่อเขาอย่างสุดใจหลังจากฝึกฝน ต่อสู้ และเอาชนะวิกฤติร่วมกัน

“เป็นเรื่องดีที่พวกเธอมีความสัมพันธ์ดีๆ ต่อกัน แต่มันไม่ดีที่จะพึ่งพาเขาเพียงฝ่ายเดียว”

ด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน ริมเมอร์มองดูเด็กฝึกหัดทีละคน

“มาเป็นนักดาบที่คนอื่นสามารถพึ่งพาได้โดยการสอบครั้งนี้กันเถอะ”

"ครับ!”

“เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ”

เด็กฝึกหัดต่างตะโกนเสียงดัง เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงของอาจารย์

"ถ้างั้น..."

ริมเมอร์เปิดแผ่นพับที่ได้รับจากอาจารย์คนอื่น

"เบอร์เรน ซีกฮาร์ท”

"ครับ!”

“เธอจะได้ไปที่ทะเลทรายเลวีนทางตะวันตก”

“เข้าใจแล้วครับ”

“มาร์ธา ซีกฮาร์ท เธอจะได้ไปที่หุบเขาไซอันทางตะวันออก แล้วก็…”

โดยไม่รอคำตอบจากเด็กฝึกหัด ริมเมอร์พูดชื่อสถานที่ที่พวกเขาแต่ละคนต้องมุ่งหน้าไป

“…รูนัน ซัลเลียน เธอต้องไปที่ป่าคาตัมทางตะวันตกเฉียงเหนือ”

"ค่ะ"

"และสุดท้าย ราอน ซีกฮาร์ท”

เหลือเพียงแค่ราอนคนเดียว

"ครับ"

“เธอจะได้ไปที่ปราสาทฮาบุนทางตะวันออกเฉียงเหนือ”

"ปราสาทฮาบุน..."

ราอนหรี่ตาลง

'เขาจะส่งฉันไปสถานที่ที่น่าอนาถแบบนั้น...'

ปราสาทฮาบุนอยู่ทางเหนือของซีกฮาร์ท มันเป็นหนึ่งในสนามรบที่ต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแห่งทะเลเหนือกับสัตว์ประหลาดแห่งภูเขาสตาลินในทุกๆ วัน

'มันจะเป็นประโยชน์แน่นอน’

แม้ว่าเขาจะมีวงแหวนไฟและหมื่นเปลวเพลิง แต่เขาก็ยังคงไม่ได้รับความสามารถจากชาติที่แล้วกลับคืนมาทั้งหมด

การมีชีวิตอยู่ในสนามรบแบบนั้นอาจทำให้เขาได้ฟื้นฟูหรือก้าวข้ามจิตสังหารและการรับรู้ที่เขาเคยมีในชีวิตก่อนได้

“เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่จะออกเดินทาง รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่จะไป คิดและตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสอบ”

ริมเมอร์เงยหน้าขึ้นและปิดพับกระดาษ

"ครับ/ค่ะ! รับทราบครับ/ค่ะ!"

ดวงตาของเด็กฝึกหัดคาดหวังถึงการเติบโตและ,uความวิตกกังวลต่อสิ่งที่ไม่รู้จักในเวลาเดียวกัน

“มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคน แต่เธอจะต้องทนมันให้ได้”

ริมเมอร์ลงมาพูดต่อหน้าราอนและพยายามทำให้เขากลัว

“สถานที่นั้นถูกเรียกว่านรกแห่งการต่อสู้ เพราะเธอจะไม่มีเวลาแม้แต่จะชักดาบออกจากฝักของตัวเอง”

"เอ๋!”

ดอเรียนตัวสั่น เพราะเขาต้องไปปราสาทฮาบุนกับราอน ราอนหัวเราะเมื่อเห็นภาพนั้น

"นรกด็ฟังดูดีสำหรับผมนะครับ”

“หื้อ?”

“เพราะผมจะได้แข็งแกร่งขึ้นถ้าผมสามารถเอาชีวิตรอดจากนรกนั้นได้ แล้วก็…”

ราอนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มที่มั่นใจ

'ฉันเคยสัมผัสกับนรกที่แท้จริงมาแล้วไงล่ะ'

* * *

* * *

“ค-คุณชายต้องทำแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ?”

เมื่อราอนเล่าเรื่องการสอบในอาคารเสริม เฮเลนก็ตัวสั่นและส่ายหัว

“ปราสาทฮาบุนเป็นหนึ่งในปราการของซีกฮาร์ทที่มีสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่สิ้นสุด เขาบอกว่าเขามีการสอบอย่างอื่น แล้วทำไมคุณชายต้องไปสถานที่แบบนั้น…”

"นั่นก็เพราะ..."

"เขาต้องไป”

ก่อนที่ราอนจะพูดจบ ซิลเวียก็วางส้อมและมีดลงแล้วพยักหน้า

“แต่นั่นเป็นสถานที่ที่อันตรายจริงๆนะคะ…”

“ยังไงเขาก็ต้องไป”

ซิลเวียส่ายหัวไปที่เฮเลนและมองไปที่ราอน

“เพราะว่าเป็นโอกาสที่ราอนจะเติบโต”

เธอไม่มองราอนเป็นเด็กอีกต่อไปหลังจากต่อสู้กับราเดน ตอนนี้เธอปฏิบัติต่อเขาเป็นนักดาบ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความกังวลของซิลเวียจะหายไป มือที่ถือแก้วน้ำของเธอสั่นเล็กน้อย

"แม่พูดถูกครับ”

ราอนหลับตาขณะที่ซิลเวีย เฮเลน และสาวใช้มองมาที่เขาด้วยสายตาที่เป็นห่วง

“อย่างที่อาจารย์พูด นี่ไม่ใช่แค่การสอบแต่เป็นโอกาสที่ผมจะได้เติบโต  ผมต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้”

“ใช่ นั่นเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก”

ดูเหมือนว่าเฮเลนและสาวใช้ยังมีคำจะพูดอีกมาก แต่ซิลเวียแตกต่างออกไปเพราะเธอเคยใช้ชีวิตเป็นนักรบ เธอรับรู้ถึงความสามารถของเขา

'โล่งไปที’

เฮเลนเป็นหัวหน้าสาวใช้แต่เธอก็ไม่สามารถเอาชนะซิลเวียได้ เนื่องจากซิลเวียเห็นด้วยกับเขา เขาคงจะเตรียมตัวได้สะดวกขึ้น

“งั้นผมจะไปฝึกแล้วนะครับ”

ราอนวางจานที่ว่างเปล่าแล้วลุกขึ้นยืน

“ราอน”

ขณะที่เขากำลังจะกลับห้อง ซิลเวียก็เรียกเขาไว้

“เตรียมตัวให้พร้อมทุกสถานการณ์นะ”

"ได้ครับ"

ราอนพยักหน้าอย่างมั่นใจแล้วออกจากห้องไป

“คุณผู้หญิง คุณโอเคจริงๆ เหรอคะ?”

“เฮ้อ ไม่มีทางซะหรอก”

มือของซิลเวียที่ถือแก้วน้ำสั่นอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีทางที่เธอจะรู้สึกสบายใจเมื่อลูกชายคนเดียวของเธอกำลังไปยังสถานที่อันตราย

'แต่ว่า...'

เธอต่างจากเฮเลนตรงที่เธอรู้ว่านักรบเป็นแบบไหน และนักดาบต้องการอะไร นั่นคือเหตุผลที่เธอต้องยอมให้ราอนไปที่นั่น ไม่ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยมากแค่ไหนก็ตาม

แม้ว่าเธอจะคัดค้านแต่ราอนก็จะไปที่นั่นอยู่ดี จะดีกว่าที่จะยอมให้เขาไป

"แต่ดิฉันเป็นห่วงนี่คะ มันเป็นสถานที่ที่อันตรายมากเลย"

"มันปกติที่จะกังวล”

ซิลเวียพยักหน้า

"เราเลยต้องทำอะไรบางอย่าง”

"เราต้องทำอะไรบางอย่าง?”

"ใช่ เราต้องรักษาสถานะปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด เพื่อที่ราอนจะมั่นใจได้เมื่อเขากลับมา”

เธอมองไปที่สาวใช้และยิ้มกว้าง เธอซ่อนความกังวลของเธอในฐานะแม่และเจ้านายของอาคารเสริม

"คุณผู้หญิง…"

สาวใช้พยักหน้าอย่างเงียบๆ เห็นด้วยกับเธอ

จูเดียลกำหมัดของเธออย่างเงียบๆ มองดูซิลเวียและเฮเลน

***

แม้ว่าเขาจะมุ่งหน้าไปยังสนามรบในอีกหนึ่งเดือน กิจวัตรประจำวันของราอนก็ยังคงเหมือนเดิม

เขาฝึกซ้อมช่วงเช้าเช่นเคย จากนั้นไปที่สนามฝึกที่ห้าเพื่อให้ริมเมอร์และอาจารย์ผู้สอนสอนเขา และเขาก็เป็นคนสุดท้ายที่ออกไปในตอนเย็นเพื่อฝึกซ้อมต่อ

แต่ความเข้มข้นของการฝึกอยู่ในระดับที่แตกต่างจากเมื่อก่อน

รูนันเหนื่อยเกินกว่าจะตามเขาทันและเบอร์เรนกับมาร์ธาก็เบื่อเขาเพียงแค่มองดู

“เฮ้อ…”

การฝึกฝนยากมากจนทำให้พลังใจอันมหาศาลของเขาหมดไป ราอนทำสิ่งนี้ทุกวันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะกลับไปที่อาคารเสริม

เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องเข้านอน เขาจึงเข้าไปในห้องของเขาทางหน้าต่าง

"อืม..."

มันเป็นระเบียบเรียบร้อยมากจนไม่เห็นฝุ่นแม้แต่จุดเดียว และมีกลิ่นหอมอ่อนโยนบนเสื้อผ้าและเครื่องนอน

'ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย’

แม้จะคิดแบบนั้น แต่เขาก็ยิ้มออกมา

เขารู้สึกขอบคุณซิลเวียและสาวใช้ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อให้เขาพักผ่อนอย่างสบายใจทุกครั้งที่เขากลับมา

“เฮ้อ…”

ราอนหายใจออกแล้วนั่งลงบนเตียง เขารู้สึกง่วงเนื่องจากการฝึกฝนครั้งล่าสุดยากสำหรับเขา

ขณะที่เขากำลังจะนอนบนเตียง เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างบนนั้น

"อะไรเนี่ย?"

เขาเอียงหัวและยกมุมของผ้าห่มขึ้น เขาพบหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่ง

"นี่มัน…"

ดวงตาขอราอนเบิกกว้างเมื่อเปิดหนังสือ หนังสือเล่มนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทฮาบุนซึ่งเป็นที่ที่เขาต้องไป

ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่ปรากฏที่นั่น และแม้แต่ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่สำคัญ เห็นได้ชัดว่าใครเป็นคนทิ้งหนังสือไว้

'จูเดียล’

เธอเตรียมข้อมูลพวกนี้ไว้หลังจากรู้ว่าเขาต้องมุ่งหน้าไปยังปราสาทฮาบุน

ราอนเลียริมฝีปาก รู้สึกขมขื่นที่ปลายลิ้นของเขา

“ฉันคงต้องจัดการเรื่องนั้นก่อนจะไป”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด