ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 84
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 86

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 85


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 85

ราอนเดินออกจากคฤหาสน์หลัก

'เขาคิดอะไรอยู่นะ?’

ราอนไม่แน่ใจว่าเกล็นจะให้รางวัลเขาเพิ่มหรืออยากถามอะไรเพิ่มกันแน่

'เขาเป็นคนยังไงกันแน่...’

ราอนไม่สามารถอ่านความคิดของเกล็นได้เลย

“ราอน!”

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นทันทีที่เขาออกมาจากคฤหาสน์ ซิลเวียวิ่งเข้ามาหาเขา

"โอ้พระเจ้า!”

เธอคุกเข่าสำรวจร่างกายราอนโดยไม่สนว่าเสื้อผ้าจะสกปรกหรือไม่

"ม-แม่ได้ยินว่าลูกต่อสู้กับอีเดนงั้นเหรอ! แขนของลูกเป็นอะไรมั้ย? เกิดอะไรขึ้นกับเอวของลูก...?”

"ผมไม่เป็นไรมากครับ มันเกือบจะหายดีแล้ว”

ราอนยิ้มอย่างอ่อนโยน เพราะยาของริมเมอร์ทำให้บาดแผลของเขาดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติ

"แม่..."

ซิลเวียเม้มปาก มองไปที่ผ้าพันแผลที่พันรอบแขน,เอวและต้นขาของเขา ดูเหมือนเธอจะเริ่มร้องไห้ได้ทุกเมื่อ

'อ่า..เพราะเรื่องนั้น...'

เธอเสียสามีกับลูกสาวไปเพราะพวกอีเดน ราอนลืมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไป

"ท่านแม่ ผม..."

"แม่ไม่น่าพูดแบบนั้นเลย!”

ซิลเวียก้มหน้าและเอามือสั่นๆ ของเธอจับแขนของเขา

"เพราะสิ่งที่แม่บอกก่อนที่จะออกทำภารกิจใช่มั้ย? ที่บอกว่าแม่อยากให้ลูกเป็นซีกฮาร์ทตัวจริง...”

“เอ่อ…”

"แม่เสียใจมากที่ได้ยินว่าลูกฮึดสู้กับปีศาจพวกนั้นเพื่อช่วยเหลือทุกคน”

น้ำตาของเธอค่อยๆ ไหลออกจากตา

"ลูกคงจะทำแบบนั้นก็เพราะคำพูดของแม่.. แม่..."

เธอร้องไห้หนักขึ้น

"นอกจากจะเป็นนักดาบที่ไม่เก่งแล้วก็ยังเป็นแม่ที่ไม่ดีอีก..."

"ผ ผมรู้สึกขอบคุณท่านแม่มากๆ เลยนะครับ”

ราอนกุมมือซิลเวีย

"ข-ขอบคุณเหรอ?”

"ครับ"

เขาพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย

"ตอนที่ต่อสู้ มีความคิดเข้ามาในหัวผมมากมาย อย่างเช่น ผมควรหนี? หนียังไง? สั่งให้เบอร์เรนสู้แล้ววิ่งหนีเองดีไหม? ”

ราอนมองตาซิลเวีย

"แล้วผมก็ได้ยินเสียงของแม่ เสียงที่บอกผมว่า'แม่อยากให้ลูกใช้ชีวิตเหมือนกับนักดาบของซีกฮาร์ท'”

ใช่แล้ว ถ้ามันไม่ใช่เพราะเสียงของซิลเวียที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขา เขาคงหนีไปโดยไม่สนการช่วยเหลือใครเลย

“อา…”

"ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นผมคงตายไปแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะรอดมาได้ผมก็คงเสียใจไปตลอดชีวิตและไม่จับดาบได้อีก”

ราอนสารภาพอารมณ์ความรู้สึกของเขาตอนนั้นออกมาทั้งหมด

"เพราะว่าคำพูดของแม่ทำให้ผมสามารถผ่านทุกอย่างมาได้ แม่ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรือรู้สึกผิดหรอกครับ”

เหตุผลที่เขายอมสู้กับปีศาจกระหายเลือด เหตุผลที่เขายอมเป็นโล่ให้คนอื่น เหตุผลที่ทำให้เขาสามารถอดทนกับความเจ็บปวดพวกนั้นได้ ก็คือคำพูดของซิลเวีย

"ฮึก..."

หยดน้ำตาของซิลเวียพรั่งพรูออกมา เธอคงอดทนมามากแน่ๆ ตั้งแต่ที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับอีเดน

"ไม่เป็นไรนะครับ"

ราอนลูบหลังของเธอ

***

ราอนอยู่เคียงข้างซิลเวียจนกระทั่งเธอเหนื่อยและหลับไป แล้วเขาก็ออกจากห้อง เจอกับเฮเลนกำลังรอเขาอยู่นอกห้อง

"คุณชายเติบโตขนาดที่ปลอบคุณผู้หญิงได้แล้ว ตอนนี้ดิฉันสามารถตายตาหลับได้แล้วล่ะค่ะ”

เธอแกล้งทำเป็นเช็ดน้ำตา

"หยุดพูดเรื่องตายเถอะครับ ผมจะทำให้คุณกับท่านแม่ของผมได้อยู่แบบสุขสบายไปอีกนาน”

"ขอบคุณที่คิดเผื่อดิฉันนะคะ คุณชาย”

"ผมพูดจริงนะ"

ราอนส่ายหัวและปิดประตูห้องของซิลเวีย

"แล้วฉันจะรอคอยนะคะ”

"ครับ"

ราอนพยักหน้าและเข้าไปในห้องของเขา ในห้องที่มืดมิดเพราะไม่ได้เปิดม่าน มีร่างของมนุษย์คนหนึ่ง

"จูเดียล”

ราอนนั่งบนเตียงแล้วเรียกหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าต่าง

"ค่ะ คุณชาย”

จูเดียลนั่งคุกเข่าข้างหน้าราอน การแสดงออกของเธอเรียบนิ่ง

"สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”

"ฉันได้รับคำสั่งให้กลับไปที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ พวกเขาน่าจะอยากกำจัดฉันค่ะ”

“อืม…”

ราอนเลียริมฝีปากในขณะที่มองไปที่จูเดียล

'เขาจะระบายความโกรธลงกับเธอเหรอ?’

คารุนเป็นคนที่ส่งจูเดียลมาที่อาคารเสริม ดูเหมือนว่าเขาจะอยากกำจัดเธอแล้ว เพราะเขาไม่ได้รับรายงานเรื่องระดับของราอนและรู้สึกโมโหราอนในเหตุการณ์ในห้องโถงวันนี้

'และ...'

จูเดียลยังคงนิ่งเฉยอยู่แม้ว่าชีวิตของเธอจะตกอยู่ในอันตราย

ดูเหมือนว่าเธอจะรู้วิธีปฏิบัติตัวแบบสายลับแล้ว

"เธออยากมีชีวิตอยู่ต่อไหม?”

ราอนค่อยๆ เปิดปากพูด เสียงของเขาเรียบนิ่ง

เขากำลังคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะช่วยเธอ เพราะสายลับสองหน้าแบบเธอไม่ได้หากันง่ายๆ

“……”

จูเดียลค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอสั่นไหวราวกับแสงจันทร์ที่สะท้อนให้เห็นในทะเลสาบ เป็นแววตาเช่นเดียวกับตอนที่เขาเห็นเธอครั้งแรก

"งั้นฉันจะบอกวิธีให้”

"คะ?"

"อย่ากลับไปที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ ให้ส่งจดหมายแทน แล้วบอกเขาว่าเธอได้เลื่อนขั้นเป็นสาวใช้ส่วนตัวของฉันแล้ว”

“อ่า…”

"เขาไม่สงสัยแน่นอน เธอต้องเขียนว่าท่านแม่เลือกเธอให้มาดูแลฉันเพราะอาการบาดเจ็บ”

ราอนชี้ไปที่แผลที่พันด้วยผ้าพันแผล มันเป็นเหตุผลที่ค่อนข้างฟังขึ้น

และคารุนจะคิดว่าเขาคงได้รับข้อมูลมากขึ้นเพราะตำแหน่งใหม่ของเธอ

"...ค่ะ แต่ทำไมคุณชายถึงช่วยฉันล่ะคะ?”

"ไม่ใช่เพราะอยากช่วยเธอ แต่ฉันไม่อยากเสียเวลาหาสายลับคนใหม่น่ะสิ”

“…”

"ฉันอยากให้ข้อมูลบางอย่างกับเขา ที่ทุกคนคิดว่าฉันบาดเจ็บสาหัสแต่จริงๆ แล้วมันเกือบหายดีแล้ว ฉันวางแผนที่จะฝึกฝนอยู่ที่นี่และแกล้งทำเป็นรักษาตัวอยู่”

ราอนให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบาดเจ็บของเขา

"อาจารย์ริมเมอร์และหัวหน้าตระกูลเป็นสองคนที่รู้เรื่องนี้ และถ้าเธอบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจะรู้ว่าเธอยังมีประโยชน์”

"ร-รับทราบค่ะ”

จูเดียลพยักหน้า

"แล้วรออะไรอยู่ล่ะ?”

ราอนชี้ไปที่ประตู

"ไปเขียนรายงานลงในจดหมายและรีบส่งไปที่นั่นซะ เขียนให้ดูแนบเนียนด้วยล่ะ”

"ข-เข้าใจแล้วค่ะ”

จูเดียลโค้งตัวแล้วออกจากห้อง

ทุกอย่างที่เธอพูดและทำมันน่าสมเพช จะทำยังไงกับสายลับไร้ประโยชน์อย่างเธอกันแน่?

'ฉันจะใช้เธอทำลายคารุนซีกฮาร์ทจากด้านหลัง และ...'

ราอนมองไปที่ประตูที่อยู่ในความมืด

เธอทำให้เขานึกถึงอดีตของตัวเอง

* * *

* * *

ราอนนอนเล่นอยู่บนเตียงจนกระทั่งดวงจันทร์ขึ้นมาอยู่กลางท้องฟ้า

มีการปรากฏตัวด้านนอกหน้าต่าง

"กระผมดีใจที่คุณชายรอผมอยู่นะครับ”

โรเอ็นทักทายเขาด้วยรอยยิ้มหลังจากเปิดหน้าต่าง

"แน่นอนสิครับ พูดแบบนั้นแล้วผมจะนอนหลับได้ยังไงกัน”

ราอนข้ามหน้าต่างออกไปด้านนอก

"...ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงกันแน่ครับ?”

ราอนมองไปที่ดวงตาที่มีรอยเหี่ยวย่นของโรเอ็น

"ผมไม่ทราบเหตุผลของท่านหัวหน้าตระกูลครับ คุณชายจะรู้เองเมื่อไปถึงที่นั่น”

“อืม…”

ราอนถามเขาเพราะอยากรู้จุดประสงค์ของเกล็น แต่โรเอ็นก็ไม่ยอมบอกเขา เขารู้แน่นอนแต่เขาไม่ยอมบอก

ราอนไปที่คฤหาสน์หลักและพูดคุยกับโรเอ็นตลอดทาง น่าแปลกที่ไม่มีนักดาบเฝ้ายามอยู่ระหว่างทางเลย

'ไม่มีใครเลยแฮะ’

เขาเข้ามาในคฤหาสน์หลักโดยที่ไม่เจอคนอื่นเลยสักคน แม้แต่สาวใช้ คนงาน หรือนักดาบสักคนก็ไม่มี

ดูเหมือนโรเอ็นได้สั่งให้พวกเขาไว้ก่อน

“เอ่อ…”

ราอนรู้สึกประหม่ากับสถานการณ์แปลกๆ เช่นนี้

"ไม่ต้องกังวลไปนะครับ คุณชายพึ่งทำผลงานที่ยิ่งใหญ่ดังนั้นก็ภูมิใจไว้นะครับ”

เขาเปิดประตูห้องโถง แสงสว่างสาดส่องมาจากเบื้องหลังประตู

ราอนตามโรเอ็นและเข้าไปในห้องโถง เกล็น ซีกฮาร์ท นั่งหลับตาอยู่บนบัลลังก์ราวกับรูปปั้น

'เฮ้อ...'

แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่หนักอึ้ง

"สวัสดีครับท่านหัวหน้าตระกูล"

“ไม่ต้องก็ได้”

ราอนตัวแข็งค้างเมื่อกำลังจะคุกเข่าคำนับ

'พลังนี่...'

ราอนไม่ได้อยากหยุด เกล็นทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหวด้วยเสียงของเขา

'...'

ราอนตัวสั่นและเงยหน้าขึ้น

เกล็นวางมือลงบนที่วางแขนและมองลงมาที่ราออน

“ราอน ซีกฮาร์ท”

"ครับท่าน”

เขาลดหัวลง

"เธอคิดยังไงเกี่ยวกับจังหวะเท้า?”

'จังหวะเท้าหรอ...’

จังหวะเท้าก็คือวิธีการก้าวเดิน

จังหวะเท้าเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเคลื่อนย้ายร่างกายในทุกๆ สถานการณ์ ทั้งโจมตี ป้องกันหรือแม้กระทั่งการหลบหลีกและวิ่งหนี

"ผมคิดว่ามันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สำคัญที่สุด สามารถกำหนดความเป็นความตายของนักรบได้ครับ”

“อืม...”

เกล็นพยักหน้าเล็กน้อย บางทีเขาอาจจะพอใจกับคำตอบหรือบางทีเขาอาจจะไม่พอใจ ราอนไม่สามารถบอกได้

"แล้วเธอใช้จังหวะเท้าอะไรในการต่อสู้กับปีศาจนักรบและปีศาจกระหายเลือด?”

"ผมใช้จังหวะสายน้ำครับ”

และได้ใช้ก้าวไร้เงาผสมกับจังหวะสายน้ำด้วย แต่เขาไม่อยากพูดถึงมัน

"จังหวะสายน้ำเป็นเทคนิคที่ดี แต่มันเป็นเพียงท่าพื้นฐานเท่านั้น”

เขาพูดถูกทุกอย่าง

ในทางกลับกัน'ก้าวไร้เงา'เป็นจังหวะเท้าที่มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงและการย่องเบา ซึ่งเหมาะกับการลอบโจมตีเพียงอย่างเดียว

ในตอนแรกเขาวางแผนที่จะขอท่าจังหวะเท้าอันใหม่กับแผ่นจารึกอีกสักแผ่น แต่แผนของเขาล่มไปแล้ว

“ราอน”

ตอนที่เขากำลังคิดอย่างหงุดหงิด เกล็นก็เรียกชื่อของเขาอีกครั้ง

"รางวัลที่ให้ไปเมื่อกลางวันคือรางวัลของการจัดการกับพวกปีศาจ แต่ฉันยังไม่ได้ให้รางวัลสำหรับการบอกจุดประสงค์ของพวกมัน”

ราอนกลืนน้ำลายอย่างคาดหวัง

"ฉันจะสอนจังหวะเท้าให้เธอ เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการค้นพบจุดประสงค์ของพวกมัน”

เกล็นลุกขึ้นจากบัลลังก์ ราอนรู้สึกเหมือนกับได้ยืนหน้าภูเขาที่สูงที่สุดในทวีปนี้ ภูเขาเออร์ลาสต์

เกล็นเดินลงมาจากแท่น และค่อยๆ จัดท่าทาง ท่าทางของเขาทำให้รู้สึกว่าเขายิ่งใหญ่ราวกับขุนนางและแข็งแกร่งราวกับนายพล

"ดูดีๆ ล่ะ ฉันจะแสดงให้ดูแค่ครั้งเดียว”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด