ตอนที่แล้วบทที่ 131 -  อารัมภบท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 133 - ชาวไซย่ามาเยือน

บทที่ 132 - ร่องรอยของเผ่าปีศาจน้ำแข็งและการหวนคืน


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 132 - ร่องรอยของเผ่าปีศาจน้ำแข็งและการหวนคืน

"โอ้? ทำไมเป็นเช่นนั้นล่ะ?” เบจิต้าอยากรู้อยากเห็นมาก

“ข้าก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น …” ราดิชกล่าวตอบ“ทว่าเท่าที่ข้าจำได้ ข้าเคยได้ยินท่านพ่อและท่านแม่พูดเมื่อตอนที่ข้ายังเป็นเด็ก ราชาลิงค์นั้นกล่าวว่าคาคารอจะกลายเป็นอนาคตของพวกเราชาวไซย่ากระมัง?”

“อนาคตของชาวไซย่า?” น้ำเสียงของเบจิต้าดูน่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง “ข้าจำได้ว่าระดับพลังของน้องชายเจ้ามีเพียง 10 เมื่อเกิดมาใช่ไหม? ทำไมราชาลิงค์ถึงพูดเช่นนั้นกัน?”

“ที่ท่านเบจิต้าพูดถูกต้องแล้ว ทว่าข้าจดจำคำพูดของท่านพ่อและท่านแม่ได้แม่น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดพลาดแน่นอน”

เมื่อเห็นราดิชมั่นใจมาก เบจิต้าก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและจากนั้นเสียงของเขาก็ดังมาจากเครื่องมือสื่อสาร “ตกลงราดิช ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไปโลกกันเถอะ!”

“ท่านต้องการชักชวนคาคารอทเข้าทีมเรางั้นหรือ?”

"ไม่!" เบจิต้าแค่นเสียง “ข้าแค่จะไปดูว่าเขาเป็นคนแบบไหนถึงได้รับการยกย่องจากราชาลิงค์เช่นนี้!”

ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองคนที่เพิ่งกลับมาที่ดาวเคราะห์เบจิต้าก็ขึ้นยานอวกาศของพวกเขาอีกครั้งและบินไปยังดาวเคราะห์โลก

ทว่าเมื่อยานอวกาศของทั้งสองออกจากกาแล็กซีที่ดาวเคราะห์เบจิต้าตั้งอยู่ …..

ทันใดนั้นยานอวกาศรูปแผ่นจานก็ปรากฏขึ้นจากขอบของกาแล็กซีอันดำทะมึน

ในยานอวกาศ เอเลี่ยนหลายตัวในชุดเกราะต่อสู้กำลังเฝ้ามองยานอวกาศทั้งสองด้วยอุปกรณ์ของพวกเขา

“ยานอวกาศของชาวไซย่ากำลังออกจากดาวเคราะห์ไปแล้ว! ตรวจสอบหมายเลขตัวยานอวกาศ…มันเป็นยานอวกาศของเบจิต้าและราดิช!”

“สองคนนั้นหรือ? พวกเขาเพิ่งทำภารกิจเสร็จไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกเขาถึงออกไปข้างนอกอีกครั้งกัน? เจ้าสามารถระบุจุดหมายปลายทางของพวกเขาได้หรือไม่?”

“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปทางกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งตั้งอยู่สุดขอบจักรวาล…โอ้ จริงสิ ยานอวกาศของบาร์ดัคก็ไปในทิศทางนั้นเช่นกัน ข้าจำได้ว่าพวกเขาไปที่ดาวเคราะห์ที่ถูกเรียกว่าโลก!”

“โลกหรือ? นั่นคือสถานที่ที่บาร์ดัคไปทุกปีใช่ไหม? ที่นั่นมันมีบ้าอะไรกัน?”

“ข้าไม่รู้ รายงานเรื่องนี้ต่อฝ่าบาทเถอะ! ฝ่าบาทตรัสว่าไม่ว่าเรื่องจะเล็กน้อยเพียงใด ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับชาวไซย่าก็ต้องส่งมันไปให้เขา…”

ในไม่ช้า สัญญาณสื่อสารก็ได้ถูกส่งข้ามทางช้างเผือกไปยังดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลออกไปในพื้นที่ตะวันออก

พื้นที่ทางตะวันออกตรงจุดนี้ เป็นศูนย์บัญชาการของกองทัพที่จัดตั้งขึ้นโดยคูลเลอร์

มียานอวกาศทรงกลมได้เข้ามาและออกไปนอกชั้นบรรยากาศอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้ากว้างใหญ่ถูกปกคลุมด้วยยานอวกาศทุกขนาด จนดูติดขัดไปหมด

นับตั้งแต่ที่คูลเลอร์ต้องหนีไปด้วยความอับอายในระหว่างการต่อสู้กับหลินเฉินเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กองกำลังคูลเลอร์ก็ได้หยุดสิ่งที่พวกเขาทำและเลือนหายไปจากฉากหน้าทันที

ทุกคนต่างคิดว่ากองกำลังคูลเลอร์อาจเลือนหายไปเช่นเดียวกับกองกำลังฟรีเซอร์ที่สลายตัว เพราะว่าราชาคูลเลอร์ไม่ได้ปรากฏหน้าฉากมานานแล้ว

ทว่ายามนี้เอง กองกำลังคูลเลอร์ที่เงียบหายไปนานได้กลับมาเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

แม้ว่ากองกำลังคูลเลอร์จะไม่ได้ออกไปรุกรานดาวเคราะห์ภายนอก แต่พวกเขาก็ยังรับสมัครทหารและสร้างยานอวกาศอยู่เสมอ

นอกเหนือจากนี้ คูลเลอร์ยังคัดเลือกกองกำลังบางส่วนจากกองกำลังฟรีเซอร์ในอดีตเข้ามาด้วย

เนื่องจากการตายของฟรีเซอร์ กองกำลังฟรีเซอร์ที่ปกครองพื้นที่ทางเหนือแต่เดิมจึงได้สลายตัวไป แต่ยามนี้ส่วนหนึ่งของมันได้ถูกนำมาอยู่ภายใต้คำสั่งของคูลเลอร์แล้ว

ในพื้นที่ตรงกลางสำนักงานใหญ่ของคูลเลอร์ มนุษย์ต่างดาวรีบวิ่งเข้ามายังพระราชวังของคูลเลอร์พร้อมกับข้อมูลชิ้นหนึ่ง

บนแท่นสูงกว่าสิบเมตร คูลเลอร์กำลังนั่งอยู่อย่างเงียบๆ ในยานคล้ายรูปไข่ของเขา เขามองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเขา

บนหน้าจอ มีภาพดาวเคราะห์สีขาวอยู่ พื้นผิวของมันเป็นโลหะโดยสมบูรณ์

คูลเลอร์ถือแก้วน้ำที่เต็มไปด้วยของเหลวสีแดงเข้มในมือ พร้อมกับเผยรอยยิ้มที่เย็นชาและชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา

ในยามนั้นเอง เอเลี่ยนจากศูนย์สื่อสารก็ได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่เอเลี่ยนจะเข้ามาใกล้ ทั้งสามคนที่เป็นคนจากฝูงบินหุ้มเกราะคูลของคูลเลอร์ก็ได้ขวางทางเขาไว้

"มีเรื่องอะไรกัน?" เซาเซอร์เอ่ยถาม

“นายท่าน เป็นข้อความจากกองกำลังลับที่เฝ้าดูดาวเคราะห์เบจิต้าขอรับ พวกเขาสังเกตเห็นว่าชาวไซย่าที่ชื่อเบจิต้ากำลังไปยังดาวเคราะห์ที่มีชื่อเรียกว่าโลก”

“เบจิต้า?” เซาเซอร์ชะงักไป

“เป็นชาวไซย่าที่ว่ากันว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นซูเปอร์ไซย่ามากที่สุดในหมู่คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นลูกชายของอดีตราชาเบจิต้าสินะ”

ทันใดนั้น เสียงของคูลเลอร์ก็ดังขึ้นจากด้านหลังเซาเซอร์

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กลุ่มฝูงบินหุ้มเกราะคูลและเอเลี่ยนตนนี้ก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที

คูลเลอร์ที่เฝ้าดูหน้าจออยู่ค่อยๆ ลอยตัวไปและถามขึ้นมา “ข้อมูลมีอะไรบ้าง? ข้าต้องการทราบรายละเอียดทั้งหมด”

"ขอรับ!"

มนุษย์ต่างดาวเริ่มเล่าข้อมูลที่ส่งมาจากกองกำลังสอดแนมอย่างรวดเร็ว

ปรากฎว่าตั้งแต่การต่อสู้บนดาวเคราะห์อิฟริต กองทัพของคูลเลอร์อาจจะดูมีกำลังลดลง แต่แท้จริงแล้วคูลเลอร์ได้ส่งกองกำลังลับไปแอบเฝ้าติดตามทุกการเคลื่อนไหวของชาวไซย่าที่อยู่ใกล้กับดาวเคราะห์เบจิต้า

กองกำลังนี้เฝ้าติดตามดาวเคราะห์เบจิต้ามาหลายปีแล้ว นอกเหนือจากการสังเกตการณ์จากระยะไกลแล้ว บางครั้งพวกเขาก็จะปลอมตัวเป็นสมาชิกของพันธมิตรค้าขายระหว่างจักรวาลและไปที่ดาวเคราะห์เบจิต้าเพื่อสอดแนมอย่างใกล้ชิด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คูลเลอร์ก็ยังได้รู้ความลับมากมายของดาวเคราะห์เบจิต้า

รวมทั้งเรื่องที่ดาวเคราะห์เบจิต้ามีซูเปอร์ไซย่าสามคนและศึกชิงจ้าวยุทธภพของชาวไซย่าถูกจัดขึ้นบนดาวเคราะห์เบจิต้า ข่าวพวกนี้ทั้งหมดต่างถูกส่งไปยังคูลเลอร์

เหตุผลที่คูลเลอร์ทำเช่นนี้ ก็เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแก้แค้นชาวไซย่าในสักวันหนึ่ง

ซึ่งยามนี้ ดูเหมือนจะถึงเวลาที่จะเปิดศึกชำระหนี้แค้นแล้ว

“เซาเซอร์ ข้าจำได้ว่าจากข่าวกรองที่ผ่านมา ลิงค์ไม่ได้ปรากฏตัวบนดาวเคราะห์เบจิต้ามาเป็นเวลานานแล้วใช่ไหม?” คูลเลอร์เอ่ยถาม

“ขอรับนายท่าน” เซาเซอร์ก้มศีรษะลง “ตั้งแต่หนึ่งปีที่แล้ว ไม่มีข่าวคราวของลิงค์ ราชาแห่งชาวไซย่าเลย ข้าได้ยินมาว่ากองกำลังสอดแนมได้เข้าไปในดาวเคราะห์เบจิต้าหลายครั้งเพื่อตรวจสอบแล้ว แต่ไม่มีร่องรอยของเขาสักนิดเดียว นอกจากนี้ราชินีฮานาเซียยังได้รับการยืนยันว่าได้ออกไปกับลิงค์แล้วขอรับ”

“ฮ่าๆ ๆ ๆ… ถ้าอย่างนั้นยามนี้ก็มีซูเปอร์ไซย่าเพียงคนเดียวบนดาวเคราะห์เบจิต้าสินะ?”

คูลเลอร์หรี่ตาลง ความเย็นยะเยือกที่คล้ายกับจะสามารถแช่แข็งวิญญาณของเซาเซอร์และเอเลี่ยนทั้งหมดคล้ายกับปรากฏขึ้น

“นายท่าน มันอาจไม่เป็นเช่นนั้น!” มนุษย์ต่างดาวก้มศีรษะลงและรายงานต่อ “ตามข่าวกรองในปัจจุบัน ซูเปอร์ไซย่าบาร์ดัคก็ได้ออกจากดาวเคราะห์เบจิต้าไปแล้ว หลังจากสอดแนมมาสักพัก ทางกองกำลังสอดแนมของเราก็คิดว่าเขาไปที่โลกเช่นกัน”

“โลก? โลกอีกแล้วเหรอ? ดาวเคราะห์ดวงนั้นมีอะไรพิเศษกัน? เซาเซอร์?”

“นายท่านโปรดรอสักครู่ …” เซาเซอร์กดปุ่มสองสามครั้งและเหลือบมองข้อมูลบนนั้น “นายท่าน ตามข้อมูลแล้ว โลกเป็นดาวเคราะห์ระดับต่ำที่ขอบของพื้นที่ทางเหนือและมันไม่มีค่าอะไรเลย”

.

“แล้วทำไมชาวไซย่าพวกนี้ถึงไปยังโลกกันล่ะ?” คูลเลอร์ถาม

“เรื่องนี้…” เซาเซอร์ตอบไม่ได้

เมื่อเขาเอามือไพล่หลัง คูลเลอร์ก็ลอยออกจากยานขนาดเล็กของตนและลงมายังบนพื้น

ทันใดนั้นก็ได้มีประกายในรูม่านตาสีแดงโลหิตของเขา

“เซาเซอร์ รวบรวมกองทัพทั้งหมด เรากำลังจะไปยังโลก!”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด