ตอนที่แล้วบทที่ 65 การต่อสู้กับเหล่านักฝึกสัตว์อสูรชั้นยอด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 67 ออร่าแห่งราชา

บทที่ 66 การแข่งขัน


หลังจากที่ซืออวี๋และประธานเฟิงนมาถึงที่หมายของพวกเขา สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ก็ต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น

ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้ากลมโตสีแดงได้ทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

“เฒ่าเฟิง ในที่สุดเจ้าก็มาถึง”

เมื่อกล่าวเช่นนั้น เขาก็มองไปที่ซืออวี๋ผู้ที่ยืนอยู่ข้างประธานเฟิงและกล่าวว่า “นี่ต้องเป็นอัจฉริยะที่พิชิตด่านที่สี่ของซากปรักหักพังในเขตผิงเฉิง”

“เขาดูมีพรสวรรค์มาก”

“ฮ่าๆๆ… เขาชื่อว่าซืออวี๋” ประธานเฟิงยิ้มออกมา

อย่างไรก็ตาม ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ไร้คำกล่าว แต่ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ก็หวังว่าเขาจะร้องไห้ในภายหลัง!

แม้ว่าทุกคนจะดูสนิทสนมกัน แต่ทุกคนก็ต้องแบ่งทรัพยากรของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ร่วมกัน…

โดยพื้นฐานแล้ว นี่คือการแข่งขันอย่างลับๆ เพื่อซากปรักหักพัง

เขตอื่นไม่คิดว่าเขตผิงเฉิงจะสามารถสำรวจซากปรักหักพังได้สำรวจ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเปิดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์

ในการแข่งขันเพื่อเข้าสู่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ ประธานทุกคนต้องการดูว่ามือใหม่ของเขตไหนแข็งแกร่งที่สุด

ในด้านหนึ่ง การจัดอันดับนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของแต่ละเขตที่จะโจมตีซากปรักหักพังในภายหลัง

ในขณะนี้ ประธานเฟิงก็หวังอย่างมากว่าซืออวี๋จะแสดงผลงานได้ดียิ่งขึ้น

เขาไม่ต้องการให้ซากปรักหักพังของเขตผิงเฉิงถูกยึดครองโดยเขตอื่น…

“สวัสดี ประธานซุน”

ในเวลาเดียวกัน ซืออวี๋ก็ทักทายกลับเช่นกัน

เหตุผลก็เรียบง่ายมาก นั่นเป็นเพราะประธานซุนมีรสนิยมที่ดีและสามารถบอกได้ว่าเขามีพรสวรรค์

“เอาล่ะ รีบไปที่ห้องโถงกันเถอะ มีงานเลี้ยงต้อนรับอยู่ที่นั่น ทุกคน กินให้อิ่มและพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์” ประธานซุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ในห้องโถงจัดเลี้ยง เหล่าประธานและตัวแทนมือใหม่ของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรอื่นก็อยู่ด้วยเช่นกัน

เมื่อประธานคนอื่นเห็นประธานเฟิงมาถึง พวกเขาก็ทักทายเขาอย่างอบอุ่นในทันทีด้วยคำว่า ‘เฒ่าเฟิง’

สำหรับนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดคนอื่นที่อายุไม่ถึง 20 ปี พวกเขาไม่สนใจประธานเฟิงซึ่งเป็นชายวัยกลางคนจากเขตที่ห่างไกล ความสนใจของพวกเขาตกอยู่ที่ซืออวี๋ผู้ที่หล่อเหลา

“ตัวแทนของเขตผิงเฉิงได้ถอดรหัสสี่ในหกด่านของซากปรักหักพังในเขตผิงเฉิง…”

“เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่เก่งมาก เราสามารถทดสอบความสามารถของเราผ่านเขาได้”

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กล่าวออกมาเสียงดัง แต่มือใหม่ทุกคนและแม้กระทั่งประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรอื่นก็ปฏิบัติกับซืออวี๋เช่นนี้

ในฐานะ ‘ผู้โชคดี’ ในเขตผิงเฉิง ซืออวี๋เป็นคนแรกที่สัมผัสกับซากปรักหักพังและได้รับผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ได้พิชิตซากปรักหักพังอย่างสมบูรณ์ นี่เป็นตัวทดสอบที่เหมาะสมสำหรับการแข่งขัน

ในขณะนี้ หากตัวแทนมือใหม่จากอีกแปดเขตต้องการหาคนต่อสู้ คนผู้นั้นก็คงจะเป็นซืออวี๋อย่างแน่นอน

“ข้ารู้สึกว่าสายตาของพวกเขาดูไม่เป็นมิตรเล็กน้อย…”

ซืออวี๋ก็สังเกตคนอื่นเช่นกัน มีหนุ่มสาวแปดคนในวัยยี่สิบปี แบ่งเป็นชายหกคนและหญิงสองคน

อืมม… พวกเขาไม่ได้ดูอ่อนแอ พวกเขาทุกคนควรจะแข็งแกร่งกว่าเฉิงกงใช่ไหม?

เขาหวังว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะทำให้เขาพอใจ

ด้วยเรื่องนี้ ความพยายามและการเพิ่มแต้มของเขาจะไม่สูญเปล่า

“ซืออวี๋ ให้ข้าแนะนำเจ้า”

จากนั้นประธานเฟิงก็เริ่มแนะนำประธานคนอื่นให้แก่ซืออวี๋

ในเวลาเดียวกัน ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรอื่นก็ได้แนะนำมือใหม่ของพวกเขาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การแนะนำพื้นฐานนี้เป็นเพียงการแนะนำแบบผิวเผินเท่านั้น ไม่มีใครได้รับข้อมูลที่มีค่าจากอีกฝ่าย

ในไม่ช้า ความสนใจของทุกคนก็อยู่ที่บุฟเฟ่ต์อาหาร

เขาไม่รู้ว่าคนอื่นหิวไหม แต่ซืออวี๋ผู้ที่นั่งรถมาตลอดทางและไม่ได้กินอะไรมากนักในตอนเช้านั้นหิวมาก

ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มกินอาหารในไม่ช้า

ซืออวี๋ตระหนักว่าผู้คนในตงหวงก็นิสัยประจำตัวเช่นกัน พวกเขาไม่เงียบในระหว่างการกินข้าวและชอบพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ ในขณะที่พวกเขากิน

มือใหม่จากเก้าเขตนั้นปกติ แต่นั่นก็เป็นเพราะว่ามีพี่ใหญ่หลายคนอยู่ที่นี่จึงเป็นผลให้พวกเขาดูถ่อมตัว เขินอาย และเงียบมาก

อย่างไรก็ตาม ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรทั้งเก้าก็เริ่มหารือเกี่ยวกับลำดับการเข้าสู่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์อย่างตื่นเต้นในขณะที่พวกเขากำลังกิน

“กล่าวตามตรง ให้พวกเขาทุกคนผลัดกันต่อสู้ ในตอนท้าย เราจะตัดสินลำดับในการเข้าสู่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ตามคะแนนดีไหม?”

“สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ของเราจะมอบทรัพยากรฟื้นฟูและการรักษาแก่สัตว์อสูร เรารับประกันว่าพวกมันจะอยู่จุดสูงสุดในทุกการต่อสู้”

ประธานซุนแห่งสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ก็ได้เสนอแนะเช่นกัน

“นี่ไม่ช้าเกินไปเหรอ?”

ประธานเลียนส่ายหัวของเขาและกล่าวว่า “พวกเขาเก้าคนผลัดกันต่อสู้… นั่นจะใช้เวลานานแค่ไหนกัน?”

นี่คือตัวอย่างของคนใจร้อน

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของเขาก็ได้รับการยอมรับจากคนอื่น

แม้แต่ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็ต้องการรู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวแทนของพวกเขาเช่นเดียวกัน

พวกเขาทุกคนเป็นนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ พวกเขาไม่มีความปรารถนาที่จะดูการแข่งขันของมือใหม่มากนัก

เมื่อเทียบกันแล้ว พวกเขาสนใจผลลัพธ์มากกว่า

ตราบใดที่ได้ผลลัพธ์ ขั้นตอนก็ไม่สำคัญ

“ใช้รูปแบบการต่อสู้สนามประลอง ใครก็ตามที่ต้องการเป็นคนแรกที่เข้าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จะต้องป้องกันสนามประลอง”

“ผู้ที่ไม่ยอมรับเรื่องนั้นจะโจมตีผู้ที่อยู่ในสนามประลอง”

“วิธีนี้สามารถรับประกันได้ว่าทุกคนจะมีโอกาสและลดการต่อสู้ที่ไม่จำเป็น”

ประธานเลียนได้เสนออีกวิธีหนึ่ง ความหมายนั้นชัดเจนมาก ใครก็ตามที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของพวกเขาควรขึ้นไปและป้องกันสนามประลอง หลังจากแสดงความแข็งแกร่งของพวกเขาในการต่อสู้หนึ่งหรือสองครั้งแล้ว บางคนที่รู้ขีดจำกัดของตัวเองก็จะสามารถเข้าใจความแตกต่างได้

ในเวลานั้น เมื่อเทียบกับการเสียเวลาต่อสู้แล้ว การยอมแพ้ในสนามประลองโดยตรงจะดีกว่ามาก ด้วยวิธีนี้จะสามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้หลายครั้งได้ในคราวเดียว

เมื่อกล่าวจบ เขาก็เหลือบมองตัวแทนของเขา ชายหนุ่มผมสั้นในชุดต่อสู้สีขาว เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวแทนมือใหม่ของเขามาก

“ตกลง”

ข้อเสนอของประธานเลียนได้รับการสนับสนุนจากประธานคนอื่นในทันที

ความคิดนี้ดีมาก

“ถ้าเช่นนั้น ใครจะเป็นคนป้องกันสนามประลองคนแรกล่ะ?” ประธานซุนกล่าวออกมา

หลังจากที่เขากล่าวจบ มือใหม่ก็ยังคงเขินอาย

ท้ายที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมาก แต่ความกดดันก็ยังมากเกินไปที่จะเป็นคนแรกที่ออกไปและป้องกันสนามประลอง

“ข้าเอง”

เมื่อไม่มีใครตัดสินใจ ซืออวี๋ผู้ที่เพิ่งกินสเต็กเสร็จและวางมีดลงอย่างเงียบสงบก็ได้กล่าวออกมา

“ข้าจะเป็นคนแรกที่ป้องกันสนามประลองเอง” ซืออวี๋กล่าวในขณะที่เงยหน้าขึ้นมา

ความคิดที่จะเป็นคนแรกของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที

“เอ่อ”

ชายผู้นี้ดุร้ายอย่างแท้จริง

ประธานเฟิงตกตะลึง จากนั้นเขาก็รีบออกมาอย่างรวดเร็วและแสดงการสนับสนุนของเขา

ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรคนอื่และตัวแทนมือใหม่ก็ตกตะลึงเช่นกัน จากนั้น พวกเขาก็คิดในใจว่า

“ชายผู้นี้… ฉลาดมาก”

ในเวลานี้ ใครก็ตามที่ป้องกันสนามประลองคนแรกจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าซืออวี๋เลย มีเพียงนักฝึกสัตว์อสูรผู้ที่เข้าไปในซากปรักหักพังแล้วเท่านั้นถึงเป็นตัวทดสอบที่เหมาะสมที่สุด

ด้วยตัวทดสอบเช่นซืออวี๋ ทุกคนจะสามารถคาดเดาระดับคร่าวๆ ของพวกเขาได้ในการสำรวจซากปรักหักพัง

“ดีมาก เจ้ากล้าหาญอย่างแท้จริง”

ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรต่างก็ชื่นชมซืออวี๋ทีละคน หลังจากกล่าวเช่นนั้น พวกเขาก็เริ่มให้ความรู้แก่อัจฉริยะของพวกเขาว่า “พวกเจ้าควรเรียนรู้มากยิ่งขึ้น”

แน่นอน ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องน่ายินดี… ทุกคนกำลังรอการต่อสู้ในช่วงบ่าย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก ทุกคนก็กินข้าวเสร็จ เหล่าประธานล้วนเป็นผู้ที่มีงานรัดตัว ดังนั้นพวกเขาย่อมหวังให้ผลลัพธ์ปรากฎออกมาให้เร็วที่สุด

ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนผักพ่อนหลังกินอาหารสักพัก พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเริ่มการแข่งขัน

ในอาคารของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ในสนามประลองขนาดเท่ากับสนามกีฬา

ที่นี่มีสนามประลองหินอย่างแท้จริง

นอกเหนือจากผู้แข่งขันสองคนแล้ว คนอื่นก็สามารถดูการต่อสู้ได้จากที่นั่งได้

“เรามาเริ่มกันเลย และจะไม่มีผู้ตัดสิน”

ด้วยนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์เก้าคนที่นี่ ไม่สำคัญว่าจะมีผู้ตัดสินหรือไม่ การต่อสู้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างแน่นอน

นอกเหนือจากการพิจารณาผลลัพธ์การต่อสู้แล้ว จุดประสงค์หลักของผู้ตัดสินก็คือเพื่อความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย

ท้ายที่สุด การควบคุมความเร็วของสัตว์อสูรในการต่อสู้เป็นเรื่องยากมาก หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดการบาดเจ็บ แม้กระทั่งนักฝึกสัตว์อสูรก็อาจได้รับบาดเจ็บ

ผู้ตัดสินที่โดดเด่นจะสามารถกำจัดปัจจัยที่ไม่แน่นอนทั้งหมดได้อย่างแน่นอน

ชายหนุ่มร่างสูงและหล่อ ในฐานะคนป้องกันสนามประลองก็ได้ขึ้นไปบนสนามประลองเป็นคนแรก

แม้ว่าจะมีคนดูไม่มากนัก แต่พวกเขาล้วนเป็นพี่ใหญ่ กลุ่มนักฝึกสัตว์อสูรชั้นนำในเมืองทุ่งน้ำแข็งล้วนนั่งอยู่ที่นี่

ซืออวี๋รู้สึกว่านั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ความกดดันไม่สูงมากนัก

ในคำกล่าวของหลู่ชิงอี้ เมื่อเขาสำรวจซากปรักหักพังมังกรน้ำแข็งในอนาคต เขาจะสามารถเรียกคนทั้งเก้าเหล่านี้ให้เป็นผู้คุ้มกันของเขาได้โดยตรง

“ซืออวี๋ นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดที่ทรงพลังที่สุดในเขตผิงเฉิง”

“ด่านที่สามของซากปรักหักพังคือยักษ์เกราะน้ำแข็งเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการชั้นต่ำที่มีการเติบโตระดับปลุกตื่นขั้นสิบ”

“ด่านที่สี่ของซากปรักหักพังคือสัตว์อสูรดุร้ายธาตุน้ำแข็ง 50 ตัว…”

“หากเขาสามารถผ่านด่านที่สี่ได้ เขาต้องแข็งแกร่งมาก”

เหล่ามือใหม่ในปัจจุบันก็รู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับซืออวี๋ ท้ายที่สุด ข้อมูลของซากปรักหักพังได้เชื่อมต่อกันในเมืองทุ่งน้ำแข็ง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซืออวี๋มากนัก

ดังนั้นแม้ว่าทุกคนจะมองว่าซืออวี๋ตัวทดสอบ แต่พวกเขาก็รู้สึกกดดัน

หากพวกเขาไม่สามารถเอาชนะคนผู้นี้ได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่มีความหวังที่จะผ่านด่านที่สี่ของซากปรักหักพังได้ใช่ไหม?

ไม่ต้องกล่าวถึงด่านที่ห้าและด่านที่หก…

ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความคิดแรกของทุกคนก็คือการเอาชนะซืออวี๋อย่างท้วมท้นและพิสูจน์ความแข็งแกร่งของพวกเขา

จากนั้นก็เข้าสู่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ และพิชิตซากปรักหักพัง

“ใครจะเป็นคนโจมตีคนแรก?” เหล่าประธานมองไปที่ตัวแทนมือใหม่ที่อยู่ข้างพวกเขา

การต่อสู้ก่อนมีข้อเสียอย่างแท้จริงซึ่งก็คือเมื่อเผ่าพันธุ์ ทักษะ และรูปแบบการต่อสู้ของสัตว์อสูรแสดงออกมาจนหมด การที่คู่ต่อสู้คนต่อไปจะกำหนดกลยุทธ์การต่อสู้ล้วงหน้าก็เป็นเรื่องง่ายมาก ผู้ท้าชิงคนแรกจะต้องทุกข์ทรมาณในการต่อสู้ต่อไปอย่างแน่นอน

“ข้าเอง”

ชายหนุ่มในชุดต่อสู้สีขาวข้างประธานเลียนผู้ที่เสนอแนะการต่อสู้สนามประลองได้กล่าวออกมา

“ถ้าเช่นนั้นเราก็มาเริ่มกันเลย ไป่ฉี ทำให้ดีล่ะ” ประธานเลียนยิ้มให้แก่เขา

“ตกลง” ชายหนุ่มที่ชื่อว่าไป่ฉีพยักหน้า

“เริ่มเลย”

ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นกล่าวอย่างเฉยเมย ไม่ว่ายังไง นี่ก็คือการต่อสู้สนามประลอง ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนแรก

เมื่อกล่าวจบ พวกเขาก็มองไปที่ไปฉี

ทุกคนไม่คุ้นเคยกับไป่ฉีมากนัก

เขามาจากเขตที่ราบขาวในพื้นที่ศูนย์กลางของเมืองทุ่งน้ำแข็ง พ่อของเขาเป็นนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ และอาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นทายาทรุ่นสอง

จากความจริงที่ว่าลูกสาวของนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ หลินฮงเหนียนได้ผ่านการประเมินมืออาชีพในตอนอายุ 18 ปี ด้วยอสูรกินเหล็กเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติชั้นกลาง ใครก็สามารถบอกได้ว่าความแข็งแกร่งของทายาทรุ่นสองเหล่านี้ทรงพลังมากเพียงใด

กล่าวโดยย่อ ลูกชายและลูกสาวของนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์นั้นดีกว่าคนอย่างเฉิงกงซึ่งเป็นเพียงหลานชายของประธานเฟิงอย่างแน่นอน

จากนั้น ชายหนุ่มในชุดต่อสู้สีขาวก็เดินลงมาที่สนามประลองอย่างช้าๆ และมายืนตรงข้ามซืออวี๋

ในขณะนั้นเอง คนดูทั้ง 16 คน ไม่ว่าจะเป็นเหล่ามือใหม่หรือเหล่าปรมจารย์ก็ล้วนมุ่งความสนใจไปที่พวกเขาทั้งสองคน

การต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด