ตอนที่แล้วบทที่ 64 น้ำพุศักดิ์สิทธิ์วิวัฒนาการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 66 การแข่งขัน

บทที่ 65 การต่อสู้กับเหล่านักฝึกสัตว์อสูรชั้นยอด


“เมื่อไหร่?”

ซืออวี๋เอ่ยถามในทันที

เขารู้สึกว่าเขาควรจะท้าทายซากปรักหักพังหลังจากแช่ในน้ำพุศักดิ์สิทธิ์

มิฉะนั้น หากเขาถอดรหัสซากปรักหักพังได้ก่อนและเขาไม่ได้โอกาสในการแช่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เขาคงจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่

แน่นอน นี่เป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น หากซากปรักหักพังนี้มีความสำคัญมากและเขาพิชิตมันได้ เขาจะไม่ละทิ้งเรื่องนั้นเพื่อไปแช่น้ำพุนานเกินไป

“อีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ ท้ายที่สุด เราต้องให้เวลาสมาคมอื่นในการคัดเลือกนักฝึกสัตว์อสูรเช่นกัน”

ประธานเฟิงเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อว่า “ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะส่งนักฝึกสัตว์อสูรประเภทไหนมา…”

กล่าวตามตรง ประธานเฟิงก็ไม่มั่นใจเช่นกัน

แม้ว่าพรสวรรค์ของซืออวี๋จะไม่ธรรมดา แต่เขาก็ยังไม่สบายใจหากทายาทรุ่นสองโผล่ออกมาพร้อมกับสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการที่ทำสัญญามาตั้งแต่แรก

เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับสถานการณ์ของเหล่านักฝึกสัตว์อสูรหน้าใหม่ในเขตและเมืองอื่นมานานแล้ว เขาจึงบอกไม่ได้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นยังไง

เขารู้เพียงแค่ว่าเฉิงกงไม่ใช่นักเรียนที่ดีที่สุดในโรงเรียนของเขา เฉิงกงเป็นแค่นักเรียนชั้นนำเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ทรัพยากรเช่นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการดูดซับ แม้ว่าจะไม่ได้แช่คนแรก แต่ผลลัพธ์ก็อาจไม่เลวร้ายเกินไป

ประธานเฟิงพยักหน้า

“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ข้ามีเวลาเตรียมตัวหนึ่งสัปดาห์”

“ใช่แล้ว เจ้าควรจะเตรียมตัวให้พร้อม สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตผิงเฉิงจะแจกจ่ายทรัพยากรเงินสด 1 ล้านหยวนให่แก่เจ้าก่อน”

“สำหรับทรัพยากรอื่น หากเจ้าต้องการอะไร เจ้าสามารถขอได้โดยตรง”

ประธานเฟิงจิบชาอีกครั้ง

1 ล้านหยวน!

ดวงตาของซืออวี๋เปล่งประกาย แม้ว่ามันจะไม่มากนัก แต่ก็ไม่น้อยเช่นกัน

อย่างน้อยที่สุด มันก็สามารถทดแทนค่าอาหารเสริมในช่วงนี้ได้โดยตรง

“ตกลง” ซืออวี๋พยักหน้า

“ข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว”

“น่าเสียดายที่เฒ่าหลินไม่ว่าง มิฉะนั้น เขายังคงสามารถให้คำแนะนำแก่เจ้าได้”

“แม้ว่าข้าจะไม่เคยบ่มเพาะอสูรกินเหล็กมาก่อน แต่หากเจ้ามีปัญหาอะไร เจ้าสามารถมาหาข้าได้โดยตรง”

ประธานเฟิงส่ายหัวและวางถ้วยชาลง

“ตกลง” แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการคำแนะนำ แต่ซืออวี๋ก็ยังขอบคุณประธานเฟิง

เขาไม่มีคำขอพิเศษ เมื่อถึงเวลา เขาจะขอให้ประธานเฟิงนำสัตว์อสูรทุกตัวของประธานเฟิงออกมาและเปิดโลกทัศน์ของเขา

จากนั้น ประธานเฟิงก็จากไป

หลังจากที่ซืออวี๋ส่งประธานเฟิงจากไป เขาก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึกในลานบ้าน

เขายังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งสัปดาห์…

เพื่อให้ตำแหน่งของเขามั่นคงและต่อสู้เพื่อโควต้าในการแช่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ของอีเลฟเว่น เขาควรจะฝึกฝนให้มากขึ้น

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

นอกเหนือจากการไปศูนย์ฝึกศิลาไผ่สองสามครั้งแล้ว เขาก็ได้ฝึกฝนอยู่ที่บ้านเสมอ

หลังจากไปเยี่ยมชมศูนย์ฝึกศิลาไผ่ไม่กี่ครั้ง ซืออวี๋ก็ได้เรียนรู้ว่าปรมจารย์หลินฮงเหนียนและรุ่นพี่หลินซิ่วจูไม่ได้อยู่ที่เขตผิงเฉิง…

ฝ่ายแรกออกไปทำภารกิจ ในขณะที่ฝ่ายหลังดูเหมือนว่าจะกลับไปมหาวิทยาลัยเพื่อทำบางสิ่ง

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีใครมาเอ่ยถามเขาด้วยความตกตะลึงหลังจากข่าวที่เขาเชี่ยวชาญทักษะผสานแพร่กระจายออกไป พวกเขาไม่อยู่นี่เอง น่าเบื่อมาก!

ด้วยการที่มีคนคุ้นเคยไม่กี่คน ชีวิตของซืออวี๋จึงน่าเบื่ออย่างมาก เขาทำได้เพียงแค่บ่มเพาะ

ในชั่วพริบตา หนึ่งสัปดาห์ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

คุณสมบัติของอีเลฟเว่นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

[ชื่อ] : อสูรกินเหล็ก

[คุณสมบัติ] : โลหะ

[ระดับการเติบโต] : ปลุกตื่นขั้นเจ็ด

[ทักษะ] : การเคลือบแข็ง (ชำนาญ+4) ฝ่ามือสายฟ้า (ชำนาญ) การรักษาความเร็วสูง (ชำนาญ) สุดยอดการมองเห็น (ชำนาญ) การปราบปราม (ชำนาญ) การหลับลึก (ช่ำชอง) การทวีคูณ (ช่ำชอง)

จากอินเทอร์เฟซที่น่าสะพรึงนี้ ทุกคนจะเห็นได้ว่าซืออวี๋ขยันขันแข็งมากเพียงใด

เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน สี่ทักษะได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ

การรักษาความเร็วสูง สุดยอดการมองเห็น การปราบปราม การทวีคูณ!

ผลของพวกมันก็เปลี่ยนไปไม่มากก็น้อยเช่นกัน

เมื่อเทียบกับการรักษาความเร็วสูงขั้นช่ำชอง การรักษาความเร็วสูงขั้นชำนาญนั้นสะท้อนให้เห็นถึงคำว่า ‘ความเร็วสูง’ อย่างสมบูรณ์

ตราบใดที่พลังงานที่ใช้รักษานั้นเพียงพอ แม้ว่าบาดแผลจะใหญ่มากเพียงใด มันก็สามารถรักษาให้หายได้ในทันที

ต่อมาคือสุดยอดการมองเห็น เมื่อเทียบกับขั้นช่ำชองแล้ว สุดยอดการมองเห็นขั้นชำนาญสามารถบรรลุการมองเห็น 360 องศาได้โดยไร้ซึ่งจุดบอด

ในเวลาเดียวกัน อีเลฟเว่นก็สามารถมองผ่านภาพมายาในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย

ด้วยทักษะเหล่านี้ อีเลฟเว่นจะยังคงอยู่ยงคงกระพันบนสมรภูมิแม้ว่าแผ่นหลังของมันจะเผชิญหน้ากับศัตรูก็ตาม

ซืออวี๋รู้สึกว่าการคอสเพลย์ของอีเลฟเว่นประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล

ฮาคิสังเกต : สุดยอดการมองเห็น!

ฮาคิเกราะ : การเคลือบแข็ง!

ฮาคิราชันย์ : การปราบปราม!

มันไม่อาจเป็นราชาโจรสลัดได้ แต่มันอาจเป้นราชาอสูรกินเหล็กได้

ในเจ็ดวัน ทักษะการปราบปรามของอีเลฟเว่นก็ถึงขั้นชำนาญแล้วเช่นกัน

นี่เป็นทักษะระดับสูงเพียงหนึ่งเดียวที่ถึงขั้นชำนาญ

ซืออวี๋ยังไม่ได้ทดสอบขีดจำกัดสูงสุดของมันเพราะหนอนไหมเขียวนั้นอ่อนแอเกินไป

อย่างไรก็ตาม จากการประมาณการเบื้องต้นของซืออวี๋และอีเลฟเว่น ตราบใดที่คู่ต่อสู้อยู่ในระดับปลุกตื่น แม้ว่าคู่ต่อสู้จะอยู่ระดับปลุกตื่นขั้นสิบ มันไม่อาจต้านทานการปราบปรามขั้นชำนาญได้

ท้ายที่สุด การปราบปรามก็มุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณ

อีเลฟเว่นผู้ที่ได้ไรับการพัฒนาสุดยอดการมองเห็นและการปราบปรามสู่ขั้นชำนาญและการหลับลึกถึงขั้นช่ำชองก็มีพลังจิตวิญญาณมหาศาล ไม่มีใครรู้ว่าพลังจิตวิญญาณของมันแข็งแกร่งมากเพียงใด

สำหรับการทวีคูณขั้นช่ำชอง การเพิ่มขึ้นสามารถกล่าวได้ว่าเท่ากับค่าเฉลี่ยเท่านั้น

ในสถานะหดตัว ทักษะนี้สามารถเปลี่ยนความสูงของอีเลฟเว่นเป็น 25 เซนติเมตร มันตัวเล็กอย่างน่าขันและพลังต่อสู้ของมันก็อ่อนแอลงอย่างน่าขัน อย่างไรก็ตาม มันก็น่ารักอน่างน่าประหลาดใจ การที่ให้มันนั่งบนไหล่ของเขาก็จะเป็นเรื่องดีมากเช่นกัน

ในสถานะขยายร่าง ทักษะนี้สามารถเปลี่ยนอีเลฟเว่นที่เดิมสูงหนึ่งเมตรให้กลายเป็นอสูรกินเหล็กยักษ์สูงสี่เมตร ความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ แต่การใช้พละกำลังก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน

อย่างน้อย อีเลฟเว่นในปัจจุบันก็รักษาสถานะนี้ได้ไม่นานนัก สถานะขยายร่างไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้

กล่าวโดยย่อ มันยังคงขาด ‘มานา’

มาดูกันว่าการเดินทางสู่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์นี้จะสามารถเปลี่ยนการขาดแคลนมานาของอีเลฟเว่นได้หรือไม่

วันที่ 16 เดือนสิงหาคม

ในวันที่พวกเขาออกเดินทางไปเขตใต้ของเมืองทุ่งน้ำแข็งซึ่งมีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ ประธานเฟิงก็มารับซืออวี๋เป็นการส่วนตัว

จากนั้น พวกเขาทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายด้วยกัน

“เจ้าพักผ่อนมาไหม?” ในรถ ประธานเฟิงหรี่ตาลงและสังเกตซืออวี๋ผ่านหน้าต่างด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ สภาพจิตใจของซืออวี๋ไม่ดีเท่ากับที่เขาคิดไว้ล่ะ? ซืออวี๋พักผ่อนไม่พอเหรอ?

อาจเป็นเพราะคำกล่าวของเขา ซืออวี๋ถึงฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เหรอ???

ช่างเป็นอัจฉริยะที่ขยันขันแข็งมาก!!! ประธานเฟิงกู่ร้องในใจ

เขามีพรสวรรค์และความขยันขันแข็ง! ทำไมเขตผิงเฉิงถึงต้อองกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาหากมีนักฝึกสัตวือสูรเช่นเขามากขึ้น?

“ไม่เลวเลย”

ซืออวี๋ยกนิ้วโป้งขึ้นมา บ่งบอกว่าไม่มีปัญหา

เมื่อกล่าวเช่นนั้นจบ เขาก็เปิดประตูและเข้าไปในรถ

ประธานเฟิงอยู่ในที่นั่งด้านหน้ารถ และซืออวี๋นั่งอยู่ด้านหลัง สำหรับคนขับรถ… เป็นเลขาสาวของประธานเฟิง

(ขอแก้เป็นเลขาสาวนะครับ)

ดูเหมือนว่าการเป็นประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรจะเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

“ไม่จำเป็นต้องประหม่า ด้วยพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าเป็นนักฝึกสัตว์อสูรชั้นยอดแม้แต่ในเมืองใหญ่!”

“มือใหม่จากเขตอื่นที่แข่งขันกับเจ้าเพื่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์วิวัฒนาการอาจไม่จำเป็นต้องโดดเด่นมากเท่ากับเจ้า”

ประธานเฟิงค่อนข้างมั่นใจ ส่วนใหญ่เป็นเพราะซืออวี๋ค่อนข้างโดดเด่นอย่างแท้จริง

ซืออวี๋ : “ข้าไม่ได้ประหม่า พวกเขาต่างหากที่ควรจะประหม่า”

ประธานเฟิงและเลขาสาว : ??

สวรรค์ เด็กผู้นี้หยิ่งพอตัวเลย

ก่อนเที่ยงในวันนั้น ซืออวี๋และประธานเฟิงก็มาถึงเขตใต้ของเมืองทุ่งน้ำแข็ง

ในฐานะที่เป็นพื้นที่ศูนย์กลางเมือง สถานที่แห่งนี้จึงดีกว่าชานเมืองเช่นเขตผิงเฉิง

บังเอิญว่าโรงเรียนที่ซืออวี๋เข้าเรียนและสถานที่ซึ่งเขาฝึกงานนั้นอยู่ในเขตนี้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซืออวี๋ได้มาที่สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้ สถานที่แห่งนี้ยังคงเหมือนเดิม มันสง่างามและยิ่งใหญ่มาก

ในอาคารขนาดใหญ่ ประธานเฟิงและซืออวี๋ดูเหมือนจะไม่ได้มาถึงเร็วนัก ท้ายที่สุด เขตผิงเฉิงอยู่ค่อนข้างไกล…

ดังนั้นก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรในอีกแปดเขต รวมทั้งตำแทนจากเขตอื่นก็มาถึงแล้ว

อาจกล่าวได้ว่าในขณะนี้ ที่นี่คือสถานที่รวมตัวของพี่ใหญ่และมือใหม่ชั้นยอดแห่งเมืองทุ่งน้ำแข็ง

อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋จำได้ทันทีว่า… อีเลฟเว่นดูเหมือนจะชอบต่อสู้กับนักฝึกสัตว์อสูรชั้นยอด!

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด