ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 60
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 62

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 61


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 61

การทำสงครามระหว่างเด็กฝึกหัด

เบอร์เรนเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เขานึกว่ามันจะเป็นแค่ข่าวลือโคมลอยเพราะผ่านมากว่าสองเดือนนับตั้งแต่เขาได้ยินมา

แต่อยู่ๆ ริมเมอร์กลับบอกว่าจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้... พรุ่งนี้เนี่ยนะ!

เบอร์เรนคิดว่าเขาหูฝาดเสียอีก ไม่มีทางที่ใครจะมาพูดอะไรแบบนี้ในตอนนี้หรอก

"อาจารย์...”

"อื้อ”

"เมื่อกี้บอกว่าวันพรุ่งนี้ใช่ไหมครับ?”

"อึ้อ”

"เลิกเลียนแบบรูนันก่อนครับ แล้วตอบผมมาให้ชัดๆ ว่าเราต้องต่อสู้ในวันพรุ่งนี้จริงๆ เหรอ?”

"โอยยย ก็บอกว่าใช่ไง”

ริมเมอร์พยักหน้ารัวๆ เขาแสดงสีหน้าไร้ยางอายออกมาจนเบอร์เรนอยากจะเข้าไปต่อยเขาสักหมัด

"แล้วก็ไม่ใช่แค่ประลองธรรมดา แต่ยังเป็นสงครามกลุ่มอีกต่างหาก! แถมต้องสู้พรุ่งนี้?”

"มันไม่มีประชาชนคนอื่นมาเกี่ยวข้องสักหน่อย ต้องเรียกว่าเป็นการฝึกซ้อมทำสงครามต่างหาก"

"อาจารย์ก็รู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น!”

เบอร์เรนกระทืบเท้าเบาๆ

"เรื่องสำคัญขนาดนี้แต่มาบอกพวกเราก่อนแค่วันเดียว นี่เป็นอาจารย์แบบไหนกันเนี่ย? ...แปลว่าเรื่องจากบาร์ก็เป็นเรื่องจริงงั้นสิ”

"โอ้ เธอก็เคยได้ยินมาแล้วนี่ ฉันกับเมทันตกลงกันเรื่องนี้เองแหละ”

"บ้าไปแล้วรึไงครับ!”

ถ้าเป็นการสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งก็อีกเรื่อง แต่นี่พวกเขาต้องสู้กันเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาคงจะอับอายไปเป็นปี เขาแปลกใจมากที่ริมเมอร์ไม่เคยหลุดปากเรื่องนี้ออกมาเลย

"ฮ่าๆ เพราะงี้ไงพวกเธอถึงยังเป็นเด็กฝึกหัด”

ริมเมอร์นั่งยองๆ บนพื้น

"ไม่เคยมีสัญญาณบอกล่วงหน้าในตอนที่สงครามกำลังจะเริ่มต้นขึ้นหรอกนะ จะให้มาบอกว่า'เฮ้ ยินดีที่ได้รู้จัก เดี๋ยวเรามาทำสงครามกันนะ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ!’ ก็คงไม่ใช่นั่นแหละ การต่อสู้ส่วนใหญ่เริ่มต้นอย่างกระทันหันอยู่แล้ว”

ริมเมอร์พูดอย่างจริงจัง

"เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้นพวกเธอก็ต้องวิ่งออกไปสู้ทันที ไม่ว่าจะกำลังกินข้าว,นอนหลับ,หรือทำอะไรอยู่ก็ต้องออกไปสู้ เมื่อมีศัตรูบุกเข้ามาก็มีแต่ต้องหยิบดาบไปสู้เท่านั้น นี่ยังดีที่ฉันบอกพวกเธอก่อนตั้งหนึ่งวัน”

"อ่า...”

"นั่น...."

เด็กฝึกหัดพูดไม่ออกกันหมด

'ริมเมอร์พูดถูก’

ราอนพยักหน้า

'ภารกิจส่วนใหญ่มักจะมาอย่างกระทันหัน’

ตอนที่เขาต้องลอบสังหารก็เหมือนกัน

แต่ยังดีที่การลอบสังหารนั้นเขาจะได้เป็นฝ่ายบุกโจมตีก่อน

และทุกๆ ครั้งเขาก็ต้องรีบวางแผนก่อนที่จะออกทำภารกิจ

การวางแผนก่อนลงมือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของการเป็นนักฆ่า

"เด็กฝึกหัดในสนามที่หกก็เพิ่งรู้กันเมื่อคืนเนี่ยแหละ ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก”

"แต่ก็น่าจะบอกเร็วกว่านี้!”

"นี่เธอขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอโกรธขนาดนี้เลยนะเนี่ย”

ริมเมอร์หัวเราะคิกคัก

"อ๊ะ! ผมขอโทษครับ”

เบอร์เรนก้มหัวขอโทษ ดูเหมือนเขาจะละอายกับการกระทำเมื่อครู่

"งั้นฉันขออธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมหน่อยละกัน”

ริมเมอร์ลุกขึ้นยืน เขาพยายามทำท่าทางให้ดูน่าเกรงขาม แต่ดูยังไงเขาก็ไม่ดูเป็นอย่างนั้น

"การต่อสู้จะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้ตอน 6 โมงเช้า ฝั่งเรามีสี่สิบสามคนแล้วก็พวกเขาจะมีหกสิบคน วิธีเอาชนะก็คือ..."

"เดี๋ยวสิครับ! ทำไมพวกเขาถึงมีตั้งหกสิบคนล่ะ?”

"นั่นเกือบจะ 1.5 เท่าของเราเลย..."

เด็กฝึกหัดถามขึ้นเมื่อได้ยินว่าสนามฝึกซ้อมที่หกมีผู้คนมากกว่า

"ฉันบอกพวกเธอแล้วไง นี่คือสงคราม สงครามไม่เคยมีจำนวนคนที่เท่าเทียมกัน นี่ถ้าไปเจอของจริงพวกเธอก็จะบ่นแบบนี้รึไง? จะไปฟ้องใครล่ะว่ามันไม่ยุติธรรม?”

“อึก…”

"นั่นก็จริง แต่ว่า..."

พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังถูกริมเมอร์แกล้ง

"ฉันจะพูดใหม่ละกัน ฝั่งเรามีสี่สิบสามคนส่วนฝั่งนั้นหกสิบ จะลงสู้พร้อมกันทั้งหมด วิธีชนะคือทำให้ศัตรูทุกคนต่อสู้ต่อไม่ได้ หรือไม่ก็แย่งธงจากฐานของอีกฝั่งมาให้ได้ ซึ่งฉันคิดว่าวิธีหลังนี่ง่ายกว่าการปะทะกันนะ”

"อืม... ฉันเริ่มรู้สึกว่ามันคงไม่ยากเกินไปหรอก”

"ฉันว่าเรามีโอกาสมากเลยนะ! เพราะพวกเขาสอบตกไปตั้งแต่รอบแรก แถมไม่มีเด็กสายตรงเลยสักคน”

"นี่แกยังไม่รู้รึไง? ท่านไคน์เพิ่งเข้าร่วมสนามฝึกที่หกเมื่อสามสี่เดือนก่อน”

"ท่านไคน์เหรอ!? แต่เขาอายุมากกว่าพวกเราตั้งสองปีนี่! เราจะเอาชนะเขาได้ยังไง?!”

"ไม่เป็นไร เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่เป็นปีๆ ฉันว่าเขายังไม่หายดีหรอก”

"โอ้ งี้ค่อยโล่งหน่อย”

เด็กฝึกหัดถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อได้ยินว่าเขายังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่

"นั่นไม่เป็นความจริง”

เบอร์เรนส่ายหัว

"ไคน์ ซีกฮาร์ทฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บอย่างสมบูรณ์แล้ว แล้วเขาก็ฝึกฝนออร่ากับการรับรู้อยู่ตลอด ตอนนี้เขาน่าจะไปถึงระดับนักดาบขั้นสูงแล้วล่ะ”

"น-นักดาบขั้นสูง?”

เด็กฝึกหัดพากันหน้าซีด

"ฮึ แล้วไงล่ะ? ขี้ขลาดขึ้นมารึไง งั้นฉันจะจัดการไอ้คนที่ชื่อไคน์หรืออะไรนั่นเอง”

"ฉันไม่ได้กลัวสักหน่อย ฉันแค่บอกข้อมูลให้ทุกคนรู้ และเธอก็จัดการเขาคนเดียวไม่ได้หรอก ”

"หา?”

ทุกคนหน้าซีดเผือดกว่าเดิม

"แต่พวกเรามีทั้งท่านเบอร์เรน ท่านรูนันกับท่านมาร์ธานี่นา ไหนจะราอน...”

"ฉันรู้สึกเหมือนเราจะเอาชนะได้ง่ายๆ นะ แค่มีคนจัดการท่านไคน์แล้วเราก็คอยจัดการกับคนที่เหลือก็ได้”

"เราทำได้แน่นอน เราผ่านภารกิจมาแล้วนี่ แถมเรายังประลองกับอัศวินจากอาณาจักรโอเว่นชนะด้วยนะ”

เด็กฝึกหัดยิ้มแย้ม บอกว่าการต่อสู้ครั้งนี้ก็เป็นเรื่องง่าย

"หืม?... ดูถูกพวกเขาแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ”

ริมเมอร์ยิ้ม

"พวกเขาเองก็ผ่านการฝึกสัปดาห์นรกมาแล้ว ไม่มีใครออกไปกลางคันเลยด้วย และนั่นเพราะพวกเธอ”

"พวกเราเหรอ?”

"เพราะสนามฝึกที่ห้าได้รับความสนใจมากที่สุด พวกเขาจึงพยายามอย่างหนักเพื่อไล่ตามพวกเธอ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะแซงหน้าพวกเธอไปแล้วก็ได้นะ”

เขาเริ่มให้คำแนะนำอย่างจริงจัง

"ไม่มีทางหรอกครับ! ทุกๆวันก็เป็นสัปดาห์นรกสำหรับพวกเราอยุ่แล้ว”

"พวกเขาสอบตกตั้งแต่รอบแรกนะครับ พวกเขาไม่มีทางแข็งแกร่งไปกว่าพวกเราได้หรอก เรากับพวกพวกเขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่แตกต่างกัน”

"ใช่แล้ว จนถึงตอนนี้เราไม่เคยแพ้หรือล้มเหลวเลยสักครั้งเลยนะ”

"ตราบใดที่ไม่มีท่านไคน์ พวกเราจะชนะอย่างแน่นอน!”

เด็กฝึกหัดยังคงมั่นใจแม้ว่าริมเมอร์จะพยายามชี้แนะ

"เฮ้อ... แต่มั่นใจก็ดีแล้วแหละ”

ริมเมอร์ยิ้มและพยักหน้า รอยยิ้มของเขาดูเหมือนจะสื่อว่าต่อให้พวกเขาแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องของเขา

"มันเป็นสงครามขนาดย่อม ซึ่งหมายความว่าคำสั่งของผู้นำมีความสำคัญสูงสุด ทุกคนควรทำตามคำแนะนำของราอนนะ”

"ครับ/ค่ะ!”

"....ครับ”

"เข้าใจแล้วครับ”

เด็กฝึกหัดทุกคนขานรับ

'น่ารำคาญเป็นบ้า’

ราอนขมวดคิ้ว การเอาชนะสนามฝึกซ้อมที่หกไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่การที่ราอนต้องคอยดูแลเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ เป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก

"วันนี้พวกเธอฝึกกันอิสระได้เลย จะวางแผนสำหรับพรุ่งนี้หรือซ้อมต่อก็ได้นะ”

ริมเมอร์บอกอย่างสดใส

"อาจารย์ยังไม่ได้บอกสิ่งที่สำคัญที่สุดนะครับ”

เบอร์เรนยกมือ

"อะไรล่ะ?”

"สถานที่ต่อสู้ไงครับ!”

"อ๋ออออ”

ริมเมอร์ปรบมือ

"ที่ภูเขาสุสานตอนเหนือด้านหลังอาคารหลักไงล่ะ”

เขายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับราอน เหมือนกับเขาจะสื่อว่า ’เธอรู้จักที่นั่นดี เพราะงั้นฉันจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเธอทั้งหมดเลยละกัน'

“เฮ้อ”

ราอนส่ายหัว ดูเหมือนว่าริมเมอร์จะเอาเรื่องการต่อสู้นี้ไปเป็นการเดิมพันด้วย

แค่เขาสร้างสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดให้พวกเขายังไม่พอ ยังเอาพวกเขาไปลงเดิมพันกับคนอื่นอีก ช่างเป็นเอลฟ์ที่มีอารมณ์ขันจริงๆ

'เพราะงี้ไงเขาถึงได้หมดตัวตลอด’

เขามักจะสูญเสียเงินไปกับบ่อนพนันและสนามแข่งม้าทุกครั้ง

"งั้นฉันไปก่อนนะ”

ริมเมอร์โบกมือของเขาและออกจากสนามฝึกซ้อม

"ตั้งแถว!”

ราอนถอนหายใจและเรียกเด็กฝึกหัดมารวมกัน

"เราจะวางกลยุทธ์ในการต่อสู้พรุ่งนี้กันก่อน ใครมีข้อมูลเกี่ยวกับสนามฝึกซ้อมที่หกบ้าง?”

"ผ-ผมพอรู้บ้างนิดหน่อย”

ดอเรียนยกมือสั่นๆ ขึ้นมา

"ท่านไคน์ ซีกฮาร์ท เข้าร่วมสนามฝึกซ้อมที่หกแล้ว เขาอายุสิบหกปีแต่เขาได้รับบาดเจ็บระหว่างการทำภารกิจและพักฟื้นมาปีกว่า แต่ตอนนี้เขาหายดีแล้ว”

"บาดเจ็บงั้นเหรอ..."

"เขาอยู่ในระดับที่เทียบเท่ากับนักดาบชั้นสูงเลย ทุกคนในสนามฝึกที่หกล้วนเชื่อฟังเขา นอกจากนั้นก็ยังมีเด็กสายรองสามคนที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ..."

ดอเรียนยังคงพูดข้อมูลจำนวนมากที่เขารู้ออกมา

"งั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องวางแผนอะไรให้วุ่นวายหรอก”

"ฉันเห็นด้วย แต่เราต้องระวังท่านไคน์ไว้”

"ใช่ เราควรส่งสองคนที่เก่งที่สุดไปจัดการท่านไคน์ แล้วคนที่เหลือก็จัดการคนอื่นๆ”

เด็กฝึกหัดพูดคุยกันอย่างไม่กังวล

"เราชนะได้แน่นอนถ้ามีคนจัดการท่านไคน์ได้แล้ว”

เบอร์เรนเองก็เห็นด้วยความคิดนี้ ยังไม่มีใครคิดถึงความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะแพ้

"ช่างแผนเถอะน่า ก็แค่สู้จะใช้สมองทำไมนักหนา เดี๋ยวฉันจะจัดการทั้งหมดเอง”

มาร์ธากอดอก

เธออยากสร้างผลงานหลังจากที่เธอแทบไม่ได้ทำอะไรในการออกทำภารกิจล่าสุดเลย

"อืม"

หลังจากได้ยินความเห็นของทุกคนแล้ว ราอนก็พยักหน้า

"สรุปว่าเราแข็งแกร่งกว่าพวกเขา เราก็เลยจะไม่ใช้แผนกันสินะ แค่ค่อยๆ จัดการพวกเขาไปเรื่อยๆ แล้วก็ส่งสักสองสามคนไปจัดการไคน์ ฉันพูดถูกไหม?”

"ใช่”

"เราชนะได้อยู่แล้ว”

"พรุ่งนี้ก็รีบๆ ทำให้มันจบนะ ฉันอยากกินข้าวมื้อเที่ยงด้วย”

หลายคนยิ้มราวกับว่าพวกเขาชนะแล้ว บางคนก็ยังนิ่งเงียบเหมือนเดิม

"โอเค เอาตามนี้นะ”

หลังจากมองไปรอบๆ ราอนก็พยักหน้า

"โอ้ ดีเลย”

"งั้นก็ไปฝึกต่อได้แล้วใช่มะ?”

"มาพนันกันว่าฉันกับแกใครจะจัดการได้เยอะกว่า”

หลายๆ คนเดินแยกย้ายไปฝึกต่อในขณะที่หัวเราะคิกคัก

มีแต่พวกสมองทึบ...

'แต่ก็เอาเถอะ’

ราอนพยักหน้าด้วยสายตาเยียบเย็น

'พวกเขาคิดไม่ได้เลยสักนิด ยังไงเด็กก็คือเด็ก’

อีกไม่นานพวกเขาก็จะได้รับบทเรียนเอง ตามที่ริมเมอร์พูดนั่นแหละ

* * *

* * *

สนามฝึกซ้อมที่หก

ในวันเดียวกันนั้นเอง

เด็กฝึกหัดเกือบหนึ่งร้อยคนกำลังรวมตัวอยู่ที่กลางลานฝึกซ้อม

"พวกเธอทุกคนผ่านสัปดาห์นรกมาแล้ว ซึ่งปกติแล้วจะมีคนมากกว่า 70%ที่ออกไปกลางคัน”

เด็กฝึกหัดยืดหลังตรง เมื่อได้ยินเสียงอันน่าเกรงขามของหัวหน้าผู้ฝึกสอน

"พวกเธอเลือกมันเอง พอจะจำเหตุผลที่ทำแบบนี้ได้ไหม?”

"เพราะสนามฝึกซ้อมที่ห้าครับ/ค่ะ!”

เด็กฝึกหัดตะโกนอย่างพร้อมเพรียง เสียงดังพอที่จะทำให้สนามฝึกซ้อมที่หกซึ่งใหญ่กว่าสนามฝึกซ้อมที่ห้าสั่นสะเทือน

"ถูกต้อง เพราะสนามฝึกที่ห้าได้รับความสนใจจากตระกูลมากที่สุด ส่วนอาณาจักรโอเว่นก็ดูถูกพวกเรา พวกเราจึงต้องหาทางเอาชนะพวกเขาให้ได้”

เมทันมองสำรวจเด็กทีละคนๆ แววตาของเขาจริงจังกว่าที่เคย

"และในที่สุดพวกเธอก็มีโอกาสที่จะเอาชนะพวกเขาแล้ว”

สายตาของเด็กฝึกหัดเป็นประกาย

"แม้ว่าจำนวนคนจะแตกต่างกัน แต่ทุกคนในตระกูลก็คิดว่าพวกนั้นจะชนะเราได้ แต่ฉันเชื่อว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ไปแสดงให้ทุกคนเห็นสิ่งที่พวกเธอพยายามมาตลอดซะ!”

"ครับ/ค่ะ!”

เด็กฝึกหัดตะโกน

"ไคน์ ซีกฮาร์ท”

เขาเรียกสมาชิกสายตรงเพียงคนเดียวออกมาด้านหน้า เด็กผู้ชายผมบลอนด์ดวงตาสีฟ้าก็ก้าวขึ้นมา

"ฉันจะให้เธอเป็นคนนำ”

"รับทราบครับ”

ไคน์ก้มหัวรับ

"ผมจะแสดงให้ทุกคนเห็นเองว่าสนามฝึกซ้อมที่หกแข็งแกร่งกว่าสนามฝึกซ้อมที่ห้า”

"ไม่ใช่แค่นั้นนะ”

เมทันส่ายหัวเล็กน้อย

"ในฐานะที่เป็นตัวแทนของสนามฝึกซ้อมที่หก เธอจะต้องเอาชนะราอน ซีกฮาร์ท ที่เป็นตัวแทนของฝั่งนั้นให้ได้ด้วย”

“……”

"ไม่มั่นใจงั้นเหรอ?”

"...อ่า”

ดวงตาของไคน์มืดลงเล็กน้อย

"ผมไม่ได้ตอบเพราะแน่นอนว่าเด็กคนนั้นเอาชนะผมไม่ได้หรอก ผมแข็งแกร่งกว่าเขามาก”

"มั่นใจดีนี่”

เมตันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

"ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวนะ แต่เธอต้องทำให้ทุกคนทำให้ดีที่สุด ความพยายามจะได้ไม่ต้องเสียเปล่า”

"ได้ครับ!”

ไฟของสนามฝึกซ้อมที่หกก็ไม่ได้ปิดลงตลอดทั้งคืนนั้น

***

"อืม..."

ราอนอ่านแผนที่ของภูเขาสุสานตอนเหนือ เขากำลังตรวจสอบสถานที่ที่จะมีการต่อสู้กัน

'ตรงนั้นแล้วก็ตรงนั้น’

เขาเคยวิ่งตามริมเมอร์ไปรอบๆภูเขา เขาจึงรู้จักทุกจุดบนภูเขาเป็นอย่างดี เขารู้สึกว่าเขามีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อย่างมาก

'แต่ว่า...'

เด็กฝึกหัดของเขานั้นดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่

เป็นเพราะเด็กฝึกหัดพวกนั้นได้รับชัยชนะและได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นความสำเร็จที่เกิดจากราอนคนเดียว แต่ทุกคนก็เอาแต่ภูมิใจในความสำเร็จพวกนั้นราวกับว่าเป็นของตัวเอง พวกเขาคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งมากพอแล้ว

'พวกเราแข็งแกร่งก็จริง’

เด็กฝึกหัดจากสนามฝึกที่ห้านั้นแข็งแกร่งกว่านักดาบหรืออัศวินที่อายุใกล้ๆ กัน แต่พวกเขาไม่ควรประมาทและดูถูกคนอื่นแบบนี้

พวกเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะการฝึกซ้อม แต่แล้วพวกเขาก็เริ่มหย่อนยานวางใจจนเกินไป นี่จะทำให้พวกเขาต้องเจอกับความพ่ายแพ้

หลังจากศึกครั้งนี้พวกเขาจะได้บทเรียนแน่นอน หลังจากที่เกือบถูกฆ่าโดยคนที่พวกเขาดูถูกน่ะนะ...

ราธแอบเยาะเย้ยให้ความคิดของราอน

พวกโง่พวกนั้นทำให้ฉันนึกถึงแดนปีศาจ ราชาแห่งแก่นแท้ได้หักเขาของปีศาจตนหนึ่งที่อวดดี…

"เอาอีกแล้วเหรอ...”

ข้ากำลังเล่าเรื่องราวอันน่ายกย่องให้เจ้าฟัง แต่เจ้าเอาแต่ขัดขวางข้า…

"โอเคๆๆ”

ราอน ซีกฮาร์ท!

ราอนทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วกดกำไลข้อมือเอาไว้เพื่อปิดเสียงของราธ เขาค่อยๆ ปิดตาลง

เขาตัดสินใจแล้ว

เขาควรจะให้เด็กฝึกหัดได้เข้าใกล้ความพ่ายแพ้กันซะบ้างเพื่อที่จะได้เป็นบทเรียนให้กับพวกเขา

ริมเมอร์ก็คงคิดเหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรราอนก็คงจะช่วยให้สถานการณ์พลิกกลับในตอนสุดท้ายอีกที มันก็เป็นความรับผิดชอบของเขา

'น่าสนใจดี’

ราอนยิ้ม

'นี่เป็นโอกาสที่ดี’

นี่เป็นโอกาสที่เขาจะแสดงให้ทุกคนเห็นเช่นกันว่าเขามีความเป็นผู้นำมากแค่ไหน

หลังจากนี้เด็กฝึกหัดทุกคนจากสนามฝึกซ้อมที่ห้าคงจะยอมทำตามคำสั่งของเขาโดยไม่มีข้อยกเว้น

"งั้นฉันคงต้องไปแอบฟังข้อมูลก่อนสินะ”

ดวงตาของราอนส่องแสงเลือนรางเหมือนดวงจันทร์บนท้องฟ้า

***

วันต่อมา ด้านหนึ่งของภูเขาสุสานตอนเหนือ

ไคน์กับเด็กฝึกหัดห้าสิบเก้าคนจากสนามฝึกซ้อมที่หกกำลังยืนล้อมรอบธงสีเหลือง

"ฉันจะทวนแผนอีกครั้ง”

ไคน์มองไปที่แผนที่

"ฐานของเด็กฝึกหัดจากสนามฝึกซ้อมที่ห้าอยู่ทางทิศตะวันตกของภูเขา และพวกเขาไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันสักเท่าไหร่ พวกเขามักจะแบ่งเป็นกลุ่มของราอน,เบอร์เรน,รูนันและมาร์ธา”

เขารู้ในเรื่องนี้

"ฉันแน่ใจว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวแยกกัน ฉันมั่นใจว่ามาร์ธาคงจะออกตัวเป็นคนแรกแน่นอน ...ดันน์”

"ครับ”

เด็กชายร่างใหญ่เดินออกมาตามที่เขาเรียก

"อย่างที่เราเคยซ้อมกัน นายไปหยุดกลุ่มของเธอไว้ซะ และนายต้องทำให้เธอยอมสู้ด้วย จากนั้นเธอก็จะแพ้ไปก่อน”

"เข้าใจแล้วครับ”

"ส่วนเบอร์เรนที่ถนัดใช้ดาบ... ดีแคล!”

"ครับ!”

เด็กฝึกหัดที่มีแขนขาที่ยาวก้าวออกมา

"นายต้องจัดการเขา นายเอาชนะกลุ่มของเขาที่ชอบใช้ดาบได้แน่นอน แล้วก็พาคนในกลุ่มซีไปด้วย”

"ครับ/ค่ะ!”

และสุดท้าย ไคน์มองไปที่เด็กสาวผมสั้นสีเขียวด้านขวาของเขา

"คาริน... คู่ต่อสู้ของเธอคือรูนัน เธอเป็นคนที่คาดเดาได้ยากแต่ดูเหมือนเธอจะชอบตามติดราอน ดังนั้นเธอจะอยู่เฝ้าธงกับฉันที่นี่ก่อนพร้อมกับกลุ่มดี”

"อื้อ”

"กลุ่มอีกับฉันจะคอยจัดการกลุ่มของราอนเอง”

ไคน์ออกคำสั่งทั้งหมดอย่างชัดเจน

"แล้วจะหาพิกัดของพวกเขาเจอได้ยังไง ถ้ายังไม่รู้พิกัด พวกเราก็คงทำตามแผนไม่ได้”

"รอก่อน”

เขายิ้มอย่างมั่นใจ

"ฉันจะใช้'ดวงตาสังเกตการณ์'”

'ดวงตาสังเกตการณ์' เป็นคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้เขาสามารถรับรู้ตำแหน่งของศัตรูที่อยู่ไกลออกไป มันเป็นทักษะที่เหมาะสมที่จะใช้ในการต่อสู้แบบนี้

ข้อมูลและการสืบหาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขามั่นใจว่าความสามารถในการค้นหาของเขาเหนือกว่าราอนและอาจารย์หลายๆ คน.'

"ถึงเวลาที่จะแสดงสิ่งที่พวกเราได้เรียนรู้มาแล้ว สนามฝึกซ้อมที่หกจะเป็นสนามฝึกซ้อมที่ดีที่สุดของซีกฮาร์ทตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!”

"วู้ววว!”

เสียงที่ทรงพลังของไคน์ เด็กฝึกหัดคนอื่นๆก็ส่งเสียงเพิ่มกำลังใจ

แต่พวกเขายังไม่รู้ตัว ทั้งไคน์และเด็กฝึกหัดทุกคนตรงนั้นต่างกำลังสนใจอย่างอื่น

โดยไม่รับรู้ถึงนัยน์ตาสีแดงที่กำลังจ้องมาที่พวกเขาจากบนต้นไม้

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด