ตอนที่แล้วบทที่16
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่18

บทที่17


“เมื่อไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลก็ได้โพสต์คลิปที่ดูเหนือธรรมชาติมากมาย ไม่เพียงแต่มหาวิทยาลัยของเราเท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยข้าง ๆก็มีเหมือนกัน มีคอมเม้นต์หนึ่งที่บอกว่ามันมีผีถึงหนึ่งร้อยตัวออกมาเพ่นพ่านตอนกลางคืน”

ระหว่างทางไปโรงแรม หลินเสวี่ยบอกหลิวเฉิงถึงเรื่องที่เธอรู้เมื่อไม่นานมานี้

มีข่าวลืมเรื่องเหนือธรรมชาติที่เหมือนมีผีเกิดขึ้นเยอะมากเมื่อเร็ว ๆนี้ แม้แต่คนธรรมดาก็ยังรู้เรื่องนี้เหมือนกัน

หลิวเฉิงมองไปที่เซี่ยว่านชิวที่อยู่ด้านข้าง เธอพยักหน้าให้กับชายหนุ่มเล็กน้อย “ช่วงนี้มันไม่ปลอดภัยจริง ๆค่ะ”

แสดงว่าเรื่องที่บอกคือเรื่องจริงสินะ!

หลิวเฉิงเคยเห็นสิ่งเหนือธรรมชาติที่บริษัทมาก่อน

ทำไมหลังจากที่ฉันปลุกเซี่ยว่านชิวจากแอปแปลก ๆนั่นกับนิ้วทองคำ มันถึงมีผีเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้

เจอผีทั้งที่บ้าน ที่บริษัทแถมยังที่มหาวิทยาลัยอีก

ดูเหมือนว่ามันจะมีผีอยู่ทุกที่จริง ๆ

มันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน

“เฮ้! พี่กำลังคิดอะไรอยู่?” หลินเสวี่ยตะโกนเรียกหลิวเฉิงออกมาถึงสองครั้ง

เสียงของเซี่ยว่านชิว มีเพียงหลิวเฉิงเท่านั้นที่ได้ยิน และหลินเสวี่ยที่อยู่ข้าง ๆก็เห็นเพียงว่าพี่ชายของเธอกำลังเหม่อมองอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่รู้ว่าเขากำลังสื่อสารกับผีสาวอยู่

“ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่าน ๆมา สรุปก็คือ เธอต้องระวังตัวให้ดี หากมีอะไรเกิดขึ้น รีบโทรมาหาฉันทันที” หลิวเฉิงสั่ง

หลินเสวี่ยเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลหลินแล้วก็เป็นน้องสาวบุญธรรมของหลิวเฉิงด้วย

ถ้าหากว่ามันมีการปลุกผีขึ้นมาจริง การที่มีผีหนึ่งร้อยตัวเพ่นพ่านในเวลากลางคืนก็อันตรายเอามาก ๆ

แน่นอนว่าสำหรับหลิวเฉิงเป็นสิ่งที่ดี

เพราะอย่างไรเสีย นิ้วทองคำของเขาก็ต้องทำให้เขาเจอผี

ยิ่งมีผีมาก ก็ยิ่งมีแต้มบุญมาก ตัวเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น!

“ว่าแต่ พี่เชื่อเรื่องประตูนรกเปิดออกมาด้วยเหรอ?” หลินเสวี่ยกอดแขนของหลิวเฉิงด้วยความตื่นเต้น

“เรื่องแบบนี้ฉันค่อนข้างเชื่อนะ เพราะยังไงมันก็เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตัวเอง” หลิวเฉิงกล่าวกับหลินเสวี่ยพร้อมกับดึงแขนของเขาออก ทว่าแรงเสียดสียิ่งทำให้เขารู้สึกถึงความนุ่มและอุ่นจากหน้าอกของหลินเสวี่ยมากขึ้น

แม้ว่าหน้าอกของหลินเสวี่ยจะเล็ก แต่แขนของหลิวเฉิงถูกหนีบไว้ มันเลยทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน

“พี่ว่าในโลกนี้มีพวกนักบวชลัทธิเต๋า พ่อมดหรืออะไรแบบนี้ไหม?” หลินเสวี่ยไม่ปล่อยแขนของหลิวเฉิงพร้อมกับถามอีกคำถามขึ้นมา

“ปล่อยฉันก่อนได้ไหม ชายหญิงไม่ควรตัวติดกันมากนะ ถ้าคนรอบข้างมองมา เขาจะคิดว่าเราเป็นแฟนกันได้” หลิวเฉิงถอนหายใจ

“ไม่! ฉันไม่สนหรอก ยังไงฉันก็ยังกลัวอยู่ ฉันจะต้องจับพี่เอาไว้ให้ได้เพื่อให้มีชีวิตรอด+”

“………”

“...........”

โอเค ยัยคนหน้าไม่อายนี่... หลิวเฉิงไม่คิดว่าเธอจะกลัวจริง ๆอย่างที่เธอบอก เขาหยุดขยับแขนออกแล้วถอนหายใจด้วยความหน่ายใจ

“ยังไงก็เถอะ ระยะนี้เธอจะต้องระวังเอาไว้ด้วย เวลาออกไปไหนมาไหนก็พกอาวุธติดตัว อย่าออกมาเดินตอนกลางคืน ถ้าออกมาก็อย่าพยายามเดินตอนกลางคืนคนเดียว ผีเป็นสิ่งที่ออกมาตอนกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ เวลาจะไปไหนรอให้พระอาทิตย์ขึ้นก่อนดีกว่า”

“อืม พี่ก็ระวังตัวด้วยเหมือนกันนะ อย่าเจอพวกผีสาวล่อลวงล่ะ!”

หลิวเฉิงรีบส่งหลินเสวี่ยไปที่โรงแรม หลังจากจัดการเรื่องหลินเสวี่ยแล้ว หลิวเฉิงก็ขอตัวออกไปซื้อขนมรอบดึกและเดินทางไปมหาวิทยาลัย

“การคืนชีพของพวกวิญญาณ... ไม่น่าแปลกใจเลยที่รัฐก็ไม่สามารถจัดการได้” หลิวเฉิงพึมพำเบา ๆ

เพราะว่าก่อนหน้านี้หลิวเฉิงเป็นเพียงคนธรรมดา เขาจึงไม่สามารถเห็นผีได้และเขาก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นบนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเขาเลยไม่รู้เรื่องการคืนชีพของพวกวิญญาณร้ายทั้งหลาย

แต่ตอนนี้สถานการณ์อยู่เหนือการควบคุม ผีออกมามากเกินไป มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติทุกที่และประเทศนี้ก็ไม่สามารถปราบผีได้ด้วยอาวุธที่มีอยู่

อีกอย่างคือพวกนั้นคือพวกนับถือวัตถุนิยม หากพวกเขาได้เห็นผีไปครั้งหนึ่งด้วยตาตัวเองล่ะ? จะทำยังไงได้นอกจากต้องเชื่อ

อาจารย์ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด อยู่มหาวิทยาลัยแล้วเห็นผีบ่อยจนเชื่อ

ถ้าไม่เคยเห็นผี จางเซว่เฟิงคงไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะเห็นผีได้จริงก็ตาม แต่เขาก็เชื่อทันทีที่หลิวเฉิงพูดเรื่องผีในโรงเรียนขึ้นมา แสดงว่าเขาต้องเคยเห็นกับตา

อย่างน้อย ๆก็ต้องมีความใกล้เคยงประมาณนี้แน่

ในขั้นต้นนี้ หลิวเฉิงต้องการถามเซี่ยว่านชิวว่าเธอรู้เรื่องการคืนชีพของเหล่าวิญญาณพวกนี้หรือเปล่า แต่เซี่ยว่านชิวก็ส่ายหน้าเพราะเธอไม่ใช่ผีในโลกนี้ ดังนั้นเธอเลยไม่รู้ว่าผีในโลกนี้เป็นยังไง

เซี่ยว่านชิวเธอแค่เพิ่งบอกเขาว่า พลังหยินเพิ่มมากขึ้นและจำนวนผีก็เพิ่มขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เธอมายังโลกนี้

ไกลออกไปจากที่หลิวเฉิงอยู่ ในเมืองเจียงไห่ พลังหยินหนาแน่นได้แพร่กระจายออกไป นั่นเป็นเหตุผลที่เซี่ยว่านชิวบอกว่าที่แห่งนี้ไม่ปลอดภ้ยนัก

เมื่อมีผีเยอะ มนุษย์ก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

หลิวเฉิงยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการบ่มเพาะ เขาไม่เข้าใจเรื่องนี้เลยสักนิดเดียว แต่สิ่งเดียวที่เขามี ก็คือต้นขาขาว ๆใหญ่ ๆของเซี่ยว่านชิว

แม้แต่หลิวเฉิงก็ยังไม่รู้ว่าต้นขาแฟนผีของเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน เขาต้องการจัดลำดับพลังให้ถูกต้องที่สุด

ดังนั้นนอกจากจะจับผีคืนนี้แล้ว เขายังต้องถามลำดับขั้นกับผีตนนั้นด้วย

……

เมื่อเข้าไปในโรงเรียน จางเซว่เฟิงได้นำยามสองคนพาหลิวเฉิงไปยังหอพักนักเรียนหญิง

“น้องชาย นายต้องการให้พวกเราเข้าไปไปข้างในด้วยไหม หรือว่าต้องการให้ฉันช่วยอะไรสักอย่างดี?” จางเซ่เฟิงถามขณะนำทางหลิวเฉิงไปพร้อมกับยามทั้งสองคน

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้จับผี หากเมื่อสองวันก่อนเขาไม่บังเอิญไปเห็นเงาสีแดงบนหลังคาหอพักด้วยตัวเอง จางเสวี่ยเฟิงคงไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะมีผีอยู่ใกล้เขาขนาดนี้ ถึงขนาดอยู่ในมหาวิทยาลัย

แต่พอได้มาเห็นกับตาตัวเอง ยังไงก็ต้องเชื่อ

เมื่อเร็ว ๆนี้ จางเซว่เฟิงได้มองหาปรมาจารย์นักปราบผีไปทั่วทุกที่ และแม้แต่รายงานไปยังรัฐบาลเพื่อขอการสนับสนุน ทว่าแม้รัฐก็ยังปฏิเสธ

ทว่ารัฐก็ยังเชื่อเรื่องนี้ แต่พวกเขาไม่มีวิธีปราบผี

นี่เป็นเหตุผลที่จางเซว่เฟิงเชื่อทันทีที่ได้ยินว่าหลิวเฉิงพูดว่าเห็นผีได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด