ตอนที่แล้วบทที่ 4: [ด่าน 0] หลุมที่ข้าจะต้องขึ้นมาให้ได้ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6: [ด่าน 0] ศึกชี้ชะตา (1)

บทที่ 5: [ด่าน 0] หลุมที่ข้าจะต้องขึ้นมาให้ได้ (2)


บทที่ 5: [ด่าน 0] หลุมที่ข้าจะต้องขึ้นมาให้ได้ (2)

'ก่อนอื่นนักเวท ลิลลี่’

ข้าเปิดหน้าต่างลักษณะพิเศษของตัวละครลิลลี่

[ลิลลี่ (R) ]- ลักษณะพิเศษ(1/3)

>กายาเพลิง

มันยังมีอยู่!

มันมีเหมือนในเกมไม่มีผิด ไอ้เจ้ากายาเพลิง

[กายาเพลิง]- ความสามารถซึ่งเกิดขึ้นมาจากความกลัวต่อของมีคมแบบสุดขีด สามารถทำการหลบเลี่ยงการจู่โจมทางกายภาพผ่านการเปลี่ยนร่างกายเป็นเปลวไฟได้  การหลบหลีกการโจมตีแต่ละครั้งจะใช้ค่าพลังเวทย์เป็นการใช้งาน

มันเป็นความสามารถของตัวชนที่ดี ที่จริงแล้วมันน่าทึ่งมาก แต่ปัญหาคือลิลลี่เป็นอาชีพที่เป็นตัวสร้างความเสียหายหลักในปาร์ตี้ต่างหาก

เธอเป็นนักเวทธาตุไฟที่จำเป็นต้องใช้มานาจำนวนมาก

ซึ่งหมายความว่าเมื่อถึงเวลาที่ลิลลี่ต้องใช้ความสามารถนี้ ปาร์ตี้ก็น่าจะถูกทำลายล้างจนหมดสิ้นแล้ว

ซึ่งในสถานการณ์แบบนั้น แทนที่จะใช้งานความสามารถตัวชนนี้ เอามานาไปใช้ฆ่าพวกสัตว์ประหลาดจะดีเสียกว่า

นี่คือสิ่งที่ควรทำตามปกติ

ทว่าสถานการณ์นี้ไม่แน่นอน ข้าจึงกำลังคิดถึงการใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้

'ต่อไปคือเคนที่เป็นอัศวินโล่’

ข้าเปิดดูลักษณะพิเศษของเคน

[เคน(N)]- ลักษณะพิเศษ(1/3)

> วิถีการเอาตัวรอดของจอมโจร

อย่างที่คาดไว้ วิถีการเอาตัวรอดของจอมโจร

[วิถีการเอาตัวรอดของจอมโจร] - เป็นนิสัยที่เกิดจากสมัยที่เป็นโจร ผู้ใช้สามารถลดการเปิดเผยตัวตนเมื่อเผชิญกับอันตรายและหลีกเลี่ยงความสนใจได้ ทว่าจะแลกเปลี่ยนกับพลังชีวิตต่อการใช้งาน

มันถือว่าเป็นลักษณะตัวละครที่ดีเหมือนกัน ถ้าเคนไม่ใช่อัศวินโล่

เคนเป็นอาชีพอัศวินโล่ที่ต้องดึงความสนใจของศัตรูในระดับแนวหน้า เขาใช้การโจมตีแบบหมู่เพื่อตัวดึงดูดความสนใจและรับการโจมตีด้วยร่างกายของตัวเอง

แต่ไหงถึงมีลักษณะพิเศษที่เน้นซ่อนตัวแบบนี้?

แถมมันยังต้องใช้พลังชีวิตมากต่อการใช้หนึ่งครั้งด้วย

คงจะดีมากหากเป็นอาชีพสายโจมตีระยะประชิดอย่างพวกโจรหรือหัวขโมย แต่ลักษณะพิเศษแบบนี้ใช้ไม่เหมาะกับอัศวินโล่อย่างเคนเลย

ทว่าข้าอาจจำเป็นจะต้องใช้มันในตอนนี้

ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อการใช้กลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมาเป็นไปไม่ได้ ก็คงต้องใช้ตัวแปรที่ใช้งานได้ทั้งหมด

'ส่วนคนสุดท้ายคือเดเมียน’

ข้ากลืนน้ำลายลงไปขณะเปิดหน้าต่างค่าสถานะของเดเมียน ได้โปรดมีด้วยเถอะ! ได้โปรด!

ความสามาถของตัวละครอื่นๆ เป็นเพียงความสามารถธรรมดาทั่วไป พวกเขาเป็นเพียงเบี้ยที่ข้าสามารถใช้เพื่อซื้อเวลาได้

แต่ความสามารถของเดเมี่ยนเป็นสิ่งที่ช่วยให้เอาชนะด่านนี้ได้ สำหรับแผนนี้ข้าต้องการใช้มันมากกว่าสิ่งใด!

และ...

[เดเมียน(N)]- ลักษณะพิเศษ (1/3)

> ตาพันลี้

มันมีอยู่!

ความสามารถที่โคตรโกงนี้ยังคงมีอยู่เหมือนในเกม

[ดวงตาพันลี้]-ความสามารถที่เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของพระเจ้า ผู้ใช้จะสามารถมองเห็นทุกสิ่งที่ต้องการเห็นและสามารถโจมตีทุกสิ่งที่สามารถมองเห็นได้

โคตรขี้โกง

พวกเจ้าอาจไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามันทรงพลังแค่ไหนจากคำอธิบายในเกม เพราะมันเพิ่มระยะการมองเห็นของตัวละคร 50 ช่องและค่าความแม่นยำ +999

เมื่อความแม่นยำในเกมเกิน 100 มันก็จะปรับไปเป็น 999 เพราะสามารถโจมตีโดนได้ 100%

ซึ่งหมายความว่าการโจมตีจะถูกจุดที่ต้องการแน่ ลูกศรที่ผ่านมือเดเมียนสามารถยิงจากปลายด้านหนึ่งของแผนที่ไปโดนเป้าหมายได้ แม้ว่าจะเล็งของที่ขนาดเล็กอย่างดวงตาก็ตาม

ทว่ามีปัญหาหนึ่งคือเดเมียนที่ครอบครองลักษณะพิเศษนี้เป็นบาทหลวงที่มีหน้าที่คอยรักษา

ย้อนกลับไปในเกม ชนิดของอุปกรณ์ที่สามารถติดตั้งได้จะถูกจำกัดโดยระบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับอาชีพของตัวละคร

เดเมียนเป็นนักบวช จึงสามารถสวมใส่ได้เพียงไม้เท้าและทักษะที่เขามีก็เป็นเพียงทักษะการรักษาทั่วไปของตัวละครระดับ N

ทักษะประเภทการรักษาไม่เคยพลาดอยู่แล้วหากมองไปที่เป้าหมาย ดังนั้นค่าความแม่นยำ +999 ถือว่าไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง

ไม่มีทางที่จะนำลักษณะพิเศษตัวละครนี้ไปใช้ในเกมได้ เหมือนเป็นเพียงเรื่องตลกที่ถูกเพิ่มโดยนักพัฒนา

'แต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง’

ข้าสามารถใช้มันได้

ข้าสามารถนำมันไปใช้ได้จริง

'เกมนี้มันสามารถจบเกมได้’

ด้วยไพ่ที่ข้ามี ข้าก็จะสามารถสร้างกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในมือได้

'กล้าโยนข้าลงบนด่านที่ยากมหาโหดอย่างนี้เหรอ?'

เหอะ

ข้ายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

ข้ายิ้มทุกครั้งที่สามารถแผนที่สามารถเคลียร์ด่านที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ให้มันเป็นไปได้ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผู้ชมทุกคนของข้าถึงกับขอร้องให้ข้าปิดกล้อง

“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะใช้วิธีโกง…!”

รอก่อนเถอะ ไอ้บ้าที่ไหนก็ตามที่โยนข้าเข้ามาในสถานที่เวรนี้

ข้าจะเคลียร์เกมบ้าๆ นี้ให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม จากนั้นข้าจะจับคอเสื้อของแกให้มั่นและลากคอไปประจานให้มันทั่วเลยคอยดู…!

กลับมา ณ ปัจจุบัน

ข้ามองไปที่ลิลลี่ เคนและเดเมียน

"ลิลลี่ เจ้าเคยโดนดาบบาดเข้าตอนยังเด็กมาก่อนใช่ไหม?”

ดวงตาของลิลลี่เบิกกว้างขึ้น

"องค์ชายรู้ได้เช่นไรคะ?”

"มันเป็นแผลที่เจ้าได้ตอนที่ฝูงก็อบลินบุกเข้าโจมตีหมู่บ้าน หลังจากนั้นเจ้าก็เริ่มเป็นโรคกลัวอาวุธมีคม ดังนั้นเจ้าจึงไม่สามารถใช้กระทั่งมีดทำอาหารที่บ้านได้”

“......”

“แต่เจ้าก็ได้รับบางอย่างมาจากเหตุการณ์นั้นด้วยเช่นกัน”

ข้าเอากริชออกจากฝักของข้าและแทงหลังมือของลิลลี่

"อึก?!”

ด้วยความตกใจ ลิลลี่ตัวแข็งทื่อและมีสีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

โครม!

กริชทะลุมือของลิลลี่ไปปักไว้บนโต๊ะ หลังมือของลิลลี่ที่ถูกกริชทะลุผ่านนั้นก็มีเปลวไฟลุกขึ้น

"หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าก็ได้รับความสามารถกายาเพลิงมา”

“......”

"ตราบใดเจ้ามีมานาเหลือมากพอ ก็จะสามารถที่จะหลบการโจมตีทางกายภาพได้ทุกรูปแบบ ข้าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?”

ลิลลี่ตัวสั่นพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ข้าดึงกริชออกมาอีกครั้งแล้วใส่กลับเข้าไปในฝัก

“ขอโทษที่ต้องใช้วิธีโหดเหี้ยมแบบนี้พิสูจน์เรื่องที่ว่าไปด้วย”

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะองค์ชาย ข้าไม่เป็นไร แต่ว่าองค์ชายรู้ได้เช่นไรกัน?”

"เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก”

หลังจากนั้น ข้าก็หันหน้าไปหาเคน

"เคน!"

"ขอรับองค์ชาย!

เคนคิดว่าข้าจะแทงเขาเหมือนกัน เขาจึงเตรียมที่จะหลบการโจมตี ข้ายิ้มออกมา

"ตอนยังเด็ก เจ้าคงชอบลักเล็กขโมยน้อยไปทั่วเลยสินะ?”

“......?!”

"เจ้ามาจากสลัมที่มีปากท้องมากมายที่ต้องคอยเลี้ยงดู ขอเดาเลยว่ากว่าจะกลายมาเป็นอัศวินแบบนี้ได้คงไม่ง่ายแน่ๆ”

เคนไม่สามารถตอบได้ ตัวเขายืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบที่ข้าต้องการ

"เจ้าทำมาหากินโดยการขโมยและทันทีที่เจ้ากลายเป็นผู้ใหญ่ เจ้าก็มาสมัครเป็นทหาร หลังจากนั้นเจ้าก็ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศอย่างไม่ลดละและไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งอัศวิน เจ้าคงเผชิญกับอุปสรรคมากมายพอดู"

"เอ่อ... องค์ชายไปรู้มาจากไหนกัน?"

"ก็เหมือนอย่างที่พึ่งบอกไปนั้นแหละ จะไปรู้มาได้เช่นไรมันก็ไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่ทางเจ้าจะสามารถเอามันมาใช้ประโยชนืได้ยังไงต่างหาก”

ข้าสบตากับดวงตาที่สั่นเทาของเคน

"เจ้าสามารถอำพรางตัวได้ในทุกเวลาที่อยากทำเลย ข้าพูดถูกไหม?”

“......”

"ไหนลองตอบมาสิ หรือว่าอยากให้ทางนี้ช่วยให้เจ้าแสดงตัวอย่างให้ชมอีกสักทีไหมล่ะ?”

"ม่ะ ไม่ต้องขอรับองค์ชาย องค์ชายพูดถูกแล้ว ข้าทำได้จริงๆ”

"เอาล่ะ เช่นนั้น เจ้าก็คงสามารถทำตามคำสั่งของข้าได้อย่างแน่นอน”

เมื่อหันหลังให้กับเคน ข้ามองไปที่เดเมียนคนสุดท้ายที่กำลังนั่งยองๆ อยู่ตรงมุมห้อง

"เดเมียน”

“......”

"ทางนั้นมีสายตาที่เฉียบคมมากที่สุด บางทีอาจจะ 'มากเกินไป' นิดหน่อยด้วยซ้ำ”

เดเมียนมองมาที่ข้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า โดยที่ข้านั่งอยู่ตรงหน้าเขา

"เพราะอย่างนั้นแล้ว เจ้าก็เลยสามารถเห็นอะไรๆ ได้แบบชัดเจนมากที่สุด อย่างเช่นความตายของเหล่าสหาย”

“......”

“แม้ตอนนี้ มันก็ชัดเจนมากจนรู้สึกเหมือนเจ้าสามารถสัมผัสมันได้ตรงหน้าเจ้าเลย นั่นคงเป็นเหตุผลที่เจ้าร่ำไห้ออกมาเช่นนี้สินะ?”

เดเมียนยังคงเงียบเป็นเวลานานโดยไม่ตอบ ข้าจึงได้แต่รอ

“...เขาเป็นสหายที่มาจากบ้านเกิดของข้าเอง พวกเรามาจากบ้านเด็กกำพร้าที่เดียวกัน”

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เดเมียนจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นสถานที่ที่แย่มาก… ตอนที่ข้าอายุ 15 ปี ข้ากับแวนจึงหนีออกมาจากที่นั่น”

เห็นได้ชัดว่าเพื่อนที่ตายแล้วของเขาชื่อแวน ข้าคอยฟังสิ่งที่เขาเล่าอย่างเงียบงัน

"แวนมีพรสวรรค์มากในฐานะนักดาบ ข้าโชคดีที่มีความสามารถในการเป็นผู้รักษา เรารอดชีวิตมาได้ทุกวันในฐานะทหารรับจ้าง มีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงตัวเองไปวันๆ”

“......”

“ข้าเป็นทหารรับจ้างชั้นสามที่กลัวสัตว์ประหลาดและกลัวทุกครั้งที่เห็นเลือด แต่แวนที่กลายเป็นทหารรับจ้างชั้นหนึ่งไปแล้วก็พาข้าออกมาจากที่นั่น เราสัญญากันว่าจะหาเงินเพิ่มเพื่อไปเลี้ยงดูพี่น้องของเราในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

เดเมียนเอามือปิดใบหน้าของเขา

"แต่เขา...เขาตายไปแล้ว”

“......”

"ข้าถูกแมงมุมดำโจมตีขณะที่ข้าหมดกำลัง แวนผลักข้าออกไปและเสียสละตัวเองเพื่อช่วยข้าเอาไว้ เขาถูกฉีกกระชากต่อหน้าต่อตาของข้า เพื่อที่เขาจะได้ช่วยคนอย่างข้า”

เดเมียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สมาชิกปาร์ตี้คนอื่นๆ มองไปที่เขาด้วยใบหน้าสับสน

"เขาไม่ควรจะตายในที่แบบนี้ เขามีความฝันและเขามีความสามารถที่จะทำตามความฝันนั้นสำเร็จ แต่เพราะสถานที่แห่งนี้…”"

“......”

"ทำไมท่านถึงพาเรามาที่นี่องค์ชาย? ทำไม? ท่านมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อะไรอยู่กันแน่? หรือชีวิตแสนไร้ราคาของพวกเรามันไม่มีความหมายอะไรในสายตาขององค์ชายเลยอย่างนั้นเหรอ?”

เดเมี่ยนร้องไห้ออกมาอีกครั้ง น้ำตาค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาของเขา

"ช่วยคืนแวนให้ข้าด้วย ได้โปรดคืนสหายของข้ามาด้วย"

ข้ายังคงเงียบ ฟังทุกอย่างที่เดเมียนพูดและจากนั้นก็พยักหน้าสั้นๆ

"ถ้าอยากจะโทษกัน ก็เอาเลยเดเมียน หากอยากจะเกลียดจะชังกันนัก ก็เชิญเลย”

ข้าวางมือของข้าบนไหล่ที่สั่นของเดเมียน

"แต่เพื่อนของเจ้า แวนน่ะ ได้ยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อมาช่วยเจ้าเอาไว้”

“......”

"แล้วเจ้าจะนั่งรอความตายต่อไปแบบนี้เหรอ?”

เดเมียนเริ่มตัวสั่นน้อยลง ข้าเปล่งน้ำเสียงของข้าให้ดังมากขึ้น

“เจ้าจะยอมแพ้กับชีวิตเพียงเพราะเจ้าอยู่ที่หน้าประตูแห่งความตายกับผู้บัญชาการขยะอย่างข้าเหรอ?”

"ข้า..."

"เจ้าต้องสู้”

ข้าออกแรงจับไหล่ของเดเมียนมากขึ้น

"เจ้าต้องแก้แค้น!”

“......”

"ฆ่าไอ้แมงมุมพวกนั้น กลับออกไปจากที่นี่ด้วยการมีชีวิตอยู่! แล้วก็สั่งสอนข้าซะ”

เรียบร้อย

ข้าเม้มริมฝีปากแล้วถามออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"เดเมียน เจ้าเองก็อยากฆ่าแมงมุมพวกนั่นใช่ไหม?”

ดวงตาใหญ่ของเดเมียนในแว่นตาเปื้อนเลือดยังคงดูมีความกังวล แต่เขาก็ไม่ได้ตัวสั่นอีกแล้ว

"ขอรับ”

"แล้วเจ้าเองก็อยากจะฆ่าข้าใช่ไหมล่ะ?”

สมาชิกปาร์ตี้คนอื่นๆ ต่างตกใจกับคำถามของข้า

เดเมียนคิดและตอบอย่างตรงไปตรงมา

"ขอรับ”

"ก็ดี”

ข้าปล่อยมือออกจากไหล่ของเดเมียนและชี้นิ้วหัวแม่มือมาที่ตนเอง

"ข้าขอสัญญาเลยว่าหากพวกเรารอดออกไปจากที่นี่กันได้ เจ้าจะเป็นคนชี้นำว่าชีวิตของข้าผู้นี้ควรจะจบลงเช่นไร จะอย่างไหนก็ได้ทั้งนั้นเลย”

"องค์ชาย?!”

ลูคัสตกใจกับคำพูดของข้าและพยายามพูดอะไรบางอย่าง แต่ข้าเหยียดมือและห้ามเขา

"หากแผนนี้เกิดล่มขึ้นมา ยังไงพวกเราก็ต้องมาตายอยู่ที่นี่แน่ หากมันเป็นแบบนั้น ข้าก็จะให้เจ้าเป็นคนดับลมหายใจของข้าเอง ขอสัญญาด้วยการเอาชื่อของราชวงศ์เป็นเดิมพัน”

“......”

"ขอแค่วันเดียวก็พอ ช่วยทำตามคำสั่งของข้าคนนี้ด้วยเถอะนะ”

ดวงตาของเดเมียนที่มองขึ้นมาที่ข้าค่อยๆ สงบลง ข้าได้แต่หัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา

บางครั้งคนเราก็ต้องเอาความโกรธแค้นมาเป็นแรงผลักดัน

แม้ว่ามันจะเป็นความโกรธแค้นที่มีต่อตัวข้าเองก็เถอะ

เดเมียนค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

ข้ามองไปรอบข้างพร้อมด้วยรอยยิ้ม สมาชิกทั้งสี่คนมองมาที่ข้า

ในที่สุดไพ่ในมือของข้าก็มีครบแล้ว

"เอาล่ะนะทุกคน”

ข้าเองก็ไม่รู้ว่าไพ่ในมือมันเป็นรอยัลสเตรทฟลัชหรือฟลัช หรือแค่ไพ่บอลกันแน่

แต่ข้าเองก็ไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากต้องทุ่มมันหมดหน้าตักอยู่ดี

"ถ้าอย่างนั้นตั้งแต่ตอนนี้ ข้าจะสั่งการปฏิบัติการเอง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด