ตอนที่แล้วบทที่ 29: ภาคีมือสังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31: พันนิชเชอร์

บทที่ 30: ข่าว


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 30: ข่าว

"นี่ ไรอัน ช่วยผมดูหน่อยสิว่าสิ่งนี้มีค่าแค่ไหน?"

ในร้านขายของเก่า วัยรุ่นผิวดำร่างสูงบางดึงจี้ห่วยๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ทของเขาและส่งให้ไรอัน

"20 เหรียญ"

ไรอันเหลือบมองจี้พร้อมกับตอบกลับไป

"20? นี่! มันเป็นสมบัติที่ผมทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มันมาเลยนะ” เมื่อได้ยินราคาที่ไรอันเสนอ เด็กหนุ่มผิวดำก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ

"25 ไม่มากกว่านี้แล้ว" ไรอันเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขามาบ่อยมาก จนเขาแทบไม่เงยหน้าไปมองมันเลย

“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้น 25” เด็กหนุ่มผิวดำพึมพำพร้อมกับรับเงินที่ไรอันยื่นให้เขาและเก็บมันไว้อย่างระมัดระวัง "ฉันไม่ได้หมายความในทางที่ไม่ดีเลยนะ แต่นี่เป็นเพราะเราเป็นเพื่อนกัน ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ ฉันคงไม่ขายมันให้นายราคาต่ำขนาดนี้หรอก..."

"ทุนมหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง เวลส์?" ไรอันขัดจังหวะเด็กวัยรุ่นที่กำลังพูดด้วยคำถามที่ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเป็นมิตร

“ก็เหมือนเดิม แต่แน่นอนถ้าคุณให้มากกว่านี้อีกหน่อย ผมอาจจะเข้าใกล้เป้าหมายของผมเร็วกว่านี้แล้ว” เด็กหนุ่มวัยรุ่นได้ยักไหล่ตอบพลางจ้องไปที่ไรอันด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนที่จะกลับไปทะเล้นเหมือนเดิม

เวลส์ เกิดในสลัมของย่านเฮลคิทเช่น เขาโตขึ้นมาเหมือนคนผิวดำส่วนใหญ่ มีพ่อที่เขาไม่เคยพบและแม่ที่แข็งแกร่ง

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่จะอยู่รอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่อย่างย่านเฮลคิทเช่น สรุปก็คือเวลส์มีแม่ที่ดี อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้สวยขนาดนั้น ทั้งยังมีน้ำหนักถึง 200 ปอนด์

แต่ด้วยการ 'ดูแล' ของแม่เขา แม้จะอยู่สภาพแวดล้อมที่รุนแรงและเลวทรามอย่างย่านเฮลคิทเช่น เขาก็ไม่ได้รับนิสัยที่ไม่ดีมาเลย อย่างน้อยก็ไม่เหมือนเพื่อนส่วนใหญ่ของเขาที่เข้าร่วมแก๊งก่อนที่พวกเขาจะจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมและกลายเป็นอันธพาลกัน

“ถึงมันจะไม่ใช่วิทยาลัยที่ยอดเยี่ยม แต่อย่างน้อยมันก็เป็นทางเลือกที่ดี แม่กับผมตกลงที่จะหางานที่ดีในนิวยอร์ก หลังจากที่ผมเรียนจบ พอได้งาน เราก็จะย้ายออกจากย่านเฮลคิทเช่นทันทีเลย”

"ขอให้ความฝันของนายเป็นจริงโดยเร็วที่สุดล่ะ"

ไรอันชอบเวลส์ วัยรุ่นคนนี้มาก เมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ในย่านเฮลคิทเช่น อย่างน้อยเขาก็มีความหวังและมีเป้าหมายของตัวเองที่จะสู้

ถึงในอนาคตไรอันจะรู้ว่าระดับอันตรายในนิวยอร์กมีมากมาย แต่ต่อให้หนีออกนอกโลกไป ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะหนีพ้นเลย

แต่ใครจะรู้ล่ะ บางทีเขาอาจเป็นหนึ่งในผู้โชคดีก็ได้

ไรอันที่ตกอยู่ในห้วงภวังค์ก็กลับมาได้สติพร้อมกับมองจี้โทรมๆ บนเคาน์เตอร์ใหม่อีกครั้ง "บอกได้ไหมว่านายได้เจ้านี้มาจากไหน?"

แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหาย แต่แกนสีเข้มที่เผยให้เห็นบนจี้ก็ยังคงบ่งบอกถึงคุณค่าของมันแก่ไรอัน

"ไรอัน คุณรู้ถึงเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในย่านเฮลคิทเช่นเมื่อเร็วๆ นี้หรือเปล่า?"

เวลส์เงยหน้าออกมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนานและลึกลับ

"เรื่องใหญ่เหรอ?"

ไรอันเลิกคิ้วจนอดไม่ได้ที่จะโพล่งคำถามออกมา

เมื่อเร็วๆ นี้เขาได้รวบรวมคะแนนชื่อเสียงไปทุกที่ จนเขาไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในย่านเฮลคิทเช่นเลย

ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของไรอันทั้งหมด

เพราะชื่อของย่านเฮลคิทเช่น ก็บ่งบอกถึงตัวมันเองได้อยู่แล้ว ย่านเฮลคิทเช่นเป็นสถานที่ที่มีอาชญากรรมรุนแรงทุกประเภทเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน ไม่มีใครรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับย่านนี้หรอก หากไม่ได้ให้ความสนใจมันเป็นอย่างดี

"10 เหรียญ ไม่สิ 20 เหรียญ !"

อีกด้านหนึ่ง เวลส์กำลังเฝ้าดูปฏิกิริยาของไรอัน เมื่อเขาเห็นสีหน้าสับสนของอีกฝ่าย เขาก็แบมือขึ้นมาพร้อมกับเรียกราคา

"10 เหรียญ"

ไรอันตอบกลับไปพร้อมกับดึงธนบัตร 10 ดอลลาร์ออกมาด้วยท่าทาง 'จะเอาหรือไม่เอา'

“ไรอัน คุณจะขี้เหนียวเกินไปแล้วนะ”

เวลส์บ่นพึมพำและซุกเงินไว้ก่อนที่จะพูดต่อ "เมื่อไม่นานมานี้ แก๊งอำมหิตได้มีปัญหากับคนบ้า ธุรกิจของพวกเขาในย่านเฮลคิทเช่นได้เสียหายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงคนในแก๊งด้วย บาร์หลายแห่งได้ถูกบังคับให้ปิดตัวลงไป แอนโทนี่ หัวหน้าของแก๊งอำมหิตได้ออกคำสั่งแล้ว ใครก็ตามที่สามารถจัดการคนบ้าคนนั้นได้ จะกลายเป็นหัวหน้าคนใหม่ของเขตที่ 6 ของแก๊งอำมหิตทันที และรับผิดชอบธุรกิจทั้งหมดในเขตไปเลย"

พอพูดถึงเรื่องนี้ แม้แต่เวลส์ที่มุ่งมั่นที่จะไม่ร่วมแก๊งก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย เพราะการได้เป็นหัวหน้าเขตไม่ใช่สิ่งที่สามารถเปรียบเทียบได้กับการเป็นสมุนในแก๊ง

แน่นอนว่าข้อเสนอที่ใจดีเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะบอกให้เห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันของแก๊งอำมหิตนั้นมืดมนเพียงใด

“คนบ้าเหรอ?”

ไรอันพูดทวนซ้ำถึงคนที่เวลส์กล่าวออกมา

“นั่นคือชื่อที่แก๊งอำมหิตเรียกเขา ผมคิดว่าเขาเป็นสุดยอดทหารผู้ทำลายล้างเลยล่ะ ผู้คนบอกว่าเขาสามารถยิงพวกแก๊งอำมหิตทั้งหมดให้เป็นรูพรุนด้วยตัวเขาคนเดียวเลย เพราะอย่างพวกแก๊งอำมหิตเลยไม่รู้ว่าทำไม...”

'สุดยอดทหาร ผู้ทำลายล้าง ทำเรื่องทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว?'

ตามที่เวลส์อธิบาย ในใจของไรอันพลันผุดนึกถึงภาพชายคนหนึ่งในหัวค่อนข้างชัดเจน

...

ย่านเฮลคิทเช่น ภายในบาร์อีกแห่งของแก๊งอำมหิต

หลังจากการยิงที่ดุเดือด

เท้าคู่หนึ่งได้เหยียบลงบนพื้นดินที่ยุ่งเหยิง ชายร่างกำยำผมสั้นได้ออกมาจากเงามืดด้วยความเงียบงัน

"ทำไม ทำไมกันล่ะ?" สมาชิกแก๊งอำมหิตที่นอนอยู่บนพื้นได้คร่ำครวญและถามออกมา "ทำไมแกถึงมุ่งเป้ามาที่เรา? ใครกันที่ส่งแกมา... "

“พวกแกรู้จักตาแก่ที่อาศัยอยู่ในเขตที่ 6 ไหมไอ้เศษขยะ?”

ชายคนนั้นถือ 'ของเล่น' ไว้ในมือข้างหนึ่งพลางจ้องมองลงไปที่สมาชิกแก๊งที่กำลังคร่ำครวญและถามด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อคล้ายกับแผ่นเหล็กโลหะ

"เขาตายไปเพราะหนึ่งในปาร์ตี้ 'สนุก' ของพวกแก"

“นั่นเป็นเหตุผลที่แกเอาแต่โจมตีเราเหรอ? เพราะไอ้เศษสวะไร้ค่าที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเนี่ยนะ!” แก๊งอำมหิตพยายามหาเหตุผลที่ชายบ้าคนนี้โจมตีพวกเขา แต่ไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่เขาเข้าโจมตีจะเป็นเหตุผลที่ 'ธรรมดา' เช่นนี้

ปัง!

เลือดที่กระเด็นจากการยิงได้เปื้อนกะโหลกศีรษะสีขาวบนหน้าอกของชายคนนั้นเป็นสีแดงสด เมื่อมองไปที่สภาพของบาร์ ชายคนนั้นก็หยิบระเบิดมือขึ้นมาและโยนมันลงที่บนพื้นของบาร์

เขาจ้องไปที่การระเบิดครั้งใหญ่ตรงหน้าและกระซิบออกมา

“สำหรับฉัน แกเองก็เศษสวะเหมือนกัน”

...

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด