ตอนที่แล้วบทที่ 3. วันเอพริลฟูลส์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 คิงพิน

บทที่ 4 คนที่สิ้นหวัง


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 4 คนที่สิ้นหวัง

วันต่อมา

สื่อทุกช่องของนิวยอร์คกำลังรายงานข่าวว่า ตำรวจ ถูกหลอกโดยการจอมโจรคิดในวันเอพริวฟลูส์เดย์ที่ไทม์สแควร์เมื่อวันก่อนนี้

พาดหัวข่าว  "สุขสันต์วันเอพริลฟูลส์นะ! พวกตำรวจ" --นิวยอร์กไทมส์.

พาดหัวข่าว  "ตำรวจ: ผู้โง่เขลาแห่งเดือนเมษายน!"  --เดียรี่บูลเกิล.

พาดหัวข่าว  "เรื่องตลกของไทม์สแควร์!"       -- นิวยอร์กรายวัน

พาดหัวข่าว  "จอมโจรคิดผู้อาจหาญ และตำรวจผู้โง่เขลา"    -- แมนฮัตตันทริบูน

...

โคแนน: "เคท ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไม่โทรไปที่สถานีตำรวจเด็ดขาด"

เคท: "ทำไมล่ะ?"

โคแนน: "เพราะพวกเขายังอยู่ในไทม์สแควร์กันไงล่ะ… "

ผู้ชม: "ฮ่าฮ่าฮ่า"

-- ยามดึกกับโคแนน โอไบรอัน

...

[คะแนนชื่อเสียงจาก ประชากรนิวยอร์ก +0.01]

[คะแนนชื่อเสียงจาก ประชากรนิวยอร์ก +0.02]

[คะแนนชื่อเสียงจาก จอร์จ สเตซี่ +3]

[คะแนนชื่อเสียงจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจ +0.03]

[คะแนนชื่อเสียงจาก จอร์จ สเตซี่ +2]

[ชื่อเสียงจาก...นิวยอร์ค...]

ในร้านขายของเก่า ไรอันมองดูการแจ้งเตือนของระบบที่กระพริบอยู่ตรงหน้าเขา

แม้แต่ระบบก็ยังสามารถรับรู้ความโกรธของตำรวจได้   ครั้งนี้พวกเขาคงรู้สึกขายหน้าจริงๆ

ควบคู่ไปกับการรายงานของสื่อ ตำรวจได้กลายเป็นที่หัวเราะเยาะของคนทั้งเมืองในนิวยอร์ก และในขณะเดียวกัน มันก็ยังให้คะแนนไรอันอย่างต่อเนื่อง

"ถ้าฉันสามารถได้รับคะแนนชื่อเสียงมากกว่านี้ล่ะก็…"

ตอนนี้ ถ้ามีสิ่งใดที่ไรอันรู้สึกไม่พอใจ นั่นก็คือระบบเอง

วิธีนับคะแนนชื่อเสียงของระบบค่อนข้างไม่เอื้ออำนวยเลย พลเมืองนิวยอร์กโดยเฉลี่ยสามารถเพิ่มชื่อเสียงของเขาได้ประมาณ 0.01 ถึง 0.05 ส่วนหากชื่อเสียงของเขามาจากสื่อทางอ้อมหรือการรายงานข่าวทางโทรทัศน์ มันก็จะน้อยกว่านั้น หรือในบางกรณีแทบไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะไม่ได้เห็นตัวเป็นๆ จึงไม่สามารถสร้างความประทับใจได้มากนัก พูดง่ายๆ ก็คือ คะแนนจากประชากรชาวนิวยอร์กหลายพันคนไม่สามารถเทียบกับของจอร์จ สเตซี่ ผู้บัญชาการของตำรวจเพียงคนเดียวได้เลย

คล้ายกับระบบกำลังบังคับให้ ไรอัน หาตัวละครอย่าง จอร์จ สเตซี่ ผู้บัญชาการของ ตำรวจ ซึ่งจะทำให้เขาได้รับรางวัลสูงๆ และได้รับคะแนนชื่อเสียงมากมายเป็นการตอบแทน

ดังนั้นเขาจึงเล็งไปที่ชื่อเสียงจากคิงพิน

ต้องบอกก่อนว่าไรอันยังไม่ละทิ้งความเป็นไปได้ที่จะรวบรวมคะแนนชื่อเสียงจากชาวนิวยอร์ก แม้คะแนนชื่อเสียงที่รวบรวมจากตัวละครมาร์เวลที่โด่งดังนั้นจะได้สูงกว่าที่มาจากคนทั่วไป แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะ 'ไม่เป็นอันตราย' เหมือนผู้บัญชาการสเตซี่ ฮีโร่หรือซุปเปอร์วายร้ายส่วนใหญ่นั้นอันตรายอย่างยิ่ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ทำให้ไรอันยังไม่สามารถแตะต้องพวกเขาได้ในตอนนี้

นอกจากนี้ แม้ว่าคะแนนชื่อเสียงที่เขาได้รับจากชาวนิวยอร์กจะต่ำ แต่โดยส่วนใหญ่เขาก็ได้คะแนนมาจากพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น การรวบรวมคะแนนหลายๆ รอบยังทำให้ไรอันได้รับคะแนนชื่อเสียงมากกว่าหนึ่งร้อยจุด ด้วยคะแนนชื่อเสียง 800 คะแนนที่เขามีอยู่แล้ว เขาแค่ต้องใช้ความพยายามอีกเล็กน้อย และหีบสมบัติใหม่ก็จะอยู่ในมือของเขาแล้ว

'ฉันจะทำเป็นเล่นไม่ได้ ฉันต้องห้ามมองเป็นประชากรชาวนิวยอร์กทั่วไปหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเด็ดขาด'

ไรอันบอกตัวเองในใจ จากนั้นเขาก็เก็บกดความคิดที่ปั่นป่วนอยู่ในใจ และมุ่งความสนใจกลับไปที่ร้านขายของเก่า

...

ดิง ดิง --

เสียงกระดิ่งดังขึ้นที่ทางเข้าร้านขายของเก่า

ชายวัยกลางคนในชุดเสื้อผ้ามอมแมมเปิดประตูเข้ามา

รูปลักษณ์แบบเอเชียที่ชัดเจนของชายคนนี้ทำให้ไรอันสนใจเขามากขึ้นเล็กน้อย แต่แล้วไรอันก็ละสายตาจากเขาและเปิดปากต้อนรับเขา

"ยินดีต้อนรับ มีอะไรให้ผมบริการครับ?"

ในฐานะเมืองผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีชาวเอเชียไม่มากนักที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ชุมชนกลุ่มเล็กๆ

สายตาของชายคนนั้นกวาดมองทุกอย่างในร้านขายของเก่า สินค้าโบราณต่างๆ ในร้านทำให้เขารู้สึกยับยั้งชั่งใจเล็กน้อย เขาถามออกมาอย่างไม่มั่นใจ "คุณสะสมของเก่าที่นี่เองเหรอ?"

"แน่นอนครับ"

จากท่าทีของอีกฝ่าย ไรอันสัมผัสได้ว่าเขาคงไม่ใช่คนช่างพูดอะไรมาก เพราะเขาพยักหน้าเป็นการตอบรับกลับมา

ส่วนสาเหตุหนึ่งที่เขารู้สึกแบบนั้น เพราะเขารับรู้จากทักษะการประเมินของจอมโจรคิด

เมื่อได้ยินคำตอบ ชายคนนั้นจึงดึงสร้อยข้อมือที่พันกันออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ไรอันอย่างระมัดระวัง

“สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของภรรยาฉัน คุณช่วยประเมินราคาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

มันเป็นหยกปลอม

ต้องขอบคุณทักษะการประเมินที่เหนือชั้นของจอมโจรคิด ไรอันจึงสามารถระบุสร้อยข้อมือหยกในมือของชายผู้นี้ได้ในทันที

มันเป็นเพียงแค่ของเลียนแบบที่ทำขึ้นอย่างหยาบๆ

“สร้อยเส้นนี้ราคาเท่าไรเหรอ?”

ไรอันละสายตาจากดวงตาแห่งความหวังของชายผู้นั้น เขามองลงมาที่สร้อยข้อมือที่ทำขึ้นอย่างหยาบๆ ตรงหน้าเขาอย่างเงียบๆ ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตอบไปว่า "ห้าสิบ"

“ห้าสิบเหรอ?!”

เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นยังไม่พอใจกับข้อเสนอที่ไรอันให้ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "คุณครับ ช่วยให้ราคาสูงขึ้นอีกหน่อยได้ไหม ผมต้องการเงินนี้จริงๆ"

"ห้าสิบคือราคาสูงสุดแล้ว"

ในความเป็นจริง สร้อยข้อมือของชายคนนี้ไม่สามารถขายให้ร้านค้าอื่นได้ถึงห้าเหรียญด้วยซ้ำ

"ห้าสิบ? ห้าสิบ! ห้าสิบ ... "

ในร้านขายของเก่า ชายคนนั้นพึมพำอยู่นาน ก่อนที่จะพยักหน้าพร้อมฟันที่กัดแน่น "ห้าสิบ ห้าสิบก็ห้าสิบ!"

เขายื่นมือออกไปและรับเงิน 50 ดอลลาร์ของไรอัน ชายคนนั้นซ่อนมันไว้ในร่างกายอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเดินออกจากร้านด้วยใบหน้าที่สิ้นหวัง

"อีกหนึ่งชายผู้ไร้ความหวังจากเฮลส์คิทเช่น..."

ในร้านซักรีด แจ็คอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในขณะที่เขามองไปยังด้านหลังของชายที่จากไป

ในฐานะที่เป็นผู้อาศัยในแมนฮัตตันมาตลอดชีวิต แจ็คคุ้นเคยกับการเห็นผู้คนตกต่ำและหมดหวังเช่นเดียวกับชายคนนั้น

"มีใครบ้างที่ไม่หมดหวังใน เฮลคิทเช่น?”

ด้วยความที่มันเป็นพื้นที่แออัด อันตรายและยากจนที่สุดในนิวยอร์ก การใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในฐานะคนธรรมดาถือได้ว่าเป็นความหรูหราของที่นี่

แม้แต่ไรอันเองก็ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อตั้งหลักที่นี่

หลังจากคุยกับแจ็คในร้านซักรีด ไรอันก็กลับมาที่ร้าน สายตากวาดมองไปยังกำไลหยกที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะ

เขาดูมันแล้วโยนมันไปที่กองร้านขายของชำด้านข้าง

“แม่ แม่! พ่อกลับมาแล้ว!”

ในเฮลคิทเช่น สลัมที่อับชื้นและคับแคบ

เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่มีผมเปียสองข้างและรูปร่างค่อนข้างผอม ร้องเรียกแม่ของเธอซึ่งนอนอยู่บนเตียง

“เป็นยังไงบ้างเหรอ?” ผู้หญิงที่มีใบหน้าเหี่ยวหย่นเอ่ยถาม

เขาฝืนยิ้มและลูบหัวลูกสาว ชายคนนั้นมองดูภรรยาของเขาที่นอนอยู่บนเตียง "ขายไปแล้ว แต่เงินไม่มากอย่างที่คิด"

“แค่ก แค่ก  เท่าไหร่เหรอ?”

"แค่ห้าสิบ"

"..."

เกิดความเงียบขึ้นเป็นเวลานาน

ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาด้วยความยากลำบาก "บางทีเราไม่ควรไปรับการรักษ... "

"ไม่!!!" ชายคนนั้นพูดเสียงดังจนขัดจังหวะคำพูดต่อไปของภรรยา เขาตะโกนออกมา "ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้"

“แต่เราไม่มีเงินมากขนาดนั้นนะ”

“ฉันจะหาทางหาเงิน ถ้าไม่ได้ผล ฉันก็จะไปหามาดามเกา…”

"บ้าไปแล้ว! คนที่ทำงานให้กับมาดามเกามีแต่..."

“ไม่ว่ายังไงมันก็ยังดีกว่าต้องเห็นคุณตาย!”

“คุณพ่อ คุณแม่…”

...

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด