ตอนที่แล้วเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 13 – สิ่งที่ต้องทะลวงผ่านไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 15 – ค่ำคืนแห่งโชคชะตา

เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 14 – เบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลง


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

เล่มที่ 3 บทที่ 14 – เบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลง

(วอลสัน)

ฉากเบื้องหน้าของข้าเต็มไปด้วยแมกม่าสีแดงเรืองแสงและหินที่กำลังลุกไหม้

อากาศร้อนที่แผดเผาทำให้วิสัยทัศน์ของข้าบิดเบี้ยว…ทุกอย่างตรงหน้าของข้าคล้ายกับเป็นโลกของบล็อค…

ภาพตรงหน้าช่างเป็นสิ่งที่ดูคุ้นเคยนัก ที่นี่…มันคือดินแดนใต้พิภพในมายคราฟงั้นเหรอ?!

ก่อนหน้านี้ตัวข้าอยู่ในบ่อชำระล้างแห่งสายธารไม่ใช่หรือ?

ในตอนนั้นเอง คล้ายกับมีไอเย็นที่ทำให้ข้าหนาวถึงกระดูกสันหลัง ข้าหันหน้าไปและเห็นร่างหนึ่ง

แขนขาของเขาถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็ก ตอกเข้ากับผนังในท่าคุกเข่า

ขณะที่ข้ามองไปที่เขา เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาของข้าและเงยหน้าขึ้น

มันมี…ผมสีน้ำตาลสูง 1.6 เมตร… มันคือ…ข้างั้นเหรอ?

ทันใดนั้นข้าก็รู้ว่าอะไรที่ทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจ

ตัว “ข้า” นั้นไม่มีรูม่านตา มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งที่เปล่งแสงสีขาวจ้องมองมาที่ข้าโดยไม่แสดงสีหน้าใดออกมา

“ข้าเจอเจ้าแล้ว”

เสียงนั้นฟังเหมือนของข้า แต่มันส่งความรู้สึกเย็นยะเยือกให้กับข้า

"ว้าว!"

…สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาของข้าคือเรือนผมสีขาวยาวสลวย…ใบหน้าของเดริชากำลังเป็นกังวล โดยมีบ่อชำระล้างแห่งสายธารประดับเป็นพื้นหลัง

ด้านหลังศีรษะของข้ารู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวล…โอ้! ตัก! ข้ากำลังนอนบนตัก! โอ้ ช่างน่าอัศจรรย์อะไรขนาดนี้!

ว่าแต่ข้าฝันถึงอะไรกัน...ทำไมข้าจำอะไรไม่ได้เลย คงจะเป็นแค่ฝันร้ายธรรมดาๆ กระมัง

“ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้ว…เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“ข้าสบายดี ข้าสบายดี ทำไมข้าถึงมานอนบนตักเจ้าได้ล่ะเนี่ย?”

“หลังจากที่เราต่อสู้กันจบไปแล้ว เจ้าก็หมดสติไป ข้าเลยให้เจ้าพักแบบนี้แหละ” เดริชามองขึ้นลงด้วยสายตาของนาง เพื่อตรวจสอบว่าข้าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า ทว่าสายตาของนางก็ทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

ขณะที่นางมองด้วยความเป็นห่วง ข้าก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ แม้ว่าข้าจะเสียแขนขวาไป ข้าก็ไม่สามารถตายได้อยู่ดี…แถมตอนนี้มันฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วด้วย

เมื่อเห็นเดริชาหยิบของที่ตกลงมาจากสิ่งที่นางฆ่า...โรคบ้าการทำงานของข้าก็ได้กลับมาอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าเพราะความตึงเครียดอย่างมาก ข้าจึงหมดสติไปอย่างรวดเร็วลอยอยู่บนผิวน้ำราวกับศพไร้ชีวิต ต่อมา เดริชาก็พบข้าและพาข้ามาที่นี่

“…ข้าหลับไปนานแค่ไหนแล้ว?”

“หนึ่งชั่วโมงและ…เจ้าเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตแบบนั้นเพื่อข้าเลยเหรอ?” สายตาของนาง…ดูโกรธมาก

“ข้าก็ยังไม่ตายใช่ไหมล่ะ?” ข้าหัวเราะและตอบไปพร้อมกับเอื้อมมือไปถอดสร้อยคอที่ห้อยอยู่รอบคอออก

ที่ที่ควรจะมีอัญมณีระยิบระยับบนสร้อยคอตอนนี้มีหินสีคล้ำที่มีรอยแตกอยู่

นี่คือสร้อยคอหินผู้พิทักษ์ที่เกรซมอบให้ข้าในวัยบรรลุนิติภาวะ หลังจากผสมมันด้วยเวทมนตร์ มันสามารถทำให้การโจมตีที่เป็นอันตรายเป็นโมฆะได้เพียงครั้งเดียว ซึ่งทำให้ข้ามั่นใจได้เลยว่าข้าจไม่มีทางตายได้จากการโจมตีเดียว มันเป็นไอเท็มที่สิ้นเปลืองมาก

แต่ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ข้าอาจจะตายตอนที่ช่วยรับการโจมตีแทนเดริชาแล้ว

ในตอนที่ต่อสู้กับผู้พิทักษ์โบราณ…เดริชาดูจะบ้าคลั่งไปเลย

นางโจมตีไปอย่างมั่วซั่วและถูกสะท้อนการโจมตีกลับมาด้วย…อา ไว้พูดถึงเรื่องนี้ทีหลังแล้วกัน

ซึ่งในระหว่างการต่อสู้ เดริชาก็ได้…เปิดใช้งาน “วิญญาณมังกรครอบครอง” ของนาง แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย ข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลย…แต่หลังจากที่ฉันตกลงไปในน้ำอย่างสิ้นหวัง ทันใดนั้นนางก็เริ่มโต้กลับ

ฉากนั้นน่าทึ่งมาก! ถ้าข้าต้องอธิบายเป็นคำพูด มันก็เหมือนกับนางได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสายลม

พายุทำให้ผิวน้ำปั่นป่วนก่อตัวเป็นทอร์นาโดน้ำขนาดยักษ์ ในเวลาเดียวกัน สายลมได้หมุนวนด้วยควมรวดเร็ว เบี่ยงเบนและพัวพันการโจมตีของผู้พิทักษ์โบราณ จากนั้นลม น้ำและสายฟ้าได้เข้าโจมตีผู้พิทักษ์โบราณรวมกันเป็นมังกรน้ำขนาดใหญ่ มันพุ่งตรงไปที่เป้าหมาย!

ช่องว่างในตัวของมันที่เต็มไปด้วยน้ำได้ผลิแตกออกจนกระจายฟุ้งออกมาทั่ว!

อา...ช่างมันเถอะ ไหนมาดูรอบๆ กันก่อนดีกว่า… หือ? ทำไมเราถึงอยู่บนแท่นนี้ได้กัน?

“ข้าดีใจที่ในที่สุดท่านก็ตื่นขึ้นมา วิญญาณผู้กล้าหาญที่บุกทะลวงบ่อชำระล้างแห่งสายธาร”

เสียงของหญิงสาวดังก้องอยู่ในใจของข้า

ข้ามองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจอย่างกลัวๆ

“แต่… ผู้กล้าหาญ แม้จะมีพลังที่เหลืออยู่ของข้า ข้าก็ไม่สามารถพาท่านออกไปหรือให้พรได้…บนโลกนี้…”

อะไรนะ? เป็นไปได้ไหมว่า...

“เดี๋ยวก่อน ดื่มนี่ดูสิ” ข้าหยิบน้ำนมออกมาและเข้าไปใกล้หัวมังกรขนาดยักษ์ที่จ้องมองมาที่เรา

“นี่มัน…อึก!”

ข้าไม่อยากจะสื่อสารต่อพร้อมกับโยนนมเข้าไปในปากของนาง

ความสามารถของมันบังเกิดผลทันที

ถ้านางไม่สามารถส่งเราไปได้เพราะอ่อนแอ มันคงเกิดปัญหากับพวกเขาทั้งสองแน่

คำสาปสีดำได้สลายไปและรวมตัวกันอยู่ในอากาศ ก่อให้เกิดรูปร่างที่ค่อนข้างคุ้นเคย

ตามที่คาดไว้ เรื่องทั้งหมดเกิดจาก “กธโหลกคำสาปเหี่ยวเฉา”

ใครบนโลก…ที่ทิ้งของแบบนี้ไว้กัน? แถมที่แย่ที่สุดคือเขามักจะเป็นคนแรกที่เจอกับอะไรแบบนี้เสมอเลย! เขาพยายามตรวจสอบแล้ว แต่ก็ไม่พบคำตอบอะไรเลย!

เมื่อได้มันมา เขาก็เก็บมันไว้ใน [กระเป๋าเก็บของ] และปิดผนึกทันที! เมื่อรวมกับเศษซากที่ได้มาจากโกเล็มน้ำด้วย ตอนนี้เขาก็มีมันอยู่ใน [กระเป๋าเก็บของ] รวมๆ สามชิ้น

สิ่งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวพวกนี้คือใครกัน...

“ท่านมียาเช่นนี้อยู่ด้วย! นักรบผู้กล้าหาญ การที่ท่านมีของแบบนี้ ทั้งยังสามารถพิชิตเขาวงกตนี้ได้…ช่างเป็นยุคสมัยที่ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เอาล่ะ ไหงนางช่างพูดเหมือนกับนางไม้ไม่มีผิดเลยแฮะ

“เจ้าเคยพบกับนางไม้ด้วยเหรอ? เจ้าได้พบนางหรือเปล่า?” นี่นางอ่านใจข้าเหมือนกับนางไม้เลยหรือ?

ใช่แล้ว ข้าเคยเห็นนางและข้าก็ยังได้รับพรจากนางด้วย

.

เดริชาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มองมาที่ข้าด้วยความสับสน

ดูเหมือนว่านางจะไม่เข้าใจบทสนทนาของข้ากับมังกรเบื้องหน้า… ตอนนี้ขอเรียกนางว่าคุณมังกรไปก่อนแล้วกัน นางไม่สามารถเข้าใจบทสนทนาของเราได้

“นี่เจ้าเป็นมิตรสหายกับนังแม่มดคนนั้นเหรอ!? น…นังนั่นน่ารังเกียจเนี่ยนะ!!!”

หา? ทันใดนั้นความสุภาพของนางก็หายไปหมดสิ้น

“ถ้าอย่างนั้นในเมื่อเจ้าไม่เหมาะสม ข้าก็จะให้สหายของเจ้าได้รับพรแทน” คุณมังกรหันหน้าไปมองเดริชา

เจ้าช่วยอธิบายหน่อยไม่ได้เหรอ? จะเอางี้จริงเหรอ?

"โอ้? ไม่ ไม่ ข้าไม่ใช่สหายของเขา”

"อืม ช่างเถอะน่า แม่สาวน้อย เจ้าชื่ออะไร?” นางเอ่ยถาม

“…เจ้าไม่ควรแนะนำตัวเอง ก่อนที่จะถามชื่อใครสักคนหรอกหรือ?” เดริชาตอบกลับไป

"โอ้! แม่สาวน้อยผู้นี้คงไม่กลัวอะไรเลยสินะ!” คุณมังกรอุทานออกมา

“ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก” เดริชาสวนย้อนกลับไป

“ข้าก็ไม่กลัวเจ้าเหมือนกัน…ได้ ข้าชื่อเตกิตตัน ตอนที่ข้ายังเป็นมนุษย์และอยู่ที่นี่ ข้าได้อวยพรให้ประเทศที่ลูกหลานของข้าก่อตั้งขึ้น” คุณมังกรกล่าว

“…ข้าชื่อเดริชา เตกิตตัน เจ้าหญิงองค์ที่สองของอาณาจักรเตกิตตัน ข้าเคยได้ยินมาว่าราชินีองค์แรกกลายเป็นเทพเจ้า ถ้าอย่างนั้นเจ้-ท่านเป็นบรรพบุรุษของข้าหรือ?” เดริชาพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ฮ่า…ดูเหมือนว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งสหัสวรรษ ลูกหลานของข้าจะกลายเป็นผู้สืบทอดมรดกของข้าสินะ…” คุณมังกรกล่าว

พอได้ยินแบบนั้นและเห็นวิธีการพูดคุยของบรรพบุรุษของนาง ก็ดูเหมือนทั้งสองจะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมากจริงๆ

ข้านั่งลงด้านข้างและรู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆ ในมือขวา

อา จริงสิ ก่อนหน้านี้แขนของข้าขาดไป…นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าสูญเสียแขนขา…แม้ว่ามันจะงอกกลับมาด้วยความสามารถของมายคราฟก็ตาม

…ลาก่อนนะภรรยาของข้าที่อยู่ด้วยกันมาสิบห้าปี แล้วก็สวัสดีแฟนใหม่ของข้า

ในขณะที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ ข้าก็หันไปมองทางเดริชา

ข้าเห็นแสงสีฟ้าจางๆ ส่องออกมาจากร่างกายของนาง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงก็หายไป แต่เดริชาดูเหมือนจะแตกต่างออกไปจากเดิม

ข้าไม่รู้ว่าสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไป มันเหมือนกับบรรยากาศรอบตัวนางกระมัง?

“ข้าขออวยพรให้เจ้า หลังจากการตายของเจ้า เจ้าจะกลายเป็นมังกรคนต่อไปเช่นเดียวกับพันธมิตรนางไม้ที่น่าสังเวชคนนั้น” คุณมังกรได้ตะโกนออกมา

เดี๋ยวก่อน ข้าได้ยินอะไรแปลกๆ หรือเปล่า?

“เจ้าไม่รู้หรือ? หรือว่าแม่มดชั่วร้ายคนนั้นไม่ได้บอกเจ้า?” คุณมังกรหันมาหาข้า

ไม่รู้อะไรเหรอ?

“ในฐานะนางไม้รุ่นต่อไป หลังจากที่เจ้าแก่และตาย เจ้าจะกลายเป็นต้นไม้ด้วย”

…นั่นช่างเป็นข่าวที่น่าตกใจจริงๆ

…ข้าถูกยัยนางไม้หลอกสินะ อ๊ากกกกก!!!

“ไม่แปลกใจเลยที่นางหลอกเจ้า ชีวิตที่เหมือนต้นไม้น่าเบื่อมาก ถ้านางบอกเจ้า เจ้าคงไม่ต้องการมันเลย” นางกล่าว

บัดซบ บัดซบ บัดซบ บัดซบ บัดซบ บัดซบ!!!

ข้าไม่อยากกลายเป็นต้นไม้ อ๊ากกกกก ข้าอยากฆ่าตัวตาย! ข้าอยากฆ่าตัวตาย! ข้าไม่ขอตายด้วยความชรา!!

“แม้ว่าเจ้าจะฆ่าตัวตาย เจ้าก็จะยังเป็นต้นไม้อยู่ดี” นางกล่าว

บัดซบ!!! ข้าได้แต่นึกล้มโต๊ะในใจ

ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ข้าก็ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณมังกร สิ่งหนึ่งที่ข้าสนใจมากที่สุดคือเรื่องของ “คำสาปเหี่ยวเฉา”

ตามที่นางบอกมา นางถูกโจมตีโดยบุคคลที่ไม่รู้จักจากภายนอกเขาวงกต นี่ค่อนข้างน่าแปลก เพราะในฐานะผู้สร้างเขาวงกต คุณมังกรควรจะสามารถรับรู้รูปแบบชีวิตทั้งหมดที่เข้ามาในเขาวงกตและไม่ควรโดนการลอบโจมตีสิ

อีกทั้งนางยังอยู่ลึกลงไปในชั้น 75 พอนางถูกโจมตีโดยบางสิ่งจากนอกเขาวงกต นางก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเช่นนี้

นางไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของผู้โจมตีได้อย่างชัดเจน แต่เบาะแสเดียวคือพลังแห่งความตายและรุนแรง

บอสดั้งเดิมของชั้น 74 คือโกเล็มน้ำที่เกือบทำลายเมืองหลวง ตามที่คุณมังกรบอก นางได้กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยของโกเล็มน้ำไว้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้โกเล็มมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่มันเรียกออกมากลับสามารถเอาชนะและขโมยโกเล็มน้ำไปได้…จากนั้นดันเจี้ยนน้ำทั้งหมดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นซากปรักหักพังใต้ทะเลลึก

ของอีกชิ้นที่ถูกขโมยไปคือกำแพงกั้น สิ่งนี้ทำให้ข้าสับสนพอสมควร เพราะมันอยู่ที่ทางเข้าของแต่ละชั้นและไม่ได้หายากเป็นพิเศษ จุดประสงค์ของพวกมันคือการสร้างสิ่งกีดขวางที่อนุญาตให้เข้าได้ แต่ป้องกันการออก ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราไม่สามารถหาทางกลับไปด้านบนได้

อะไรคือเหตุผลที่มันขโมยสิ่งนี้ไปกัน?

...ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ข้อมูลที่ข้าได้มาตอนนี้ยังน้อยเกินกว่าที่จะคาดเดาได้

“ก่อนที่ข้าจะส่งเจ้าไป ข้าขอเตือนความจำเจ้าก่อน” เสียงสะท้อนของคุณมังกรดังในใจของข้า เดริชาเองก็ดูจะไม่รู้สึกอะไร เป็นการส่งกระแสจิตพุ่งมาที่ข้าคนเดียวสินะ?

“พวกเรามังกรฟ้าและนางไม้ล้วนเป็นผู้พิทักษ์ของธาตุน้ำและธาตุไม้ตามลำดับ…ข้าสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติจากโลกอื่นที่มีเจตนาร้าย พยายามที่จะรุกรานโลกนี้ แต่ก็ถูกขัดขวางโดยกฎของโลกใบนี้”

“ธาตุทั้งเจ็ดจะให้พรทั้งเจ็ดอย่าง แต่ตราบใดที่มันหายไปจากโลกนี้… ‘กฎ‘ ที่ขัดขวางตัวตนประหลาดนั้นก็จะหายไปด้วย…”

“คำสาปที่ถูกนำมาใส่ในตัวข้าได้ย้อนกลับเวทย์มนตร์ของเรา จนเกือบจะกำจัดพรแห่งน้ำของโลกนี้ไป… ตอนนี้พรของน้ำและไม้คงจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้น…”

“ข้ากังวลมาก แต่ข้าไม่รู้ว่าผู้พิทักษ์คนอื่นอยู่ที่ไหนและคงจะช่วยเจ้าไม่ได้”

“มีผู้พิทักษ์อีกห้าคนจากห้าธาตุที่เหลือ…จงระวังผู้กล้าหนุ่ม… โชคชะตากำลังเริ่มต้นเดินทางอีกครั้งแล้ว…”

หลังจากคำพูดสุดท้ายของนางได้จบลงไป สายตาของข้าก็ถูกแสงพราวพร่างพรายกลืนกินไป

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด