ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 14
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 16

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 15


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 15

เด็กคนอื่นๆทรุดตัวลงหอบอยู่กับพื้นหลังจากการฝึกซ้อม ราอนนั่งบนอุปกรณ์สำหรับฝึกกล้ามเนื้อหน้าอกแล้วหายใจออกเบาๆ

'นี่สินะเทคนิคปลูกฝังในตำนาน'

แม้ว่าร่างกายของเขาจะเหนื่อยล้าอย่างมาก แต่วงแหวนแห่งไฟที่หมุนรอบหน้าอกของเขาก็ฟื้นความแข็งแกร่งและพลังใจของเขา

เขาเพิ่งหมดเรี่ยวแรงจากการฝึกฝนแต่เขาก็สามารถลุกได้อีกครั้ง เป็นเหตุผลที่มันถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในสมบัติที่มีค่าที่สุดของทวีป

“ฮึบ…”

เขาติดตั้งเครื่องบริหารหน้าอกให้หนักกว่าเมื่อวาน 5 กิโลกรัม ราอนดึงเข้าหาตัว เขาทำอย่างช้าๆ เพื่อเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อหน้าอกให้สูงสุด เพื่อกระตุ้นมันให้ได้มากที่สุด

ฟึ่บ

เขาลุกขึ้นหลังจากทำหกเซ็ตเสร็จ เขาก็ได้ยินเสียงคนนั่งลงที่เครื่องออกกำลังข้างๆเขา

'ใครกัน?'

คนเดียวที่จะเข้ามาใกล้เขาคือเด็กผมเขียวที่ชอบสะพายกระเป๋าติดตัว ราอนคิดว่ามันแปลกเลยหันกลับไป

'รูนัน?'

คนที่นั่งข้างเขาคือรูนัน ซัลเลียน ที่มากับผมสีเงินยาวสลวยของเธอ

รูนันติดตั้งน้ำหนักของเธอให้หนักกว่าของราอนมาก และเริ่มใช้อุปกรณ์

“ฮึบ!”

ท่าทางการยกน้ำหนักของเธอคล้ายกับของราอน เธอไม่สนใจจำนวนการยกหรือน้ำหนัก แต่มุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นกล้ามเนื้อของเธอ

เมื่อกี้คืออะไร?

'ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน'

หลังจากเฝ้าดูเธออยู่ครู่หนึ่งราอนก็จากไปเพื่อไปกระตุ้นกล้ามเนื้อของเขาต่อ เขานั่งบนอุปกรณ์ฝึกอีกอัน

“ฮึบ!”

หลังจากตั้งค่าน้ำหนักให้ถึงน้ำหนักสูงสุดที่เขาพอจะรับไหวแล้ว เขาก็ยกบาร์ขึ้นในขณะที่หมุน 'วงแหวนแห่งไฟ'

“ฮึ่ม!”

ปกติเขาควรจะเอาน้ำหนักออกไปอีก 10 กก. แต่ ‘วงแหวนแห่งไฟ’ช่วยให้เขาสามารถยกน้ำหนักที่มากกว่าได้และยกได้บ่อยครั้งกว่านั้น

เขาได้ยินเสียงคนที่นั่งข้างๆเขาอีกครั้ง เขาวางบาร์ยกน้ำหนักลงหลังจากฝึกจนแขนและหน้าอกสั่น

'จริงดิ?'

เขาหันหน้ามองโดยไม่ลุกขึ้น ตามที่คาดไว้ รูนันนั่นเอง เธอตั้งน้ำหนักให้สูงกว่าเขาอีกครั้งและเริ่มยก

'ทำไมเธอถึงทำแบบนี้กัน?'

ราอนหรี่ตาลง รูนันไม่สนใจริมเมอร์ นับประสาอะไรกับเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเลียนแบบเขาด้วยการยกน้ำหนักแบบเดียวกับที่เขาทำ

'ฉันอาจจะคิดไปเอง'

เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับมัน มันเป็นเรื่องปกติที่จะฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กหลังจากฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ราอนลุกขึ้น คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ

เขามุ่งหน้าไปยังอุปกรณ์ฝึกกล้ามไหล่เพื่อความแน่ใจ

เคร้ง!

หลังจากตั้งค่าน้ำหนักแล้ว เขาก็ยกมันขึ้นในขณะที่รู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่ไหล่ของเขา เมื่อจบหนึ่งเซ็ตรูนันก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา

หลังจากจ้องมองเขาสักพัก เธอก็นั่งลงข้างๆเขาและตั้งค่าน้ำหนักให้หนักมากกว่าของเขา อีกแล้ว...

“ฮึบบ”

เธอเริ่มยกอุปกรณ์ในขณะที่มองไปด้านหน้า

เจ้ากำลังถูกยั่วโมโหอยู่ไม่ใช่หรือไง? คิดจะซ่อนตัวเหมือนหนูไปอีกนานแค่ไหนกัน!

'ยั่วโมโหเหรอ...?'

ราอนหันศีรษะไปมองเธอ รูนันยังคงยกขึ้นลงราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจเขา

'เธอคิดอะไรอยู่'

ครั้งแรกและครั้งที่สองอาจเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตาม เธอเลียนแบบการฝึกไหล่ของเขาไม่ได้

แต่เขาไม่เข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาของเธอเรียบนิ่ง ทำให้ไม่สามารถเข้าใจความตั้งใจของเธอได้

เจ้าไม่เข้าใจเหรอ? มันกำลังยั่วโมโหเจ้าอย่างชัดเจน มันคิดว่ามันดีกว่าเจ้า ไปจัดการมันเดี๋ยวนี้!

ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง เด็ก หรือคนชรา ราธก็ไม่ได้สนใจ เขาโกรธทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับชื่อของเขา

'พอเลย เงียบปากไปบ้างเถอะ'

ราอนเมินเฉยต่อความเดือดดาลของราธ เขาทิ้งอุปกรณ์ไว้และเริ่มสควอท ตามที่คาดไว้ รูนันเดินตามเขาและสควอทพร้อมกับบาร์ยกน้ำหนัก

“อะ-อะไรน่ะ”

“ทำไมสองคนนั้นถึงอยู่ด้วยกัน”

“ทำไมท่านรูนันถึงให้ความสนใจเจ้าเด็กขี้แพ้คนนั้น”

เด็กๆในโรงฝึกอ้าปากกว้าง มองดูรูนันกำลังฝึกซ้อมอยู่ข้างๆราอน

กรอด.

เบอร์เรนซึ่งพึ่งกลับเข้ามาหลังจากฝึกวิชาดาบกัดฟันแน่น

“เอ่อ…”

“ทำไมรูนันถึงไปอยู่ตรงนั้น…?”

เหล่าสายรองเห็นรูนันที่ฝึกอยู่ข้างๆราอน

"หืม.."

รูนันดึงดูดความสนใจของทุกคน

ด้วยผมสีเงินที่ส่องประกายดั่งแสงจันทร์ ผิวขาวราวกับหิมะ ใบหน้าที่เรียวยาว เธอสวยเหมือนไม่มีอยู่จริงยกเว้นดวงตาของเธอที่ดูไร้สติราวกับว่าเธอมีชิ้นส่วนที่ขาดหายไป

“เธอมีอะไรจะพูดกับฉันไหม”

เมื่อรูนันเล่นจบหนึ่งเซ็ต เขาก็เดินเข้าไปหาเธอ

“…”

เมื่อได้ยินคำถามของเขา เธอจ้องไปที่เขาสักพักราวกับว่าเขาไม่ควรมายุ่ง

"ไม่มี."

หลังจากตอบกลับ เธอก็เริ่มยกบาร์ของเธออีกครั้ง โดยคราวนี้มีน้ำหนักมากขึ้น

'งั้นฉันก็ไม่สนใจแล้ว'

ราอนยักไหล่และลุกขึ้นจากอุปกรณ์ของเขา เขาตัดสินใจไม่สนใจเธอต่อ

ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อเนื่องจากกิจวัตรของเขาเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน เขาก็ได้ยินเสียงคนเดินมาข้างหลังเขา

เมื่อเขาหันกลับมา เขาเห็นรูนันกำลังพิจารณาร่างกายของเขาแบบหัวจรดเท้า

“ถ้าเธอมีอะไรจะพูดก็พูดมา”

“…”

รูนันสบตาเขา เธอไม่พูดอะไร ดวงตาของเธอดูเหมือนแมวที่เพิ่งตื่น

“เฮ้อ”

ราอนถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินไปที่อุปกรณ์ฝึกอีกอันหนึ่ง รูนันเดินตามหลังเขาและใช้อุปกรณ์เดียวกัน

* * *

* * *

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป นับตั้งแต่ที่รูนันเริ่มจับตามองราอนซีกฮาร์ท

"อืม..."

เธอมองหาราอนทันทีที่เข้าไปในโรงฝึกในร่ม เหมือนเดิม เขาเริ่มฝึกก่อนใครๆ

'น้ำหนักมากกว่าเมื่อวาน'

น้ำหนักของราอนเพิ่มขึ้นกว่า 5 กก.จากอาทิตย์ก่อน ซึ่งไม่แปลกเลยจริงๆ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นหากออกกำลังกายหนักพอ

แต่ถ้าน้ำหนักเขาเพิ่มขึ้นทุกวัน? นั่นไม่น่าปกติ

'เขาทำได้ยังไง'

คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ แต่ราอนซีกฮาร์ท ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักของอุปกรณ์ของเขามากกว่า10กิโลกรัม เขาเติบโตเร็วมากแต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องตัวเลข

'เขาน่าจะเป็นแค่คนอ่อนแอไม่ใช่เหรอ?...'

เมื่อก่อนใบหน้าของเขาซีดเซียวและแขนขาของเขาก็อ่อนแรงราวกับกิ่งไม้ อย่างไรก็ตาม เขาสามารถอดทนด้ดีกว่าใครก็ตามในสนามฝึกซ้อม

'เพราะท่าออกกำลังกายเหรอ?'

ท่าทางที่ราอนใช้ในการยกน้ำหนักนั้นแตกต่างไปเล็กน้อย เธอคิดว่าความเร็วในการเติบโตที่เหลือจะเชื่อของเขาอาจเป็นผลมาจากท่าทางเหล่านั้น

เมื่อได้ข้อสรุปในใจแล้ว รูนันก็นั่งบนอุปกรณ์ข้างๆราอนซึ่งกำลังฝึกส่วนหน้าอกอยู่ เธอเริ่มยกน้ำหนักแบบเดียวกับที่ราอนทำ

'อืม...'

ไม่ค่อยรู้สึกแตกต่างจากปกตินัก เธอเพียงรู้สึกถูกกระตุ้นมากขึ้นเล็กน้อย

'มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก'

เมื่อคิดว่ามันไร้ความหมาย เธอกำลังกลับไปอยู่ในท่าทางปกติของเธอ

'ฮะ?'

เมื่อเธอสูดกลิ่นหอมเย็นและลึกลับจากราอน ตัวของเธอก็เบาราวกับขนนก

'เกิดอะไรขึ้น?'

เธอรู้สึกเหมือนความแข็งแกร่งและความว่องไวของเธอเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน น้ำหนักที่ควรจะยกยากกลับเบาลง

แล้วราอนที่มองเธออยู่พักหนึ่งก็ลุกออกไป ความรู้สึกแปลกๆนั้นก็หายไปทันทีเช่นกัน

"อา…"

รูนันจ้องมองไปที่แผ่นหลังของราอน ขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังอุปกรณ์ชิ้นต่อไป

'บางที…'

รูนันเดินตามราอนและขยับไปอยู่ข้างๆ เธอตั้งน้ำหนักให้หนักกว่าปกติแล้วยกขึ้น

"ฮึบ…"

ดูเหมือนว่ามันมากเกินไป มันยากเกินไปที่จะยกขึ้น แต่เมื่อราอนเริ่มออกกำลังกาย อากาศเย็นที่มาจากเขาก็ทำให้น้ำหนักของเธอเบาลงอีกครั้ง

'นี่แหละ'

มันไม่ใช่จินตนาการของเธอ เธอสามารถยกน้ำหนักที่หนักกว่าปกติ10กก.ได้ ราวกับว่าความสามารถของเธอพัฒนาขึ้นจริงๆ

“ฮึ่บ!”

แม้จะยกมากเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีน้ำหนักกดไหล่หรือแขนของเธอมากเกินไปเลย

เมื่อเธอออกกำลังกายเสร็จ ราอนก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

“เธอมีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่า?”

ผมสีบลอนด์และตาสีแดง เป็นเด็กชายที่มีพันธุกรรมของซีกฮาร์ทบนใบหน้าอย่างชัดเจน เขาพูดขึ้น

"ไม่มี"

รูนันส่ายหัว และราอนก็ไปยังอุปกรณ์ชิ้นต่อไปหลังจากที่จ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง

'ฉันควรจะลองตามเขาไป'

ดวงตาเธอเป็นประกายเหมือนแมว เธอเดินตามราอนไป

เธอชอบที่สามารถฝึกด้วยน้ำหนักที่หนักขึ้นได้ แต่เธอชอบกลิ่นหอมเย็นที่มาจากเขามากกว่า

***

ริมเมอร์ปีนขึ้นไปบนภูเขาด้านหลังอาคารหลักของตระกูลซีกฮาร์ต

“หึๆ”

เขาส่ายหัวและแลบลิ้นขณะที่เขาปีนขึ้นไปบนโขดหินบริเวณเชิงเขา

“นายคงเป็นห่วงหลานชายมากแน่ๆถึงมาที่งีบหลับของฉันได้ทุกวัน”

มีคนอยู่ที่ด้านบนของหิน ชายชราผู้ให้ความรู้สึกเหมือนดาบคมกริบลงมา นั่นคือเกล็นซีกฮาร์ท

“…”

เกล็นหันมองโดยไม่พูดอะไร

“อะแฮ่ม..”

ริมเมอร์พึมพำและเอนหลังพิงก้อนหิน ทั้งสองนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินเป็นเวลานานโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“เฮ้อ… นายควรจะพูดสิ แทนที่จะนั่งเก๊ก”

ริมเมอร์ถอนหายใจและกระโดดขึ้นไปบนหินที่เกล็นนั่งอยู่

“เด็กๆทำได้ดีมาก พวกเขากำลังฝึกฝนอย่างหนักจนเกินความคาดหมายของฉันจริงๆ”

“เกินความคาดหมายของนาย?”

“ฉันปล่อยให้พวกเขาฝึกกันเอง”

"เป็นอย่างนั้นเอง.."

“พูดตามตรงนะ เด็กอายุสิบสองสิบสามไม่ได้มีพลังใจมากนักหรอก ฉันคิดว่าส่วนใหญ่คงจะเริ่มหย่อนยานหลังจากหนึ่งอาทิตย์ ถึงอย่างนั้น!”

เขาไม่ได้พูดเกินจริง เขาวางแผนการฝึกโดยความตั้งใจของเขาคือเลือกคนประมาณ 20 คนจากทั้งหมด 160 คน

“พวกเขาน่าจะผ่านไปได้มากกว่าที่คิด ต้องขอบคุณหลานชายของนาย...”

“หลานชายของฉัน? นายกำลังพูดถึงเบอร์เรนเหรอ?”

“อย่ามาตลกน่า นายรู้อยู่แล้วว่าฉันพูดถึงใคร”

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง นายบอกฉันว่าไม่ต้องสนใจเพราะนายจะดูแลเอง”

“ฮะ? จริงเหรอ”

ริมเมอร์เกาผมสีแดงของเขา ชายแก่ที่น่ารำคาญคนนี้มารอเจอเขาเพราะเป็นห่วงหลานชาย ยังจะมาแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้อะไรเลย

“เด็กคนนั้น เขาแตกต่างจากที่นายรู้จัก”

"หมายความว่าไง?"

ดวงตาของพวกเขาเหมือนกัน แต่เสียงของเขาแตกต่างกันอย่างชัดเจน

“นายต้องการให้เขาออกไปโดยเร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ เนื่องจากเขาอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ”

"ฉันไม่เคยพูดแบบนั้น! ฉันแค่บอกนายว่าอย่าเลือกปฏิบัติ”

“อย่างไรก็ตาม ฉันยังพยายามทำให้เขายอมแพ้โดยเร็วที่สุด”

ดวงตาสีฟ้าของริมเมอร์เป็นประกาย

“เขาเป็นสัตว์ประหลาด พลังใจของเขาไม่ปกติ มันมากกว่านักรบที่ผ่านสนามรบเป็นสิบเป็นร้อยซะอีก”

ริมเมอร์ได้เห็นผู้มีพรสวรรค์มากมายตลอดชีวิตของเขา และแม้แต่เทียบกับคนพวกนั้นแล้วก็นับว่าราอนนั้นยอดเยี่ยม มันยากที่จะเชื่อว่าเขาโตขึ้นได้รวดเร็วขนาดนั้น เขาถึงขนาดต้องมองราอนซ้ำสองครั้งทุกเช้าเพื่อความแน่ใจ

“เมื่อการฝึกเริ่มขึ้นราอนเป็นหนึ่งในคนที่แย่ที่สุดในบรรดาหนึ่งร้อยหกสิบคน สามสัปดาห์ต่อมาเขาขึ้นไปอยู่ในระดับกลาง นายคิดว่าเป็นไปได้ไหม”

“…”

“ฉันเคยแอบคิดว่าเขาเอาแต่ซ่อนเร้นความแข็งแกร่งไว้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ ร่างกายของเขายังคงมีความเย็นยะเยือกไหลผ่าน”

ช่วงนี้เขาให้ความสนใจกับราอนในระหว่างการฝึกซ้อมเป็นพิเศษ ราอนทุ่มเทอย่างเต็มที่ในทุกช่วงเวลา

“ฉันกำลังพิจารณาเรื่องที่จะแยกเขาออกมารับการฝึกฝนแบบส่วนตัว”

เนื่องจากเขาพยายามอย่างดีที่สุดในการฝึกฝนที่เขาเตรียมไว้ ริมเมอร์จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชอบราอนมากกว่าเด็กคนอื่นๆ

“นี่คิดไปขนาดนั้นเลย?”

“เขาไม่ยอมแพ้แม้ว่าร่างกายของเขาจะเย็นยะเยือกเหมือนต้นไม้กลางฤดูหนาว เด็กคนอื่นๆก็พลอยฝึกฝนอย่างหนักเพราะได้รับแรงกระตุ้นจากเขาไปด้วย เขาเป็นเหมือนเครื่องกระตุ้นในสนามฝึกซ้อมที่ห้าเลย”

"อืม…"

เกล็นเกาคางของเขาด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก แต่เขาไม่สามารถซ่อนการเชิดขึ้นเล็กน้อยที่มุมปากของเขาได้

“ดูเหมือนเด็กๆคงสอบผ่านกันมากกว่าที่ฉันคาดไว้”

แม้จะพึมพำว่าน่าเบื่อแต่ดวงตาของเขาก็ยิ้ม

“มันไม่เกินกำลังร่างกายของราอนเหรอ?”

เกล็นพูดในที่สุด

"อืม…"

ริมเมอร์แอบกลืนน้ำลาย

'ก็เกินกว่าที่ฉันคิด'

เขารู้อยู่แล้วว่าเกล็นชอบราอนเป็นพิเศษ แต่เขาไม่คิดว่าจะถามเจาะจงนัก

ดูเหมือนว่าความรักที่เขาไม่สามารถให้กับลูกสาวคนเล็กของเขาได้ถูกส่งไปยังราอน

“เรื่องนั้นค่อนข้างแปลกนิดหน่อย แน่นอนว่าเขาออกกำลังหนักเกินไป แต่เขาฟื้นตัวได้เร็วจนน่าตกใจ”

“แม้กระทั่งนายก็ยังไม่รู้?”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ดวงตาของฉันไม่สามารถรู้ซึ้งถึงใครสักคนได้หลังจากพบสิบสวรรค์ของทวีป”

ริมเมอร์เอียงศีรษะตอบ เขาเก่งกว่าใครในการวิเคราะห์ศักยภาพหรือเงื่อนไขของผู้อื่น แต่ราอนนั้นต่างออกไป

พูดตามตรง ราอนลึกลับกว่าเกล็นผู้ซึ่งมีตำแหน่งผู้แข็งแกร่งที่สุดของทวีปอีก

“ริมเมอร์”

"ฮะ?"

“นายไม่ใช่อาจารย์ส่วนตัวของราอนแต่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสนามฝึกที่ห้า กรุณาให้ความสนใจกับทุกคนที่จะมาเป็นกำลังสำคัญของตระกูลเท่าๆกันด้วย”

เกล็นเดินลงจากภูเขาหลังจากพูดอย่างนั้น

“หา!?...เฮ้ย!”

ริมเมอร์ตะคอกใส่คำพูดไร้สาระนั่น

“เขาพูดบ้าอะไรเนี่ย ก็เขามาเพื่อฟังเรื่องของราอนไม่ใช่รึไง?”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด