ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 13
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 15

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 14


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 14

หลังจากทานอาหารเช้า ราอนก็กลับไปที่สนามซ้อม

อาหารนี่รสชาติแย่มาก ถ้าอาหารแบบนั้นถูกนำมาให้ข้าในอาณาจักรปีศาจ ราชาแห่งแก่นแท้คงทุบหัวผู้ทำแตกเป็นเสี่ยงๆ

'ฮะ? แกได้รสชาติมันด้วยเหรอ?’

ราชาแห่งแก่นแท้ผู้นี้สามารถรับรู้ประสาทสัมผัสของเจ้าได้โดยอ้อม ในที่ตอนข้าอยู่ที่อาณาจักรปีศาจข้าได้ลิ้มรสเฉพาะอาหารรสเลิศเท่านั้น ข้าแยกแยะรสชาติอาหารได้ดีเป็นพิเศษ

'แกจะพูดเยอะเพื่อ พูดง่ายๆว่าเรามีประสาทสัมผัสร่วมกันก็พอแล้ว'

ราชาแห่งแก่นแท้มีชื่อเสียงในด้านความเงียบขรึม… อ่า!

'หยุดพูดสักแป๊บสิ แกกำลังทำให้อาหารย่อยยากนะ'

ราอนหยุดราธไม่ให้พูดต่อด้วยการแตะที่สร้อยข้อมือ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองบนเวที

ริมเมอร์นอนอยู่บนเวที เหมือนว่าเขากำลังงีบหลับ เขาไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย

แค่เห็นมันข้าก็รู้สึกหงุดหงิดแล้ว อยากเข้าไปตัดหูของมันออกซะ

ราธพ่นน้ำแข็งออกจากปาก ดูเหมือนว่าเขาจะเดือดดาลด้วยความโกรธทุกครั้งที่เห็นริมเมอร์

'ดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท อืม...'

ความกล้าหาญของริมเมอร์คงยอดเยี่ยมมากเพราะเขาถูกเรียกว่าเป็นดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าเขาเป็นคนขี้เล่นมาก

ราอนเคยคิดว่ามันไร้สาระ แต่เมื่อมองไปที่ริมเมอร์เขาก็รู้ว่าข่าวลือนั้นแม่นยำอย่างมาก

'แต่เขาไม่มีช่องว่างเลย'

แม้ว่าเขาจะดูเลินเล่อไม่ระวังตัว แต่เขาก็ไม่ได้แสดงจุดอ่อนแอใดๆออกมา

เขาได้ยินมาว่าริมเมอร์เกษียณไปแล้วเพราะอาการบาดเจ็บสาหัส แต่ดูเหมือนว่าความเก่งกาจของเขาไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์

เมื่อใดที่ราชาแห่งแก่นแท้เข้าครอบงำร่างกายเจ้า เมื่อนั้นหูเหล่านั้นจะถูกตัดออก

'เรื่องของแกเถอะ'

มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น

ริมเมอร์ยืดตัวหาวอย่างเกียจคร้านหลังจากที่ผู้ฝึกหัดชั่วคราวทั้งหมดมาครบแล้ว

“กินข้าวเสร็จกันแล้วเหรอ”

"ครับ/ค่ะ"

เรี่ยวแรงของเด็กๆยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เสียงของพวกเขาจึงอ่อนล้า

“งั้นเราจะเริ่มการฝึกส่วนต่อไปทันที”

ริมเมอร์ยิ้มกว้าง เขามองไปที่ดาบไม้ที่วางอยู่ข้างสนามฝึก สีหน้าของเด็กๆก็สดใสขึ้น

“พวกเธอไม่ต้องใช้ดาบ แค่เลียนแบบท่าทางของฉันพอ”

เขากำลังหยอกล้อเด็กๆ เขายืนแยกเท้าออกจากกันให้กว้างเท่าไหล่ แล้วงอเข่า

“คือว่า...เราจะไม่ได้จะใช้ดาบกันเหรอครับ?”

หนึ่งในสายรองตะโกนยกมือขึ้น

“...ไม่”

“ผมคิดว่าเราจะได้เรียนใช้ดาบซะอีก…”

"ท่านดาบแห่งแสงมีชื่อเสียงในด้านฝีมือดาบ แล้วทำไม…?”

"ดาบ? ใช่สิ แต่พวกเธอมีใครวิ่งก่อนที่จะหัดเดินไหม”

มุมปากของริมเมอร์ยกขึ้นส่งรอยยิ้มเยือกเย็น

“เธอไม่มีความแข็งแรงหรือพลังจิตที่เพียงพอ ท่าทางก็ยังไม่เหมาะสม คิดว่าจะเรียนรู้วิธีจับดาบได้เลยเหรอ”

"อ่า…"

“ก็นะ... ผลลัพธ์ของเธอมันจะเกี่ยวอะไรกับฉัน เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของฉันก็ได้”

มันเป็นเสียงที่ขี้เล่น แต่ทำให้ทั้งสนามฝึกซ้อมเงียบลง

“เลือกได้ตามสบายเลย คนที่อยากฝึกอย่างอื่นให้ขยับไปทางขวา”

ไม่มีใครกล้าขยับ ทุกคนหยุดนิ่งและมองไปที่ริมเมอร์

“งั้นเรามาเริ่มต้นกันใหม่ ยืนแยกเท้ากว้างเท่าหัวไหล่ จากนั้นงอเข่าโดยให้ต้นขาขนานกับพื้น”

"ครับ/ค่ะ!"

เด็กๆทำท่าตามอย่างง่ายดาย

“ท่านี้เรียกว่าท่าขี่ มันคือวิธีที่เธอขี่ม้า และเป็นท่าพื้นฐานสำหรับศิลปะการป้องกันตัวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นดาบ หอก หรือหมัดเปล่าๆ ทำท่านี้ไว้จนกว่าฉันจะบอกให้หยุด”

"ครับ/ค่ะ!"

เด็กๆยกแขนขึ้นหลังจากตอบเสียงดังฟังชัด เนื่องจากเป็นหนึ่งในท่าพื้นฐานจึงไม่มีใครทำตามไม่ได้

‘มนุษย์นั้นช่างอ่อนด้อยเสียจริงๆ ถึงกับฝึกร่างกายด้วยท่าทางที่น่าสมเพชเช่นนี้’

'ส่วนแกก็ล้มเหลวที่จะครอบครองร่างกายมนุษย์'

ชิ! มันไม่เหมือนกัน…

'ฉันต้องมีสมาธิ แกน่ะเงียบไปก่อนเลย'

ราอนตีสร้อยข้อมือแล้วหลับตาลง

'นี่คือช่วงที่สำคัญ'

ในการฝึกขั้นพื้นฐานแบบนี้เขาจะสามารถเติบโตได้มากมายจากการใช้ 'วงแหวนแห่งไฟ' เขาสามารถทำให้การฝึกฝนของเขามีประสิทธิภาพมากกว่าเด็กคนอื่นๆ

“งั้นฉันของีบก่อนนะ”

ริมเมอร์ล้มตัวลงนอนและเริ่มงีบหลับอีกครั้ง และการทำท่าขี่ม้าก็ดำเนินต่อไป...

“กรอดด…”

"อึก!"

“ร-เราต้องค้างท่านี้ไว้นานแค่ไหน!?”

แขนขาของเด็กๆสั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหว แม้ว่าท่าขี่ม้าจะเป็นท่าพื้นฐาน แต่นี่เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่ต้องคงท่าไว้นานขนาดนี้

จะยกเว้นเด็กเก่งๆรวมถึงรูนันและเบอร์เรนที่รักษาท่าทางไว้ได้อย่างสบายๆ

“ทำไมหมอนั่น?”

“เขาทนอยู่ได้ยังไง!”

“เขา… เขาควรจะมีร่างกายที่แย่ที่สุด”

“ฉันได้ยินมาว่าเขาป่วยไม่ใช่เหรอ...”

ราอนรักษาท่าทางของเขาในขณะที่เหงื่อออกอย่างหนัก ความสมบูรณ์แบบของท่าดีกว่าทุกๆคนในสนามฝึก

“อ๊าาาาา!”

“ฉัน… ฉันแพ้เขาไม่ได้”

“ไม่มีทางที่ฉันจะหยุด ในเมื่อเขายังทนได้!”

เด็กที่ไม่ได้เก่งมากกำลังจะยอมแพ้ แต่เมื่อเห็นราอนยังคงทำอยู่ พวกเขาก็รักษาท่าทางและกัดฟัน

อย่างไรก็ตามราอนยังคงมีแรงเหลือเฟือ

'นี่มันง่ายเกินไปแล้ว'

ในชีวิตที่แล้ว เขาฝึกท่าขี่ม้าโดยแบกหินไว้ที่หลังและต้นขา ตอนนั้นเขายังเด็กกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ การฝึกตอนนี้เทียบไม่ได้เลย

แน่นอนว่าความเย็นที่แผ่ไปทั่วร่างกายที่อ่อนล้าของเขากำลังสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก เขารู้สึกเหมือนเนื้อของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆและกระดูกของเขากำลังถูกแช่แข็ง แต่มันเป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะแข็งแกร่งขึ้น

วืดดด

ราอนรับเอาความเย็นในร่างกายของเขาด้วยการหมุนวงแหวนแห่งไฟ

แม้จะเจ็บปวดแต่เขาก็สามารถดูดซับความเย็นได้มากพอสมควร และ'วงแหวนแห่งไฟ' ก็ก้าวหน้าต่อไป

เขามีโอกาสที่จะชนะเดิมพันราธสูงมาก เป็นเรื่องง่ายสุดๆ ราธคงไม่รู้ตัว

เมื่อราอนมีสมาธิจดจ่อจนเกือบลืมไปว่านี่คือการฝึกท่าขี่ม้า ก็ได้ยินเสียงปรบมือดังมาจากด้านบนของเวที

"พอได้!"

ริมเมอร์ลุกขึ้นยืนและพยักหน้า เด็กคนอื่นๆลงนั่งนวดต้นขาเหมือนนวดแป้ง

เจ้าจะเมินราชาแห่งแก่นแท้ไปอีกนานแค่ไหน!

'ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ยิน’

เจ้ามนุษย์หยาบคาย!

ราธก่นด่าราอน เขาพึ่งรู้ว่าราธพึมพำใส่มาตลอด

“เฮ้อ…”

ราอนผ่อนคลายกล้ามเนื้อต้นขาและเอวด้วยการสูดเอาลมหายใจสดชื่นโดยไม่สนใจราธ

* * *

* * *

ติ๊ง!

มีการก้าวข้ามขีดจำกัด

ค่าสถานะ พลังกายเพิ่มขึ้น

ข้อความประกาศการเพิ่มของพลังกายปรากฏขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าพลังที่ต้นขาที่สั่นเทาของเขากลับมา เขายืดเส้นสายอีกครั้ง

“ก็เหมือนกับเมื่อวาน พวกเธอบางคนอดทนไว้จนจบ ในขณะที่บางคนยอมแพ้ไปก่อน”

ริมเมอร์กระดิกนิ้วเมื่อมองไปที่คนที่ยังคงยืนอยู่

“ฉันขอพูดซ้ำ ฉันมีหน้าที่แค่ให้คำแนะนำจะไม่ไปรบกวนการฝึกของพวกเธอโดยตรง วิธีที่เธอจะผ่านการทดสอบในอีกหกเดือนคือการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองให้ได้”

เขาพูดต่อโดยรักษารอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาไว้

“ฉันจะไม่พูดแบบนี้ซ้ำอีก จากนี้ไปฉันจะไม่สนใจอีกต่อไปว่าเธอจะยอมแพ้หรืออดทนต่อ”

ริมเมอร์บอกให้พวกเขาคลายกล้ามเนื้อต้นขาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกซ้อมในวันพรุ่งนี้ แล้วเขาก็จากไป

ไอ้โง่หูแหลมที่เชื่อในธรรมชาตินั่นพูดเพ้อฝันอะไร ช่างไร้สาระ พลังใจหรือจะเทียบพลังที่ท่วมท้น

'ไม่ใช่สักหน่อย'

เจ้าหมายความว่าอะไร?

'เราต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง'

ราอนส่ายหัวขณะคลายเส้น

เจ้าเชื่ออย่างนั้นเพราะเจ้าเป็นมนุษย์อ่อนแอที่ไม่เคยรู้สึกถึงพลังที่ท่วมท้น ถ้าเจ้าได้เจอพลังของราชาแห่งแก่นแท้ เจ้าคงจะบูชาข้าอยู่ในตอนนี้...

'ฉันสามารถต้านทานการโจมตีของแกได้ด้วยจิตใจของฉัน'

นั่น… นั่นเป็นเพราะ ราชาแห่งแก่นแท้ ยังไม่ฟื้นพลังทั้งหมด!

'และฉันยังเป็นแค่เด็กด้วย'

น-นั่น…

เสียงของราธอ่อนลงอย่างหมดเรี่ยวแรง

'แน่นอนว่าพลังของจิตใจไม่ได้ไร้ประโยชน์'

พลังใจก็คล้ายกับความแข็งแกร่งและพละกำลัง มีขีดจำกัด แต่ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อใช้มากขึ้น

เขาเคยถูกบีบคั้นหลายครั้งในชีวิตที่แล้ว เขาสามารถเอาชีวิตรอดได้เพราะความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นอย่างสุดขีดของเขา

'คงต้องไปต่ออีกสักหน่อย’

หลังจากคลายกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกแล้ว เขาก็เข้าสู่โรงฝึกในร่ม

มีเครื่องมือฝึกฝนมากมายที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและความว่องไวของเขา

ฝึกอีกเหรอ

'ใช่'

เขาพยักหน้า ค่าสถานะจะเพิ่มขึ้นเมื่อเขาไปถึงขีดจำกัด

ราอนไม่คิดว่าการฝึกพิเศษเป็นสิ่งที่เจ็บปวดหรือน่าเบื่อ มันเป็นสิ่งที่เขารอคอย

เขาเริ่มต้นด้วยการฝึกขั้นพื้นฐาน รวมถึงการวิดพื้นและแพลงก์

เจ้าน่ารำคาญมาก เหมือนว่าข้ากำลังเฝ้าดูหนอนที่เกาะอยู่บนใบไม้ก็ไม่ปาน

'หนอนผีเสื้อสักวันหนึ่งจะกลายเป็นผีเสื้อและบินหนีไป'

วิธีเดียวที่เจ้าจะเป็นผีเสื้อได้คือมอบร่างกายของเจ้าให้กับราชาแห่งแก่นแท้

'หยุดฝันกลางวัน นั่นไม่ใช่ผีเสื้อแล้ว นั่นมันแมลงมีพิษแล้ว'

สำหรับการวิดพื้น จำนวนไม่ใช่ส่วนสำคัญ เขาค่อยๆงอและเหยียดแขนในท่าที่จะกระตุ้นกล้ามเนื้อของเขาได้มากที่สุด

เขารู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อหน้าอกของเขากำลังจะหัก แต่เขาก็ยินดีกับความเจ็บปวดนั้น มันจะกลายเป็นค่าสถานะและความแข็งแกร่งของเขา

หลังจากวิดพื้นแล้วเขาก็เริ่มบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง นั่นคือตอนที่เด็กคนอื่นๆเริ่มเข้ามาในโรงฝึก

พวกนั้นมองดูเขาแล้วพวกเขาก็แยกย้ายกันไปเริ่มการฝึกของตัวเอง

รูนันและเบอร์เรนยังได้เข้าไปตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ

รูนันแยกตัวออกมาหลังจากได้อุปกรณ์ให้ตัวเองแล้ว ส่วนเบอร์เรนก็เดินออกไปหลังจากจ้องมองราอนอยู่พักหนึ่ง

เบอร์เรนเดินไปที่ดาบไม้และคว้าดาบมาเล่มหนึ่งเพื่อเริ่มเหวี่ยงมัน

ฟรึ่บ!

เด็กที่ชอบตามเบอร์เรนก็หยิบดาบไม้เช่นกัน และเริ่มฝึกฝนวิชาดาบที่พวกเขาเคยฝึกฝนมา

เขาจับดาบ

'เขาหยิบดาบแล้ว'

เจ้าจะไม่ทำเหมือนกันเหรอ?

'ตอนนี้มันยังไม่จำเป็น'

สิ่งที่ราอนต้องการไม่ใช่ดาบ แต่เป็นพลังกาย ความแข็งแกร่ง และความว่องไวเพื่อใช้เป็นพื้นฐานของการฝึกดาบ

ฝีมือดาบของเบอร์เรนและเด็กคนอื่นๆยังไม่อยู่ในระดับเริ่มต้นด้วยซ้ำ สำหรับผู้เริ่มต้น การฝึกดาบโดยไม่มีผู้สอนเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

ราอนยังคงทำการฝึกฝนที่น่าเบื่อหน่ายต่อไปโดยไม่ได้สนใจว่าคนอื่นกำลังทำอะไรอยู่ เขาเพียงปรารถนาที่จะก้าวหน้ามากขึ้นในวันต่อๆไป

***

รูนัน ซัลเลียนไม่สนใจคนอื่น

ไม่ใช่เพราะเธอโดดเด่นแล้วถึงดูถูกคนอื่น

แต่เป็นเพราะเธอตั้งกำแพงในใจ เธอเคยเผชิญกับความผิดหวังอย่างร้ายแรงเพราะเธอไว้ใจคนๆหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้มีคนคนหนึ่งที่สะดุดตาเธอ

ไม่ใช่อาจารย์ริมเมอร์ หรือเบอร์เรนที่ทุกคนบอกว่าเป็นคู่แข่งของเธอ

ราอน ซีกฮาร์ท

ลูกชายของซิลเวีย ผู้ถูกไล่ออกจากสายตรง เขาดึงดูดความสนใจของเธออยู่เสมอ

'ทำไมฉันถึงเอาแต่สนใจเขา'

เป็นครั้งแรกที่เธอสนใจใครสักคนและรู้สึกคุ้นเคยกับใครบางคน

'หรือเป็นเพราะความเย็น?'

มีข่าวลือว่าวงจรมานาของราอนนั้นเย็นมาก เป็นไปได้ว่าพลังน้ำแข็งของเธอทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยกับความเย็นของเขา

'น่าจะแบบนั้น'

เมื่อเธอรู้เหตุผล เธอจึงพยายามเลิกสนใจเขา

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะพยายามสักเท่าไร เธอก็ไม่อาจละสายตาจากเขาได้

'เขาพัฒนาเร็วมาก'

พัฒนาการของราอนนั้นรวดเร็วผิดปกติ

ตอนเธอเห็นเขาในห้องพิธีเมื่อเดือนก่อน เขาเป็นเด็กผอมแห้งไม่มีกล้ามเนื้อ แต่ตอนนี้เขาดูมีกล้ามเนื้อขึ้นมาบ้างแล้ว

'นอกจากนี้…'

เขาอยู่ในกลุ่มเด็กระดับต่ำสุดเมื่อวันก่อน แต่เขาตอนนี้สามารถไล่ตามระดับกลางค่อนล่างได้

ทุกคนบอกว่าตัวรูนันเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์จากสวรรค์ เธอคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะพัฒนาได้เร็วขนาดนั้น มันไม่สมเหตุสมผลเลย

“ฮึ่ม!”

เธอยกน้ำหนัก60กก.อย่างสบายๆ พลางแอบเหลือบมองราอน

“มันแปลกมากจริงๆ”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด