ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 9
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 11

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 10


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 10

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปตั้งแต่เด็กๆ เริ่มวิ่งรอบโรงฝึก

เบอร์เรนและรูนันยังคงวิ่งนำหน้าเด็กๆ สายรอง บุตรขุนนาง และเด็กที่ถูกแนะนำมาตามอยู่ข้างหลังพวกเขา

แน่นอนว่าคนที่ยังคงวิ่งอยู่ไม่ใช่หนึ่งร้อยหกสิบคนเหมือนเดิม

มีคนที่หมดแรงยอมแพ้ไปแล้วกำลังพักผ่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง และจำนวนคนที่ยอมแพ้ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งตอนนี้

“ฮ่าๆ”

ดวงตาของริมเมอร์ขยับไปทางซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ยังนอนอยู่บนแท่นและหาวอยู่

'หมายเลขหกสิบเอ็ดยอมแพ้ก่อนที่แรงจะหมด และหมายเลขหกสิบสองยังทนอยู่'

เขากวาดสายตามองเด็กทั้งหมดหนึ่งร้อยหกสิบคนด้วยสายตาที่ง่วงนอน

ความแข็งแรงไม่ใช่สิ่งเดียวที่ริมเมอร์กำลังวิเคราะห์

' ตรวจสอบความแข็งแรงของพวกเขาไปก็ไม่ได้อะไร'

ความแข็งแรงของเด็กขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาเติบโตขึ้นมายังไง พวกเขาทั้งหมดดูคล้ายๆ กันยกเว้นสายตรงสองคนและมีเด็กที่ดูเข้าตาประมาณยี่สิบคน

แม้ว่าความแข็งแรงของพวกเขาจะใกล้เคียงกันยังไง แต่มีเด็กบางคนยอมแพ้ทันทีที่หมดลมหายใจ และบางคนยังคงวิ่งต่อไปจนจบโดยที่ร้องไห้ออกมา

' ความแตกต่างนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นี่'

เช่นเดียวกับที่มีคนยอมแพ้ง่าย ก็มีคนที่ไม่ยอมแพ้เช่นกัน

ความแตกต่างของพลังที่ดูเล็กน้อยในปัจจุบันจะยิ่งแตกต่างอย่างมหาศาลในอนาคต

ความแข็งแกร่งสามารถเพิ่มขึ้นและความสามารถพิเศษสามารถก็พัฒนาได้

แต่การพัฒนาความอดทนนั้นยากมาก

เด็กที่ไม่เคยยอมแพ้ก็จะไม่ยอมแพ้ในอนาคตเช่นกัน และเด็กที่ยอมแพ้ง่ายๆ ก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ทำเช่นเดียวกัน

แน่นอนว่าบางคนก็ตระหนักและเปลี่ยนแนวทางของตน เพียงแต่นั่นเป็นเรื่องยากพอๆ กับการหาเข็มในกองหญ้า

การมองหาเด็กที่มีความมุ่งมั่นและวินัยเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

'แค่นี้คงจะได้แล้ว'

ริมเมอร์ยิ้ม เด็กกว่าครึ่งยอมแพ้แล้ว และที่เหลือเริ่มช้าลงเนื่องจากพวกเขาเหนื่อยล้า

ขณะที่ริมเมอร์กำลังเตรียมบอกสิ้นสุดการทดสอบ เขาก็เหลือบไปเห็นเด็กผมทองที่กำลังวิ่งอยู่ท้ายแถว

'ราอน ซีกฮาร์ท'

ตาของริมเมอร์เปล่งประกายราวกับดวงดาว เขาเป็นเด็กคนเดียวที่เกินความคาดหมาย

'ฉันไม่เข้าใจเลย'

ราอนหมดเรี่ยวแรงไปนานแล้ว เขาไม่น่าจะยืนได้อยู่ เพราะมีความหนาวเย็นปกคลุมร่างกายของเขาและเขาก็หายใจหอบๆ อย่างไรก็ตามเขายังคงขยับเท้าอย่างไม่ลดละโดยไม่เสียจังหวะ

'นี่เรียกว่าความมุ่งมั่นไม่ได้อีกแล้ว นี่คือความดื้อรั้นชัดๆ'

เขาได้เห็นผูมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมนับไม่ถ้วนในสนามรบ

ในหมู่พวกเขามีนักดาบที่ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปได้ นักเวทย์ที่เปลี่ยนโลกได้ด้วยเวทมนตร์ได้ แต่ไม่มีใครมีความมุ่งมั่นมากเท่าราอน

เขายังคงวิ่งต่อไป แม้ว่าเรี่ยวแรงจะหมดก็ตาม

นั่นเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่เคยผ่านการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายมานับครั้งไม่ถ้วน เขาคิดไม่ออกว่าเด็กคนนี้จะเป็นคนมุ่งมั่นเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นได้ยังไง

'หืม…'

เขามองไปทั่วทั้งโรงฝึก

รูนันและเบอร์เรนยังคงวิ่งนำแม้จะช้าลงแล้วแต่ก็ยังน่าทึ่ง แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับราอนที่ยังคงวิ่งอย่างไร้เรี่ยวแรง

สายรองและลูกๆ ของตระกูลขุนนางที่ล้อเลียนราอนกำลังน้ำลายไหลขณะวิ่งราวกับว่าพวกเขาไม่ต้องการแพ้ราอน

“ฮ่าๆ”

ริมฝีปากของริมเมอร์งอขึ้นเป็นเส้นโค้ง

“คงจะสนุกไม่น้อยที่ได้สอนพวกเขา”

***

“หืม…”

เบอร์เรน ซีกฮาร์ทหันหลังไปมอง เขาไม่สามารถมีสมาธิกับการวิ่งได้ เขาขมวดคิ้วหลังจากหันไปมอง

'ทำไม? ทำไมเจ้าหมอนั่นนั้นยังวิ่งได้อยู่?!'

ราอน ซีกฮาร์ท เขาเป็นเด็กที่อวดดีที่คุยกับหัวหน้าตระกูล เขาเป็นคนที่ไม่มีใครคาดคิดแต่เขายังคงวิ่งด้วยความเร็วคงที่จนจบแม้จะช้ามาก

'ในตอนนี้ เขาไม่ควรอยู่ในสภาพที่จะวิ่งได้สิ...'

เขารู้อาการป่วยของราอนแล้ว เขาเกิดมาพร้อมกับความเย็น ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายแบบปกติได้เท่านั้น แต่ยังทำให้การเติบโตของเขาช้าลงอีกด้วย

และเมื่อเขาเห็นเขาเป็นครั้งแรก เขาก็ดูน่าสงสารยิ่งขึ้นไปอีก เขาตัวเตี้ยและไม่มีวี่แววว่าผ่านการฝึกฝนเลยแม้แต่น้อย

'แล้วยัง...'

เขายังไม่ยอมแพ้

เด็กๆ มากมายซึ่งมีพรสวรรค์ที่ได้ยอมแพ้ไปแล้ว ถึงแบบนั้นเขาก็ยังวิ่งต่อไป ทั้งๆ ที่หอบราวกับว่าเขากำลังจะตาย

'เอาแต่ตามฉัน มันน่ารำคาญชะมัด'

รูนันเป็นคนเดียวที่ยังคอยตามเขา และราอนซึ่งควรจะออกไปแล้ว ต่างก็น่ารำคาญทั้งคู่

'เอาล่ะ ฉันจะแสดงให้พวกมันเห็นถึงความแตกต่างเอง'

เขาตัดสินใจว่าเขาจะทำให้ทั้งรูนันและราอนเสียกำลังใจ เขาเริ่มสับเท้าอย่างดุเดือด

ซู่ว!

เขาใช้ออร่าขยายกล้ามเนื้อต้นขาและน่อง วิ่งด้วยความเร็วที่มองตามแทบไม่ทัน เขาหันกลับไปมอง

'ไอ้พวกนั้น?!'

ทั้งรูนันที่เขาคิดว่าเป็นคู่แข่งและราอน ต่างก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ กลับมา

พวกเขาทั้งสองต่างวิ่งตามจังหวะของตัวเองเหมือนเดิม และมันก็เป็นเด็กคนอื่นๆ ที่พยายามเร่งตามเขา

“ชิ!”

เบอร์เรนเดาะลิ้นและเพิ่มความเร็ว ตอนนี้เขานำหน้ารูนันซึ่งเคยวิ่งอยู่ข้างๆเขาไปไกลแล้ว ส่วนราอนไม่ต้องพูดถึง เขาแซงขึ้นมาหลายรอบแล้ว

ผ่านไปสักพักความเร็วของรูนันและราอนก็ยังไม่เปลี่ยน ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้สนใจ

'ฮึ!'

เมื่อตระหนักว่าเขาถูกเมินโดยผู้ที่ด้อยกว่าเขา ความโกรธก็คุกกรุ่นอยู่ในตัวเขา

'คอยดูจนกว่าพวกแกจะเลิกแกล้งทำละกัน'

* * *

* * *

“ฮู่ว!”

ราอนถอนหายใจออกอย่างแรง

'พลังไหลเข้ามาเรื่อยๆ'

เรี่ยวแรงของเขาหมดไปคล้ายกับบ่อน้ำที่เหือดแห้ง

หัวของเขาหมุนอย่างหนักจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม แต่เขายังทนต่อมันได้ ต้องขอบคุณพลังที่ 'วงแหวนแห่งไฟ' สามดาวมอบให้เขา

'เทียบกับเมื่อก่อนที่นี่ก็คือสวรรค์'

ในชีวิตที่แล้วตอนที่เขายังเด็ก เขาถูกหมาป่าไล่ตาม เขาวิ่งลงจากภูเขาพร้อมกับกุมหัวใจที่รู้สึกเหมือนจะระเบิด

หมาป่าจับเขาไว้ได้ในที่สุด เขาสู้เอาตัวรอดจนเกือบจะมีชีวิตกลับมาไม่ได้ เมื่อเทียบกับชีวิตที่เลวร้ายนั้น สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้คือการเล่นของเด็กๆ

“แฮ่ก…”

ราอนหอบหนักแต่ยังมองตรงไปข้างหน้า เด็กสายรองและเด็กที่ถูกแนะนำมายังคงวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ พวกเขามีความสามารถพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามรูนันและเบอร์เรนนั้นแตกต่างจากพวกเขา สองคนนั้นวิ่งด้วยความเร็วคงที่อย่างต่อเนื่อง

พวกเขาไม่ได้ถูกเรียกว่าอัจฉริยะโดยไม่มีมูล เบอร์เรนเร่งความเร็วขึ้น เขาวิ่งผ่านรูนันและกลายเป็นคนนำ

“เห๊ะ?”

“ทะ...ท่านเบอร์เรน...?”

“วิ่งต่อ! ระวังโดนทิ้งไว้ข้างหลัง!”

เขาพูดกึ่งบังคับให้คนอื่นๆเพิ่มความเร็วตามเขา

“ฮึ่ม!”

เบอร์เรนมองไปที่รูนันและราอนราวกับบอกให้พวกเขาตามให้ทัน

'เจ้าทำอะไรอยู่? ถูกยั่วยุแต่กลับไม่ทำอะไรเลย? '

ราธกัดฟันแน่นจ้องไปที่เบอร์เรน แต่ราอนไม่ตอบกลับ

'ฉันบอกแกแล้วว่านี่ไม่ใช่การแข่งขัน'

การวิ่งเป็นการทดสอบเพื่อให้เห็นว่าทุกคนมีความแข็งแรงและความมุ่งมั่นมากแค่ไหน นี่ไม่ใช่การแข่งขัน และก็มีอีกหนึ่งคนที่รู้ความจริงนั้น

'รูนัน ซัลเลียน'

เด็กสาวผมสีเงินที่วิ่งมาเป็นอันดับสองยังคงก้าวต่อไปอย่างสม่ำเสมอ เหมือนว่าเธอไม่ได้สนใจในตัวเบอร์เรนเลยสักนิดเดียว

'เธอนำหน้าเขาอยู่หนึ่งก้าวจริงๆ'

เคยคิดว่าพวกเขาคล้ายๆ กัน แต่ดูเหมือนว่ารูนันจะมีจิตใจที่เหนือกว่าเบอร์เรนไม่น้อย

เบอร์เรนแสร้งทำเป็นเป็นผู้ใหญ่ แต่เขาทำตัวตามวัยของเขา ถ้าเขาเข้าสู่สนามรบเขาคงจะตายอย่างรวดเร็ว

'แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรสนใจ'

ราอนวิ่งต่อไปในโรงฝึก เขาวิ่งตามหลังของรูนันแทนที่จะวิ่งตามเบอร์เรน

“รา… ราอน?”

“ได้ยังไง…?”

“เขา… เขายังวิ่งอยู่เหรอ?”

สายรองที่หมดแรงจนวิ่งไล่ตามเบอร์เรนไม่ทัน พวกเขาเป็นคนที่เยาะเย้ยเขาก่อนที่การทดสอบจะเริ่มขึ้น

“แฮ่ก แฮ่ก! ขะ… เขาทำยังไง”

“แฮ่กๆ ไม่มีทาง…”

ราอนวิ่งผ่านพวกเขา พวกเขาที่หอบอยู่ก็ชะลอฝีเท้าลงและนั่งลงกับพื้นทันที

ราอนวิ่งต่อไปโดยใช้สายตาพวกนั้นเป็นแรงผลักดัน

'น่าสมเพช'

พวกคนปากมากจะอยู่ที่ไหนก็น่ารำคาญ เขาไม่ได้สนใจพวกมันตั้งแต่แรก เขาลืมพวกมันไปและวิ่งต่อ

“ฮึ่ม…”

ราอนหมุน 'วงแหวนแห่งไฟ' ด้วยการหายใจช้าๆ

'วงแหวนกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว'

แม้ว่าเขาจะไม่ได้วิ่งเป็นเวลานาน แต่การฝึกฝน'วงแหวนแห่งไฟ' ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดแล้ว 'วงแหวนแห่งไฟ' ก็ยังเป็นเทคนิคการปลูกฝังที่มีคุณค่าที่แท้จริง

'มันยังคงเป็นเรื่องยากมากอยู่ดี'

วงแหวนแห่งไฟที่หมุนไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวดหายไป เขารู้สึกเหมือนหัวใจและปอดถูกบดขยี้ สีข้างของเขาก็เจ็บราวกับถูกแทง

'ช่างน่าสมเพช'

ราธแลบลิ้นออกมาขณะที่เขาวิ่งเต็มที่

'ข้าไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้จากเจ้าได้ ร่างกายของเจ้าจะกลายเป็นของข้า มอบร่างกายของเจ้าให้ข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะตามจับและแช่แข็งไอ้เด็กเหลือขอผมสีน้ำเงินนั่นให้สิ้นซากทันที'

'หุบปาก'

มันไม่ใช่การทดสอบเพื่อให้ตามกันให้ทัน มันเป็นการต่อสู้กับตัวเอง

ข้าไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ตราบเท่าที่ข้ายังลืมตาอยู่

'งั้นก็หลับตาสิ เป็นปาฏิหาริย์แล้วที่ฉันยังวิ่งได้แบบนี้'

เขาไม่ได้โกหก

แม้ว่าเขาจะมีระบบของราธ แต่เขาก็ไม่สามารถกำจัดความเย็นภายในวงจรมานาของเขาได้ 'วงแหวนแห่งไฟ'เป็นปาฏิหาริย์ที่ทำให้เขาวิ่งต่อไปได้

'เช่นนั้นมอบร่างกายของเจ้าให้ข้า'

ราธได้เปลี่ยนเป็นเปลวไฟสีน้ำเงินที่เขาเคยเห็นเมื่อวันก่อน

'ไม่ใช่ตอนนี้...'

ราอนกัดริมฝีปาก แรงกระตุ้นของราธทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากกว่าวันก่อนเป็นสองเท่าเพราะเขาเหนื่อยมาก

'มันไม่ได้ผลหรอกน่า กลับไปนอนได้แล้ว'

เขาใช้'วงแหวนแห่งไฟ' อย่างเต็มกำลัง เขาขยับขาไปเรื่อยๆ โดยแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้รับผลกระทบ

'เหอะ ทำไมพลังของราชาจึงใช้กับเจ้าไม่ได้กัน?!'

ราธกปลุกอารมณ์โกรธอย่างไม่หยุดหย่อน

“ฮึก…”

ราอนทนต่อการโจมตีทางจิตของราธด้วยความอดทนที่ใกล้หมด

'ฉันกำลังจะตาย...'

เหงื่อเย็นไหลลงหลังของเขา เขารู้สึกเหมือนจะเป็นลม

ต้องขอบคุณความสมดุลระหว่าง 'วงแหวนแห่งไฟ' และประสบการณ์ในชีวิตที่แล้วของเขา—สถานการณ์ความเป็นความตายนับไม่ถ้วน—เขาจะยืนอยู่ไม่ไหวแล้ว

'ไอ้เด็กโง่!'

'พอได้แล้ว!'

“หา!”

ในขณะที่ราอนกำลังผลักพลังของราธออกไป ริมเมอร์ซึ่งนอนอยู่บนแท่นก็ลุกขึ้นทันที

“ทุกคน หยุด!”

เด็กๆในโรงฝึกที่กำลังวิ่งหยุดลงเมื่อได้ยินประโยคยืนยันของเขา

“แฮ่ก! แฮ่ก!”

“ฮ้า!”

“อ้าก!”

แทบจะลืมตากันไม่ขึ้น เด็กนั่งบนพื้นหรือจับเข่าหอบ

“แฮ่ก…”

ราอนเหมือนจะขาดใจตาย เขาหอบอย่างหนัก

'เป็นสัตว์ประหลาดรึไง'

ราธกัดฟันแน่นและเดินกลับไปหาสร้อยข้อมือ

'บอกแล้ว เจ้าทำไม่ได้หรอก'

เขาปาดเหงื่อเย็นที่หน้าผาก การทดสอบนั้นยาก แต่การต้านทานการโจมตีของราธนั้นยิ่งกว่า หากเขายังคงวิ่งต่อไป เขาอาจตายได้จริงๆ

'ชีวิตนี้ก็ไม่ได้สบายเหมือนกันสินะ...หืม?'

ข้อความใหม่ปรากฏขึ้นในขณะที่เขากำลังดื่มน้ำ

ติ๊ง!

มีการใช้พลังกายเกินกำลังอย่างสุดขีด

ค่าความสามารถเพิ่มขึ้น

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด