ตอนที่แล้วบทที่ 14 ขุดหลุม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16 ภูมิใจ

บทที่ 15 คิดไม่ถึง


“คุณอาหนิง ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็จะไม่ได้เจอคุณอาแล้วเหรอคะ?” เฟยเฟยกอดเค้กก้อนนั้นแล้วทำปากจู๋

หึ นี่อยู่โรงพยาบาลยังจะเกิดความรู้สึกได้อีกเหรอ?

“เฟยเฟย ลงมา คุณหมอหนิงยุ่งอยู่นะ” ที่อยู่ข้างๆ คงจะเป็นคุณยายหรือคุณย่าของเฟยเฟย

เฟยเฟยไม่เต็มใจอยู่บ้าง แต่ก็ถูกหญิงชราอุ้มกลับไปและพึมพำด้วยปากเล็กๆ “แต่หนูยังอยากฟังคุณอาหนิงเล่านิทาน กินเค้กที่คุณอาหนิงซื้อ”

“เฟยเฟยกลับบ้านแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็จะเล่านิทานให้หนูฟังนะ” เขาตอบเสียงนุ่ม

เฟยเฟยยังมีท่าทางไม่มีความสุข “งั้นคุณอาหนิง หากวันไหนหนูไม่ไปโรงเรียนอนุบาลให้คุณย่าพามาเล่นกับคุณอาได้ไหมคะ?”

“ได้สิ! ก่อนมาเฟยเฟยก็โทรหาอา อาจะซื้อเค้ก เตรียมนิทานไว้รอหนู”

ตอนนี้หร่วนหลิวเจิงยืนอยู่หลังเขาจึงมองไม่เห็นว่าเขาแสดงสีหน้าอย่างไร แต่เธอสามารถเดาได้ว่าในดวงตาของเขาจะต้องมีลำแสงแห่งความอบอุ่น เล่านิทาน? เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะเล่านิทานได้...

เฟยเฟยพอใจแล้วในตอนนี้ “หนูเข้าใจแล้วค่ะ! ต้องเป็นเวลาที่คุณอาหนิงไม่ได้ผ่าตัดใช่ไหมคะ?”

“ใช่!” เขาพยักหน้าแล้วหัวเราะออกมา ราวกับถูกความรู้ความของเด็กหญิงตัวเล็กทำให้มีความสุข

จากนั้นเขาก็พูดคุยกับย่าของเฟยเฟยอีกเล็กน้อย ย้ำเรื่องที่ต้องใส่ใจหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว จากนั้นจึงออกจากห้องคนไข้

หลังจากราวนด์วอร์ดแล้ว กลับมาที่แผนกเพื่อให้คำแนะนำแพทย์ เขากำลังจะเข้าผ่าตัดจึงถามเธอและติงอี้ย่วน “พวกคุณสองคน มีใครเคยเข้าห้องผ่าตัดแล้วบ้าง?”

ติงอี้ย่วนเป็นคนที่ตอบสนองเร็วอยู่ตลอดเวลาจึงรีบยืนขึ้นและพูด “ฉัน”

หร่วนหลิวเจิงคิดว่าดูเหมือนสายตาของเขาจะเหลือบมองมาที่เธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็ไม่พูดอะไร และพยักหน้าแล้วพูดกับติงอี้ย่วน “คุณมากับผม”

“ค่ะ!” ติงอี้ย่วนเดินไปอย่างมีความสุข

หร่วนหลิวเจิงไม่เข้าใจว่าทำไมติงอี้ย่วนจะต้องมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับอันดับก่อนหลัง หรือว่าไม่คว้าโอกาสนี้แล้วจะไม่มีโอกาสได้เข้าไปอีก? พูดตามจริง สำหรับเธอแล้วตั้งแต่เรียนจบและฝึกงานในโรงพยาบาลเป็นเวลาสามปี อย่าว่าแต่เข้าห้องผ่าตัดเลย ช่วงหลังยังเป็นผู้ช่วย หรือแม้กระทั่งทำการผ่าตัดเล็กด้วย

วันนี้เขาพาคนเข้าไปไม่มีทางจะให้เป็นผู้ช่วย ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงพาเข้าไปคนเดียว แต่ด้วยนิสัยของเธอ ไม่เคยชอบการแย่งชิง เพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ และไม่เก็บมาคิด

หลังจากอยู่ในแผนกเกือบทั้งเช้า ถานหย่าเดินผ่านเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ทำได้เพียงยิ้มให้เธอเท่านั้น ไม่มีเวลาที่จะพูดคุย จนเกือบเที่ยง ถานหย่าจึงได้ถอนหายใจแล้วมาคุยกับเธอ “หลิวเจิง! คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาฝึกเฉพาะทางที่โรงพยาบาลของเรา! ดีมากจริงๆ ! แต่ทำไมเธอถึงมาแผนกเราล่ะ! เธอดูสิ ผ่าตัดจนป่านนี้ยังไม่ออกมาเลย!”

ถานหย่าพูดถึงการผ่าตัดหมายถึงการผ่าตัดของเขาซึ่งเข้าใจกันไปโดยปริยาย หร่วนหลิวเจิงยิ้ม “ห้องผ่าตัดไหนก็ยุ่งเหมือนกันหมดไม่ใช่เหรอ?”

“ก็ใช่!” ถานหย่าถอนหายใจ

“ใช่แล้ว เฟยเฟยคนไข้เตียงหมายเลข 39 เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เธอสงสัยเล็กน้อย

“หนูน้อยคนนั้นเหรอ! เธอได้รับบาดเจ็บต้องอยู่โรงพยาบาล! ตอนแรกที่เข้ามาร้องไห้งอแงไม่หยุด และไม่ให้ความร่วมมือในการรักษาเลย แต่คุณหมอหนิงปลอบหาย จากนั้นก็เชื่อฟังแค่คำพูดของคุณหมอหนิงคนเดียว คุณหมอหนิงสัญญากับเธอ ขอเพียงเธอเชื่อฟัง เมื่อถึงเวลาที่เธอกินเค้กได้แล้วจะซื้อเค้กให้เธอทุกวัน แถมยังเล่านิทานให้เธอฟังด้วย”

ถานหย่ายิ้มและพูดโดยต้องเอ่ยถึงคุณหมอหนิงสามคำนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

หร่วนหลิวเจิงไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ เป็นเธอเองที่ถามขึ้นมาก่อน ต่อไปต้องอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน เธอไม่สามารถใจบางเหมือนแก้วเสียจนแม้แต่สามคำนี้ก็พูดถึงไม่ได้

เมื่อถานหย่าพูดจบเสียงออดก็ดังจึงได้แต่รีบวิ่งไป

คำพูดของถานหย่ายังดังวนก้องอยู่ข้างหูเธอ เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะปลอบเด็กได้ อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ต้องเข้าใจว่าในช่วงที่พวกเขาแต่งงานกัน เขาเป็นคนที่ไม่ต้องการมีลูก...

คิดถึงเด็ก ความทรงจำที่เย็นเยียบก็ผุดขึ้นในหัว หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ตอนแรกเธออาจจะไม่ตัดสินใจหย่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด