บทที่ 14 ขุดหลุม
ติดตามเขาไปตรวจคนไข้อาการหนักจำนวนหนึ่ง ทำความเข้าใจอาการของคนไข้ในวันก่อน
เวลาเขาพูดจากับคนไข้ด้วยความอ่อนโยนเป็นพิเศษ หากจะพูด คุณหมอหนิงเองก็เคยยิ้ม และนั่นคงเป็นช่วงเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนไข้และครอบครัวของคนไข้
เขายิ้มแล้วดูดีมาก และดวงตาของเขาที่เดิมเป็นประกายเหมือนแสงแดดรำไร เฉกเช่นการอาบสายลมในฤดูใบไม้ผลิ โลกทั้งใบสว่างขึ้นทันตา
สำหรับหร่วนหลิวเจิงที่เคยได้เห็นรอยยิ้มเช่นนี้ในบางครั้ง เธอเสพติดและชอบแอบมองเขาเวลาพูดคุยกับคนไข้ ในเวลานั้นรู้สึกแค่ว่าทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในโลก ก็ไม่สามารถเทียบได้กับดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มคู่นั้น
เพียงแต่น่าเสียดาย เขาไม่เคยมีรอยยิ้มแบบนั้นเพราะเธอเลยสักครั้ง
หกปีผ่านไปในวันนี้ การได้เห็นรอยยิ้มเขาอีกครั้งแบบนี้ เสมือนอยู่กันคนละโลกจริงๆ
หลังจากตรวจคนไข้แล้วก็กลับไปที่แผนกเพื่อส่งมอบเวร จากนั้นส่งเอกสารโรงพยาบาลแล้วเริ่มราวนด์วอร์ดอย่างเป็นทางการ
เตียงหมายเลข 28 ไม่ใช่คนไข้ของเขา แต่เมื่อเขาเดินผ่าน ญาติคนไข้คว้าเขาไว้แล้วพูดด้วยความกระวนกระวาย “คุณหมอๆ ท่อปัสสาวะตก! ท่อปัสสาวะตก!”
ติงอี้ย่วนท่าทางว่องไว รีบก้าวเข้าไปจัดการในทันทีจนปัสสาวะไหลออกมาและเลอะมือเธอทั้งมือ
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว ทุกส่วนในร่างกายไม่มีการแบ่งแยกว่าสะอาดหรือสกปรก แต่ติงอี้ย่วนสามารถทำได้แบบนี้ ถือว่าทำให้หร่วนหลิวเจิงประหลาดใจอยู่บ้าง
เมื่อจัดการเรื่องนี้แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น ญาติคนไข้บอกว่าไม่ระวัง ติงอี้ย่วนก็โมโหขึ้นทันที แล้วดุญาติคนไข้ไปยกใหญ่
ญาติคนไข้โดนสวดจนไม่รู้จะพูดอะไร หนิงจื้อเชียนไม่ได้พูดอะไรและราวนด์วอร์ดต่อ
เมื่อถึงเตียงหมายเลข 39 เขาก็เดินกลับทันที
เธอกับติงอี้ย่วนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นได้แต่ตามเขาไปเงียบๆ
เขากลับไปที่ห้องทำงานและถือเค้กก้อนนั้นออกมาด้วย
ความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของติงอี้ย่วน หร่วนหลิวเจิงกระสับกระส่ายไม่หยุด เขาคงจะไม่จู่ๆ ก็เกิดบ้าขึ้นมาและคิดอยากจะเอาเค้กให้เธอตอนนี้หรอกนะ? เธอคิดว่าจะปฏิเสธเขาอย่างไรดี ที่สุดแล้วมันคงจะทำให้ความสัมพันธ์ในปัจจุบันคลุมเครือหากว่าพวกเขาจะใกล้ชิดกัน ยิ่งกว่านั้นติงอี้ย่วนก็ดูอยู่ข้างๆ ด้วย!
เขาเดินมาตรงหน้าเธอแล้ว! เธอคิดไว้แม้กระทั่งคำพูดที่จะปฏิเสธเขา ‘อาจารย์หนิง ฉันกินข้าวเช้ามาแล้ว ขอบคุณค่ะ! พวกเราเพิ่งเจอกันแค่สองครั้งเองนะคะ ไม่กล้ารับความหวังดีของคุณหรอกค่ะ!’
ใช่! แบบนี้แหละ!
เธอกลั้นหายใจและเตรียมจะพูดทุกอย่างอย่างที่เตรียมไว้ออกไป เขาก็เดินผ่านเธอไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์...
เดินผ่านไปเลย?!
เธอประหลาดใจและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น งง...
“อ๊ะ! มาแล้ว!” เธอรีบวิ่งเหยาะๆ ตามไป
เขาตรงไปที่เตียงหมายเลข 39
เตียงหมายเลข 39 เป็นเด็กหญิงตัวน้อยอายุราวสี่ห้าขวบ เมื่อเจอเขาก็ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวแล้วอ้าแขน “คุณอาหนิง!”
“เด็กดี! วันนี้จะออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ!” น้ำเสียงของเขาเพราะเสียจนแทบจะละลายหายไป จากนั้นก็ใช้แขนข้างหนึ่งอุ้มเธอขึ้นและยื่นเค้กให้กับเธอ
ดังนั้น เค้กก้อนนี้เป็นของเด็กน้อยที่ชื่อเฟยเฟยคนนี้อย่างนั้นเหรอ?!
หร่วนหลิวเจิงหน้าแดงไปถึงหู ยังดีที่ความคิดที่หน้าไม่อายนั้นยังอยู่เพียงแค่ในใจและมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ ไม่อย่างนั้น เธอคงต้องขุดหลุมแล้วฝังกลบตัวเองแน่ๆ ...