ตอนที่แล้วบทที่ 9 มาสู้ตัดสินกัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 การประเมินก่อนเข้าโรงเรียน (2)

บทที่ 10 การประเมินก่อนเข้าโรงเรียน (1)


เรือนฉงฮวา เสี่ยวอู่เห็นจัวหย่วนกำลังเดินมาจึงส่งเสียง “เฮอะ” หนักๆ พลางเอียงศีรษะ ยกมือสองข้างกอดอก เบือนสายตาหนีไม่มองจัวหย่วน

ในมือยังกอดดาบเล็กที่ทำมาจากไม้อย่างประณีตด้วยท่าทางหาเรื่องจริงจัง

จัวเย่รู้สึกอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป

เจ้าเด็กแสบคนนี้คิดจริง ๆ ว่าแค่มีดาบไม้ ใต้ฟ้านี้ก็จะไร้ศัตรูแล้ว! นี่ถึงขั้นถือดาบไม้มาโอ้อวดต่อหน้าเขาตั้งแต่เช้าแล้ว...

เขาเองก็พูดอะไรไม่ได้ ทั้งยังต้องแสร้งว่าถูก ‘ต้นตระกูลตัวน้อย’ นี้ใช้ดาบไม้เล่มเล็กวิ่งไล่ไปทั่วเรือน!

สุดท้าย ‘พ่อทูนหัว’ ผู้นี้ก็ได้ใจ รู้สึกว่าไล่เขาจนพอใจแล้วจึงต้องการพบท่านอ๋องเพื่อสู้ตัดสิน!

หากไม่สู้ตัดสินก็จะทำลายข้าวของและถือโอกาสจัดการเขาด้วย!

จัวเย่ทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ จึงทำได้เพียงโยนปัญหาไปที่ท่านอ๋อง

ตอนนี้เห็นท่านอ๋องเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสี่ยวอู่ จัดปลายแขนเสื้อของตนพร้อมหาเรื่อง และกล่าวเสียงเรียบ “มา สู้เพื่อตัดสินกัน”

เสิ่นเยว่เองก็คอยสังเกตเหตุการณ์อยู่ไม่ไกล

แผนการเดิมคือ พรุ่งนี้จะเชิญอ๋องผิงหย่วนให้พานางไปรู้จักเด็กคนอื่นภายในจวน เป็นการพูดคุยและทำความรู้จักกันครั้งแรก ทำความเข้าใจความสามารถ นิสัยพื้นฐาน และความชอบของเด็กๆ เป็นต้น เพื่อจะได้เตรียมพร้อมต้อนรับพวกเขาเข้าสู่โรงเรียนและเป็นการสร้างความรู้สึกให้เด็กๆ อยากเข้าโรงเรียน ทำให้พวกเขารู้สึกรอคอย แต่คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวอู่อยากจะสู้ตัดสิน และอ๋องผิงหย่วนก็มาสู้ตัดสินกับเขาจริงๆ ทั้งยังบอกนางว่า ‘มาด้วยกันเถอะ ถือโอกาสทำความรู้จักเสี่ยวอู่’

นางกลับไม่คิดว่าจะได้ทำความรู้จักกับเสี่ยวอู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้

บางครั้งนางก็เกิดความรู้สึกคิดผิดขึ้นมาฉับพลัน ภายในจวนอ๋องผิงหย่วนที่กว้างใหญ่นี้ ที่จริงแล้วคือเด็กแสบตัวใหญ่ที่เป็นผู้ดูแลเด็กแสบตัวเล็กกลุ่มนี้...

และตอนนี้ เสี่ยวอู่ใช้ดาบไม้เล็กชี้ไปยังจัวหย่วน กล่าวด้วยเสียงดัง “เอาอาวุธออกมา!”

ประจวบเหมาะที่จัวหย่วนจัดปลายแขนเสื้อเสร็จ เขาเงยหน้ามองเสี่ยวอู่ “ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ...”

เสี่ยวอู่กวัดแกว่งดาบไม้อันเล็ก กล่าวแสดงความเสียใจ “เช่นนั้นท่านคงต้องเสียเปรียบแล้ว!”

เมื่อครู่เขาใช้ดาบไม้วิ่งไล่จนจัวเย่ต้องกระโดดไปมาภายในเรือน

จัวหย่วนเอ่ยเสียงเบา “มาเถอะ”

เสี่ยวอู่รู้สึกตื่นเต้นในทันที กวัดแกว่งดาบไม้ไปมาแล้วก้าวเดินพร้อมใช้เพลงดาบขั้นพื้นฐานที่จัวเย่เคยสอนเขา ใช้มือร่ายกระบวนท่า

เสิ่นเยว่รู้สึกตกตะลึง

ดูจากท่าทางแล้ว ดูคล้ายวิชากังฟูที่ผ่านการฝึกฝนมาอยู่หลายส่วน...

หลังจากเสี่ยวอู่ร่ายกระบวนท่าเสร็จ จัดวางร่างกายให้อยู่ในท่าทางที่เหมาะ เขาก็ตะโกนเสียงดัง “จัวหย่วน ท่านอย่าหนีแล้วกัน!”

จัวเย่รีบหันหน้าหนีทันที ทนไม่ได้ที่จะมองไปตรงๆ

ท่ามกลางสายตาสงสัยของเสิ่นเยว่ เสี่ยวอู่กวัดแกว่งดาบไม้แล้วพุ่งดาบตรงไปยังจัวหย่วน! ทว่าในตอนที่อยู่ห่างจากจัวหย่วนเพียงเอื้อมมือกลับวิ่งต่อไปไม่ได้ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโหก็เห็นจัวหย่วนยื่นมือออกมาดันศีรษะเขาไว้ เดิมทีเขาเองก็ไม่สูงเท่าไร จัวหย่วนใช้มือดันศีรษะเขาไว้ โดยพื้นฐานแล้วทำให้เขาเข้าใกล้ไม่ได้ ทำได้เพียงใช้ศีรษะดันด้วยความโกรธ ใช้กำปั้นต่อยตีและใช้ดาบไม้กวัดแกว่งไปทั่ว แยกเขี้ยวยิงฟัน...

สถานการณ์ ณ ตรงนั้นดูน่าขบขันเสียจริง...

เสิ่นเยว่สูดลมหายใจเข้า

“ท่านจะทำอะไร!” เสี่ยวอู่รู้สึกรำคาญ!

จัวหย่วนนิ่งเงียบ “สู้ตัดสินไง...”

“ท่านเล่นแง่!” เสี่ยวอู่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

จัวหย่วนตอบกลับ “เจ้าใช้อาวุธ ข้าไม่ใช้แม้แต่อาวุธ ใครกันแน่ที่เล่นแง่?”

“หา!” เสี่ยวอู่เถียงเขาไม่ได้ ทำได้เพียงเหวี่ยงแขนชนไปทั่ว แต่สุดท้ายก็ยังก้าวไปข้างหน้าไม่ได้

สถานการณ์ดู ‘น่าเศร้าใจ’ อยู่บ้างเล็กน้อยจริงๆ...

คนหนึ่งยืนนิ่งไม่ไหวติง อีกคนพยายามสะบัดมืออย่างสุดกำลัง ใช้เท้าถีบยัน...

ในที่สุดเสี่ยวอู่ก็รู้สึกว่าเบื้องหน้าไร้ซึ่งแรงต้าน คล้ายกับว่าไม่มีสิ่งใดขวางหน้าเขาแล้ว!

เสี่ยวอู่ยังไม่ทันได้รู้สึกดีใจ กลับถูกคนหิ้วขึ้นโดยตรง

เพียงแต่ถูกหิ้วขึ้นมาแล้วเขาก็ยังไม่อยู่นิ่ง คอยแยกเขี้ยวยิงฟันเอาเรื่องอย่างสุดกำลัง จัวหย่วนคล้ายกำลังหิ้วสัตว์เล็กที่กำลังบ้าคลั่ง...

“ฆ่าได้หยามไม่ได้!” เสี่ยวอู่กัดฟันแน่น!

จัวหย่วนส่งเสียงเฮอะเบาๆ “เจ้าออกลายแล้วจริงๆ !”

“เฮอะ!” เสี่ยวอู่ไม่พอใจ

การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่จบลงโดยที่จัวหย่วนหิ้วตัวเสี่ยวอู่หมุนกลับไป

จัวหย่วนหิ้วตัวคนไปหยุดอยู่ตรงหน้าเสิ่นเยว่โดยตรง

เสิ่นเยว่สวมเสื้อผ้าสีเรียบ ก่อนหน้าเสี่ยวอู่คิดว่านางเป็นสาวใช้ในจวนจึงไม่ได้สนใจนัก

ตอนนี้เขาหันหน้าไปมองทางจัวหย่วน

แล้วมองไปทางเสิ่นเยว่อีกครั้ง

ไม่นานก็เข้าใจอย่างชัดแจ้ง สองคนนี้เป็นพวกเดียวกัน!

เสี่ยวอู่ยกมือกอดอก ส่งเสียง “เฮอะ” แรงๆ ให้กับเสิ่นเยว่ด้วยความไม่พอใจ

ในตอนนั้น บนศีรษะก็ถูกจัวหย่วนใช้กำปั้นเขกลง

“เจ็บๆๆ !!!” น้ำตาเสี่ยวอู่แทบไหลออกมา

จัวเย่รู้สึกอับอาย วอนโดนตีเสียจริง!

และก็โดนตีจริงๆ !

ในที่สุดก็สงบลงเสียที...

เสิ่นเยว่ละสายตาที่กำลังตกตะลึง ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า

เสี่ยวอู่มองนางแล้วมองไปทางจัวหย่วนอีกครั้ง คล้ายกับกำลังขวัญเสีย กลัวจะถูกลงโทษอีกครั้ง!

จึงไม่กล้าขยับตัว

เสี่ยวอู่ไม่สูง เสิ่นเยว่หยุดยืนโดยเว้นระยะห่างจากเขาเล็กน้อย นางนั่งย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา

ทำให้เสี่ยวอู่สะดวกต่อการสบสายตากับนาง

เสี่ยวอู่ชะงักไปเล็กน้อย

คนอื่นหากไม่คุกเข่าให้เขาก็ทำความเคารพเขา โดยส่วนมากแล้วไม่มีทางสบสายตากับเขา หรือไม่ก็จะทำเช่นท่านอาหก คือยืนก้มมองมาที่เขา...

เขามองนางเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องแหงนหน้าหรือพยายามก้มหน้าเพื่อดูอารมณ์ของฝ่ายตรงข้าม

“ท่านเป็นใคร?” เสี่ยวอู่ขมวดคิ้วแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะมองไปทางจัวหย่วนอีกครั้ง แต่เห็นจัวหย่วนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร เขาจึงหันหน้ากลับมาแล้วมองประเมินนางด้วยความประหลาดใจ

เด็กคนนี้มีความรู้สึกพื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยและตระหนักรู้ถึงการป้องกันตนเอง เปรียบเทียบอายุกับเถาเถาแล้วมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า

เสิ่นเยว่สรุปข้อมูลภายในใจด้วยความรวดเร็ว

ในดวงตาเสิ่นเยว่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม พูดคุยอย่างอ่อนโยน “ข้าชื่ออาเยว่ มาเล่นเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าชื่ออะไร?”

“เล่นเป็นเพื่อนข้า?” เสี่ยวอู่ถูกประโยคนี้ดึงดูดความสนใจไปจนหมด

นางเป็นพวกเดียวกันกับท่านอาหกไม่ใช่หรือ!

เสิ่นเยว่พยักหน้า กล่าวเสียงเบา “อืมๆ มาเล่นเป็นเพื่อนเจ้า ข้ายังเตรียมของขวัญมาให้เจ้าด้วย”

“ของขวัญ!” เด็กชื่นชอบของขวัญ ชั่วพริบตานั้นในดวงตาก็เปล่งประกาย

เสิ่นเยว่กล่าวอย่างจริงจัง “แต่เจ้าต้องบอกข้า เจ้าชื่ออะไร ควรจะเรียกอย่างไร?”

“ข้าชื่อจัวเทียน ชื่อเล่นเทียนเทียน หรือเรียกว่าเสี่ยวอู่!” พูดจบก็หันศีรษะไปมองจัวหย่วน บ่นพึมพำ “ท่านอาหกเรียกข้าว่าเสี่ยวอู่...”

“แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าชอบให้คนอื่นเรียกเจ้าว่าอย่างไร?” เสิ่นเยว่ยิ้ม

“อืม...” เสี่ยวอู่เกาศีรษะคล้ายกับกำลังคิดตอบคำถามนี้อย่างจริงจัง แล้วกล่าวด้วยความร่าเริง “เทียนเทียน! ข้าชอบให้คนอื่นเรียกข้าว่าเทียนเทียน”

เสิ่นเยว่คล้อยตาม “เทียนเทียน เจ้าลองเดาดูว่าของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้าถูกซ่อนไว้ที่ใด?”

ความสนใจของเสี่ยวอู่ถูกดึงดูดไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ดาบไม้อันเล็กในมือก็คล้ายกับว่าจะถูกเพิกเฉยแล้ว เขาเอียงตัวซ้ายทีขวาทีเพื่อหยั่งเชิงและสังเกตการณ์เสิ่นเยว่ไปพลาง ก่อนจะพูดด้วยความดีใจ “อยู่ด้านหลังเจ้า! มือของเจ้าซ่อนอยู่ด้านหลัง!”

เดิมทีเสิ่นเยว่ก็จงใจซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง

เขาเองก็สังเกตเห็น

เสิ่นเยว่จึงนำมือทั้งสองข้างวางไว้ตรงหน้า

เพียงแต่กำมือไว้แน่นทำให้มองของที่ถูกซ่อนไว้ไม่ชัด แต่เพราะเสี่ยวอู่ทายถูกว่าของถูกซ่อนด้านหลังนาง เขาจึงแสดงออกว่าดีใจอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งยินยอมที่จะเล่นเกมนี้กับนางต่อ

เสิ่นเยว่ถือโอกาสตีเหล็กตอนร้อน “ลองทายดูอีกสิว่าของขวัญซ่อนอยู่ที่มือข้างไหน?”

“อืม...” ความสนใจของเสี่ยวอู่ถูกเสิ่นเยว่ดึงดูดไปจนหมด ดาบไม้อันเล็กถูกวางลงบนพื้นทันที มือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดปากไว้ ดวงตาที่มีไหวพริบกำลังจ้องสลับไปมาที่มือทั้งสองข้างของนาง แล้วลองพูดว่า “มือซ้ายหรือ?”

เสิ่นเยว่แสร้งทำเป็นนึกบางอย่างขึ้นได้อย่างฉับพลัน “แน่ใจหรือ?”

เสี่ยวอู่มองนางอีกครั้ง คล้ายกับว่าเดิมทีก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร กระทั่งยังถูกนางทักท้วงเช่นนี้ ทำให้เขาส่งเสียงหัวเราะ “แหะๆ” ในทันที ก่อนจะส่ายหน้ากล่าว “โอ้~ ไม่ใช่ๆ มือขวา มือขวา!”

เสิ่นเยว่ถามกับเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ครั้งนี้แน่ใจแล้วหรือ?”

เสี่ยวอู่พยักหน้าราวลูกไก่จิกเม็ดข้าว “ใช่ๆๆ !”

ตอนนี้เป็นเพราะรอคอย ในดวงตาจึงปรากฏความแวววาวใสซื่อที่มีเฉพาะในตัวเด็กๆ จัวหย่วนเองก็รู้สึกเหนือความคาดหมาย ทั้งยังประหลาดใจ

คล้ายกับว่านานแล้วที่เขาไม่เคยเห็นท่าทางจริงจัง ตื่นเต้น ทั้งยังไม่ก่อความวุ่นวายเช่นนี้จากเสี่ยวอู่...

จัวหย่วนอดไม่ได้ที่จะหยุดมองเสิ่นเยว่อยู่ครู่ใหญ่ เห็นเพียงนางนั่งย่อตัวลง พยายามทำให้มีความสูงเท่าเสี่ยวอู่ ดวงตาสดใส มุมปากแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ขณะที่กำลังสื่อสารกับเสี่ยวอู่ก็คอยสบสายตากับฝ่ายตรงข้ามเสมอ...

เสิ่นเยว่ในรูปแบบนี้มีทั้งความอดทนและปฏิบัติต่อเด็กรวมถึงคนรอบข้างด้วยความจริงใจ

จัวหย่วนรู้สึกใจเต้นเล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด