ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 111 - แคปซูลแช่แข็งฝุ่นเขรอะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 113 - แวมไพร์?

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 112 - ชายชราในห้องทดลองลับ


แต่ดูเหมือนว่าชายชราคนนี้จะแข็งแรงกว่าสภาพภายนอกที่ปรากฏออกมามาก เขาลุกขึ้นมาจากแคปซูลได้อย่างไม่ลำบากนัก และท่ายืนของเขานั้นก็มั่นคงเป็นอย่างมาก หลังตั้งตรงแข็งแรง ไม่เหมือนกับคนที่ใกล้จะหมดลมเลยแม้แต่นิดเดียว

เส้นผมของเขานั้นขาวไปทั้งหัว และมันก็ดูขมุกขมัวสกปรก เข้ากับร่างกายอันผ่ายผอมเป็นอย่างดี ทั้งตัวของชายคนนี้ มีเพียงดวงตาสีแดงกล่ำราวกับสีเลือดคู่นั้น ที่เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นยังมีชีวิตอยู่ และน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งด้วย เพราะมันเป็นดวงตาที่ทิ่มแทง และกดดันความรู้สึกเป็นอย่างมาก เมื่อเขาจ้องมองไปที่ผู้ใด

และหลังจากที่สายตาคู่นั้นหายจากอาการมึนงง มันก็จ้องมาที่เดวิดอย่างฉับพลัน แต่ก็ต้องมีแววแห่งความประหลาดใจปรากฏขึ้นมาทันทีเช่นกัน เพราะเด็กหนุ่มที่ยืนห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร อยู่ในสภาพที่เฉื่อยชาเป็นอย่างมาก หน้าตาดูซึมเซา ไม่แสดงอาการตื่นเต้นหรือตกใจอะไรออกมาเลย ราวกับเป็นแค่คนปัญญาอ่อน ที่ไม่ได้รับรู้ถึงความน่ากลัว และความคับขันของสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว

ดวงตาของเดวิดแทบจะปิดไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าเขาจะหลับลงไปในระยะเวลาอันใกล้นี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเช่นเดียวกัน!

แต่แม้ว่าร่างกายของเขาจะดูเฉื่อยชาเป็นอย่างยิ่ง กล้ามเนื้อในร่างกายกลับอยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อม หัวใจที่เต้นด้วยอัตราที่เชื่องช้านั้นหนักแน่น ทำให้เลือดในร่างกายสูบฉีดด้วยความเร็วสูงอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เป็นสภาพพร้อมรบของเดวิด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเขามากแบบนี้

ปากของเขาหาวออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ของสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ลงไป “ตาแก่? แก! เอ้ย! คุณเป็นใครกัน?”

แววตาของเขาไหววูบอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะย้ายจากการจ้องมองเดวิด หันกลับไปสำรวจร่างกายของตัวเอง ซึ่งทำให้สายตาของเขาเกิดอาการหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าที่ซีดขาวนั้นมีอาการตื่นตระหนกปรากฏขึ้น แต่หลังจากนั้น มันก็กลายเป็นความเชื่อมั่น และดวงตาของเขาก็กลับมาเป็นประกายอย่างมีความหวังอีกครั้ง

มือของเขาถูกยกขึ้นมาอย่างฉับพลัน หลังจากยืดออกมาด้านหน้าจนสุด เล็บของเขาก็เริ่มกลายเป็นสีดำ และยืดยาวออกมาเกือบ 1 นิ้ว มันดูหนาและแข็งแรงเป็นอย่างมาก มือที่เหี่ยวแห้งอ่อนแอที่เคยเห็น กลายเป็นกงเล็บที่น่ากลัวไปในพริบตาเดียว มันไม่ใช่มือของมนุษย์อีกต่อไป แต่เป็นกงเล็บที่แข็งแกร่งของสัตว์ร้ายบางอย่าง!

นั่นทำให้ชายชราแสยะยิ้มออกมาในทันที มันเป็นรอยยิ้มที่น่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก ยิ่งรวมเข้ากับเขี้ยวยาวที่ผุดออกมาจากปาก 2 ซี่นั่นด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้ใบหน้านั้นทั้งน่ากลัว และน่ารังเกียจไปพร้อม ๆ กัน

และสิ่งที่ทำให้เดวิดสะอิดสะเอียนมากยิ่งขึ้น ก็ปรากฏตามออกมาในทันที สิ่งที่เป็นแท่งเนื้อยาวสีแดงเข้มจนเกือบจะกลายเป็นสีดำ กวาดไปทั่วทั้งริมฝีปาก คล้ายกับว่าตาแก่คนนี้กำลังใช้ลิ้นสำรวจสภาพปาก และเขี้ยวยาวของตัวเองอยู่ และเสียงหัวเราะดังลั่นห้องก็ตามออกมาในทันที เมื่อเขาสำรวจพวกมันจนเสร็จสิ้นแล้ว

เสียงหัวเราะที่เกือบจะเหมือนกับเสียงโลหะ 2 ชิ้นกระทบกัน มันช่างระคายหู และไม่อาจจะทนรับฟังได้จริง ๆ

สีหน้าของเดวิดในตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ตาของเขาไม่ได้ปิดอีกต่อไปแล้ว เพราะคิ้วของเดวิดถูกยกขึ้นด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก แม้ว่ารูปลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี้จะน่าขยะแขยงแค่ไหน แต่ถ้าจำแนกแยกแยะให้ดี ๆ ดวงตาสีแดงที่เต็มไปด้วยความล่อลวง พร้อมจะทำให้คนตกอยู่ในภวังค์ได้ทุกเมื่อ เขี้ยวที่ยาวและแหลมคม กงเล็บที่น่ากลัว และหัวใจที่เหมือนจะไม่มีเสียงเต้นออกมาให้ได้ยินเลย!

เขาคิดว่าตัวเองรู้จักกับสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ แต่ยังไม่กล้าที่จะยืนยันมันออกมาเต็มที่!

เสียงหัวเราะเงียบลงไปในที่สุด ดวงตาสีแดงกล่ำคู่นั้นกลับมาจ้องอยู่ที่เดวิดอีกครั้ง เสียงที่ทั้งแหบแห้ง และสากระคายหูดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ตอนนี้ปีอะไรแล้ว?” เขาไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถามก่อนหน้านี้ของเดวิด แต่เลือกที่จะถามสิ่งที่ตัวเองต้องการรู้ออกมาก่อน

แม้ว่าจะต้องกระพริบตาถี่ แต่เดวิดก็ยังตอบออก “2019!”

ใบหน้าที่เหี่ยวอยู่แล้ว กลายเป็นยับย่นมากกว่าเดิมไปอีก เมื่อชายชราขมวดคิ้วของตัวเองอย่างครุ่นคิด ดวงตาสีแดงกล่ำของเขากลอกไปมาอยู่ตลอด ก่อนที่เสียงอันแหบแห้งนั้นจะดังออกมา

“เป็นไปไม่ได้!” เขารู้ดีว่าเดวิดไม่ไห้คำตอบที่ถูกต้องออกมาตามตรงเลย

แน่นอน! เดวิดตอบออกไปมั่ว ๆ เขาไม่ได้โง่จนจะบอกความจริงให้กับคนที่ดูเป็นอันตรายมากอย่างนี้แน่

“แกเป็นใคร?” เสียงระคายหูนั่นดังขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาทั้งคู่มองสำรวจไปทั่วร่างกายของเดวิด ที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เนื้อตัวเต็มไปด้วยเศษดินทราย ชายชราไม่สามารถเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาได้ด้วยซ้ำ

ส่วนเดวิดเองนั่นก็กำลังตกอยู่ในอาการสับสนเป็นอย่างมาก เพราะเขาแทบจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของตาแก่ที่อยู่ตรงหน้านี้เต้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว สไปรเยอร์ทุกคนจะมีหัวใจทั้งหมด 2 ดวง ถ้าคิดรวมชิ้นส่วนจีโนมที่ปลูกถ่ายเข้าไปด้วย

และสไปรเยอร์ทุกคนจะมีการได้ยินที่เฉียบคม เพราะมันถูกฝึกมาให้รับฟังเสียงการเต้นของหัวใจฝ่ายตรงข้าม มันเป็นวิธีที่จะประเมินความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ที่ง่ายที่สุด

แต่ด้วยประสาทหูที่ดีเยี่ยมขนาดนี้ เดวิดไม่สามารถได้ยินเสียงหัวใจชายชราที่ยืนอยู่ข้างหน้านี้เต้นได้อย่างชัดเจนเลย มันเป็นการเต้นที่แผ่วเบา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาทุ่มเทสมาธิตั้งใจรับฟัง คงจะไม่สามารถรับรู้ได้ และที่ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ชายแก่คนนี้ปรากฏตัวออกมาจากแคปซูล แม้ว่าสัญชาตญาณของเขาจะส่งสัญญาณเตือนออกมา แต่มันก็ไม่ได้เข้มข้นเหมือนตอนนี้เลย ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ระดับของการคุกคามที่ตาแก่นี้ส่งออกมา ก็ยิ่งสูงมากขึ้นตามไปด้วย ที่สำคัญ! มันยังไม่หยุดลงเลยด้วยซ้ำ

เสียงหัวใจที่แผ่วเบานั้น มันเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว และนั่นทำให้บางอย่างผุดขึ้นมาในหัวของเดวิด ‘ตาแก่นี่จะต้องถามเวลาไปทำไม ในเมื่อ AI ของเขาก็มี? ตาแก่นี่แค่ซื้อเวลา!!”

และโดยที่ไม่รอยืนยันความคิดของตัวเอง เดวิดจู่โจมออกไปทันที!

มันเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มันไม่มีกระบวนท่าอะไรทั้งนั้น แค่จู่โจมออกไปให้รวดเร็วที่สุดก่อน ใช้พลังความแข็งแกร่งของร่างกายในตอนนี้ล้วน ๆ เขาไม่มีแม้แต่เวลาจะกระตุ้นทักษะการต่อสู้ ตาแก่คนนี้ต้องถูกจัดการลงในเสี้ยววินาทีนี้เลย!

แต่ดูเหมือนว่าเดวิดจะรู้ตัวช้าไปเล็กน้อย เพราะชายชรานั้นส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมาทันทีที่เห็นเดวิดขยับตัว เขี้ยวขาวแหลมคมที่ปากของเขายืดออกมาอีกหลายนิ้ว นั่นรวมถึงเล็บที่นิ้วมือของเขาด้วย

“ถือว่าเป็นเด็กน้อยที่ฉลาดพอสมควร แต่มันสายเกินไปแล้ว!”

เดวิดนั้นเดาเอาไว้ไม่ผิด เขาต้องการเวลาจริง ๆ หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล ร่างกายของเขานั้นอ่อนแอมาก มันมีพลังเทียบเท่ากับสไปรเยอร์ทั่วไปเท่านั้น แม้ว่ามันจะไม่สูงมาก แต่ก็พอจะจัดการกับเจ้าหนูที่อยู่ตรงหน้านี้ได้ แต่เพื่อความมั่นใจ และทำความคุ้นเคยกับความสามารถของร่างกาย เขาต้องการเวลาฟื้นฟูสักเล็กน้อยก่อน ที่สำคัญที่สุด เขาต้องการเลือด!

การที่จะตรวจสอบว่าการทดลองที่เขาทำกับตัวเองลงไป ประสบความสำเร็จหรือไม่ เขาต้องใช้เลือดเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ตื่นขึ้นมา เขามีความรู้สึกกระหายเลือดขึ้นมาแล้ว แต่มันยังไม่ใช่ความรู้สึกที่เข้มข้นอย่างที่เขาตั้งความหวังเอาไว้ ดูเหมือนว่าการจำศีลไปเป็นเวลานาน จะทำให้สัญชาตญาณนั้นหลับลงไปด้วย เขาต้องการเลือดจำนวนมากมา กระตุ้นให้มันตื่นขึ้น

ถึงแม้ว่าเลือดของเจ้าหนูที่อยู่ตรงหน้านี้จะน้อยไปเสียหน่อย แต่ก็คงทำให้เขาฟื้นความแข็งแกร่งกลับมาได้มากพอที่จะเคลื่อนไหวทำอะไรต่อไป

มือของชายชราถูกยกขึ้นมาตวัดอย่างรวดเร็ว มันเป็นกระบวนท่าที่เรียบง่ายอย่างยิ่ง แต่ความรวดเร็วที่เกิดขึ้นนั้นกลับเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง กงเล็บของเขากลายเงาที่เคลื่อนผ่านอากาศอย่างไร้ซุ่มเสียง ไม่สิ! เหมือนกับว่าร่างกายทั้งหมดของเขานั้นไม่ก่อให้เกิดเสียงเลย.. มันกลมกลืนกับบรรยากาศรอบตัวไปหมด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด