ตอนที่ 59 สร้างภูมิคุ้มกัน
พอกลับถึงบ้าน เฉินเจียงไฮ่ก็รีบเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็น
ทันใดนั้นหลินว่านชิวก็กลับมาถึงบ้านเช่นกัน
เฉินเจียงไฮ่โผล่หัวออกมาด้วยความประหลาด "เฮ้ ว่านชิว ทำไมวันนี้คุณเลิกงานเร็วจัง"
"หัวหน้าขอให้ฉันกลับมาก่อนน่ะ" หลินว่านชิวกล่าว
เฉินเจียงไฮ่ตกตะลึง เขาถามด้วยความสงสัย "ทำไมละ"
หลินว่านชิวยิ้มเล็กน้อย: "เครื่องปรับอากาศในบ้านของหัวหน้าฉันเสีย เขาได้ยินมาว่าคุณฝีมือดี เขาเลยขอให้ฉันกลับมาถามคุณว่าพรุ่งนี้คุณว่างไปซ่อมให้เขาไหม"
“หัวหน้าคนไหน?” เฉินเจียงไฮ่ถาม
หลินว่านชิวยกมือขึ้นและแสดงท่าทาง "เป็นผู้อำนวยการเวิร์กชอปของเรา คุณเคยเห็นมาก่อน"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินว่านชิวพูด เฉินเจียงไฮ่ครุ่นคิดและนึกถึงบุคคลดังกล่าวอย่างรวดเร็ว
ผู้อำนวยการเวิร์กช็อปคนนี้ชื่อ ฉีเหลียงอัน อายุประมาณ 50 ปี เขาทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้านี้เป็นเวลานานกว่าหลายสิบปี และเขาเป็นคนดีมาก
“โอเค ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้ผมว่างพอดี” เฉินเจียงไฮ่กล่าวอย่างร่าเริง
หลินว่านชิวกระพริบตา "เจียงไฮ่ มันจะกระทบกับงานคุณไหม"
เฉินเจียงไฮ่พูดทันที "แม้โลกใบนี้จะกว้างใหญ่ แต่ธุระของภรรยานั้นใหญ่ที่สุด"
นี่คือคำพูดจากใจเขา
แม้เฉินเจียงไฮ่จะหวังให้หลินว่านชิวนั้นเกษียณก่อนกำหนดหรือทำอะไรซักอย่างให้เธออยู่บ้านพักผ่อนสบายๆ แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขายังไม่สามารถเกลี้ยมกล่อมเธอได้
แต่ไม่นานหลังจากนั้น หลินว่านชิวคงไม่สามารถทนกับสภาพชีวิตการทำงานแบบนี้ไหวแน่นอน
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องช่วยให้เธอสร้างความประทับใจที่ดีต่อหัวหน้าของเธอ เพื่อให้ชีวิตการทำงานของเธอนั้นง่ายขึ้น
เพราะงั้น ถึงแม้วันพรุ่งนี้เขาจะว่างหรือไม่ว่าง เฉินเจียงไฮ่ก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรก
เมื่อได้ยินเฉินเจียงไฮ่พูดเช่นนั้น ใบหน้าของหลินว่านชิวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
เธอไม่รู้จริงๆว่าเขาไปเอาคำพูดนี้มาจากไหน แต่ปากเขาช่างหวานเหลือเกิน สิ่งที่เขาพูดทำให้ใจของเธอละลายได้จริงๆ
หลังจากทานอาหารกันแล้ว เฉินเจียงไฮ่ถอดเครื่อง bp ออกจากเอวเพื่อที่จะซักผ้า
"เจียงไฮ่นี่... เครื่อง bp เหรอ"
หลินว่านชิวที่กำลังดูทีวีอยู่ มองไปที่สิ่งของสีดำบนโต๊ะด้วยความไม่แน่ใจ
เฉินเจียงไฮ่พยักหน้า: "ใช่!"
"คุณได้มาจากไหน?"
หลินว่านชิวหยิบขึ้นมาดูอย่างระมัดระวังและขมวดคิ้ว "ฉันได้ยินมาว่าสิ่งนี้แพงมาก! ราคาหลายพันหยวน!"
ถ้าเฉินเจียงไฮ่ซื้อมันมา แสดงว่าเงินทั้งหมดที่เขาหามาก่อนหน้านี้ไม่ถูกใช้ไปเหรอ?
ทันทีที่เฉินเจียงไฮ่เห็นว่าหลินว่านชิวเป็นกังวล เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรจึงรีบอธิบาย "นี่เป็นของมือสอง ผมซ่อมมันเอง มันมีราคาแค่สิบหยวนเท่านั้น"
หลังจากได้ยิน หลินว่านชิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อเห็นท่าทางที่โล่งใจของหลินว่านชิว เฉินเจียงไฮ่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาวางผ้าขนหนูลงแล้วโอบตัวหลินว่านชิว "ตอนนี้มีผู้คนมากมายที่ต้องการให้ผมซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้ผมใช้ไม่ได้เหรอ?”
"ไม่ใช่ ฉันกลัวคุณใช้เงินเยอะ!" หลินว่านชิวพูดด้วยความเขินอาย
เฉินเจียงไฮ่ดึงหลินว่านชิวลงมาและพูดทีละคำ "ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ใช้เงินที่ผมจะให้คุณแน่นอน แต่ผมก็ต้องใช้เงินเพื่อธุรกิจของผม ในอนาคตผมคงต้องใช้เงินอีกมากมายอย่างแน่นอน"
เมื่อเห็นหลินว่านชิวเป็นเช่นนี้ เฉินเจียงไฮ่จำเป็นต้องฉีดภูมิคุ้มกันการใช้เงินให้เธอเสียก่อน
หลินว่านชิวไม่เข้าใจเรื่องนี้มากนัก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย "คุณทำการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากซื้อชิ้นส่วนและรวบรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว คุณจะใช้เงินไปที่ไหนอีก"
“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง” เฉินเจียงไฮ่ไม่ได้อธิบายอะไรมากเกินไปและเก็บมันไว้เป็นการชั่วคราว
ธุรกิจซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเป็นเพียงแค่การสะสมเงินทุนเริ่มต้นเท่านั้น
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง ในปัจจุบันเฉินเจียงไฮ่ได้ลงทุนเงินเป็นจำนวนมากแล้ว
แน่นอน ถ้าเขาใช้เงินรวบรวมมากเท่าไร เขาก็จะมีกำไรมากเท่านั้น
หลินว่านชิวมองไปที่เฉินเจียงไฮ่ และเริ่มรู้สึกขึ้นเรื่อยๆว่าเธอไม่สามารถเข้าใจชายคนนี้
แต่ตราบใดที่เขาจริงใจและดีต่อตัวเธอ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว!
ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ เธอก็ไม่เคยกล้าที่จะจินตนาการมาก่อนสักครั้ง!
…
วันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้า เฉินเจียงไฮ่ออกจากบ้านพร้อมหลินว่านชิว
เขาตามหลินว่านชิวไปที่โรงงานก่อนและรอให้ผู้อำนวยการฉีพาพวกเขาไปที่บ้านของเขา
ที่ประตูโรงงาน มีคนงานเข้ามาทำงานไม่ขาดสาย บางคนขี่จักรยาน บางคนเดินเท้า
มีสองสามกลุ่ม ที่กำลังพูดคุยหัวเราะกันอยู่
ซึ่งแตกต่างกับโรงงานอะไหล่อย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม เฉินเจียงไฮ่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความเจริญรุ่งเรืองจอมปลอม ในกระแสเศรษฐกิจของทศวรรษที่ 1990 รัฐวิสาหกิจที่มีระบบเข้มงวดก็คงหายไปในไม่ช้า
คนงานที่กำลังพูดคุยและหัวเราะกันอยู่ตรงหน้าเขา ก็คงจะประสบกับวิกฤตการถูกเลิกจ้างในไม่ช้า
การปรับนโยบาย การปฏิรูปและการเปิดประเทศ ทำให้เวลานั้นชามข้าวของพวกเขาถูกทุบอย่างไร้ปราณี
มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถเก็บความทรงจำของวันวานและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เฉินเจียงไฮ่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เขาไม่รู้ว่ามีกี่คนที่จะถูกกำจัดเพราะพวกเขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการปฏิรูปนี้ได้และจมอยู่ในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวนี้
“เจียงไฮ่คุณเป็นอะไร” เมื่อได้ยินเฉินเจียงไฮ่ถอนหายใจ หลินว่านชิวถามด้วยความกังวล
เฉินเจียงไฮ่ส่ายหัว "ไม่มีอะไร! ผู้อำนวยการฉียังไม่มาอีกเหรอ?"
“ใกล้มาแล้ว เขามีประชุมช่วงเช้าพอดี เมื่อวานเขาบอกว่าจะมาหลังจากประชุมเสร็จเสร็จ” หลินว่านชิวกล่าว
เฉินเจียงไฮ่ถามทันที "ถ้างั้นวันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? ทำไมคุณไม่เข้าไปข้างในล่ะ"
"ไม่เป็นไร"
หลินว่านชิวพูดด้วยรอยยิ้ม "ผู้อำนวยการฉี จัดการให้ฉันแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเขามาฉันค่อยเข้าไปข้างใน"
"อืม โอเค" เฉินเจียงไฮ่พยักหน้า
หลังจากรอประมาณห้านาที ชายวัยกลางคนค่อนข้างเตี้ยเดินออกมาจากโรงงานอย่างรวดเร็ว
รูปลักษณ์ที่ธรรมดาชนิดที่ว่า ถ้าเขาถูกโยนเข้าไปในฝูงชน ก็คงไม่สามารถหาเขาพบได้อย่างรวดเร็ว
เฉินเจียงไฮ่เคยพบเขาไม่กี่ครั้ง สิ่งเดียวที่เขาจำได้คือผมยาวสลวยบนหัวของผู้อำนวยการฉี
"ว่านชิว นี่คือสามีของคุณรึเปล่า"
ผู้อำนวยการฉีมองขึ้นลงๆมาที่เฉินเจียงไฮ่และถามด้วยรอยยิ้ม
หลินว่านชิวรีบดึงเฉินเจียงไฮ่มาข้างๆ "เจียงไฮ่ นี่คือผู้อำนวยการฉี"
"สวัสดีผู้อำนวยการฉี ผมขอขอบคุณที่ช่วยดูแลว่านชิวในโรงงานนี้!"
เฉินเจียงไฮ่ยื่นมือออกมาและพูดอย่างสุภาพ
"ด้วยความยินดี!"
ผู้อำนวยการฉีจับมือและพูดติดตลก "เสี่ยวเฉิน ว่านชิวคือคนที่ทำงานล่วงเวลามากที่สุดในเวิร์กช็อปของเรา คุณเป็นสามีที่ยังดีไม่พอ!"
เฉินเจียงไฮ่พยักหน้า "เมื่อก่อนผมยังเด็กและไม่รู้หนังสือ ทำให้ว่านชิวต้องทุกข์ทรมาน ผมทำให้ผู้อำนวยการหัวเราะซะแล้ว"
ผู้อำนวยการฉีตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่า เฉินเจียงไฮ่จะยอมรับคำวิจารณ์อย่างใจเย็น
หลินว่านชิวดึงเฉินเจียงไฮ่และขยิบตาให้เขาอย่างรวดเร็ว ส่งสัญญาณให้เขาไม่ต้องพูดอะไรออกมา
ทันใดนั้นเธอมองไปที่ผู้อำนวยการฉีด้วยรอยยิ้ม "ผู้อำนวยการฉี งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ"
“งั้นไปเถอะ!” ผู้อำนวยการฉีกล่าวพร้อมกับโบกมือให้เธอ
หลินว่านชิวมองไปที่เฉินเจียงไฮ่อีกครั้ง ก่อนที่จะหันหลังเข้าไปข้างใน...