ตอนที่แล้ว2 - ความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป4 - ระบบผู้รักษาประตู

3 - กล่องดำใบเดิม


3 - กล่องดำใบเดิม

เดฟเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกจากสนาม เขาได้รับเสียงโห่จากแฟนบอลทีมของตัวเอง แต่เดฟก็ชินกับการที่โดนแฟนบอลปฏิบัติต่อเขาแล้ว ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าอุโมงค์ไปยังห้องแต่งตัว

“เดฟ เดฟ!” เอ็มม่าตะโกนเรียกเดฟ เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ

เดฟไม่กล่าวอะไรขณะที่เขาจ้องตาแฟนสาวของเขาซึ่งมักจะยืนคอยให้กำลังใจเขาในทุกๆแมตช์ และเช่นเคยเขาก็ทำผลงานได้ย่ำแย่

“คุณทำได้ดีแล้ว” เอ็มม่ากล่าวพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นปรากฏบนใบหน้าของเธอ

เดฟฝืนยิ้มก่อนจะเดินลงบันได นั่นเป็นการปฎิบัติระหว่างเอ็มม่ากับเดฟตลอดมา

หลายนัดเขาทำได้ไม่ดี แต่เธอก็ยังคงให้กำลังใจเขาทุกนัด

เดฟรู้สึกท้อและก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องแต่งตัว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง เขาค่อยๆเปิดประตูห้องแต่งตัว เมื่อเขาเปิดประตูห้องแต่งตัว ทุกสายตาจ้องมองมาที่เขา

“นายมัวทำอะไรข้างนอกนั่น เรารอคุยกับนายอยู่” โจนาสเป็นคนแรกที่ตะโกนใส่เดฟและกำลังเดินมุ่งหน้าเข้าหาเดฟ

“หยุด! ใจเย็นๆ โจนาส มีวิธีอื่นในการจัดการกับเรื่องนี้” อดอล์ฟกล่าวอย่างเด็ดขาดและเขาดึงแขนโจนาสไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องบานปลาย

“ฉันรู้ว่าเดฟทำผิดพลาดมากมาย กองหลังก็มีส่วนกับเรื่องนี้ พวกเราจะโทษเดฟคนเดียวไม่ได้” ฟิลกล่าวแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ที่นายพูดก็มีเหตุผล ฉันรู้ว่าไม่มีประโยชน์ถ้าเราจะทำให้ผู้รักษาประตูเสียความมั่นใจ” โจนาสกล่าวและแสดงท่าทางหงุดหงิดสุดขีด

“ฟังนะเดฟ ฉันไม่ได้จะดูหมิ่นนาย แต่นายต้องปรับปรุงตัวเองจริงๆ นายอาจจะหลุดจากตำแหน่งตัวจริงได้” คาร์ลอสกล่าวและจ้องมองมาที่เดฟ

“เขาสมควรถูกเปลี่ยนไปนั่งสำรอง ถ้ายังดึงดันต่อไปผมก็ไม่อยากเล่นนัดต่อไปแล้ว” โจนาสกล่าวแล้วออกจากห้องแต่งตัวทันที เพื่อนร่วมทีมก็ค่อยๆ ทยอยออกจากห้องทีละคน

“นายต้องพยายามให้มากกว่านี้” มาเตโอกล่าวพร้อมกับแตะที่ไหล่ของเดฟก่อนจะจากไป

หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว โค้ชก็เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว และกล่าวกับเขาว่า “นายต้องพยายามฝึกฝนตัวเองให้หนักหลังจากนี้” โค้ชกล่าวกับเดฟด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและยังกล่าวต่อว่า

“เดฟ ผมขอพบคุณ ที่ห้องทำงานของผมเป็นการส่วนตัว”

นักเตะทีมยูนีค เอฟซี กำลังเดินออกจากสนาม และมีผู้เล่นหลายคนภายในทีมจับกลุ่มคุยกัน

ในขณะที่มาเตโอกำลังจะเดินไปที่รถของเขา มีผู้หญิงวิ่งมาดึงแขนของเขา เอ็มม่า (เอ็มม่า เป็นพี่สาวของ มาเตโอ)

“ว่าไงพี่สาว” มาเตโอกล่าวทักทายทันที

“ลูกยิงของนาย สวยมาก” เอ็มม่ากล่าวและปรากฏรอยยิ้มที่มุมปาก

“ใช่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ” มาเตโอกล่าวและก้มหน้า

“เดฟอยู่ไหน” เอ็มม่าถามพร้อมกับมองไปรอบๆ

“เดฟ…กำลังคุยกับโค้ช” มาเตโอกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"เดฟ ทำไม?" เอ็มม่าถามด้วยความร้อนใจ

“ฉันไม่รู้ บรรยากาศในทีมเราไม่ค่อยดี” มาเตโอกล่าวพร้อมปัดมือเอ็มม่าที่จับแขนของเขาออกด้วยความโมโห

“ได้โปรดพูดดีๆ และให้กำลังใจเขาด้วย ฉันขอร้อง” เอ็มม่ากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เดฟเดินมุ่งหน้ามาที่รถของเขาด้วยความเร็ว เขาขึ้นรถด้วยความโมโห และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

“นั้นเขา เขาไปแล้ว” มาเตโอกล่าวทันทีที่มองเห็นเดฟและชี้ไปที่รถของเดฟซึ่งออกไปไกลพอสมควร

เดฟพยายามขับรถกลับบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่คำนึงถึงความอันตรายใดๆทั้งสิ้น เขารู้สึกผิดหวังกับผลงานของตัวเอง

เมื่อถึงบ้าน เขาจอดรถไว้หน้าบ้าน ไม่แม้แต่จะเอารถเข้าไปเก็บที่โรงรถ เขาเดินเข้าบ้านผ่านความมืด ความเงียบและความเศร้าภายในใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เปิดแม้กระทั่งไฟในตัวบ้าน

เขาคำนึงถึงคำพูดของโค้ชอยู่ภายในใจ “นายรู้หรือเปล่าว่าผลงานวันนี้ไม่ดีเอาสะเลย ฉันจะติดต่อกับพ่อของนาย เพื่อพูดคุยเรื่องผลงานของนาย ถ้ายังไม่ดีขึ้น เราอาจจะได้เริ่มหาตัวแทนทันทีที่ตลาดซื้อขายนักเตะเปิด” นี่คือคำกล่าวของโค้ชนอร์แมน

คำพูดเพียงสั้นๆ ก็ทำให้เขาเสียใจเป็นอย่างมาก มันเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าการถูกบอกว่าความสำคัญของเขาหมดลงแล้ว

….

ในวัยเด็ก เขาถูกยกไปเปรียบเทียบกับปู่ของเขา ที่เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

เขาได้รับคำชมว่ามีพรสวรรค์เหมือนปู่ของเขา

เดฟเริ่มเล่นฟุตบอลในตำแหน่งผู้รักษาประตูตั้งแต่วัยเด็ก และต่อมาเขาเข้าสู่อคาเดมี่เยาวชนสโมสรท้องถิ่น เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เขาสามารถคว้าถ้วยรางวัลมากมาย แต่เมื่อเขาถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ ความมั่นใจเขากลับลดน้อยลง

เดฟเงยหน้าขึ้นมองภาพปู่ของเขาซึ่งตั้งอยู่บนหลังตู้

เดฟเดินไปหยิบรูปถ่าย ซึ่งเป็นรูปปู่ของเขากับรางวัลถุงมือทองคำ

“พวกเขาคิดผิดหรือเปล่า ที่คิดว่าผมเป็นเหมือนคุณปู่ได้” เดฟพึมพำกับตัวเองด้วยความเสียใจ

เขาเดินไปรอบๆ พร้อมความโกรธที่กำลังเพิ่มมากขึ้น และนั่นทำให้เขากระทืบเท้าลงบนพื้นด้วยความโกรธ

ทันทีที่เขากระทืบเท้า พื้นภายในห้องกลับทะลุ ตัวเขาล้มลงบนพื้น

“บ้าจริง!” เดฟกล่าวขณะที่เขากำลังลุกขึ้นยืน

เดฟจ้องมองที่รูสีดำที่ขาของเขาทะลุลงไป เขาจึงรู้ว่ามีห้องลับซ่อนอยู่หลังบันได

เขารีบออกไปข้างนอกและกลับมาพร้อมเหล็กขนาดเหมาะมือ เขาเริ่มใช้เหล็กขยายรูที่พื้นให้กว้างขึ้น เผยให้เห็นห้องเล็กๆที่ซ่อนอยู่หลังบันได

เดฟใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในห้องใต้ดินอันมืดมิดและเก่าแก่ ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องนั้น

เป็นห้องใต้ดิน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรอยู่ข้างใน เขาจึงเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบกล่องสีดำขนาดกว้างและยาวประมาณ 2 ฟุต วางอยู่ที่มุมลึกสุดของห้อง เขาจึงเดินเข้าไปตรวจกล่องสีดำ

“กล่องนี้ฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?” เดฟพึมพำขณะที่เขาหยิบกล่องขึ้นมา

กล่องค่อนข้างเปิดได้ยาก แต่เขายังมีท่อนเหล็กอยู่ในมือ เขาจึงใช้เหล็กในการเปิดกล่อง และเขาสามาถเปิดมันได้สำเร็จ เผยให้เห็นถุงมือสีเงินคู่หนึ่ง

ทันใดนั้นถุงมือสีเงินก็เปร่งแสงสว่างราวกับพระอาทิตย์ออกมา เขาสูญเสียการมองเห็นและทำให้ตัวเขาหมดสติไปสักพัก

เมื่อเขาฟื้นคืนสติมันดูเหมือนความฝัน แต่มันคือความจริงและถุงมือได้หายไป

“เป็นไปได้อย่างไร ถุงมือหายไปไหน” เดฟพึมพำกับตัวเอง

( ยินดีต้อนรับ เดฟ ริชาร์ด คุณได้เปิดใช้งานระบบผู้รักษาประตู )

เสียงของผู้หญิงดังก้องขึ้น พร้อมข้อความ มีเพียงเขาที่ได้ยินเสียงและมองเห็นข้อความเหล่านั่น

“ฮะ! นั่นเสียงใคร?” เดฟถามด้วยความประหลาดใจ และใน

ขณะนั้นความรู้สึกกลัวเกิดขึ้นภายในใจของเขาทันที

…………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด