สุดยอดอัศวิน บทที่ 36 : หุ่นเชิดศพ

สุดยอดอัศวิน บทที่ 36 : หุ่นเชิดศพ

ฟิ้ว!

หุ่นเชิดศพกระโจนเข้าไปในกรงเหล็กขนาดใหญ่เหมือนสัตว์ร้ายกระหายเลือดเมื่อเห็นเนื้อกับเลือดสด ๆ เข้ามาในถิ่น ดวงตาของพวกมันแดงก่ำและส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง ทันทีที่เข้าไปในกรงเหล็ก พวกมันก็ส่งสายตาน่ากลัวไปยังฌอนและชายผู้มีแผลเป็น

กรรร!

เมื่อเห็นเนื้อสดแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น จากส่วนลึกของลำคอ พวกมันส่งเสียงคำรามเหมือนดีใจ จากนั้นก็พุ่งเข้าหาทั้งสองอย่างรวดเร็ว

“ไอ้หนุ่ม แสดงฝีมือหน่อยซิ”

หลังจากเห็นฉากนี้ ชายผู้มีแผลเป็นก็พูดบางอย่างกับฌอน แล้วถอยไปข้างหลังโดยไม่ลังเล ทำให้ฌอนเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดศพโดยลำพัง

เมื่อเห็นหุ่นเชิดศพพุ่งเข้ามา ฌอนหายใจเข้าลึกแล้วสังเกตหุ่นเชิดศพตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

พวกมันไม่เหมือนกับซอมบี้ที่เคลื่อนไหวช้าใน Resident Evil เลย ศพที่อยู่ข้างหน้าฌอนวิ่งค่อนข้างรวดเร็วกว่าผู้ใหญ่ทั่วไปซะอีก ถ้าพูดถึงซอมบี้ พวกมันอันตรายยิ่งกว่า เพราะด้วยความเร็วระดับนี้ก็จะป้องกันได้ยากขึ้น

ตึกๆๆ!

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ฌอนสังเกตเห็นหุ่นเชิดศพกำลังเข้าใกล้ฌอนในระยะห้าเมตรแล้ว เมื่อเห็นแบบนี้ เขาไม่ลังเลเลยและใช้มือขวาชักดาบอัศวินที่ห้อยอยู่ตรงเอวฝั่งซ้ายทันที

ดาบอัศวินในมือนั้น ให้ความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวกันมาจากดาบ และความมั่นใจของฌอนก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ความใกล้ชิดกับดาบทำให้ฌอนสามารถควบคุมดาบในมือได้อย่างแม่นยำและลดความผิดพลาดลง สิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์มากอย่างไม่ต้องสงสัยในการต่อสู้กับหุ่นเชิดศพ ท้ายที่สุดการต่อสู้กับหุ่นเชิดศพไม่สามารถผิดพลาดได้เลย ไม่อย่างนั้นก็ตายสถานเดียว

กรรร!

หุ่นเชิดศพกระโดดขึ้นมาพร้อมกลิ่นเหม็น ไม่เพียงแค่นั้น กรงเล็บด้านหน้าที่แหลมคม ที่หันเข้าหาฌอนราวกับใบมีด

กรงเล็บที่แหลมคมสีดำเหมือนกรงเล็บของเหยี่ยวที่สามารถข่วนเหยื่อได้เป็นชิ้น ๆ ไม่สงสัยเลยว่าบนพื้นก่อนหน้านี้ เป็นรอยที่พวกมันข่วนทิ้งไว้

ชัวะ!

เมื่อมองไปยังกรงเล็บ ฌอนก็หายใจเข้าลึก ๆ บังคับตัวเองให้สงบลง จากนั้นก็เหวี่ยงดาบอัศวินออกไปโดยไม่ลังเล การเคลื่อนไหวในครั้งเดียวนี้แทบไม่มีช่องว่างเลย

ดาบอัศวินในมือของฌอนสะท้อนแสงสีเงิน แล้วฟาดออกไปด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ และกระทบกับกรงเล็บอันแหลมคมที่พุ่งเข้ามา

ฉึก… หวืด!

เสียงทื่อ ๆ ของอาวุธแหลมคมที่เฉือนเนื้อและเลือดสด ๆ ดาบอัศวินคมกริบปะทะเข้าที่กรงเล็บของหุ่นเชิดศพ หลังจากนั้นกรงเล็บทั้งหมดก็ถูกตัดออก

หวืด!

อุ้งเท้าสีดำสนิทตกลงบนพื้นทันที และมีเลือดสีแดงเข้มไหลออกมา

แต่มันไม่ใช่สีแดงเข้มของเลือดมนุษย์ แต่เป็นสีแดงเข้มเหมือนสารพิษ

“ฮ้ะ?”

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ชายผู้มีรอยแผลเป็นที่พร้อมจะช่วยเหลือฌอนทุกเมื่อ มองไปยังฌอนและส่งเสียงร้องด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

จากการคลุกคลีกับหุ่นเชิดศพมาตลอดทั้งปี แน่นอนว่าเขารู้ดี หุ่นเชิดศพนั้นไม่เพียงแต่มีพลังที่แข็งแกร่งเท่านั้น

แต่หุ่นเชิดศพเหล่านี้ หลังจากที่ร่างกายของพวกมันได้รับความแข็งแกร่งจากพิษลึกลับหรือโรคระบาด ความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกมันก็เปลี่ยนไป แม้ผิวหนังพวกมันจะไม่คงกระพัน แต่ก็แข็งแกร่งเหมือนหนังวัว แต่เด็กชายตรงหน้ากลับใช้ดาบฟันผ่านผิวชั้นนอกของพวกมันได้มากที่สุด

เดิมที เขาคิดว่าดาบของฌอนคงสามารถเจาะเข้าไปในแขนของหุ่นเชิดศพได้สูงสุดไม่กี่เซนติเมตร จากนั้นก็น่าจะถูกกล้ามเนื้ออันแข็งแรงของพวกมันจับเอาได้ แต่กรงเล็บและอุ้งเท้าของหุ่นเชิดศพกลับถูกฟันขาดได้อย่างง่าย ๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่ค่อนข้างแข็งแกร่งไม่น้อยเลย

“น่าสนใจจริง ๆ ที่นักเรียนจากห้องธรรมดามีความสามารถระดับสูงเหมือนพวกห้องหัวกะทิ”

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ชายผู้มีรอยแผลเป็นก็อดไม่ได้ที่จะมองฌอนด้วยความสนใจเล็กน้อย

ดาบฟันไปยังกรงเล็บที่แหลมคมของหุ่นเชิดศพ แต่สีหน้าของฌอนนั้นแข็งทื่อเล็กน้อย ตอนนี้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อดาบฟันเข้าไปที่ข้อมือหุ่นเชิดศพ ก็พบกับผิวหนังที่แข็งแกร่งมาก

แม้ภายใต้การอัดฉีดของพละกำลังที่มีฌอนมี สามารถตัดกรงเล็บที่แหลมคมของหุ่นเชิดศพได้ แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ พละกำลังทางกายภาพของพวกมันแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก

นับประสาอะไรกับคนธรรมดา แม้จะมีคนทั้งเป็นยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็มีความพร้อมที่จะผ่าครึ่งพวกเขา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดศพพวกนี้ เขาไม่มีความมั่นใจแบบนั้นเลย

หวืด!

กรงเล็บที่แหลมคมถูกตัดออก และจากจุดที่ถูกตัดออก เลือดสีแดงเข้มยังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ถ้ามนุษย์เจอการบาดเจ็บแบบนี้ คงเป็นการบาดเจ็บสาหัสอย่างคาดไม่ถึง แต่หุ่นเชิดศพที่อยู่ตรงหน้าฌอนไม่รู้สึกเจ็บเลย หรืออาจไม่รู้สึกถึงมันเลยด้วยซ้ำ จากนั้นพวกมันก็กระโจนใส่ฌอนอีกครั้งโดยไม่ลังเล

ชิ้ง!

ดาบยาวของฌอนตวัดขึ้นอีกครั้ง

ดาบยาวถูกเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่น กลายเป็นท่อนเหล็กราวกับกระบองยาว เพื่อป้องกันการโจมตี

แม้เขาจะประหลาดใจกับการโจมตีของหุ่นเชิดศพ แต่ฌอนก็ไม่ตกใจมากนัก

อย่างที่อาจารย์เชาเซอร์กล่าวไว้ ในแง่ของพละกำลัง นักเรียนทุกคนแข็งแกร่งยิ่งกว่าหุ่นเชิดศพ แถมยังเป็นนักเรียนชั้นปีที่สามของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ แปลว่าพวกเขาเรียนการเป็นอัศวินมาสามปีแล้ว

สำหรับฌอนผู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักเรียน คงหนีไม่พ้นความแข็งแกร่งที่ขึ้นชื่อว่าเหนือกว่าหุ่นเชิดศพเป็นริบลับ

ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดศพที่ยังกระโจนเข้ามาโดยไม่ลังเล เขามีเวลาเต็มที่ในการตอบสนองพวกมัน

วิธีที่ฌอนเลือกในจัดการกับพวกมันก็คือ การฟันอย่างเรียบง่ายและหยาบกระด้างแต่ก็แข็งแกร่ง

ลองดูสักตั้ง!

หลังจากเห็นร่างกายอันทรงพลังของหุ่นเชิดศพแล้ว ฌอนก็ไม่รู้ว่าจะผ่าซอมบี้ออกเป็นสองส่วนด้วยการฟันครั้งเดียวได้ยังไง เนื่องจากทุกครั้งที่เหวี่ยงดาบออกไป พวกมันก็วิ่งต้านแรงฟันเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต

เมื่อถูกหุ่นเชิดศพข่วนเมื่อไหร่ ก็จะติดเชื้อได้ทันที

ถ้าฌอนต้องการหลีกเลี่ยงการถูกข่วน ก็ต้องทิ้งดาบทันที แต่ในฐานะผู้ที่ฝึกฝนวิชาดาบอัศวิน เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถใช้พละกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดได้เฉพาะตอนถือดาบเท่านั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฌอนตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เปลีย่นการจับดาบอัศวินเป็นรูปแบบเดิม และฟันหุ่นเชิดศพอย่างแรง

ในเดือนที่ผ่านมา แม้เขาจะมุ่งเน้นฝึกฝนวิชาดาบเป็นหลัก แต่พลังทางกายภาพก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน วันนี้พละทางกายภาพของเขาอยู่ที่ประมาณ 1,700 กิโรกรัม

ด้วยแรงอันมหาศาล ถ้าฟันร่างหุ่นเชิดศพแรง ๆ  พวกมันก็สามารถกระเด็นออกไปได้อย่างง่ายดาย

ชิ้ง!

หุ่นเชิดศพกระเด็นลอยไปชนผนังด้านข้างของกรงเหล็กขนาดใหญ่ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

อ้าก!

ถ้าคนธรรมดาชน ‘กำแพง’ อย่างรุนแรง ก็อาจถึงกับอาเจียนเป็นเลือดหรือเป็นลมได้ แต่หุ่นเชิดศพไม่ใช่คนธรรมดา พวกมันคือ ‘อสุรกาย’ ที่กลับมาจาก ‘นรก’ ซึ่งมีสารพิษลึกลับอยู่ในร่างกาย

ร่างกายของพวกมันแข็งแรงขึ้นจากสารพิษลึกลับที่ทรงพลัง แม้จะโดนอัดเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง ก็หยุดได้เพียงชั่วครู่ จากนั้นมันก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง และพุ่งไปหาฌอน

ชัวะ!

เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดศพที่กำลังวิ่งเข้ามาอีกครั้ง ฌอนก็ลังเลเล็กน้อย แต่แทนที่จะถอยกลับ เขาเดินไปข้างหน้าพร้อมดาบในมือ

หวืด!

ขณะที่ฌอนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ร่างของเขาและหุ่นเชิดศพก็เดินผ่านสวนกันไปในระยะห่างเล็กน้อย

ช่วงเวลาที่ผ่านสวนกันไป ดาบในมือของฌอนก็ฟันจากบนลงล่าง

ไม่เพียงแต่ปิดกั้นการกระโจนของหุ่นเชิดศพเท่านั้น แต่ยังเป็นการโจมตีหุ่นเชิดศพอีกด้วย

กรรร!

ปลายดาบฟาดไปยังหน้าอกสีดำของหุ่นเชิดศพ และกรีดร่างจนเป็นแผลที่น่าเกลียดในแนวยาวหลายสิบเซนติเมตร

เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากบาดแผลนี้ และในไม่ช้าก็เปียกโชกไปครึ่งตัว

“ใช่จริง ๆ ด้วย!”

เมื่อหันกลับมามองหุ่นเชิดศพ การคาดเดาของฌอนได้รับการยืนยันแล้ว

แม้ตอนนี้ดาบจะสร้างบาดแผลยาวหลายสิบเซนติเมตรบนร่างพวกมัน แต่ความลึกยังไม่ลึกมากพอ และส่วนที่ลึกที่สุดก็ลึกเพียง 3 - 4 เซนติเมตร ดูเหมือนว่าการฟันแขนหุ่นเชิดศพด้วยดาบก่อนหน้านี้จะดีกว่า

เหตุผลก็คือ เพราะฌอนยังใช้แรงไม่เต็มที่ และอีกทางหนึ่งคือการป้องกันทางกายภาพของหุ่นเชิดศพนั้นแข็งแกร่งมาก

เพื่อป้องกันไม่ให้ดาบยาวติดอยู่ในร่างหุ่นเชิดศพจนไม่สามารถดึงออกมาได้ในเวลาอันสั้น พลังที่เขาใส่ลงไปในดาบก็มีแค่ 50% ของพลังปกติ ซึ่งพลังระดับนี้ไม่เพียงแต่ทดสอบความแข็งแกร่งทางกายภาพของหุ่นเชิดศพเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงดาบกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ผลการทดลองเป็นไปตามคาด การฟันด้วยความแรง 50% อาจทำให้บาดแผลลึกเพียง 3 - 4 เซนติเมตรเท่านั้น เห็นได้ชัดว่า แม้ฌอนจะโจมตีเต็มแรง ก็ไม่สามารถผ่าครึ่งหุ่นเชิดศพด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวได้