ตอนที่แล้วสุดยอดอัศวิน บทที่ 20 : คู่ซ้อม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดอัศวิน บทที่ 22 : ทุบเท้าตัวเอง

สุดยอดอัศวิน บทที่ 21 : ปล่อยพลังทั้งหมดที่มี


สุดยอดอัศวิน บทที่ 21 : ปล่อยพลังทั้งหมดที่มี

“ฌอน ระวัง!”

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า มัวร์ที่เฝ้าดูการต่อสู้ของฌอนอย่างใกล้ชิด ตะโกนขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

แม้แต่นักเรียนบางคนยังแสดงสีหน้าเป็นกังวล ถ้าพวกเขาถูกแทงด้วยดาบนี้ ต่อให้ไม่ตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงทุกคนไม่ค่อยสนิทกับฌอน แต่ก็ไม่มีใครอยากเห็นภาพนั้นแน่นอน ในตอนนี้ มีแค่อาจารญ์เชาเซอร์เท่านั้นที่สามารถช่วยฌอนได้

หวืด!

วินาทีต่อมา ดาบของแธ็คเกอร์เรย์แทงตรงออกไปอย่างรุนแรงด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

ถึงอาจารย์เชาเซอร์เห็นแบบนั้นก็ยังไม่ชักดาบออกมา ในขณะที่ฌอนยังหลบหลีกต่อไปอย่างยากลำบาก

ความจริงแล้ว อาจารย์เชาเซอร์พร้อมเข้าไปช่วยเหลือฌอนทุกเมื่อ เช่นเดียวกับนักเรียนคนอื่น เมื่อก่อนเขาเองก็เคยมองฌอนในแง่ไม่ดี แต่คราวนี้ไม่ใช่แล้ว ต่อให้มีวิกฤตร้ายแรงเกิดขึ้น เขาเชื่อว่าฌอนในตอนนี้สามารถรับมืออีกฝ่ายได้แน่นอน

ชิ้ง!

ปลายดาบชนเข้ากับตัวดาบอีกเล่ม ทำให้เกิดเสียงดังแสบแก้วหู จากนั้นหนึ่งในคนที่ถือดาบอยู่ก็ถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว

ซึ่งคนนั้นยังคงเป็นฌอน แม้การกดดาบในแนวนอนจะช่วยป้องกันการโจมตีจากดาบของแธ็คเกอร์เรย์ได้ เขาก็ถูกกระแทกจนปลิวอยู่ดี แต่ต่างจากครั้งแรกตรงที่พลังในการทำลายของอีกฝ่ายน้อยลง

“บ้าน่า”

เมื่อเห็นฌอนกระเด็นถอยไปอีกครั้ง แธ็คเกอร์เรย์ไม่ได้แสดงความดีใจใด ๆ เลย แต่กลับขมวดคิ้วแทน

เดิมทีเขาต้องการใช้ดาบนี้เอาชนะฌอนให้ได้ แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าฌอนจะสามารถรับการโจมตีนี้ได้

และนั่นยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญมันคืออย่างอื่น

“แข็งแกร่งขึ้นเหรอ?”

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าตอนที่ฌอนรับดาบเอาไว้ได้ เหมือนพลังป้องกันของอีกฝ่ายจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้จะเทียบกับพลังของเขาไม่ได้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งของฌอนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ชิ้ง!

เมื่อถอยหลังไปมากกว่าสิบก้าว ในที่สุดฌอนก็ปล่อยพลังทั้งหมดที่มีแทงสวนกลับไป ทำให้มือของแธ็คเกอร์เรย์เกิดอาการชา หลังจากปะทะกับแรงอันมหาศาลอย่างกะทันหัน

“อีกนิดเดียว!”

ฌอนปาดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผาก พร้อมยิ้มอย่างมั่นใจ

ความจริงแล้ว ตั้งแต่ก่อนเริ่มการต่อสู้ เขาได้ออมแรงเผื่อไว้ใช้ในยามจำเป็น เนื่องจากตัวเองแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด คงไม่แปลกถ้าจะมีคนเข้ามาขอประลองฝีมือ

แต่เมื่อเห็นพลังดาบของคู่ต่อสู้ เขารู้ว่าคงไม่สามารถออมแรงไว้ได้นาน ถ้าขืนออมแรงไว้นานกว่านี้ อาจกลายเป็นเขาเองที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

แม้การดวลนี้จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต ต่อให้บาดเจ็บเล็กน้อย อาจารย์เชาเซอร์จะไม่เข้ามาหยุดเด็ดขาด เพราะการฝึกดวลแบบนี้ก็ไม่ต่างจากการต่อสู้ของจริง อาจารย์จะไม่เข้ามาหยุดจนกว่าจะมีใครบาดเจ็บสาหัส

หวืด!

คราวนี้ฌอนเป็นฝ่ายบุก

ในขณะที่พุ่งตัวไปข้างหน้า เขาก็เหวี่ยงดาบอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดฟันไปที่แธ็คเกอร์เรย์

เมื่อไม่ได้ออมแรงอีกต่อไป เขาก็รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ต่อจากนี้จะเริ่มการโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง

ชัวะ!

แธ็คเกอร์เรย์กดดาบในแนวนอนเพื่อป้องกันอีกฝ่าย แต่คราวนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะพลังจากดาบที่เหนือจินตนาการของฌอน

การปะทะครั้งแรกนั้น ฌอนแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองไปแค่ 8% แต่คราวนี้ต่างออกไป เขาฟันดาบด้วยพละกำลังทั้งหมด บวกกับความเร็วที่พุ่งเข้ามา ทำให้พลังของดาบนี้เหนือกว่าก่อนตอนแรกอย่างมาก

ชิ้ง!

ทั้งสองตอบสนองกันอย่างรวดเร็ว หลังจากการปะทะจบลง ดาบทั้งสองก็เข้าปะทะกันอีกครั้ง และดาบทั้งสองก็สลับกันปะทะด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากขึ้น

เมื่อมาถึงจุดนี้ นักเรียนบางคนตกตะลึงจนตาค้าง

ทุกอย่างนั้นเกินขาดไปมาก ไม่คิดเลยว่าฌอนจะสามารถต่อสู้กับแธ็คเกอร์เรย์ได้ถึงขนาดนี้

ความเร็วของดาบทั้งสองนั้นเร็วมาก พวกเขาไม่แปลกใจเลยที่แธ็คเกอร์เรย์รวดเร็วแบบนั้น แต่ฌอนกลับมีความเร็วเท่ากับอีกฝ่าย ซึ่งมันน่าตกใจมาก ๆ ฌอนที่เกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียน ตอนนี้เขามีฝีมือทัดเทียมกับอันดับหนึ่งของห้อง

“ความเร็วเพิ่มขึ้นอีกแล้ว หรือว่า… ก่อนหน้านี้เธอออมแรงเอาไว้?”

เมื่อมองไปยังฌอนที่กำลังต่อสู้ อาจารย์เชาเซอร์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งของฌอนในตอนนี้ ถือเป็นนักเรียนอีกคนที่เก่งที่สุดในห้อง 6

ถ้าฌอนมีความแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาไม่น่าสอบตกถึงสองครั้งติดกัน ทำให้อาจารย์เชาเซอร์สงสัยเพิ่มขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ฌอนอาจซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้หรือเปล่า

นอกจากอาจารย์แล้ว แม้แต่มัวร์ที่รู้จักฌอนดีที่สุดยังประหลาดใจ เขาคาดไม่ถึงว่าความแข็งแกร่งของฌอนจะมาถึงระดับนี้

“ทุกวันที่เราซ้อมด้วยกันมา นายข่มพลังของตัวเองมาโดยตลอดเลยเหรอ เพราะแบบนี้ นายเลยกลัวว่าฉันจะฝึกวิชาดาบได้ไม่เต็มที่”

เมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา มัวร์ก็อดพูดไม่ได้ กลายเป็นว่าทุกวันนี้ ที่วิชาดาบอัศวินของเขาพัฒนาขึ้น เป็นผลมาจากการที่ฌอน ‘ข่มพลังของตัวเอง’ และเต็มใจเป็นคู่ซ้อมให้เขา

“ย้าก!”

เมื่อทั้งสองปะทะกันอีกครั้ง แธ็คเกอร์เรย์ก็แสดงสีหน้ารำคาญ ในฐานะคนที่แข็งแกร่งที่สุดในห้อง 6 เขากลับต่อสู้กับฌอนอย่างสูสี ทั้งที่อีกฝ่ายคือคนที่เกือบจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน ซึ่งเขายอมรับไม่ได้

หลังจากนี้เขาจะต้องแสดงพลังที่มากกว่าเดิมออกมา

ชิ้ง!

เขาฟันดาบลงในแนวดิ่งราวกับหิมะถล่ม โถมไปใส่ฌอนสุดแรง และนี่คือกระบวนท่าที่แปดของวิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงิน มีชื่อว่า ‘เหมันต์สีเงิน สะบั้นหิมะ’

จนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่แธ็คเกอร์เรย์ใช้วิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินในการต่อสู้ เดิมทีเขามักจะใช้กระบวนท่าพื้นฐานเช่น ฟัน แทง และตวัด เพราะเขาคิดว่าใช้แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้วว่าถ้าจะใช้ท่าธรรมดาเอาชนะฌอนมันยังไม่พอ

เขาจึงต้องใช้วิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงิน

วิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินไม่ได้เป็นแค่วิชาดาบธรรมดา แต่ยังเป็นอาวุธสังหารอีกด้วย เนื่องจากวิชาดาบอัศวินนี้สร้างพลังในการทำลายไม่น้อยเลย แถมยังช่วยดึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้ใช้ออกมาได้สูงสุด

เค้ง ชิ้ง ชิ้ง!

เมื่อเผชิญหน้ากับแธ็คเกอร์เรย์ที่จริงจังมากขึ้น ฌอนก็ถอยหนีด้วยความยากลำบาก ความจริงที่ว่าอีกฝ่ายครองอันดับหนึ่งของห้องมาตลอดทั้งปีไม่ใช่แค่ราคาคุย แต่เป็นของจริง

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่แพ้แธ็คเกอร์เรย์ทันที แม้ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งกว่าในแง่ของพลังทางกายภาพ แต่ในแง่ของวิชาดาบอัศวิน ฌอนแข็งแกร่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีใครได้เปรียบกว่าใคร

หวืด!

หวืด!

ทั้งสองคนปล่อยพละกำลังอย่างเต็มที่ วิ่งไปรอบ ๆ สนามฝึกราวกับลมกระโชกแรงสีดำ นักเรียนบางคนที่อยู่ใกล้เคียงยังสัมผัสได้แรงลมนั้น พวกเขาจึงหยุดการฝึกซ้อมและยืนอยู่ดูทั้งสองจากที่ห่างไกล พร้อมความรู้สึกตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนที่สามารถต่อสู้กับแธ็คเกอร์เรย์ได้ถึงขนาดนี้

“เป็นไปได้ไง? ทำไมถึงสู้กับแธ็คเกอร์เรย์ได้สูสีแบบนั้น?”

เบนสันตกตะลึงมาก เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ในเวลานี้ ฌอนที่เขาเกลียดชังกำลังสู้กับแธ็คเกอร์เรย์อย่างสูสี

ถ้าฌอนแสดงความแข็งแกร่งแบบนี้ตอนต่อสู้กับเขา เขาอาจพ่ายแพ้ฌอนหลังผ่านไปสิบกระบวนท่า

“เจ้าหมอนี้ซ่อนความแข็งแกร่งมาตลอดเลยเหรอ?”

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความโกรธอย่างรุนแรง เพราะในการต่อสู้กับฌอนครั้งก่อน เขาถูกฌอนเล่นงานจนหมดรูป

“พอแค่นี้!”

ขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กัน เสียงของอาจารย์เชาเซอร์ก็ดังขึ้น เมื่อได้ยินเสียงนี้ ฌอนและแธ็คเกอร์เรย์ก็ลดดาบลง แล้วแยกกันอย่างรวดเร็ว

“ปิดบังกันได้!”

เมื่อสอดดาบอัศวินกลับเข้าไปในฝัก แธ็คเกอร์เรย์ก็มองไปยังฌอนด้วยสายตาที่ซับซ้อน

ในตอนแรกเขาคิดว่าการเอาชนะฌอนจะเป็นเรื่องง่าย แต่คาดไม่ถึงว่าในความได้เปรียบนี้ เขากลับล้มเหลวในการเอาชนะฌอน ในขณะเดียวกัน เขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและงงงวย

ถ้ามีความแข็งแกร่งขนาดนี้ ฌอนกลับสอบตกถึงสองครั้งติดกันและเกือบถูกบังคับให้ออกจากโรงเรียน ซึ่งทำให้แธ็คเกอร์เรย์แปลกใจจริง ๆ

สำหรับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของฌอนในช่วงเวลาสั้น ๆ ในความคิดของแธ็คเกอร์เรย์มันไม่น่าเป็นไปได้ ในโลกนี้ไม่มีทางลัดไปสู่ความแข็งแกร่ง เว้นแต่เขาจะใช้ยาเสริมพละกำลัง แต่ยาเหล่านั้นมีค่ามากจนแม้แต่ลูกหลานของขุนนางธรรมดาก็หาซื้อไม่ได้ นับประสาอะไรกับฌอนที่ไม่ได้มาจากตระกูลขุนนาง

“นายโอเคไหม?”

มัวร์เดินเข้ามาถามด้วยรอยยิ้ม

ก่อนเริ่มการต่อสู้ แม้แต่มัวร์ซึ่งรู้จักฌอนดีที่สุด ก็คาดไม่ถึงว่าฌอนจะต่อสู้กับแธ็คเกอร์เรย์ได้ถึงขนาดนี้ แม้จะเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้ แต่จากสายตาของนักเรียนคนอื่น เขาสัมผัสได้ว่าฌอนทำให้ทุกคนตกตะลึงกันมาก

“ก็ดี!”

ฌอนส่ายหน้า แม้จะต้องเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มี แต่การเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างแธ็คเกอร์เรย์ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้ด้วยการออมแรง ซึ่งฌอนคาดหวังว่าตอนแรกควรเป็นแบบนั้น

ระหว่างที่ออมแรงและต่อสู้กับแธ็คเกอร์เรย์อยู่ ฌอนพยายามปิดบังพลังที่ซ่อนอยู่เอาไว้ แต่วิธีนี้มันอันตรายและไร้ประโยชน์มาก หลังจากที่เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเหมือนกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด