ตอนที่แล้วบทที่ 52
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 54

บทที่ 53


บทที่ 53

ท่านสามารถลองจินตนาการดูได้ ว่าเมื่อกลุ่มคนในเงามืดกลับมาอาศัยอยู่ในแสงสว่าง ภายนอกอาจไม่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่เมื่อมีจำนวนมาก จะเป็นภัยพิบัติขนาดไหน?

“ศิษย์เข้าใจแล้ว ศิษย์เคยเจอพวกมันอยู่หลายครั้ง ดังนั้นพอมองออกอยู่บ้าง พร่งนี้ข้าจะพาคนไปตระเวนดูทุกเมืองให้เอง”

ฉินห่าวย่อมทราบว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากเขาไม่ทำให้เรื่องราวมันถูกต้อง สถานที่พักพิงของตัวเองคงถูกทำลาย ดังนั้นแสดงสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง

“อืม เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว ศิษย์ข้า วันนี้เจ้าคงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ไปพักผ่อนเถิด”

เทียนหยุนมองฉินห่าวที่กำลังจากไปด้วยความเมตตา เขาถอนหายใจและมองนิกายเบื้องล่าง พึมพำว่า “น้องชาย ศิษย์น้อง พวกเจ้ารู้จักแต่วิธีป้องกันนิกาย แต่ไม่เข้าใจเรื่องการรับมือเวลาโดนปิดล้อมนิกายเลย”

ว่าจบ เขาส่ายหัวเล็กน้อย รำพึงความคิดหนึ่งในใจ 'ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร หากเจ้าซื่อตรงเกินไป สุดท้ายเจ้าก็จะถูกทุบตี หากเจ้าเล่นเล่ห์เพทุบาย นั่นต่างหากจึงจะอยู่รอดและสามารถยืนเหนือผู้คน'

….

ฉินห่าวมองยอดเขาเซียวเหยาที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก เขารู้สึกพอใจสุดๆ ชื่นชมในความสามารถด้านบริหารจัดการของหวังจุน

คนที่สามารถบริหารยอดเขาใหญ่ได้อย่างเป็นระเบียบเช่นนี้ นับว่ามีพรสวรรค์โดยแท้

“ศิษย์พี่ ท่านกลับมาแล้ว”

เมื่อหวังจุนเห็นฉินห่าว เขามีความสุขมาก เอ่ยต่อว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าได้เลือกศิษย์มาสองสามคนเพื่อช่วยข้าคิดหาวิธีบริหารยอดเขา และตอนนี้พวกเราได้วิธีดีๆวิธีหนึ่งมา”

“วิธีอะไร?”

ฉินห่าวตั้งใจฟัง ไม่เสียเวลาคิดคาดเดา

หวังจุนก็ไม่ให้เขาลองเดาเช่นกัน พูดต่ออย่างตื่นเต้นว่า “มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ศิษย์พี่จะได้โอสถเหล่านั้นมา ดังนั้นพวกเราจึงเชื่อเสมอว่าการมอบโอสถไปควรมีกฏและข้อบังคับ นั่นคือตราบใดที่โอสถเหล่านั้นมีประโยชน์แก่เหล่าสาวก พวกเราจะไม่ตระหนี่”

หลังจากหยุดหายใจพักหนึ่ง เขาพูดต่อว่า “กระนั้น ทางเราจะบันทึกมันไว้ และเมื่อพวกเขามีความสามารถพอที่จะใช้คืนเมื่อไหร่ จะต้องหามันมาคืนยอดเขาเซียวเหยา เพื่อปูทางให้เหล่าสาวกรุ่นน้องต่อๆไป”

ฉินห่าวได้ฟังก็ตกตะลึง

กลวิธีเช่นนี้มันทำให้หนังศีรษะของเขาด้านชา ย้อนนึกไปถึงเรื่องราวในโลกเดิม!

เหตุใดวิธีการนี้มันถึงได้คุ้นเคยนัก? นี่คล้ายกับการกู้ยืมกองทุนเพื่อการศึกษาในชาติที่แล้วเลย!

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ พวกเขาไม่ต้องแบ่งชำระรายเดือน

“เข้าท่ามาก! ศิษย์น้องเจ้าสุดยอดจริงๆ!”

ฉินห่าวยกนิ้วโป้ง เอ่ยปากชื่นชม สมกับที่มีความสามารถด้านการบริหารจริงๆ ความคิดนี้ล้ำหน้ามาก!

“และในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาของเหล่าสาวกระดับสูงนั้นดีมาก โดยมีสาวกมากกว่า 20 ก้าวสู่ขอบเขตแก่นทองคำแล้ว แม้ยังปรับฐานได้ไม่เสถียร แต่ก็ถือว่าดีมาก”

แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ หวังจุนกังวลขึ้นมาทันที และกล่าวว่า “แต่ปัญหาก็คือ มีสาวกระดับต่ำจำนวนไม่น้อยที่ไม่เหมาะสำหรับการรับโอสถที่มีในปัจจุบัน ...”

“อืม แค่นี้ก็ดีมากแล้ว เอาไว้ว่างๆข้าจะไปหาคนกลั่นโอสถและสั่งการให้เขาหาโอสถที่เหมาะกับผู้บำเพ็ญเพียรระดับต่ำมา”

ฉินห่าวพยักหน้า แต่พอคิดเรื่องช่วยเหล่าศิษย์น้องบำเพ็ญเพียร  เขาก็นึกขึ้นได้ถึงสระเลือดของพวกเซี่ยถู ไม่ใช่ว่าสระเลือดนั้นก็ช่วยในด้านการบำเพ็ญเพียรหรอกหรือ? อย่างไรก็ตาม ความคิดนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ก็แบบนั้นมันนองเลือดเกินไปไหม? ข้าใช้น่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่มันคงน่ากลัวเกินไปสำหรับศิษย์น้อง

“ศิษย์พี่!”

ในตอนนั้นเอง ร่างที่งดงามและน่ารักวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น

ได้ยินเสียงนี้ จู่ๆฉินห่าวก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เซียวเซียว!

ศิษย์น้องหญิงที่แสนซื่อและจริงจังที่เขาเคยพบในภารกิจพื้นที่เสี่ยง!

“เจ้าก็เข้าร่วมกับยอดเขาเซียวเหยาด้วยหรือ?”

“เจ้าค่ะ!”

เห็นภาพนี้ หวังจุนหัวเราะเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆถอยฉากออกมา แต่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเข้าใจผิด!

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้วหรือ?”

ฉินห่าวหน้าแข็ง ผงกหัวรับ

“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้ามีคำถาม” เซียวเซียวจ้องตาโต กระพริบตาปริบๆ

“เอ่อ … เจ้าลองพูดมา”

“ข้าได้เห็นหินบันทึกภาพของสำนักเซี่ยเจี้ยนแล้ว เลยมีคำถามถามศิษย์พี่ ท่านบอกว่าพวกเจ้าจะไม่มีวันลืมชื่อฉินห่าวไปอีกเป็นหมื่นปี แต่เท่าที่ข้าอ่านบันทึกดู ไม่มีนิกายใดเลยสามารถอยู่ยงได้นานถึงหมื่นปี”

เซียวเซียวกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ต้องรอถึงหมื่นปี ข้าว่าทุกคนในสำนักเซี่ยเจี้ยนคงตายกันหมดแล้ว แบบนี้เขาจะจดจำชื่อของศฺิษย์พี่ได้อย่างไร?”

ฉินห่าว “…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด