ตอนที่แล้วบทที่ 397: คิดถึงเผ่าทั้งหมดที่สามารถปล้นได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 399: หญิงลึกลับนอกประตู

บทที่ 398: เมื่อไหร่ท่านแม่จะมีน้องชายให้เขา?


“...” หลงโม่ที่ได้ยินคำถามแทงใจดำของหูชิงหยวนถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ทันใดนั้นมังกรหนุ่มก็รู้สึกคันปากขึ้นมา เขาอยากจะคุยกับใครสักคนเหมือนกันว่าตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับคนในเผ่า ภูตหญิงถึงได้พากันตั้งครรภ์อย่างกับนัดกันมา

มุมปากของหูเจียวเจียวเองก็กระตุกหลังจากได้ฟังเช่นนั้น

พอพี่สี่ใกล้จะได้เป็นพ่อคนแล้ว ทำไมเขาถึงพูดเหมือนกับว่าการตั้งท้องง่ายประหนึ่งสามารถเสกลูกเข้าท้องผู้หญิงได้ดั่งใจนึก?

ส่วนหู่จิงสังเกตเห็นว่าบรรยากาศรอบตัวค่อนข้างหนักอึ้ง นางจึงดึงหูชิงหยวนแล้วลากเขากลับมา ก่อนจะมองไปที่น้องสาวของสามีด้วยรอยยิ้ม “อย่าไปฟังเขามากเลย จริงสิ เจียวเจียว เหล้าผลไม้ที่เจ้าเอามาให้เมื่อคราวที่แล้ว ข้าคิดว่ามันมีรสชาติดีนะ เจ้าเอามาให้ข้ามากกว่านี้ได้ไหม ข้าจะแลกเปลี่ยนอาหารกับเจ้า”

เสือสาวชอบรสชาติของเหล้าผลไม้จริง ๆ มันมีรสเปรี้ยวอมหวานซึ่งรสชาติดังกล่าวติดอยู่ในลำคอไม่รู้จบ

ตามปกติแล้วนางจะดื่มกับหูชิงหยวนตลอด

แล้วจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยิ่งหวานชื่นขึ้นหลายเท่า

“ไม่ได้ ตอนนี้เจ้าท้องอยู่ เจ้าดื่มเหล้าผลไม้ไม่ได้แล้ว เอาไว้หลังจากที่เจ้าคลอดลูกแล้วข้าจะเอาไปให้อีก” หูเจียวเจียวส่ายหัวปฏิเสธ

หู่จิงจึงพยักหน้ารับหงอย ๆ

“ก็ได้ อย่าลืมล่ะ ถ้าข้าคลอดลูกเมื่อไหร่เจ้าต้องเอาไปให้ข้านะ”

จังหวะนั้นเสือสาวหยุดพูดกะทันหันก่อนจะครุ่นคิดเกี่ยวกับบางสิ่ง

“พูดถึงเหล้าผลไม้... ข้าดูเหมือนจะลืมบางอย่างไป”

หู่จิงขมวดคิ้วพลางแตะจมูกตัวเองเบา ๆ

ช่วงนี้นางมักจะรู้สึกเหมือนลืมสิ่งที่สำคัญไป

ไม่ว่าหญิงสาวจะพยายามเค้นสมองตัวเองเท่าไหร่ นางก็จำอะไรไม่ได้เลย

ดังนั้นนางจึงส่ายหัวแล้วสลัดความคิดทั้งหมดทิ้ง

หลังจากหู่จิงกับหูเจียวเจียวพูดคุยเล่นกับพอสมควรแล้ว ฝ่ายที่เป็นแขกก็รีบไปประกาศข่าวดีให้หูหมินและคนอื่น ๆ ทราบต่อ

พอหลงโม่เพิ่งปิดประตูไปได้ไม่กี่วินาทีก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง

“น้องเล็ก เจ้าอยู่ไหม?”

“พี่ใหญ่มา” จิ้งจอกสาวจำเสียงของหูชิงซานได้

และเธอก็จำสิ่งที่ตัวเองพูดกับอีกฝ่ายครั้งล่าสุดได้ด้วยเช่นกัน

หลังจากหญิงสาวปล่อยเวลาผ่านไปนานก็ถึงเวลาวางแผนสำหรับขั้นตอนต่อไปแล้ว

ถัดมา จิ้งจอกสาวรีบหันไปพูดกับมังกรหนุ่มว่า “หลงโม่ เปิดประตูให้พี่ใหญ่เข้ามาเร็วเข้า”

ขณะนั้นใบหน้าของคนตัวสูงแสดงถึงความไม่พอใจ

หลังจากที่ลูกทุกคนออกจากบ้านไป เขาเพิ่งมีเวลาอยู่กับเจียวเจียวได้ไม่นานก็มีคนมาหาที่บ้านไม่หยุด

กลับกลายเป็นว่าชายหนุ่มแทบไม่มีเวลาได้อยู่กัน 2 ต่อ 2 กับภรรยาเลย

บัดนี้มีประกายแวววาวอยู่ในดวงตาสีทอง ดูเหมือนว่าคราวหน้าเขาจะต้องพาเจียวเจียวย้ายที่อยู่ เนื่องจากบ้านหลังนี้เริ่มไม่ ‘ปลอดภัย’

เมื่อหลงโม่เปิดประตูบ้าน เขาก็เห็นหูชิงซานยืนอยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าลำบากใจ

ซึ่งท่าทางของเขานั้นคนละขั้วกับหูชิงหยวนที่เพิ่งจากไป

“น้องเล็ก พี่ทำทุกอย่างที่เจ้าบอกแล้ว และพี่ก็ไม่เห็นว่ามีภูตคนอื่นเข้าใกล้เฟิงเฉิงเลยสักคน”

จิ้งจอกหนุ่มพูดกับน้องสาวขณะรีบเข้าไปข้างใน

“พี่ควรทำยังไงต่อไปดี?”

“พี่ใหญ่ ไม่ต้องห่วงนะ ท่านดื่มน้ำสักหน่อยสิ” หูเจียวเจียวเทน้ำให้พี่ชายชามหนึ่ง

“เฟิงเฉิงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับภูตชายคนอื่น แปลว่านางไม่มีแผนที่จะหาคู่จริง ๆ”

ระหว่างที่หูชิงซานดื่มน้ำไปอึกหนึ่ง เขาเกือบจะพ่นน้ำออกมาเมื่อเขาได้ยินการวิเคราะห์ของน้องสาว

“หา? ถ้าอย่างนั้นพี่ก็สิ้นหวังแล้วหรือ?” จิ้งจอกหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเศร้าหมอง

“ไม่ใช่แบบนั้น!” จิ้งจอกสาวส่ายหัว

“พี่ใหญ่อย่าเพิ่งกังวล นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรก อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเฟิงเฉิงไม่ได้ชอบใครอยู่ ต่อไปท่านแค่ต้องทำให้นางประทับใจ แล้วพวกท่าน 2 คนก็จะได้อยู่ด้วยกัน”

แม้ว่าสิ่งที่หูเจียวเจียวพูดฟังดูเหมือนทำได้ง่าย แต่หูชิงซานก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี

ต่อมา เขามองน้องเล็กด้วยสายตากังวลใจก่อนจะถามต่อว่า “แล้วพี่จะทำให้เฟิงเฉิงประทับใจได้ยังไง?”

“นางดูไม่มีอะไรที่ชอบทำเลย นางไม่ขาดแคลนเสบียง และนางไม่ชอบคุยกับคนอื่น นางทำตัวเย็นชาอยู่ตลอดเวลา...” พอยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งไม่มั่นใจมากขึ้น

ทำไมความรักของเขามันไม่มีความหวังเหมือนคนอื่นเลย?

“อย่ากังวลไป พี่ใหญ่” หูเจียวเจียวแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พลางยกมือขึ้นและดีดนิ้วด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

“ข้ารู้แล้ว”

“ท่านพี่ลองทำแบบนี้สิ…” จิ้งจอกสาวโน้มตัวเข้าไปใกล้พี่ชายคนโตเพื่อกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเขา

ไม่นานจิ้งจอกหนุ่มก็เลิกคิ้วขึ้น

“หากไม่ได้ผล ท่านมาหาข้าใหม่นะ”

ในชีวิตของหูเจียวเจียวสมัยอยู่โลกมนุษย์ เธอเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าแม่รักโรแมนติก เนื่องจากเธออ่านนิยายแนวรัก ๆ มาแล้วนับพันเล่ม แม้ว่าในยุคนั้นหญิงสาวอาจจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าเธอจะช่วยเป็นแม่สื่อให้คนอื่นสมหวังในความรักได้ แต่สำหรับโลกภูต เธอมั่นใจว่าคำแนะนำของตนมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง

หลังจากหูชิงซานได้ฟังคำพูดของน้องสาว ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง

“น้องเล็ก เจ้าฉลาดมาก ทำไมพี่คิดไม่ถึงนะ!”

ตามปกติชายหนุ่มมักจะทำสิ่งต่าง ๆ ผ่านความคิดที่รอบคอบ ซื่อสัตย์ และมีความรับผิดชอบ

เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าน้องเล็กมีเล่ห์เหลี่ยมมากมายแบบนี้มาจากใคร?

ทางด้านหูเจียวเจียวหัวเราะเบา ๆ

ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงบางสิ่งก่อนจะถามว่า “แต่ว่า พี่ใหญ่ ท่านแน่ใจหรือว่าท่านทำในสิ่งที่ข้าพูดครบถ้วน?”

“แน่นอน เจ้าบอกว่าพี่ไม่ควรริเริ่มพูดคุยกับเฟิงเฉิงในช่วงเวลานี้ และพี่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับนางสักคำ!” ผู้เป็นพี่ชายผงกหัวตอบแบบจริงจัง

เขาทำตามแผนทุกอย่างไม่มีผิดพลาดเลย!

“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” หูเจียวเจียวพยักหน้าอย่างมั่นใจ

เธอเพียงแค่ปล่อยให้พี่ชายคนโตของเธอเมินเฟิงเฉิงชั่วขณะเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรำคาญ แล้วในใจของนางจะยิ่งขัดแย้งกันเอง บวกกับมันจะทำให้นางเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ยังช่วยทำให้รู้ว่าหมอผีสาวมีคนที่ชอบหรือเปล่า แล้วพี่ใหญ่ปักใจกับผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน

แต่หญิงสาวไม่คาดคิดว่าครึ่งเดือนต่อมา พี่ใหญ่ยังคงมุ่งมั่นและกระตือรือร้นเช่นเดิม

จากนั้นเธอก็ทำได้แค่หาทางช่วยให้พี่ชายของเธอสมหวังกับความรัก

เมื่อหูชิงซานเห็นว่าน้องสาวพยักหน้ารับ เขาก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

แต่เขาไม่ได้บอกน้องเล็กว่าตนแค่ ‘แอบ’ ไปหาหมอผีทุกวัน

และเฟิงเฉิงก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน

คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง!

...

อีกด้านหนึ่ง

หลังจากเฟิงเฉิงเฝ้าดูหูชิงซานและกลุ่มภูตวิ่งหายไป นางก็มาถึงต้นไม้ที่ตนเคยพยายามติดต่อกับเผ่าของนาง

ขณะนี้หญิงสาวยอมรับว่ามันแทบจะหมดหวังแล้ว

แต่คราวนี้ ระหว่างที่นางหยิบไม้เท้าออกมาและสัมผัสลำต้นไม้หนา ยอดของไม้เท้าก็มีแสงสีเขียวสว่างวาบ

ไม้เท้าเก่าแก่ที่แต่เดิมไม่มีชีวิตดูเหมือนจะได้รับชีวิตกลับคืนมา พร้อมกับมีแสงสลัวสะท้อนวูบวาบในรูม่านตาของหมอสาว

ภาพตรงหน้าทำให้เฟิงเฉิงตกตะลึง และความประหลาดใจก็ฉายในดวงตาที่เย็นชาคู่นั้น

ติดต่อได้แล้ว!

มันเป็นการตอบกลับของพวกเขา!

พวกเขายังมีชีวิตอยู่ เยี่ยมมาก!

ยามนี้เจ้าของเรือนผมสีฟ้ารู้สึกมีความสุข ส่งผลให้ใบหน้าอันเฉยเมยมีชีวิตชีวาขึ้นมา ในขณะที่นิ้วสีซีดจับไม้เท้าเอาไว้แน่นด้วยความคิดที่ว่านางอยากจะไปตามหาคนในเผ่าทันทีเลย

แต่นางทำแบบนั้นไม่ได้

ต่อมา เฟิงเฉิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางสงบสติอารมณ์ตัวเองลงให้เร็วที่สุด

จากนั้นหมอผีสาวหลับตาลงเพื่อตีความสารที่สมาชิกในเผ่าส่งกลับมาอย่างตั้งใจ เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาเย็นชาของนางก็แสดงถึงความกังวล

ปัจจุบันสภาพของพวกเขาย่ำแย่มาก

กลุ่มคนทรยศกำลังทรมานจนพวกเขาร่อแร่ใกล้ตายเต็มที

ดังนั้นหญิงสาวจึงต้องไปหาคนเหล่านั้นพร้อมกับสมบัติของเผ่าโดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของอีกฝ่าย

แต่ปัจจุบันอากาศข้างนอกหนาวเย็น อีกทั้งยังมีพายุหิมะพัดมาเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ

ขณะนี้เฟิงเฉิงยืนอยู่ใต้ต้นไม้เป็นเวลานาน ก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลงอีกครั้งเพื่อปกปิดร่องรอยของความเหนื่อยล้าที่ปรากฏขึ้น

สุดท้ายแล้วนางก็ต้องเลือก

ทุกการเลือกของนางย่อมต้องเสียสละสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปเสมอ

...

บ่ายวันนี้ หูเจียวเจียวกำลังเย็บเสื้อผ้ากับรองเท้าสำหรับเด็กอยู่ที่บ้าน

การตั้งท้องของภูตนั้นสั้นมากโดยที่พวกนางใช้เวลาอุ้มท้องเพียง 2-3 เดือน เธอจึงวางแผนที่จะทำเสื้อผ้าขนาดเล็กให้ลูก ๆ ของหู่จิง เผื่อว่าในอนาคตเด็กเกิดมาแล้ว พวกเขาจะได้สวมเสื้อผ้าเหล่านี้

ในเวลาเดียวกัน หลงเหยาเองกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าแม่จิ้งจอก

ส่วนข้าง ๆ เจ้ามังกรน้อยมีหลงหลิงเอ๋อกับหลงจงยืนขนาบอยู่ทั้ง 2 ข้าง ขณะที่เขามังกรของเขามีขนแกะพันอยู่

ไม่นานคนตัวเล็กก็กอดอกและบ่นว่า “ท่านแม่ เมื่อไหร่ท่านจะมีน้องชายให้เสี่ยวเหยาสักที?”

ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะไม่ใช่น้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมดอีกแล้ว

ในอนาคต เสี่ยวเหยาจะทำสิ่งต่าง ๆ ให้น้องชายเอง อย่างเช่นการพันขนแกะด้วยไม้แบบนี้

เพียงแค่คิดว่าเขาจะได้เป็นพี่ชาย เขาก็รู้สึกมีความสุขแล้ว!

ทางด้านหูเจียวเจียวมองลูกชายคนเล็กด้วยสายตาขบขัน “ทำไมเสี่ยวเหยาถึงอยากมีน้องชายล่ะ เจ้าไม่กลัวว่าน้องชายจะมาแย่งอาหารเจ้าหรือ?”

เธอไม่คาดคิดว่าหลงเหยาจะพูดอะไรเช่นนี้ออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด