บทที่ 396: ลูกข้า… ข้าเป็นพ่อเจ้า
ณ บ้านของหู่จิงกับหูชิงหยวน
ปัจจุบันภูต 3 คนกำลังย่างเนื้อรอบกองไฟ
ในฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดต่ำลงมาก และสิ่งที่เหล่าภูตชอบที่สุดคือเนื้อย่าง เพราะมันทั้งให้ความอบอุ่นและอิ่มท้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอากาศเช่นนี้
ภายใต้การเคี่ยวเข็ญของหู่จิง ในที่สุดฝีมือการย่างเนื้อของหูชิงหยวนก็ค่อย ๆ ดีขึ้น
ขณะนี้เขาถือเนื้อติดมันร้อนฉ่าชิ้นหนึ่งและเดินเข้าไปหาภรรยาอย่างมีความสุข
“หู่จิง เจ้าชอบกินเนื้อติดมันใช่ไหม เอ้านี่ เนื้อชิ้นนี้ของเจ้า”
นั่นทำให้เสือสาวเอนกายแนบชิดสามีแบบเขินอายพลางพูดเสียงอ่อนหวาน “ชิงหยวน เจ้ารู้ใจข้าที่สุด~”
ในเวลาเดียวกัน มุมปากของเฟิงเฉิงกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
ทุกวันนี้นางแทบจะไม่ได้อยู่แบบสงบสุขเลย แล้วนางยังจะต้องมาเห็น 2 คนนี้พลอดรักกันให้อิจฉาตาร้อนอีก
ขณะนั้นหมอสาวถือไม้เท้าไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างถือเนื้อย่างเสียบไม้ก่อนจะยัดเข้าปากเพื่อกัดแรง ๆ
ในระหว่างที่เคี้ยวเนื้อ หญิงสาวจ้องมองคู่สามีภรรยาตรงหน้าเขม็ง
แต่จ้องให้ตายอย่างไร 2 คนนี้ก็ไม่รู้สึกกระดากอายอยู่ดี
“หู่จิง อ้าปากสิ ข้าจะป้อนเจ้าเอง...” เวลากินข้าวหูชิงหยวนมักจะมีคนรักอยู่ข้าง ๆ ดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นเพื่อป้อนเนื้อย่างให้อีกฝ่ายด้วยความเคยชิน
“อ้า...” เสือสาวเปิดปากรับอาหาร
ทว่าก่อนที่ริมฝีปากของนางจะสัมผัสกับเนื้อแสนอร่อย ท้องของนางก็ปั่นป่วนขึ้นมา
จังหวะนั้นหญิงสาวผลักสามีหนุ่มออกไปพร้อมเอามือปิดปากตัวเอง
“อุ๊บ!!”
“???”
“หู่จิง เจ้าเป็นอะไรไป?” จิ้งจอกหนุ่มเอ่ยถามพลางรีบเข้าไปช่วยลูบหลังให้ภรรยา
“ไม่รู้สิ จู่ ๆ ข้าก็อยากอ้วกขึ้นมา ทำไมวันนี้กลิ่นของเนื้อมันถึงได้เหม็นนัก”
หู่จิงส่ายหัวตอบด้วยสีหน้างุนงง
“ไม่ใช่สิ เนื้อย่างของข้าไม่น่าจะมีกลิ่นเหม็นขนาดนี้นะ...”
หูชิงหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นมีสีหน้าตกใจ แล้วเขาก็ลองกินเนื้อติดมันที่ย่างฉ่ำ ๆ ให้อีกคนดู
“รสชาติก็ใช้ได้ไม่เลว หู่จิง เจ้าลองอีกครั้งสิ เมื่อกี้เจ้าคงได้กลิ่นตัวข้า”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับส่งเนื้อไปที่ปากของภรรยาสาวอีกครั้ง
เนื่องจากเสือสาวรู้สึกว่าตนไม่อยากทำให้ผู้เป็นสามีเสียใจ ดังนั้นนางจึงพยักหน้าพลางระงับความรู้สึกไม่สบายในท้องรวมถึงอาการคลื่นไส้ ก่อนจะอ้าปากเพื่องับเนื้อเข้าไปเต็มคำ
แต่ไม่กี่อึดใจต่อมา
“อึก!”
หู่จิงทนไม่ไหวอีกต่อไป นางรีบวิ่งไปทางอื่นแล้วโก่งตัวอาเจียนออกมา
ปฏิกิริยาของภรรยาสาวทำให้หูชิงหยวนตะลึงงันไปครู่หนึ่ง
“มันแย่มากขนาดนั้นเลยหรือ?”
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชายหนุ่มอดรู้สึกท้อใจไม่ได้ เขาฝึกฝนการทำอาหารมาเป็นเวลานานก่อนที่จะเรียนรู้วิธีการย่างเนื้อ แต่เขาไม่คาดคิดว่านางจะกินไม่ลงแม้แต่คำเดียว
“ข้ามันไร้ประโยชน์ ข้าทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ให้ดีไม่ได้ด้วยซ้ำ” หูชิงหยวนพูดเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง
“หู่จิงมีสิ่งนั้นอยู่ในท้อง” ทางด้านเฟิงเฉิงเห็นว่าทั้งคู่ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลยจึงอดไม่ได้ที่จะเตือนพวกเขาทางอ้อม
เป็นเพราะ 2 คนนี้อยู่ใกล้กันเกินไปจึงประมาทไปหน่อย ในขณะที่นางซึ่งเป็นคนนอกเป็นคนแรกที่ค้นพบมัน
นี่พวกเขาไม่รู้เลยหรือไงว่าเกิดอะไรขึ้น?
“หืม มีอะไร?” จิ้งจอกหนุ่มแสดงสีหน้างุนงงก่อนจะหันไปถามภรรยาของตน “หู่จิง เจ้ามีอะไร?”
“ข้ามีอะไร?” เสือสาวเองก็ส่ายหัวอย่างว่างเปล่า นางไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน
ดูเหมือนว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด
นั่นทำให้เฟิงเฉิงลูบหน้าผากตัวเองพลางพูดด้วยน้ำเสียงเอือมระอาว่า
“เจ้ามีลูก!”
นางไม่รู้จริง ๆ ว่า 2 คนนี้จับพลัดจับผลูมาเป็นคู่กันได้อย่างไร
หมอสาวรู้สึกกังวลจริง ๆ ว่าพวกเขาจะสามารถเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ได้หรือไม่!
“อ๋อ มีลูกนี่เอง”
หู่จิงกับหูชิงหยวนพูดและพยักหน้าพร้อมกัน
วินาทีต่อมา ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้าง จากนั้นเขาวิ่งไปที่ด้านข้างของผู้เป็นภรรยาอย่างเร่งรีบในขณะที่เขาตะโกนเสียงดังด้วยความตื่นเต้น
“หู่จิง! เจ้าตั้งท้อง!”
“ข้าจะเป็นพ่อคนแล้ว! ฮ่าๆๆ!”
หูชิงหยวนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขก่อนจะจับมือหู่จิงไปพรมจูบหลายครั้ง
ต่อมา เขายื่นมือออกไปสัมผัสท้องที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงของหญิงสาวแบบเบามือที่สุด
“เรากำลังจะมีลูก ลูกข้า… ข้าเป็นพ่อเจ้า”
“ไหนเรียกข้าว่าพ่อ— โอ๊ย!”
จิ้งจอกหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปจนเสือสาวต้องยกมือฟาดเขาเต็มแรง
“เจ้าจะให้ใครเรียกว่าพ่อ! ลูกยังไม่เกิดเลยเถอะ!” หู่จิงมองสามีจอมเพี้ยนตาขวาง
ส่วนหูชิงหยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วเก็บมือมาลูบหัวตัวเองป้อย ๆ แต่เขาไม่โกรธเลยที่อีกฝ่ายตีเขา
ไม่นานเขาก็เดินวนเป็นวงกลมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยประหนึ่งว่าเขาดื่มเครื่องดื่มชูกำลังนับ 10 ขวด
ท่าทางของคนเป็นสามีทำให้หู่จิงกลอกตามองเขา ก่อนที่นางจะเดินไปหยิบเสื้อคลุมหนังสัตว์มาสวม
ในตอนนั้นเองหญิงสาวเปลี่ยนอารมณ์แบบกะทันหันและพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ข้าจะไปบอกข่าวดีให้เจียวเจียวกับเมี่ยนเอ๋อรู้สักหน่อย”
“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” หูชิงหยวนไม่รอช้าแล้วรีบเดินตามนางไป
ปรากฏว่าเฟิงเฉิงที่นั่งอยู่ข้างกองไฟโดนทั้งคู่เมินจนเป็นเหมือนธาตุอากาศ
“...”
นางมองดู 2 สามีภรรยาเดินออกไปพร้อมถุงน้อยใหญ่ในมือ ถ้านางไม่รู้มาก่อน นางคงคิดว่าเป็นคนอื่นที่กำลังตั้งครรภ์ แล้วพวกเขากำลังจะไปแสดงความยินดีกับคนคนนั้น
ปัง!
แล้วประตูก็ถูกปิดจากด้านนอก
เวลาต่อมา เฟิงเฉิงถอนหายใจพลางคิดว่าตนสามารถทนอยู่ที่นี่ได้มากกว่าครึ่งเดือน เหตุผลก็คือบางครั้งนางรู้สึกว่าตัวเองกำลังล่องหนอยู่ในบ้านหลังนี้
แต่นางไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีภูตมาหานางเพื่อขอรับการรักษาเลย
ถ้าหมอผีสาวอยู่ในเผ่าอื่น นางอาจจะถูกภูตขัดขวางไม่ให้ออกไปไหนมาไหน
แต่ภูตที่นี่เคารพนางมาก แม้ว่าใครจะได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจะไปหาหมอก่อนและพยายามจะไม่สร้างปัญหาให้กับนาง
สิ่งนี้ทำให้เฟิงเฉิงรู้สึกได้รับความเคารพอย่างแท้จริง และนี่เป็นครั้งแรกที่นางเคยได้รับมัน
ถ้าไม่ใช่เพราะภาระอันหนักอึ้งบนบ่า นางก็อยากจะอยู่และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่นี่ตลอดไป
หลังจากหญิงสาวกินเนื้อย่างไปอีก 2-3 คำ นางก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินไปที่ประตูบ้าน
ที่ผ่านมานางออกไปข้างนอกทุกวันเพื่อพยายามติดต่อกับเผ่าของตัวเอง
แม้ว่าข้อความทั้งหมดที่นางส่งไปจะไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่ายก็ตาม
“ชิงซาน ทำไมเราถึงมาส่งเสบียงที่นี่ล่ะ?”
“ใช่ นี่มันไม่ไกลไปหน่อยหรือ?”
ห่างจากบ้านหินไม่ไกล มีกลุ่มภูตชายกำลังขนเสบียงและมุ่งหน้าไปยังที่แห่งหนึ่ง
“ใกล้แล้ว” หูชิงซานที่เดินไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นพูดขัดจังหวะพวกเขา
เขาเอาแต่บอกว่าใกล้จะถึงที่หมายแล้ว
มันทำให้ภูตคนอื่นเกาหัวสงสัย แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ขณะนี้เฟิงเฉิงเพิ่งเดินออกมาจากบ้านหิน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่นางเห็นจิ้งจอกหนุ่มเดินผ่านไป
ส่วนหูชิงซานเองก็เห็นหมอผีสาวเช่นกัน
วินาทีนั้นชายหนุ่มชะงักก่อนจะมองไปทางอื่นทันที เขาทำราวกับว่าตนไม่เห็นเฟิงเฉิงแล้วรีบจากไปพร้อมกับเสบียงบนไหล่
ก่อนที่พวกภูตที่อยู่ข้างหลังจะทันได้ตอบสนอง หูชิงซานที่อยู่ข้างหน้าก็หายไปแล้ว
“???”
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมหูชิงซานถึงวิ่งเร็วขนาดนั้น? เขาทำอย่างกับว่าเขาเห็นผี…
ยามนี้กลุ่มคนที่เหลือมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นเฟิงเฉิงที่เพิ่งเดินออกจากบ้าน
เมื่อทุกคนเห็นสีหน้าเย็นชาของหญิงสาว ไม่รู้ว่าพวกเขาได้รับอิทธิพลมาจากจิ้งจอกหนุ่มหรือไม่ แต่ถึงกระนั้นภูตชายทั้งหมดก็วิ่งไล่ตามอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว
สาเหตุที่หูชิงซานวิ่งเร็วมากเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้หรือไม่?
แต่ทำไมเขาถึงวิ่งหนีทันทีที่เห็นหน้านางล่ะ?
แสดงว่าอีกฝ่ายต้องน่ากลัวมากแน่ ๆ! แม้แต่หูชิงซานผู้แข็งแกร่งก็ยังกลัวนาง!
กลายเป็นว่าภูตที่มาพร้อมกับจิ้งจอกหนุ่มคิดเติมแต่งเรื่องราวไปต่าง ๆ นานา 108 เรื่องในหัว
ในเวลาเดียวกัน เฟิงเฉิงเห็นเพียงกลุ่มภูตชายวิ่งหน้าตั้งเหมือนกระต่ายตื่นตูม
“...”
นางน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง?
แค่การได้เห็นหน้านาง พวกเขาก็ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดแล้วหรือ?
แน่นอนว่าสถานการณ์ดังกล่าวหญิงสาวเฝ้าดูมาครึ่งเดือนแล้ว
เกือบทุกวันหูชิงซานจะเดินผ่านบ้านหลังนี้ตอนที่นางออกมาข้างนอก ซึ่งแต่ละครั้งเขาจะนำภูตคนอื่นมาด้วย
แล้วทุกครั้งที่ชายหนุ่มเห็นนาง เขาจะรีบวิ่งหนีไปโดยไม่พูดอะไรกับนางสักคำ
มันทำให้เฟิงเฉิงอดสงสัยไม่ได้ว่า “ผู้ชายคนนั้น… แค่โดนปฏิเสธก็เพี้ยนไปแล้วหรือ?”
เวลานี้สีหน้าของนางดูเคร่งเครียดขณะคิดอะไรบางอย่างในหัว
หากเป็นเช่นนั้นจริง ความผิดที่นางก่อคงจะใหญ่หลวงมาก
หลังจากสมบัติของเผ่าฟื้นตัวแล้ว นางคงต้องรักษาสมองของหูชิงซานก่อนเป็นคนแรก