ตอนที่แล้วบทที่ 393: หักมือหักเท้าของเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 395: วันนี้เขาโดนทำร้ายถึง 4 ครั้ง

บทที่ 394: พวกมันทำร้ายข้าจริง ๆ ข้าไม่ได้โกหก!


หลงเหยาทำหน้ามุ่ยมองหยินชางพร้อมกับบ่นพึมพำไม่หยุด

ต่อมา เขาถอนหายใจเหมือนชายชรา ส่ายหัวน้อย ๆ แล้วเปลี่ยนคำพูดในที่สุด

“ช่างเถอะ ๆ ยังไงเสี่ยวเหยาก็ถูกตีอยู่ดี วันนี้เสี่ยวเหยาเอาคืนมามากพอแล้ว อย่างแย่ที่สุด ท่านปู่แค่จะตีเสี่ยวเหยาเท่านั้นแหละ”

อย่างไรเสียเขาก็ได้ระบายความโกรธในใจออกมาแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีก

ไม่นานเด็กน้อยก็มีความสุข

ส่วนหยินชางยังไม่ทันได้บอกอะไร คนตัวเล็กก็พูดครบทุกคำแล้ว

คนเป็นพี่ชายจึงส่ายหัวแบบเอือมระอา ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กและยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ เพื่อดู ‘การแสดง’ ของลู่หลี

ปัจจุบันหัวหน้าเผ่ากำลังจะเดินทางกลับ แต่ระหว่างทางเขานึกขึ้นได้ว่ามีอีกอย่างที่เขาลืมบอกเซี่ยหมาน เขาจึงกลับมาทางเดิมพร้อมกับคนของตน

แต่ชายชราไม่คาดคิดว่าเขาจะได้เจอกับลู่หลีที่ร้องโหยหวนวิ่งเข้ามาหาเขา

“เจ้าเป็นอะไรไป?”

ผู้อาวุโสถามพร้อมขมวดคิ้ว

ตอนนี้ความน่าเชื่อถือของเจ้าลูกกวางมันแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้ว

ทางด้านลู่หลีล้มลงกับพื้นพลางคลานเข้าไปกอดต้นขาของท่านผู้เฒ่า และใบหน้าของเขาเปื้อนน้ำหูน้ำตาดูน่าเกลียดน่าขยะแขยงมาก

“ท่านผู้เฒ่า หลงเหยาจะฆ่าข้า มันบอกว่าจะฆ่าข้าแล้วโยนศพของข้าออกไปนอกเผ่า!”

“ละ-แล้วหยินชาง มันเพิ่งหักมือหักเท้าของข้า แค่นั้นไม่พอ พวกมันยังรุมทำร้ายข้าด้วย ดูสิ ข้าเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว...”

กวางหนุ่มพูดพร้อมชี้ไปทางเด็กจอมโหดเหี้ยม 2 คน

เขาร้องไห้จนน้ำมูกและน้ำตาไหลอาบแก้ม

ครั้งนี้เขาถูกทำร้ายมาจริง ๆ!

“ท่านผู้เฒ่า รีบจับพวกมันไปโยนถ้ำหมื่นอสรพิษสิ เร็วเข้า!”

ลู่หลีพูดในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผู้อาวุโส ในยามนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัวและตื่นตระหนก คล้ายคนที่กำลังคลุ้มคลั่ง

หลังจากคนเป็นหัวหน้าเผ่าได้ยินคำให้การของผู้ร้องทุกข์ เขาก็มองไปที่หยินชางกับหลงเหยา

ตอนนี้ทั้งคู่ยังคงมีท่าทีปกติ พวกเขาเป็นเด็กที่มีความประพฤติดีและรู้ความมาโดยตลอด ไม่น่าเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะทำอะไรที่โหดร้ายอย่างที่ลู่หลีบอก

“ท่านปู่ พวกเรา...” หลงเหยาจับชายเสื้อตัวเองแน่น ในขณะที่เขากำลังเปิดปากจะยอมรับความผิดของตัวเอง

ท่านแม่บอกว่า การเป็นเด็กดีไม่ควรพูดโกหก

ในเมื่อเขาเป็นเด็กดี ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาไม่ควรโกหก

ส่วนหยินชางยังคงนิ่งเฉยเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยทุบตีทำร้ายใครมาก่อนเลย

ก่อนที่คนตัวเล็กจะพูดจบ สีหน้าของผู้อาวุโสก็ขุ่นมัว ก่อนที่เขาจะผลักลู่หลีออกไปอย่างแรง

“ลู่หลี! พอแล้ว เจ้าจะสร้างปัญหาอีกนานแค่ไหน!”

บัดนี้ใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยความโกรธขณะสายตาที่เขาใช้มองกวางหนุ่มนั้นฉายแววผิดหวัง

“ท่านผู้เฒ่า ข้าพูดความจริง ทำไมท่านไม่เชื่อข้า?” ฝ่ายที่ถูกทำร้ายรู้สึกตกใจกับท่าทีของท่านผู้เฒ่า

“ข้าไม่ได้โกหกท่าน ท่านดูบาดแผลบนร่างกายของข้าสิ พวกมัน 2 คนเป็นคนทำทั้งหมด!” เขาอธิบายพร้อมกับมีอาการกระวนกระวาย

กวางหนุ่มพยายามชี้ให้ชายสูงวัยดูศีรษะ มือ เท้า และเอวของเขาตามลำดับ

ทว่าจุดที่เขาชี้กลับไม่พบรอยแผลเลยแม้แต่น้อย

ที่สำคัญ...

พอลู่หลีลองขยับมือและเท้า เขาก็ตัวแข็งทื่อไปทันที

เมื่อกี้นี้เจ้าเด็กนั่นหักมือและเท้าของเขาไปแล้วไม่ใช่หรือ?

ก่อนหน้านี้เขาเจ็บปวดแทบตาย

ทำไมจู่ ๆ มันถึงกลับมาเป็นปกติได้ล่ะ?

หลังจากหัวหน้าเผ่าเห็นการเคลื่อนไหวเหมือนตัวตลกของเด็กสติไม่ดี สีหน้าของเขาก็ยิ่งย่ำแย่ลงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวจึงยกมือตบหน้าเด็กหนุ่มฉาดใหญ่

เพี้ยะ!

“หุบปาก! เจ้าเจ็บตรงไหนมิทราบ!?”

“ถึงแม้ว่าเจ้าจะโกหกข้าเรื่องอื่น ข้าก็ไม่เคยถือสาเจ้า แต่ในวันนี้เจ้ากลับโกหกเพื่อใส่ร้ายหยินชางกับหลงเหยา ข้าผิดหวังในตัวเจ้ามาก!”

“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าจะไม่มีวันได้ออกมาเดินข้างนอกแบบนี้อีก ข้าจะเป็นคนสั่งสอนเจ้าเอง หัวสมองของเจ้าจะได้ไม่ผิดเพี้ยนอีก”

ในเมื่อเด็กทำตัวไม่ดี เขาก็ต้องสั่งสอนให้อีกฝ่ายเป็นเด็กดีให้ได้ เพราะนี่มันเป็นความรับผิดชอบของเขา

พอชายชราเห็นลู่หลีทำตัวเหลวแหลกเช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่าไม่สามารถปล่อยปละละเลยเด็กหนุ่มได้อีกต่อไป

“ไม่ ไม่!”

“ครั้งนี้ข้าไม่ได้โกหก สิ่งที่ข้าพูดคือความจริง เมื่อกี้หยินชางหักมือข้าจริง ๆ!”

“ข้าไม่ได้โกหก ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องเชื่อข้า...”

กวางหนุ่มส่ายหัวซ้ำ ๆ พร้อมกับพยายามอธิบายอย่างกระวนกระวายใจ

แต่เขาลืมไปว่าตัวเองไม่มีความเชื่อถือในสายตาของหัวหน้าเผ่าอีกต่อไป

สำหรับภูตคนอื่น เขาเป็นแค่เด็กขี้โกหกคนหนึ่งเท่านั้น

แม้ว่าตอนนี้เขาจะพูดความจริงจนปากเปียกปากแฉะก็ไม่มีใครเชื่อเขาแล้ว

“มานี่!”

“พาลู่หลีกลับไป และเฝ้าเขาเอาไว้อย่างเข้มงวด อย่าให้เขาได้เดินออกไปหาเรื่องใส่ร้ายใครอีก!”

ผู้อาวุโสโมโหมาก เขาไม่อยากได้ยินคำพูดเลอะเลือนของเด็กคนนี้อีก

ส่วนภูตที่ยืนอยู่ข้างหลังไม่กล้าพูดอะไร เพราะพวกเขารู้ว่าท่านผู้เฒ่ากำลังโกรธมาก

เมื่อสิ้นเสียงคำสั่ง ภูตชาย 2 คนก็ก้าวไปประกบลู่หลีซ้ายขวาแล้วล็อกแขนลากเขาออกไป

“ท่านผู้เฒ่า ข้าไม่ได้โกหก!”

“พวกมันตีข้าจริง ๆ ข้าไม่ได้โกหก...”

ไม่นานเสียงของกวางหนุ่มก็ทอดยาวออกไปไกลเรื่อย ๆ

ก่อนที่เขาจะหายลับไปจากสายตาของทุกคน ในตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น และเรื่องราวมันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

ทางด้านหลงเหยาเบิกตากว้าง ดวงตาสีแดงทับทิมของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

เกิดอะไรขึ้น?

ทำไมมือเท้าที่ถูกหักของลู่หลีจู่ ๆ ก็กลับมาต่อกันเหมือนเดิมได้ทันเวลา?

จากนั้นคนตัวเล็กเอียงศีรษะมองไปที่หยินชางโดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้สีหน้าท่าทางของเด็กหนุ่มยังคงนิ่งเฉยเหมือนคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ส่วนชายสูงวัยนวดหว่างคิ้วและใช้เวลาชั่วครู่เพื่อสงบสติอารมณ์

ต่อมา เขาเดินไปหาหยินชางกับหลงเหยาพร้อมกับแสดงสีหน้าละอายใจ

“หยินชาง หลงเหยา เมื่อครู่นี้เขาทำให้พวกเจ้าตกใจหรือเปล่า? ปู่ไม่คิดว่าลู่หลีจะใส่ร้ายพวกเจ้า ปู่สัญญาว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”

หลงเหยากะพริบตามองท่านผู้เฒ่าปริบ ๆ หลังจากได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย

เขายืนมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วในที่สุดเขาก็เรียกสติตัวเองกลับมาได้ก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้าอกเบา ๆ แล้วพยักหน้ารับแบบจริงจัง

“เฮ้อ! เสี่ยวเหยาตกใจเกือบตาย!”

ยามนี้การเคลื่อนไหวและการแสดงออกของเด็กน้อยเกินจริงไปมาก

มันทำให้หยินชางเม้มริมฝีปากพลางส่ายหัวอย่างเอือมระอา

เจ้าลู่หลีคนนั้นไม่คู่ควรพอที่จะทำให้เขาตกใจด้วยซ้ำ

ในสายตาของท่านผู้เฒ่า การกระทำที่เจ้ามังกรน้อยแสดงออกก็เพื่อปกปิดความหวาดกลัวของเจ้าตัว

ทันใดนั้นคนเป็นหัวหน้าเผ่าก็รู้สึกผิดมากขึ้น

“เจ้า 2 คนเป็นเด็กดี มา ตามปู่มา ปู่จะเอาอาหารให้พวกเจ้าเอาไปไว้กินกัน”

ปัจจุบันในเผ่ามีเด็กมากขึ้น เขาจึงได้ทำการเตรียมของโปรดสำหรับพวกเด็ก ๆ เอาไว้มากมาย

ในใจของชายชราหวังแค่ว่าเหล่าเด็กน้อยจะเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์ตามวัย

จังหวะนั้นดวงตาของหลงเหยาเป็นประกายทันทีที่ได้ยินคำว่าอาหาร “มันคืออะไรหรือ!?”

เนื่องจากท่านปู่ไม่ใช่คนนอก ดังนั้นเขาสามารถกินอาหารของท่านปู่ได้โดยไม่ขัดคำสั่งท่านแม่

ถัดมา เจ้าตัวเล็กจับมือของพี่ชายเดินตามหลังชายสูงวัยไปทันที

ไม่นานท่านผู้เฒ่าก็มีเด็กทั้ง 2 ติดสอยห้อยตามไปไหนมาไหนด้วยทั้งวัน

ในเวลาเดียวกัน

ภายในถ้ำของหมอหนู

ขณะนี้หลงหลิงเอ๋อกำลังอุ้มกระต่ายที่ถูกจับมาจากกรงกระต่ายของเผ่า

และกระต่ายน้อยก็ดูเหมือนจะรู้ถึงชะตากรรมของตัวเอง แม้ว่ามันจะถูกมัดอย่างแน่นหนา แต่มันก็พยายามเตะขาหลังแรง ๆ เพื่อหาทางเอาชีวิตรอด

“เจ้ากระต่ายน้อย ใจเย็น ๆ นะ ไม่เป็นไร หลิงเอ๋อจะช่วยต่อกระดูกให้ มันไม่เจ็บหรอก แค่นิดเดียวเท่านั้น...” เด็กหญิงหรี่ตาพลางลูบหัวกระต่ายน้อยแผ่วเบา

ทว่าเสียงหวาน ๆ กลับทำให้สัตว์ตัวเล็กตกใจยิ่งกว่าเดิม

มันยังคงดิ้นรนพร้อมกับส่งเสียงแปลก ๆ ในลำคอต่อไป

พอหลงหลิงเอ๋อจับขาหลังของกระต่ายบิดเล็กน้อย มันก็ไม่สามารถขยับได้อีก แล้วมันก็เป็นอัมพาตนอนนิ่งอยู่บนพื้น

บัดนี้ดวงตาสีแดงอันแสนน่าสงสารรื้นไปด้วยน้ำตา

ส่วนหมอหนู 2 คนที่ยืนอยู่ด้านข้างเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของลูกศิษย์พากันขนลุกขนชันโดยไม่มีเหตุผล

นี่มันคือการทรมานกระต่ายชัด ๆ

ทำไมนางถึงทำเหมือนเป็นเรื่องปกตินัก...

ขณะที่ทั้งคู่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลงหลิงเอ๋อได้ต่อขาของกระต่ายกลับเข้าไปใหม่แล้ว

ต่อมานางก็ปล่อยเชือกที่มัดกระต่ายเอาไว้ แล้วสัตว์ที่โดนทรมานก็กระโดดวิ่งหนีไปยังมุมหนึ่งก่อนจะใช้ขาหน้าขุดดินไม่หยุด

มันต้องการหนีไปจากที่นี่!

วันนี้มันโดนหักขาไปสิบกว่ารอบแล้ว!

เด็กผู้หญิงน่ากลัวคนนี้ทรมานมันอยู่ทั้งวัน การกระทำอันโหดเหี้ยมของนางน่ากลัวยิ่งกว่าความตายเสียอีก!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด