บทที่ 392: โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้วไม่ใช่หรือ?
“ข้าเดาถูก เจ้าเด็กนั่นเป็นน้องชายของนังหวงเยว่!”
“หวงเยว่พาภูตหมาป่ามาฆ่าพ่อแม่ของข้า แล้วทำไมหวงเทียนถึงยังได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติสุข!”
“ให้ตายเถอะ มันสมควรตายเหมือนครอบครัวของนังหูเจียวเจียว พวกมันสมควรตายไปพร้อมกัน!!”
ลู่หลีกำหมัดแน่นขณะที่ดวงตาของเขาฉายแววดุร้าย
“พวกมันทั้งหมดสมควรตาย!”
“ข้าต้องรีบไปบอกท่านผู้เฒ่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกมันต้องได้รับคำสั่งจากหูเจียวเจียวให้หลอกลวงท่านผู้เฒ่าแน่ ๆ จากนั้นท่านผู้เฒ่าก็จะขับไล่พวกมันออกจากเผ่าและโยนพวกมันเข้าไปในถ้ำหมื่นอสรพิษ!”
กวางหนุ่มพูดกับตัวเองโดยไม่รู้ตัวเลยว่าใบหน้าของเขาชั่วร้ายและน่าเกลียดมากแค่ไหน
บัดนี้เขาทำตัวเหมือนตัวเรือดที่นอนอยู่ในคูน้ำอันเหม็นอับเพื่อรอคอยคนอื่นที่สกปรกและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าเช่นเขาตลอดทั้งวัน
หลังจากที่พวกเด็ก ๆ ออกไปแล้ว ลู่หลีก็ลุกขึ้นจากพื้นโดยมุ่งหน้าไปหาท่านผู้เฒ่า
“พี่หยินชาง เรามาทำอะไรที่นี่?”
ในระยะไกล หลงเหยากำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้พลางดึงชายเสื้อของหยินชางด้วยความเบื่อหน่าย แล้วใช้มืออีกข้างหยิบก้อนหิมะยัดเข้าไปในปาก
เขาไม่สนใจกลุ่มเด็กขนยาวพวกนั้น
พี่เสี่ยวสือโถวเท่านั้นที่เป็นสหายที่แท้จริงของเขา!
ทางด้านเด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่นขณะจ้องมองไปที่ร่างน่าสมเพชของใครบางคน
ไอ้สารเลวนั่นพยายามจะทำอะไร?
จนกระทั่งอีกฝ่ายกำลังจะหายไป หยินชางก็ดึงคนตัวเล็กให้ติดตามเด็กคนนั้นไปติด ๆ
เขากังวลว่าจะไม่มีโอกาสได้ล้างแค้นแทนหลิงเอ๋ออีก
ตอนนี้โอกาสมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วไม่ใช่หรือ?
...
ปัจจุบันหัวหน้าเผ่ากับเซี่ยหมานเพิ่งคุยกันเรื่องการสร้างอาวุธเสร็จ ก่อนที่ชายชราจะยืนส่งพวกเขาออกไปทำงาน จากนั้นเขาก็นำคนที่เหลือในเผ่าไปยังทิศทางของถ้ำ
เมื่อภูตทุกคนได้เห็นพลังของอาวุธใหม่กับตา พวกเขาก็มีความสุขมาก
ยามนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อาวุโสไม่เคยจางหายไปในขณะที่เขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปตลอดทาง
ในตอนนั้นเอง มีเด็กคนหนึ่งวิ่งสะดุดล้มขวางทางพวกเขาไว้
“ท่านผู้เฒ่า! แย่แล้ว! พวกเขาโกหกท่าน! พวกเขารวมหัวกันโกหกท่าน!”
ลู่หลีรีบวิ่งไปคว้าชายกระโปรงหนังสัตว์ของท่านผู้เฒ่าด้วยใบหน้าตื่นตระหนกที่ไม่เหมือนเด็กปกติทั่วไปเลย
หลังจากที่เขาได้เห็นการตายของพ่อกวางแม่กวาง เขาก็ตกใจจนสติแตก แต่เป็นหัวหน้าเผ่าที่คอยดูแลเขาอยู่นานก่อนที่สภาพจิตใจของเขาจะฟื้นตัวกลับคืนมาอย่างช้า ๆ
ทว่าตอนนี้เมื่อเด็กหนุ่มพูดและแสดงท่าทางต่าง ๆ เขาดูเหมือนคนไม่ปกติราวกับว่าเขากลับมาเป็นบ้าอีกครั้ง ชายชราจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“ลู่หลี ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
วันนี้ทุกคนยุ่งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สังเกตว่าลู่หลีแอบออกมาจากถ้ำ
เมื่อภูตที่อยู่ข้าง ๆ ผู้อาวุโสเห็นเด็กหนุ่ม พวกเขาก็รีบก้าวไปคว้าตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาจำใจต้องปล่อยมือออกจากท่านผู้เฒ่า
“ไปให้พ้น!”
“พวกเจ้าปล่อยข้านะ!”
ลู่หลีผลักคนที่มาจับตัวออกไปด้วยแรงที่ระเบิดมาจากไหนก็ไม่ทราบ ก่อนจะใช้มือทั้ง 2 ข้างคว้าแขนเสื้อของชายสูงวัยจนเล็บของเขาจิกลงไปในเนื้อผ้า
จากนั้นเขาจ้องมองหัวหน้าเผ่าขณะดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า
“หวงเทียนเป็นน้องชายของหวงเยว่ พี่สาวของมันฆ่าคนในเผ่าเราและพ่อแม่ของข้า มันคือคนทรยศ ท่านควรโยนมันลงในถ้ำหมื่นอสรพิษ ให้เทพอสูรได้ลงโทษมัน!”
ทันทีที่กวางหนุ่มพูดจบ ผู้นำสูงสุดของเผ่าและภูตคนอื่นก็ตกตะลึง
หวงเยว่ยังมีน้องชายอยู่ในเผ่าของพวกเขาด้วยหรือ?
เมื่อลู่หลีเห็นท่าทางประหลาดใจของพวกท่านผู้เฒ่า เขาก็เหยียดยิ้มอย่างควบคุมไม่ได้
ดูสิ!
พอตัวตนของเผ่าพันธุ์ต่ำต้อยถูกเปิดเผย ท่านผู้เฒ่าจะไม่ยอมปล่อยมันไปอย่างแน่นอน!
เอาไว้ข้าฆ่าไอ้สารเลวนี่ได้ก่อน แล้วข้าค่อยหาทางแก้แค้นครอบครัวของนังหูเจียวเจียว
ยามนี้เด็กหนุ่มตื่นเต้นมากจนลูกตาของเขาแทบจะถลนออกจากเบ้า และเขาก็พูดต่อว่า
“ยังมีหูเจียวเจียวอีก นางกับเซี่ยหมานสมรู้ร่วมคิดกันในเรื่องนี้ พวกเขาปิดบังท่านไว้ นางกับเซี่ยหมานกำลังจะก่อกบฏ ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องฆ่านางซะ ฆ่านางพร้อมกับไอ้สารเลวนั่น!”
“ความจริงแล้วหูเจียวเจียวไม่เห็นท่านเป็นหัวหน้าเผ่าเลย”
“นางเกิดมาในตระกูลชั้นต่ำไม่สมควรอยู่ในเผ่าของเรา! นางสมควรตาย โยนนางลงไปในถ้ำหมื่นอสรพิษ…”
ยิ่งลู่หลีพูดมากเท่าไหร่ อารมณ์ของเขาก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น โดยที่คำพูดหลัง ๆ ของเขาเริ่มไม่ปะติดปะต่อกัน
ทางด้านผู้อาวุโสลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อเขาได้ยินประโยคสุดท้าย ใบหน้าของเขาก็มืดลงทันที
“หุบปาก!”
เขาตะโกนใส่เด็กปากพล่อยเสียงดังและสะบัดมืออีกฝ่ายออก ในขณะที่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะหูเจียวเจียว เจ้าคงตายไปพร้อมกับพ่อแม่เจ้าแล้ว เจ้ายังมีจิตสำนึกอยู่หรือเปล่า!”
สำหรับน้องชายของหวงเยว่…
พวกเขายุ่งตลอดทั้งวันจนไม่มีเวลาสนใจเกี่ยวกับตัวตนของเด็กคนนั้น
อีกทั้งหูเจียวเจียวกับเซี่ยหมานเป็นภูตที่ซื่อสัตย์ พวกเขาคงไม่เก็บภูตที่เป็นอันตรายต่อเผ่าเอาไว้แน่ ชายชรามั่นใจเรื่องนี้มากที่สุด
ปัจจุบันคำพูดของลู่หลีเป็นเหมือนระเบิดอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งมันจุดชนวนความอดทนของท่านผู้เฒ่าที่มีต่อเขา
“เจ้าเป็นแค่เด็ก เจ้ามันเป็นเด็กสารเลวที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณคน อย่ามาพูดจาไร้สาระ คิดว่าเป็นเด็กแล้วจะพูดอะไรก็ได้งั้นรึ!?”
“ตอนนี้เจ้าไม่ต่างจากพวกภูตเร่ร่อนที่ไม่สนใจชีวิตใครเลย!”
ผู้นำสูงสุดของเผ่าโกรธมาก เขาไม่เคยเห็นเด็กเปรตเช่นนี้มาก่อนในชีวิต!
ส่วนลู่หลีตกตะลึงกับคำดุด่าจากหัวหน้าเผ่า ขณะที่เขาจ้องมองชายตรงหน้าอย่างว่างเปล่า
ต่อมา กวางหนุ่มหันไปมองภูตรอบ ๆ ตัวเขา
ปรากฏว่าใบหน้าของภูตทุกคนที่มองมาเต็มไปด้วยความผิดหวัง ไม่ใช่ความเกลียดชังที่มีต่อหวงเทียนกับหูเจียวเจียวแบบที่เขาคิดไว้ แต่เป็นความรังเกียจที่มีต่อตัวเขาต่างหาก
“ทำไมล่ะ ทำไมพวกท่านไม่เกลียดนางล่ะ?”
“ไม่ พวกท่านไม่ควรแสดงออกแบบนี้...”
ลู่หลีส่ายหัวพลางถอยห่างออกไปเพราะยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาไม่เข้าใจ…
ทำไมทุกอย่างแตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้
หลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิต ไม่สิ… มันเริ่มขึ้นหลังจากหูเจียวเจียวเปลี่ยนไป!
แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ทุกอย่างมันอยู่เหนือการควบคุมของเด็กหนุ่มโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย
ขณะนั้นภูตที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง
“เจ้าอย่าเอาแต่โทษคนอื่นอยู่เลย ดูสิ่งที่ตัวเองกระทำบ้าง”
“การขโมยเสบียงของเผ่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงเช่นกัน ตามที่เจ้าบอกเรา ท่านผู้เฒ่าควรจะเตะเจ้าออกจากเผ่าไปตั้งนานแล้ว!”
“เจ้าทำตัวเองทั้งนั้น!”
หลังจากพูดจบพวกเขาก็หยุดมองลู่หลีก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับถอนหายใจ
“ไม่ใช่ทุกอย่างจะแก้ไขได้ด้วยการฆ่า หากเป็นเช่นนั้น ภูตในโลกนี้ก็น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว”
ตอนนี้ผู้อาวุโสอารมณ์เสียมากที่ไม่สามารถเยียวยาอีกฝ่ายได้ เขาสะบัดแขนเสื้อตัวเองแบบหงุดหงิด ก่อนที่เขาจะถอนหายใจแล้วหันหลังเดินออกไปโดยทิ้งลูกกวางที่กู่ไม่กลับไว้ท่ามกลางหิมะ
จากนั้นนัยน์ตาที่ดุร้ายของลู่หลีก็มีร่องรอยของความสับสน
“เป็นไปได้ยังไง...”
“ทำไมท่านไม่ฆ่ามันล่ะ พี่สาวของมันทำร้ายคนในเผ่า หวงเยว่ทำอะไรไม่ดีไว้ตั้งมากมาย มันจะต้องนิสัยไม่ดีเหมือนกันแน่...”
เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้างุนงง แต่แล้วมันก็พลันเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดและน่าขยะแขยงในพริบตา
“พวกท่านทุกคนกำลังปกป้องมัน!”
“ทุกคนเป็นพวกเดียวกันหมด!”
“ได้ ถ้าท่านไม่ฆ่ามัน ข้าจะหาทางเอง!”
ปัจจุบันลูกตาที่ปูดโปนของลู่หลีแดงก่ำราวกับว่าเขาเพิ่งโผล่ออกมาจากนรก แล้วมันก็มีแต่ความกระหายเลือด
ขณะนี้เขาตื่นเต้นจนลืมไปว่าหิมะกำลังตกอยู่
ต่อมา เขายกเท้าขึ้นกระทืบพื้นหิมะอย่างแรง ก่อนที่ขาของเขาจะจมลงไปในกองหิมะและล้มหน้าคะมำ
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ไม่นานกวางหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยปุยสีขาว เขาเช็ดมันออกแบบลวก ๆ พลางพูดอย่างโกรธเคือง
“ให้ตายเถอะ แม้แต่หิมะก็ยังกลั่นแกล้งข้า...”
เสียงที่ลู่หลีเปล่งออกมาแผ่วลง ทว่าจังหวะที่เขากำลังจะลุกขึ้นยืน รองเท้าหนังสีดำคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
พร้อมกับที่มีดวงตาลุกโชนจ้องมาจากเหนือศีรษะ
ทางด้านกวางหนุ่มที่เห็นสายตาคู่นั้นก็ตัวแข็งค้างขณะเงยหน้าขึ้นมองอย่างยากลำบาก...
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เฮ้อ ลู่หลีเกินเยียวยาจริง ๆ นั่นแหละ มาดูกันว่าหยินชางของเราจะทำยังไงกับเด็กคนนี้