ตอนที่แล้วตอนที่ 1204 ...ทั้งหมดนี้ เธอกลับดูเหมือนจะคิดมากเกินไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1206 คุณกลัว? งั้นหากกลัวก็ปล่อยฉันไป

ตอนที่ 1205 คุณนี่มันเดินไม่มองทางหรือไง!


ท้องฟ้าได้มืดสนิท…

ริมถนนด้านหน้ากลับสว่างไสว และมีพื้นที่ให้บริการจุดพักรถขนาดใหญ่ ปรากฏขึ้นอยู่ข้างหน้า ในตอนนี้ หลินฟาน ทั้งหิว และก็กระหายน้ำมาก เพราะเขาเองก็ไม่ได้เตรียมตัวก่อนออกเดินทางมา ทั้งยังไม่มีอะไรกิน หรือให้ดื่มได้บนรถของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาเติมของพวกนี้เสียก่อน..

“ข้างหน้าเป็นพื้นที่ให้บริการจุดพักรถ เดี๋ยวผมจะลงไปหาซื้อของกิน คุณเองมีอะไรอยากที่จะกินไหม ผมจะได้ไปซื้อให้คุณ” หลินฟาน ได้หันไปมอง หยุน ชิงเย้า

หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “อะไรก็ได้”

หลินฟาน ได้ร้องโอ้ แล้วกล่าวว่า : “งั้น..คือให้ผมซื้ออะไรมาก็ได้”

ทันทีที่เขาพูดจบ รถก็ได้มาถึงพื้นที่ให้บริการจุดพักรถแล้ว หลินฟาน เองก็ได้ชะลอรถ และเลี้ยวเข้าลานจอดรถในจุดให้บริการ

“ฉันไม่กินผักชี ไม่กินต้นหอม แล้วก็ไม่เอากระเทียมด้วย จริงสิ ฉันแพ้พริก และถั่วลิสง ช่วงนี้ฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่ ไม่อยากกินเนื้อสัตว์” หยุน ชิงเย้า ได้พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

หลินฟาน เหงื่อตก แล้วเมื่อกี้.. เธอบอกเองว่าอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ? แล้วแต่ละสิ่งที่เธอพูดมา… มันก็ไม่ใช่ว่าจะหาให้ได้ง่ายๆ นี่มันก็ยากที่จะหาให้จริงๆ

“แล้วนี่คุณอยากกินอะไรกันแน่?” หลินฟาน ได้ถาม

หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณให้ฉันลงไปเลือกเองได้ไหม?”

หลินฟาน มองออกไปข้างนอก มีรถหลายคันอยู่ในจุดพื้นที่ให้บริการนี้ บวกกับมีคนมากมายในที่นี่ พอดีกลับที่ว่า.. มีรถโดยสารขนาดใหญ่ได้เข้ามาจอดพักอยู่หลายคัน ทำให้เห็นว่าผู้คนได้ลงกันมาอย่างหนาแน่น ดูค่อนข้างที่จะคึกคักมาก

หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมปล่อยคุณลงไปก็ได้ ..แต่ ผมขอเตือนคุณว่าอย่าสร้างเรื่องจะดีกว่า ถ้าหากพบเจอเจ้าหน้าที่ตํารวจขึ้นมา คุณเองจะเดือดร้อน ในครั้งนี้ผมจะพาคุณกลับไปที่ หยุนเหมิน เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างเรา ดังนั้นผมจึงไม่ได้ส่งตัวคุณให้กับทางตํารวจ แต่ถ้าหากถูกตํารวจพบเห็นคุณขึ้นมา ..มันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเพื่อเป็นการป้องกันตนเอง ผมเองก็คงได้แต่ต้องเล่าความจริงให้กับทางตำรวจฟังเท่านั้น จากนั้นคุณก็จะถูกส่งตัวพากลับไปที่เมืองหยุนเฉิง สิ่งที่รอคุณอยู่ก็คือการพิจารณาคดี และการติดคุก ถ้าคุณต้องการแบบนั้น สักพักก็สร้างเรื่องให้ผมได้เลย”

หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ฉันแค่อยากลงไปหาอะไรกิน”

หลินฟาน ได้พูดอย่างตรงไปตรงมา เขาหวังว่า หยุน ชิงเย้า จะไม่สร้างเรื่อง แต่ถ้า หยุน ชิงเย้า ต้องการสร้างปัญหานี้ และได้ไปยั่วยุตํารวจเข้าจริงๆ นั่นมันก็จะเป็นปัญหาของเธอ และจริงๆ แล้ว แม้ว่าอีกฝ่ายจะไปยั่วยุตํารวจ เขาก็ยังคงมีวิธีจัดการ แต่มันจะเสียเวลา

จากนั้น หลินฟาน ก็ได้จอดรถในลานจอดรถ และช่วยถอดเข็มเงินออกให้ หยุน ชิงเย้า เพื่อให้เธอสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้ เมื่อนั้นทั้งสองก็ได้ลงมาจากรถ และเดินไปที่ศูนย์อาหารในพื้นที่ให้บริการ หลินฟาน ได้เดินอยู่ข้างๆ หยุน ชิงเย้า และทั้งสองเองก็ได้เดินเคียงข้างกันไป

ในสายตาของคนนอก ทั้งสองก็ดูเหมือนกับว่าเป็นคู่รักที่ได้ออกมาเที่ยวด้วยกัน มีคนมองมาอย่างอิจฉาที่พวกเขาเป็นครั้งคราว ความหล่อเหลาของ หลินฟาน นั้นมันสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และแม้ว่า หยุน ชิงเย้า จะสวมหน้ากากอนามัยอยู่ แต่ด้วยรูปร่างที่ยอดเยี่ยม บวกกับดวงตาที่สวยงามมากของเธอ ยังไงใบหน้าของเธอก็ต้องสวยเหมือนกัน เรียกได้ว่าในสายตาของคนนอก.. พวกเขาเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างมาก

ผู้คนที่เดินผ่านไปมา.. อาจนึกไม่ถึงจริงๆ ถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างพวกเขา

เมื่อเดินเข้าไปภายในศูนย์อาหารในพื้นที่ให้บริการ ก็เห็นเพียงว่าศูนย์อาหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่ คล้ายกับศูนย์อาหารแบบของโรงเรียน ที่มีเมนูหลายอย่างแตกต่างกันออกไป ทั้งยังมีอาหารหลากหลายที่ได้ตักใส่ถาดเรียงกันเป็นแถว เพื่อให้ลูกค้าได้เลือก ซึ่งพอลูกค้าเห็นอะไรจึงให้ป้าใช้จวักตักให้

นอกจากนี้ยังมีโซนพวกบะหมี่

ในเวลานี้ก็ได้มีคนเข้าคิวมากมายทั้งในโซนอาหาร และโซนบะหมี่

หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมอยากกินบะหมี่ คุณล่ะ.. อยากกินอะไร?”

หยุน ชิงเย้า ได้เงยหน้ามองไปรอบๆ ศูนย์อาหาร แล้วพูดว่า : “ฉันไม่อยากกินบะหมี่ ฉันอยากไปดูว่ามีอะไรที่อยากกินไหม ถ้าไม่มี ฉันก็จะไม่กิน”

หลินฟาน ได้ร้องโอ้ แล้วพูดว่า : “อืม.. งั้นคุณก็ไปดูเถอะ”

หยุน ชิงเย้า ก็ได้เดินออกไป เธอได้เดินตรงไป.. ถัดมาร้านนี้ก็ขายพวกสลัดผัก เธอเดินมองดูร้านต่างๆ โดยรอบๆ ไปพลาง และแววตาที่รังเกียจก็ปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวให้เห็นออกมา ดูเหมือนว่าอาหารพวกนี้จะไม่สามารถกระตุ้นความอยากอาหารของเธอได้เลย

หลังจากมองอยู่แบบนี้ไปสักพัก หยุน ชิงเย้า ก็ใกล้จะเดินไปถึงตําแหน่งตรงกลางของศูนย์อาหารแล้ว และได้ออกห่างจาก หลินฟาน มาระยะหนึ่งแล้ว

จู่ๆ นั้น.. สายตาของ หยุน ชิงเย้า ก็ได้ตกลงไปที่โต๊ะที่ใช้นั่งทานอาหารข้างๆ ที่อยู่ถัดจากเธอ

ที่นั่น มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกินข้าวอยู่ ข้างๆ เขา มีโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งวางอยู่ ในหน้าจอโทรศัพท์เต็มไปด้วยข้อความ ดูเหมือนว่าเขากําลังอ่านนิยาย ทั้งยังได้กินข้าวไปพลางอ่านไปพลางด้วย เขาเองดูค่อนข้างมีสมาธิมาก

ในเวลานี้ คุณลุงคนหนึ่งที่เพิ่งสั่งอาหารเสร็จ เขาได้เดินถือจานข้าวด้วยมือทั้งสองข้าง และตั้งใจจะออกไปหาที่นั่งกินข้าว และบังเอิญเขาได้เดินไปข้างหลังของชายหนุ่มคนนี้ ..พอดี

หยุน ชิงเย้า ก็ได้หันไปมอง หลินฟาน และเห็นเพียง หลินฟาน ที่กำลังเข้าแถวต่อคิวอยู่พอดีในเวลานี้ ทั้งยังกําลังคุยกับป้าที่กำลังต้มบะหมี่ โดยไม่สนใจที่จะมองเธอ

นี่มันเป็นโอกาสที่หาได้ยาก!

หยุน ชิงเย้า ได้มองหาจังหวะ และฉวยโอกาสนั้น ในขณะที่ลุงคนนั้นไม่ทันได้สังเกต เธอได้ยื่นเท้าออกไปสกัดขาลุงให้สะดุด ลุงเองได้เดินโซเซ จานข้าวในมือก็ไม่สามารถจับถือได้อย่างมั่นคง ในจานข้าวก็ได้มีชามน้ำซุปอยู่หนึ่งชาม จึงได้หกลงไปเล็กน้อยใส่ศีรษะของชายหนุ่มคนนั้น

ชายหนุ่มคนนั้น ได้ร้องออกมาด้วยความตกใจ และได้กระโดดขึ้นมา

ลุงคนนั้นที่ได้เห็น ก็ได้รีบกล่าวขอโทษทันทีว่า : “ขอโทษนะ ต้องขอโทษจริงๆ!”

ชายหนุ่มคนนั้นได้โกรธมาก เขาได้หันหน้าไปมองลุงทันที และพูดด่าออกไปว่า : “คุณนี่มันเดินไม่มองทางหรือไง!”

ลุงคนนั้นได้พูดไปอย่างอับอายว่า : “ขอโทษจริงๆ ฉันมีกระดาษทิชชู่นี่”

เขาได้ถือจานข้าวด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกมา หยิบกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้วส่งให้กับชายหนุ่ม เขาเองก็งุนงงในใจ ก็ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ เขาถึงได้สะดุด

ชายหนุ่มได้หยิบกระดาษทิชชู่ รีบนำกระดาษทิชชู่มาเช็ดมือ เช็ดน้ำซุปร้อนๆ ที่หกบนศีรษะของเขา

ในขณะที่พวกเขาทั้งสองกําลังวุ่นวาย หยุน ชิงเย้า ก็ได้เดินผ่านพวกเขาไป เมื่อนั้นโทรศัพท์มือถือที่ชายหนุ่มคนนั้นได้วางเอาไว้บนโต๊ะก็ได้หายไปด้วย

เสียงร้องด้วยความตกใจของชายหนุ่มเมื่อกี้นี้ ก็ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนโดยรอบ รวมถึง หลินฟาน ก็ได้มองไปที่นั่นเช่นกัน แต่เมื่อ หลินฟาน มองไป หยุน ชิงเย้า ก็ได้เห็นว่าเธอเดินจากไปแล้ว ทั้งทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทาง หลินฟาน ก็เห็นแต่ ชายหนุ่ม และคุณลุงคนนั้น ที่กําลังทะเลาะกัน ..เท่านั้น

หยุน ชิงเย้า ที่ได้เดินต่อไป เธอมองอาหารในตามร้านต่างๆ แต่แล้วเธอก็ได้ทิ้งมือวางเอาไว้ข้างหน้าเธอ และในมือของเธอก็ได้มีโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งถูกเพิ่มเข้ามา เธอเองแกล้งทําเป็นดูอาหารต่อไปเรื่อยๆ แต่นิ้วมือของเธอก็ได้ทํางานอย่างรวดเร็ว เธอได้เปิดฟังก์ชั่น SMS และพิมพ์ข้อความสั้นๆ ลงไปในกล่องข้อความ

“เส้นทางด่วน หยุนเฉิง-ยูนนาน มารับฉัน ห้ามตอบกลับมา!”

จากนั้นเธอก็ได้ป้อนหมายเลข และส่งข้อความนี้ออกไป

เมื่อเห็นว่าส่งสําเร็จแล้ว หยุน ชิงเย้า ก็ได้ลบข้อความนี้ทันที และได้ปิดหน้าจอ และหน้าจอโทรศัพท์ก็กลายเป็นสีดํา

หยุน ชิงเย้า ยังเดินต่อไป และเห็นว่าข้างหน้าเธอมีชายอ้วนคนหนึ่งถือกระเป๋าเป้สะพายหลัง หยุน ชิงเย้า ก็ได้เดินเข้าไปใกล้ เมื่อเธอได้เดินผ่านชายอ้วนคนนั้นไป โทรศัพท์มือถือในมือของเธอก็ได้หายไปแล้ว

เมื่อเห็นว่าเธอเดินมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว หยุน ชิงเย้า ก็ได้ส่ายหัวอย่างไม่พอใจ เธอได้หันหลังกลับ พร้อมที่จะเดินกลับไปหา หลินฟาน

ในเวลานี้.. เมื่อเห็นชายหนุ่มคนเมื่อกี้นี้ กําลังมองหาอะไรบางอย่างอย่างกระวนกระวาย และปรากฏว่าเขาพบว่าโทรศัพท์มือถือของเขาได้หายไป และเขาก็แทบจะกลายเป็นบ้าไปในทันที

ลุงคนนั้นยังไม่ได้เดินหนีไปไหน เขาเกิดสงสัยเลยถามไปว่า : “น้องชาย เกิดอะไรขึ้น?”

ชายหนุ่ม ได้พูดว่า : “ให้ตาย โทรศัพท์ของฉันหายไปแล้ว นี่มันก็แค่พริบตาเดียวเท่านั้น และต้องมีใครขโมยมันไปแน่!”

ลุงคนนั้น ได้พูดทันทีว่า : “น้องชาย ไม่ต้องกังวลไป คนที่เพิ่งขโมยโทรศัพท์ไปคนนั้นอาจจะยังไม่ทันได้ปิดเครื่อง ฉันจะให้โทรศัพท์ฉันยืม คุณเองก็รีบๆ โทรไป ..ลองดู”

คุณลุงคนนั้น ได้หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง ยื่นให้ชายหนุ่ม

ชายหนุ่มรีบรับมา และกดโทรหาเบอร์มือถือของตนอย่างรวดเร็ว

“ความรักไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากซื้อ อยากขายตอนไหนก็ทำได้ ปล่อยฉันไปเถอะ ทําให้ฉันเข้าใจที ที่ต้องปล่อยความรักที่มีให้คุณ…”

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้น และก็ได้พบว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ใช้โทรศัพท์มือถือปลอม นั่นก็เพราะเสียงของมันแตก ทั้งเสียงของมันยังโครตจะดังเป็นพิเศษ

ชายหนุ่ม เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ เขาจึงได้รีบเงยหน้าเพื่อค้นหา และก็ได้วิ่งเข้าไปล็อกตัวชายอ้วนเอาไว้ทันที, เพราะเสียงเรียกเข้ามันได้ดังมาจากกระเป๋าเป้ของชายอ้วน

“แกมันน่าด้านจริง กล้าขโมยโทรศัพท์ฉันไป!” ชายหนุ่ม ได้รีบวิ่งไปหาชายอ้วนด้วยความโกรธ ในขณะที่อีกฝ่ายก็กำลังทําสีหน้างุนงง และไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงถึงได้ดังมาจากข้างหลังของเขาได้

หยุน ชิงเย้า ที่เป็นผู้ริเริ่มเรื่องทั้งหมดนี้ ก็ได้กลับไปที่ด้านข้างของ หลินฟาน แล้ว และภายใต้หน้ากากอนามัย ก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจของเธอ ..ออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด