ตอนที่แล้วบทที่ 375: แสงสว่างเดียวในชีวิตที่มืดมนของเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 378: หลงโม่คืออัจฉริยะตัวจริง

บทที่ 376: พวกคนกลับกลอก


ขณะที่ชาวเผ่าพูดขอร้องหูชิงหยวน พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนย้ายเสบียงของเขาออกจากโกดังแล้ว

“ไม่ได้ ถ้าพวกเจ้าอยากจะเข้าหาหมอผี พวกเจ้าจะพึ่งพาคนอื่นไม่ได้ พวกเจ้าต้องหาวิธีด้วยตัวเอง”

จิ้งจอกหนุ่มขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเอะใจอะไรบางอย่าง

สิ่งที่เจ้าพวกนี้พูดมันฟังดูแปลกไปหน่อยหรือเปล่า?

“ช้าก่อน!!” จู่ ๆ ชายหนุ่มก็ขัดจังหวะคนที่กำลังจะพูด “ทำไมพวกเจ้าถึงเอาแต่พูดยกยอพี่ใหญ่ น้องเล็ก หลงโม่ และก็หู่จิง แล้วข้าล่ะ ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย”

“ไม่มีอะไรที่ข้าคู่ควรแก่การยกย่องเลยหรือไง?”

หูชิงหยวนถามด้วยความไม่พอใจ

เมื่อกลุ่มภูตได้ยินดังนั้นก็หันมามองเขา

แล้วทุกคนก็วางเสบียงลงบนพื้นก่อนจะหันมายืนตรง

จากนั้นเหล่าภูตก็ถามในสิ่งที่คิดกันอย่างพร้อมเพรียงว่า

“เจ้าหรือ? เจ้ามีอะไรให้น่ายกย่อง?”

ยังมีหน้ามาถามอีกนะคนเรา

พวกเขาคิดว่าการที่หูชิงหยวนได้มาเกิดในครอบครัวตระกูลหูเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว

“นี่พวกเจ้า!!” จิ้งจอกหนุ่มพูดด้วยความโกรธ

“ข้าเองก็เก่งเหมือนกันนะ! ทั้งเรื่องล่าสัตว์และทำงานให้เผ่าข้าไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกหลงโม่เลย!”

เมื่อชาวบ้านคนอื่นเห็นว่าชายหนุ่มโมโหมากจึงปิดปากเงียบไม่พูดอะไรอีก

ขณะนั้นมีเพียงภูตคนเดียวที่อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาว่า

“เจ้ายังกล้าถามอีกหรือ”

“เจ้าควรถามตัวเองก่อนไหมว่ามีทักษะไหนที่เจ้าเหนือกว่าหลงโม่บ้าง”

“!!!”

หูชิงหยวนที่ได้ยินเช่นนี้ถึงกับตกตะลึง

เจ้าหมอนี่กล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง คิดว่าตัวเองเป็นใคร? พี่น้องกันก็ไม่ใช่!

คุยกับไอ้พวกนี้แล้วหงุดหงิดชะมัด!

บัดนี้ชายหนุ่มโกรธมากและกำลังเดินหนีไปอีกทางซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับตอนที่หูชิงซานเดินออกมาจากบ้านของท่านผู้เฒ่า

“พี่ใหญ่!” จิ้งจอกหนุ่มตะโกนเรียกพร้อมกับรีบโบกมือให้คนเป็นพี่ชาย

ช่วงก่อนหูชิงซานจะมาขนเสบียงกลับบ้านกับเขาในเวลานี้

“ข้าไม่คุยกับพวกเจ้าแล้ว พี่ใหญ่ของข้ากับข้าจะช่วยกันขนเสบียงกลับบ้านเอง” ชายหนุ่มเหลือบมองคนปากพล่อยแล้วพูดอย่างเย็นชา

แต่เขาไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ตนยืนรออยู่สักพัก พี่ชายคนโตก็ไม่ได้เดินเข้ามาหาเขา

ไม่เพียงเท่านั้น อีกฝ่ายยังวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย!

“หูชิงหยวน พี่ใหญ่ของเจ้า... ดูเหมือนว่าจะไปแล้ว” ภูตคนหนึ่งส่งเสียงเตือน

พอหูชิงหยวนหันไปมอง เขาก็เห็นหูชิงซานวิ่งออกไปแบบไม่หันกลับมามองเขาราวกับว่าอีกคนไม่ได้ยินที่เขาเรียก

“???” นั่นทำให้จิ้งจอกหนุ่มรู้สึกสับสนในใจ

เขามั่นใจว่าเสียงตะโกนเรียกของเขามันดังมากจนสามารถได้ยินแม้จะอยู่ห่างออกไปหลายเมตร

มันเป็นไปไม่ได้ที่พี่ใหญ่จะไม่ได้ยิน

เว้นแต่ว่าเขาจงใจทำหูทวนลม!

ทางด้านกลุ่มภูตที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หันมามองหน้ากันราวกับว่าทุกคนเข้าใจอะไรบางอย่าง

จากนั้นพวกเขาก็ก้าวถอยหลังทีละคนและแอบย่องออกไปเงียบ ๆ

“สงสัยพี่ชายของข้าคงมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปทำ...” หูชิงหยวนไม่อยากจะเชื่อว่าความเป็นพี่น้องที่กลมเกลียวกันจะหายไปทั้งแบบนี้ เขายังดื้อรั้นพยายามอธิบายให้คนอื่นฟัง

แต่พอชายหนุ่มหันกลับไปอีกทีก็พบว่าไม่มีใครยืนอยู่ข้างหลังเขาสักคน

ปรากฏว่าภูตพวกนั้นพากันหนีไปแล้ว…

ไม่นานก็มีเสียงภูตคนหนึ่งดังขึ้นมาว่า

“หูชิงหยวน พวกเราก็มีธุระต้องไปจัดการ เจ้าขนเสบียงไปเองแล้วกันนะ!”

“!!!”

ไอ้พวกคนกลับกลอกเอ๊ย!

สุดท้ายหูชิงหยวนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสบถด้วยความโกรธก่อนจะถือเสบียงเดินกลับบ้านเพียงลำพัง

ในเวลานี้ หู่จิงกับเฟิงเฉิงกำลังแทะเมล็ดแตงโมที่หูเจียวเจียวส่งคนให้โดยมีหู่จิงคอยเล่าสิ่งที่น่าสนใจทั้งในเผ่าและนอกเผ่ากรอกหูอีกฝ่าย

ไม่นานพวกนางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยข้างนอก

เสือสาวรู้ว่าเป็นสามีของตน ดังนั้นนางจึงวางเมล็ดแตงโมลงก่อนจะลุกขึ้นไปช่วยเปิดประตูให้อีกฝ่าย

เมื่อหู่จิงเปิดประตู นางเห็นว่าสีหน้าของหูชิงหยวนไม่สู้ดีนัก และเขาดูหดหู่อย่างอธิบายไม่ถูก

“ชิงหยวน เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” หญิงสาวรีบรับเสบียงมาและถามคนรักด้วยความเป็นห่วง

แม้ว่านางจะเป็นคนที่ไม่ค่อยกังวลเรื่องอะไรสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้หญิง ตามธรรมชาติแล้วผู้หญิงมีจิตใจที่ละเอียดอ่อนกว่าผู้ชาย พวกนางจึงสามารถสังเกตเห็นความผิดแปลกของคนรอบตัวได้ทันท่วงที

“ข้าไม่เป็นไร” เมื่อหูชิงหยวนเห็นสีหน้าเป็นกังวลของภรรยา เขาก็โบกมือปัดแบบไม่ใส่ใจ เพราะเขาไม่อยากนำความทุกข์จากนอกบ้านกลับเข้ามาในบ้าน

ทางด้านหู่จิงที่เห็นท่าทางของสามีหนุ่มก็รู้ว่าเขาไม่อยากพูดถึงมัน ดังนั้นนางจึงไม่เซ้าซี้ถามให้มากความอีก

ต่อมา หญิงสาวมองไปข้างหลังของจิ้งจอกหนุ่มก่อนจะถามด้วยความประหลาดใจ

“ชิงหยวน วันนี้พี่ใหญ่ไม่มาด้วยหรือ?”

นับตั้งแต่พวกเขาเดินทางกลับมาที่เผ่า หูชิงซานก็มาช่วยส่งเสบียงที่นี่ทุกวัน

เสือสาวจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้นางไม่เห็นพี่ใหญ่

“เขาไม่มา” หูชิงหยวนส่ายหัว เขายังคงรู้สึกไม่พอใจเพราะเรื่องเล็กน้อยเลยอดไม่ได้ที่จะบ่นอุบอิบ

“พี่ใหญ่น่าจะมีเรื่องยุ่ง ๆ อยู่ วันนี้ข้าตะโกนเรียกเขาแล้วแต่เขาก็ไม่มาหาข้า” ชายหนุ่มไม่ได้มีเรื่องปิดบังคนรักจึงตอบไปตามความจริง

“พี่ใหญ่น่าจะมีงานสำคัญต้องไปทำ” หู่จิงพยักหน้ารับแบบไม่ใส่ใจ จากนั้นนางก็พูดต่อว่า

“ช่วงก่อนพี่ใหญ่ก็ช่วยเราเอาไว้มากแล้ว ตอนที่เจ้าไม่อยู่เขาก็มาช่วยเราทำงานที่บ้านตั้งมากมาย เอาไว้วันหลังเราค่อยไปขอบคุณพี่ใหญ่ดี ๆ สักครั้งกันเถอะ”

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องกัน หากไม่สำนึกบุญคุณและเอาแต่เรียกร้องมันก็คงไม่ดีสักเท่าไหร่

“ตกลง ข้าจะจำไว้”

เมื่อหูชิงหยวนได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้ารับอย่างจริงจัง

ในขณะเดียวกัน หลังจากเฟิงเฉิงได้ยินชื่อของหูชิงซาน ดวงตาคู่สวยก็ทอดมองออกไปด้านหลังของคนทั้ง 2 โดยไม่รู้ตัว

ก่อนที่สายตาเย็นชาจะหลุบต่ำลงพร้อมกับที่มีสีหน้าเศร้าหมอง

เขาน่าจะเข้าใจแล้วว่าคำพูดในวันนั้นของนางหมายความว่าอย่างไร

ถือว่าเป็นการตัดปัญหาไปได้ 1 เปราะ

หญิงสาวคิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในอนาคตจะได้ไม่เกิด

...

หลังจากที่หลงโม่บอกหัวหน้าเผ่าเกี่ยวกับการขุดบ่อน้ำ ชายชราก็นำภูต 2 คนไปที่บ้านของหูเจียวเจียวทันทีเพื่อดูลักษณะของบ่อน้ำดังกล่าว จากนั้นจึงขุดบ่อน้ำไว้ใช้แบบสาธารณะ 2 บ่อในเผ่าตามที่จิ้งจอกสาวแนะนำ

โดยที่บ่อน้ำอันหนึ่งอยู่บริเวณทางตอนเหนือของเผ่าใกล้ ๆ กับพวกเซี่ยหมาน ส่วนอีกอันถูกขุดขึ้นใกล้ถ้ำที่พวกภูตชายอาศัยอยู่

ด้วยวิธีนี้ภูตชายจะสามารถหาน้ำกินน้ำใช้ในฤดูหนาวได้สะดวกมากขึ้น

“ท่านผู้เฒ่า ขอบคุณที่พวกท่านมาขุดบ่อน้ำให้เรา” เซี่ยหมานกล่าวขอบคุณผู้นำสูงสุดของเผ่า

ในเวลาเดียวกัน ภูตคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นเต้นมากขณะที่พวกเขาตักน้ำจากบ่อมาดื่ม

แล้วกลุ่มภูตก็เข้ามาขอบคุณผู้อาวุโสทีละคน

“ขอบคุณ ท่านผู้เฒ่า!”

“นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ข้าได้ดื่มน้ำอุ่นในหน้าหนาว!”

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะดื่มน้ำที่ไม่มีน้ำแข็งได้โดยไม่ต้องจุดไฟ เจ้าสิ่งที่เรียกว่าบ่อน้ำนี้น่าอัศจรรย์มาก...”

ในฤดูหนาว การหาฟืนมาก่อไฟได้นั้นไม่ง่ายนัก อีกทั้งพวกเขาไม่มีเวลาไปหาฟืนมาต้มน้ำ ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงดื่มน้ำปนน้ำแข็งในแม่น้ำมาตลอด

การดื่มน้ำเย็นไม่มีปัญหาสำหรับภูตที่โตเต็มวัยแล้ว แต่สำหรับพวกลูกเล็กเด็กแดงมันเป็นเรื่องที่มีผลกระทบมาก

ทว่าปัจจุบันในเผ่ามีบ่อน้ำแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเด็ก ๆ จะป่วยเพราะดื่มน้ำเย็นจัดอีก

“มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว แต่วิธีนี้ข้าไม่ได้เป็นคนคิดขึ้นมา เจียวเจียวต่างหากที่ควรได้รับความดีความชอบ นางมาขอให้ข้าสร้างบ่อน้ำไว้ใช้ในเผ่าจะได้ไม่ต้องให้ทุกคนไปลำบากขุดน้ำแข็งเพื่อตักน้ำในแม่น้ำอีก” ชายสูงวัยอธิบายพร้อมกับมีรอยยิ้มร่าเริง

หัวหน้าเผ่าคิดว่าความดีความงามในเรื่องนี้ต้องยกให้หูเจียวเจียวทั้งหมด

เขาเป็นแค่คนที่มีส่วนช่วยลงแรงทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

“หูเจียวเจียว?” เมื่อเซี่ยหมานได้ยินชื่อที่คุ้นเคย ใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการสร้างกำแพงเผ่า และเขาไม่ได้พบหูเจียวเจียวอีกเลย

นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้ยินมาว่าหญิงสาวดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากในเผ่า นางช่วยสอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับทุกคน เขาไม่คาดคิดว่าแม้แต่บ่อน้ำวิเศษก็เป็นจิ้งจอกสาวที่ค้นพบมัน

ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากคนอื่นจริง ๆ

นางฉลาดมาก

“ใช่ ถ้าเจ้าอยากจะขอบคุณใครสักคนก็ขอบคุณเจียวเจียวเถอะ” ท่านผู้เฒ่ายิ้มพลางพยักหน้า

ตอนนี้ความปรารถนาเดียวของชายชราคือการพัฒนาเผ่าให้เจริญรุ่งเรือง

สำหรับสถานะหัวหน้าเผ่านั้นไม่สำคัญสำหรับเขาอีกต่อไป

“ท่านผู้เฒ่า พี่เจียวเจียวน่าทึ่งมาก นางเหมือนคนที่ทำได้ทุกอย่าง!” เสี่ยวสือโถวอดไม่ได้ที่จะชื่นชมตามเซี่ยหมาน

“ใช่” ทันทีที่เด็กหนุ่มเอ่ยถึงหูเจียวเจียว สีหน้าของผู้อาวุโสก็สงบขึ้น ดูเหมือนเขากำลังนึกถึงบางสิ่งที่น่าสนใจ และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

“เจียวเจียวของเราฉลาดมาตั้งแต่ยังเด็ก”

“ตอนที่หลงโม่มาถึงเผ่าครั้งแรก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นเป็นเจียวเจียวที่บังเอิญไปพบเขาเข้าแล้วช่วยรักษาเขา”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด