ตอนที่แล้วเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 3 - เอนเดอร์แมนกลับชาติมาเกิด?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 5 - คบเพลิงเป็นสิ่งสำคัญ

เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 4 - นี่คือการโกงหรือเปล่า?


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

เล่มที่ 1 บทที่ 4 - นี่คือการโกงหรือเปล่า?

"เจ้านี้เกเรเหลือเกิน ไปหาเรื่ิองผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผล! พระแม่ได้โปรดเถอะ...คืนนี้เจ้าจะไม่ได้ทานมื้อเย็น เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม!?"

แม่ชีผู้เฒ่าโยนข้าเข้าไปในห้องเก่าซึ่งมีป้าย "ขจัดเวทมนตร์ระดับ 1" ติดไว้

ห้องแห่งนี้มีเวทมนตร์พื้นที่บางอย่างที่มีข้อจํากัดหรือเงื่อนไขพิเศษบางอย่างอยู่ หากนักเวทย์ถูกโยนเข้าไปในห้องที่มี "ขจัดเวทมนตร์ระดับ 1" พวกเขาจะไม่สามารถร่ายคาถาที่อยู่ในอันดับ 1 หรือต่ำกว่าได้ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างหนักเพียงใดก็ตาม

แต่เนื่องจากข้าไม่ใช่นักเวทย์ หรือเพราะข้าไม่ได้เรียนรู้เวทมนตร์ (เฉพาะเด็กกําพร้าที่มีอายุมากกว่าสิบขวบเท่านั้นที่สามารถเรียนเพื่อเรียนรู้พวกมันได้) ห้องนี้จึงไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับข้านัก

ห้องเก่านี้มีเพียงโต๊ะเก่าที่ง่อนแง่น โดยมี "พระคัมภีร์เทพธิดา" ที่ขึ้นราอยู่ด้านบนและเตียงอันเกือบหัก ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด ในสายตาของผู้ใหญ่ห้องแห่งนี้จึงเหมือนเป็นห้องของ "เด็กที่ไร้ความรับผิดชอบและซุกซน"

"พระคัมภีร์เทพธิดา" เป็นพระคัมภีร์จากศาสนาของแวนติโนม แวนติโนม เป็นศาสนาที่บูชาเทพธิดาที่มีชื่อเดียวกันและถือเป็นศาสนาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกใบนี้

สถานเลี้ยงเด็กกําพร้าที่ข้าอาศัยอยู่ในปัจจุบันเป็นสาขาย่อยของแวนติโนม ส่วนเทพธิดาคือ ...

อืม....

.

ข้าคิดว่าไว้ค่อยพูดเรื่องนี้ทีหลังแล้วกัน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากห้องนี้ใช้เพื่อแยกเด็กซนออกมา จึงมักมีป้ายสอนแขวนติดอยู่ด้วย "กลับใจสําหรับการกระทําของเจ้าเสีย"

พูดตามตรงนะ เด็กปกติที่มีสมองที่ไหนจะกลับใจได้ หากผู้ใหญ่เองยังทำเป็นตัวอย่างไม่ได้?

เนื่องจากข้ามักจะยืนหยัดเพื่อเกรซและคอยไล่คนพาลให้นาง ตัวข้าจึงเข้ามาในห้องนี้หลายครั้ง จนข้าสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นขาประจําห้องแสนซนได้แล้ว

ส่วนใหญ่พวกผู้ใหญ่ก็จะบอกประมาณว่า "อย่าแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง! หากเกิดไรขึ้นก็แค่วิ่งมาฟ้องผู้ใหญ่สิ!" เหอะ อะไรพวกนี้มันไร้สาระสิ้นดี

ในฐานะเด็กกําพร้าที่ไม่มีอะไร ไม่มีครอบครัว ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีคุณค่า สิ่งที่เรามีคือตัวเราเองและหมัดของเรา ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เราจะต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งกับสิ่งที่เรามีอยู่อย่างจำกัด

เอาล่ะ

สวัสดีทุกคน ข้าชื่อวอลสัน และใช่ ข้ากําลังทําลายกําแพงที่สี่เพื่อพูดกับพวกเจ้านักอ่านทุกคน

ชื่อของข้าก่อนการกลับชาติมาเกิดของข้าคงไม่สำคัญแล้ว ส่วนอายุที่แท้จริงของฉัน...ร่างกายของข้าอายุเจ็ดขวบ ในขณะที่ "วิญญาณ" ของข้าคือสามสิบเจ็ด ข้าตายเมื่ออายุสามสิบ

ใช่ ตอนนี้ตัวข้าเป็นแค่เด็ก

ส่วนเรื่องการกลับชาติมาเกิดใหม่ ข้าเชื่อว่ามีเพียงแค่ข้าคนเดียวที่รู้เรื่องนี้ แม้ว่าเกรซจะกลับชาติมาเกิดด้วย แต่นางก็ไม่มีความรู้และความทรงจําอะไรเลย เนื่องจากนางเคยเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยเลขศูนย์และหนึ่ง

พูดตามตรง พวกเจ้าเองก็คงเคยได้อ่านเรื่องรายของผู้กลับชาติมาเกิดที่มีพลังอยู่มากมายใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นพวกเจ้าคงสงสัยกันว่าทําไมข้าถึงดูเหมือนจะไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย?

ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยระบบอาชีพของโลกนี้

ในโลกนี้มีสามประเภทที่สามารถกําหนดความสามารถได้ นักสู้ นักเวทย์หรือสามัญชน

...ในทางเทคนิคมีเพียงสองประเภทคือ นักเวทย์และนักสู้ ส่วนสามัญชนใช้เป็นคำสื่อถึงคนที่มีประโยชน์น้อยกว่าสองประเภทนี้ นอกจากนี้ยังมีคำเรียกสามัญชนอีกหลายอย่าง ชาวบ้าน ชาวนา ฟักทอง คนใช้และอื่นๆ มากมาย แต่คนส่วนใหญ่ยึดติดกับการเรียกเราว่า "สามัญชน" ส่วนตัวข้ากลับชอบ 'ชาวบ้าน' มากที่สุด ก็ข้าเป็นคนที่เหมือนกับสามัญชนธรรมดาทั่วไปอยู่แล้วนิ

บนโลกใบนี้มีสิ่งประดิษฐ์พิเศษที่แยกแยะผู้คนเรียกว่า "กระดานหินแห่งการระบุตัวตน" อยู่ ตามชื่อเลย มันถูกใช้เพื่อระบุบางสิ่ง

วิธีการทํางานของกระดานหินนี้คือการสัมผัสกระดานหินด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จากนั้นมันก็จะแสดงค่าสถานะออกมา ยกตัวอย่างเช่น เลือด มานา พลังโจมตี พลังป้องกัน ความคล่องตัว ความแม่นยําและค่าประสบการณ์ และอะไรประมาณนี้

พวกเจ้าฟังถูกแล้ว โลกนี้เหมือนกับเกม RPG ขนาดใหญ่ มันคือเกม RPG!!!

ดังนั้นพอสามารถวัดค่าสถานะด้วยกระดานหินได้ เราจึงสามารถอนุมานและทำนายอาชีพในอนาคตของแต่ละตัวบุคคลได้ คนที่เกิดมาพร้อมกับค่าสถานะทางกายภาพที่สูงก็จะมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นนักสู้ และคนที่มีค่าสถานะทางเวทย์มนตร์สูงก็จะกลายเป็นนักเวทย์

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่แยกย่อยของสายพวกนี้ไปอีก นักเวทย์สามารถเป็น ผู้ใช้ธาตุ ผู้อัญเชิญ นักเวทย์ต้องสาป พ่อมด ฯลฯ ส่วนนักสู้มี ผู้ใช้หอก นักรบ นักดาบ ผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ นักธนู เป็นต้น

แล้วสามัญชนล่ะ? สามัญชนสามารถทำอะไรได้?

โดยทั่วไป คนที่ไม่มีค่าสถานะที่โดดเด่นก็จะถือว่าเป็นสามัญชน

ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ห้ามสามัญชนให้ฝึกฝน จะกลายเป็นนักสู้หรือนักเวทย์ก็เชิญ แต่มันยากเป็นอย่างมาก

สําหรับตัวข้า ข้าเป็นคนที่ไม่มีค่าสถานะที่โดดเด่น ดังนั้นจึงถูกระบุว่าเป็นสามัญชน ข้าสงสัยว่าอาชีพเดิมของข้าในชีวิตก่อนหน้าของข้าจะสร้างความแตกต่างในสิ่งที่ข้าเป็นในชีวิตนี้ได้หรือเปล่านะ

จะว่าไป "สตีฟ" จากมายคราฟก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากคนธรรมดาที่มีพลั่วอยู่ในมือ ดังนั้นถ้าเกิดว่ามายคราฟมันผสมเข้ากับการเกิดใหม่ของข้า ข้าอาจจะกลายเป็นนักขุดกระมัง

ที่จริงสามัญชนมีอาชีพแยกย่อยอยู่อีก นั่นคือ ชาวนา คนตัดไม้ คนงานและอื่นๆ ข้าได้ยินมาว่า นักขุดเหมือง เองก็เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพย่อยในสามัญชน

ขณะที่ข้านั่งอยู่บนเตียงที่เกือบหักในห้อง ข้าก็ใคร่ครวญถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นข้างนอกตอนนี้

ข้าแน่ใจว่าก่อนที่ข้าจะถูกโยนเข้ามาในห้องซุกซน ตอนนี้คงจะเป็นเวลา "ทำงาน" งานข้าคือการดูแลฟาร์มและทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากมีเด็กกําพร้าจํานวนมาก ข้าจึงสงสัยว่าการขาดงานของข้าไปจะสร้างความแตกต่างอะไรหรือเปล่า?

"เอาเถอะ คงไม่มีใครต้องการข้าที่ฟาร์มอยู่แล้ว" ข้าพึมพํากับตัวเองขณะที่ข้าเปิดกระเป๋าของข้าและหยิบขนมปังออกมา

จากนั้นข้าก็หยิบโต๊ะคราฟต์ออกมาวางบนพื้น ในตอนแรก โต๊ะคราฟ เป็นเพียงบล็อกเล็กๆ ที่อยู่ในมือของข้า แต่เมื่อมันไม่ได้สัมผัสกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของข้าอีกต่อไป มันก็เริ่มกลายเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณหนึ่งเมตรอย่างรวดเร็ว

ข้าคิดว่าความสามารถนี้จะนับว่าเป็นความพิเศษมากใช่ไหม? แต่ถึงข้าจะมีเจ้าสิ่งนี้อยู่ มันก็ไม่เปลี่ยนค่าสถานะของข้าในกระดานหินเลย ตัวข้าจึงไม่ได้มีความแตกต่างอะไรจากสามัญชนทั่วไป

ดังนั้นความสามารถของข้าที่ทำาให้ข้าสามารถเปลี่ยนอะไรก็ได้ให้เป็นบล็อกและเก็บไว้ในพื้นที่พิเศษ ก็มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ ข้าเรียกเจ้าพื้นที่พิเศษนี้ว่า "กระเป๋าเก็บของ" เอาเลย หัวเราะข้าสิที่ข้าตั้งชื่อธรรมดาแบบนี้

ไม่ว่าจะมีของกี่สิ่งหรือหนักแค่ไหน ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายของข้าเลยเมื่อแปลงมันเป็นบล็อกด้วยความสามารถพิเศษของข้า

แม้ว่านี่จะคล้ายกับ "กระเป๋ามิติ" ในโดเรม่อน แต่กระเป๋าของข้ามีขีดจำกัดความสามารถอยู่

วัตถุปกติที่เปลี่ยนเป็นบล็อกมีขีดจำกัดทับซ้อนกันอยู่ที่หกสิบสี่ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ข้าสามารถมีบางสิ่งได้มากถึงหกสิบสี่อย่าง จากนั้นข้าก็สามารถหาของมันทับกันเพิ่มได้ ขีดจํากัดของที่ทับซ้อนกันจะแยกหมวดหมู่ของด้วย บางครั้งมันจึงไม่ทับซ้อนกัน

ส่วนของที่ข้าเก็บได้ทั้งหมดมีอยู่สี่สิบช่อง สามสิบช่องจะอยู่ใน 'กระเป๋า' และสิบช่องคือ 'เข็มขัด' หรือเหมือนกับแถบเครื่องมือในเกมมายคราฟ นอกจากนี้ยังมีตารางการคราฟ 2×2 ที่เหมือนกับเกมมายคราฟ

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ความสามารถของข้าจะแปลงเกือบทุกอย่างเป็น 'บล็อก' ต่อให้มันจะมีรูปร่างอะไรมาก่อนก็ตาม

ตัวอย่างเช่นฟืนชิ้นเล็กๆ เมื่อข้านำมันออกจากกระเป๋าเก็บของ มันก็จะกลายเป็นบล็อกไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ปรากฏการณ์นี้ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้นข้าจึงต้องมีสติเมื่อข้าต้องการวางสิ่งต่างๆ ออกจากกระเป๋าเก็บของ

เครื่องมือโดยทั่วไปจะไม่เปลี่ยนเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมหรือมีลักษณะเป็น 'บล็อก' เหมือนกับในเกมมายคราฟ ดังนั้นมันจึงทำให้ข้าสับสนไม่ใช่น้อย

ข้าขอตั้งชื่อกระบวนการนี้ว่า "การเปลี่ยนแปลง"

มีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อยู่อีก

เมื่อข้าเล่นมายคราฟ ตัวข้าได้ติดตั้งม็อดแผนที่และม็อดบอกค่าความเสียหายไว้ ดูเหมือนว่าพวกมันก็จะติดตามข้าเข้าสู่โลกใหม่นี้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถพิเศษของข้าด้วย

แผนที่ย่อช่วยให้ข้าสามารถดูสิ่งต่างๆ ด้วยมุมมองบุคคลที่สามบนแผนที่ นอกจากนี้ยังแสดงให้ข้าเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรหรือไม่เป็นมิตรรอบตัวข้า ระยะของมันเป็นวงกลมที่มีรัศมีหนึ่งร้อยเมตร ฟังดูเยอะ แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย

ส่วนเรื่องม็อดค่าความเสียหาย มันก็ช่วยบอกข้อมูลพื้นฐานของคนอื่นๆ ให้ข้า

เช่น

[เกรซ

ระดับ 3

เลือด 12/12

สถานะ: ปกติ

สมญานาม: ไม่มี]

ก็ไม่ได้ละเอียดมาก แต่แค่นี้ถือว่าพอแล้ว มันแทบไม่ต่างกับเกม RPG ทั่วไปเลย

ด้วยสองสิ่งนี้ มันก็ทำให้ข้าตระหนักถึงอะไรบางอย่าง บางทีม็อดอื่นๆ ที่ข้าติดตั้งอาจผสมเข้ากับโลกใบนี้แล้ว แต่ในตอนนี้ข้ายังหาพวกมันไม่พบ ข้ารู้สึกขอบคุณอย่างมากสําหรับผู้ที่พัฒนาและสร้างม็อดเมื่อข้ายังมีชีวิตอยู่ในฐานะเกมเมอร์ ตอนนี้ข้าขอบูชาพวกเจ้าเลยนะ

ขณะที่ข้าเคี้ยวขนมปัง ข้าก็วางหินกรวดสามก้อนและไม้สองอันบนโต๊ะคราฟเพื่อประดิษฐ์พลั่วหินขึ้น ข้าขโมยฟืนสองสามชิ้นมาและแปลงเป็นบล็อกไม้ซุง และหลังจากประดิษฐ์พลั่วไม้แล้ว ข้าก็สามารถแอบขุดก้อนหินกรวดจากก้นแม่น้ำที่อยู่ใกล้กับสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าได้

เจ้าในตอนนี้คงกำลังคิดสงสัยว่าข้าจะใช้พลั่วหินทำอะไรในห้องซุกซนนี้สินะ? ข้าก็ต้องใช้มันแหกห้องออกไปอยู่แล้วสิ!

ในเมื่อข้าต้องกลับมาที่ห้องก่อนรุ่งสาง ในเวลานี้ข้าก็สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการน่ะสิ

เช่น ไปเดินเล่นบนภูเขา

ถ้าข้า 'ขุด' ผนังแล้ว วิธีแก้ก็แค่วางบล็อกเดิมกลับไปเท่านั้น! ข้ากำลังจะขุดออกไปแล้ว!

ผู้เล่นมายคราฟทุกคนล้วนรู้กันดีว่าประตูที่ล็อคอยู่ไม่มีความหมาย

สัตว์ประหลาดโดยทั่วไปจะปรากฏขึ้นทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน แต่ช่วงกลางคืนนั้นถือได้ว่าอันตรายกว่า ดังนั้นข้าอาจจะพบพวกมันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลนัก เพราะมากที่สุดที่ข้าจะต้องต่อสู้ก็เป็นแค่สไลม์ระดับต่ำมาก

ตราบใดที่ข้าหลีกเลี่ยงการเข้าไปในภูเขาที่ลึกเกินไปก็ไม่น่ามีปัญหา

แต่ข้าต้องการทดลองพลังและความสามารถของข้า ดังนั้นภูเขาเป็นสถานที่ตอบโจทย์มากที่สุด

เมื่อเจ็ดปีก่อน ในช่วงเวลาที่ข้าเข้ามาในโลกนี้ สัตว์ประหลาดชนิดใหม่ได้ปรากฏขึ้น

พวกมันคือ "สัตว์ประหลาดบล็อค" หรือก็คือ มอนสเตอร์ในมายคราฟ

ข้าได้ยินเรื่องนี้จากนักบวชผู้ที่อุ้มข้าในบทที่ 1

การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของสัตว์ประหลาดบล็อก ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับการปรากฏตัวของข้าในโลกนี้ ดังนั้นพวกมันจึงอาจมาพร้อมกับตัวข้า

มีข่าวแพร่สะพัดว่าเมืองทางตอนใต้ถูกทําลายอย่างสมบูรณ์เพราะฝูงครีปเปอร์จำนวนมากออกมาจาก 'ดันเจี้ยน' และทําลายกําแพงเมือง เพื่อปล่อยให้สัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ ทั้งหมดบุกเข้าไปในเมืองช่วงกลางดึก

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ข้าต้องการทดลองเป็นเพราะของที่ข้าเก็บไว้ในคลัง

เมื่อข้าเกิดใหม่ในโลกนี้ ไอเท็มที่ข้าได้ถือไว้ในมายคราฟมาพร้อมกับตัวข้า

ตอนนี้ตัวข้ามีโต๊ะร่ายมนตร์ 1 ช่อง แท่งเบลซ 13 ชิ้น ก้อนหินเรืองแสง 64 ชิ้น ดินเนเทอร์ 4 ชิ้น หูดเนเทอร์ 2 ชิ้น เมล็ดแตงโม 1ชิ้น ทรายวิญญาณ 6 ชิ้น ก้อนเรดสโตน 64  ชิ้นและมันฝรั่ง 13 ชิ้น

ข้าคงไม่จำเป็นต้องอธิบายใช่ไหมว่าของแต่ละอย่างคืออะไร? ไม่มีชิ้นไหนเลยที่ข้าสามารถนําออกจากกระเป๋าเก็บของได้

เฮ้อ...ข้าได้แต่หวังว่าตัวข้าจะมีฐานลับไว้เก็บของพวกนี้นะ

ทันใดนั้นข้าก็ได้ยินเสียงเคาะสามครั้งจากหน้าต่างของห้องเด็กซุกซน

ข้ามองดูแผนที่และเห็นว่าเป็นเกรซที่อยู่ข้างนอก

ข้าเปิดหน้าต่างและถามว่า "มันถึงเวลาอาหารเย็นแล้วไม่ใช่เหรอ? เจ้ามาทำอะไรที่นี่? เจ้าไม่ไปทานข้าวเย็นหรือ?"

เกรซผลักอะไรบางอย่างเข้าไปในมือของข้าและจากไปหลังจากพึมพําอย่างรวดเร็ว "...สำหรับเจ้า"

โอ้ มันเป็นขนมปังชิ้นหนึ่ง

ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด