ตอนที่แล้วเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 2 - การเกิดใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 4 - นี่คือการโกงหรือเปล่า?

เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 3 - เอนเดอร์แมนกลับชาติมาเกิด?


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

เล่มที่ 1 บทที่ 3 - เอนเดอร์แมนกลับชาติมาเกิด? (ขอเปลี่ยนสรรพนามเป็นข้า เจ้า เริ่มจากตอนนี้เลยนะครับ)

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อข้าอายุเจ็ดขวบ

"ไอ้ตัวประหลาด!"

"สัตว์ประหลาด!"

"'งั้นพวกนายก็คงรู้ใช่ไหมว่าสัตว์ประหลาดจริงๆ แล้วแข็งแกร่งกว่าพวกนายทุกคนรวมกันเสียอีก?" ข้าในตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าเกรซกับอันธพาลหกคนในห้องโถงของสถานเลี้ยงเด็กกําพร้า

เฮ้อ ตอนนี้ข้าดันเผลอทำน้ำหกเต็มพื้นเสียแล้ว โชคดีนะที่ข้าสกัดมันไว้ทัน ก่อนจะโดนตัวเกรซ

"ไอ้เจ้าชาวบ้านที่ไร้ประโยชน์อย่างเจ้ามาทําอะไรที่นี่? เจ้าไม่เห็นเหรอว่าข้าเป็นนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่!?"

“ใช่แล้ว มิตตี้ยิ่งใหญ่ที่สุด!”

"ไสหัวไปซะเจ้าชาวบ้านโง่ๆ" "ใช่ โง่" "ไอ้โง่!"

.

พอโดนด่าบ่อยๆ ข้าก็ชักเริ่มจะรู้สึกไม่สบอารมณ์เสียแล้ว "เฮ้อ แค่จุดเทียนด้วยเวทมนตร์ได้ก็ถือว่าเจ้าเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่เลยเหรอ? เจ้าน่ะมันก็แค่พวกอันธพาลที่ไม่โตเท่านั้นแหละ" จากนั้นข้าก็กวาดนิ้วที่ยื่นออกมาเหนืออันธพาลทุกคนทั้งหมดในห้องโถง "พวกเจ้าทั้งห้าตอนนี้ก็แทบไม่ต่างกับกูนี่ส์เลย เป็นกูนี่ส์ไร้ขนด้วย"

กูนี่ส์คือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งบนโลกใบนี้ พวกมันมักจะถูกใช้เป็นคำสบถหรือดูถูกในการพูดคุย

อืม...ข้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดีนะ...เผ่าเช่นมนุษย์และเอลฟ์ที่มีขนจํานวนน้อยนิดบนร่างกายมักจะถูกดูถูกว่ากูนี่ส์ไร้ขน หากเทียบกับโลกก่อนก็เหมือนดูถูกว่ามันสุกรหรือสัตว์เดรัจฉาน

สาเหตุที่มันด่าแล้วสื่อว่าเป็นเพียงสุกร ก็เพราะกูนี่ส์เป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งที่ผลิตอะไรเลยไม่ได้นอกจากขน มันคล้ายกับแกะบนโลก ที่มนุษย์มักจะตัดขนของแกะ แต่ความแตกต่างระหว่างแกะและกูนี่ส์คือ พวกมันแทบไม่มีเนื้อเลย

ดังนั้นพอกูนี่ส์ผลิตออกมาได้แค่ขน นอกจากขน เจ้ากูนี่ส์ก็เป็นเพียงสัตว์ที่ไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง

"เราไม่ใช่กูนี่ส์ไร้ขน!" "ไม่ใช่กูนี่ส์ไร้ขน!" "เรามีผมนะ!"

"โอ้ย ถึงพวกเจ้าจะมีผม พวกเจ้าก็เป็นแค่กูนี่ส์นั่นแหละ" ข้าส่งหมัดฮุคไปอีกดอก

แม้ว่ากูนี่ส์จะสามารถผลิตขนได้ แต่คุณภาพของขนก็แย่มากและปริมาณขนที่พวกมันสามารถผลิตได้นั้นก็น่าขันนัก โดยทั่วไปแล้ว มันเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งที่สร้างมูลค่าได้น้อยมาก นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูกูนี่ส์ยังค่อนข้างสูงจนถึงจุดที่การเลี้ยงมันแทบจะไม่ทํากําไรเลย

ทุกคนที่มีสมองครึ่งหนึ่งคงเลือกไปทำฟาร์มขนแกะแทนแล้ว

ใช่แล้ว โลกใบนี้มีแกะและวัวคล้ายกับโลกเก่าของข้า อย่างไรก็ตาม พวกมันมักจะมีสีที่เป็นเอกลักษณ์มากอย่างมีขนสีฟ้าหรือสีชมพู

"อ...ไอ้เจ้าชาวบ้านโง่!" "บัดซบ...เจ้ากําลังปกป้องสัตว์ประหลาดตัวนั้นหรือไงกัน!?"

"การปกป้องผู้อื่นจากอันตรายมันมีอะไรผิดกัน? ข้าเพียงแค่ปกป้องเกรซจากพวกเจ้า ไม่ใช่ธุระของพวกเจ้าเสียหน่อย" ข้าจ้องมองไปยังพวกอันธพาลและตอบสวนกลับไป

โอ้ เด็กน้อยพวกนี้คิดว่าจะเถียงกับข้าชนะหรือไง? จิตใจของข้าน่ะมีอายุถึงสามสิบเจ็ดปีเชียวนะ

"ไสหัวไปเลย! พวกเรากําลังจะกําจัดสัตว์ประหลาดตัวนั้นด้วยความยุติธรรม!" "กลับใจเสียเถิด!" "ไปลงนรกซะไอ้บัดซบ!"

พวกอันธพาลดูเหมือนจะโกรธมาก

จากนั้นอันธพาลที่ตัวสูงที่สุดก็ถือไม้ในมือพร้อมกับก้าวออกจากกลุ่มอันธพาล

"ข้าคือมิตตี้! คนที่จะกลายเป็นผู้กล้าเมื่อข้าเติบใหญ่ขึ้น! ข้าจะทําลายเจ้าทั้งสองในนามของความยุติธรรม!" พอกล่าวจบ มิตตี้ก็เริ่มร่ายค่าถาใส่พวกข้า

ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเจ้ามิตตี้หัวสมองไม่ดีคนนี้คิดยังไงถึงกล้าร่ายเวทมนตร์ขณะที่ยืนนิ่งอยู่หน้าศัตรู เขาคิดว่าเขากำลังทำบ้าอะไรอยู่กัน?

คิดว่าตนเองร่ายคาถาได้รวดเร็วขนาดนั้นเหรอ? แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้นเลย มิตตี้กำลังร่ายคาถาลมอันแสนยาวเหยียดอยู่

ข้ารอสองสามวินาที มองดูมิตตี้ที่กำลังร่ายและยกหมัดต่อยเข้าไปที่ลำไส้ของเขา

"อั๊ก!?" "ไอ้ใจร้าย!" "บัดซบเอ้ย!"

ขณะที่มิตตี้กลิ้งลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด อันธพาลคนอื่นๆ ก็เริ่มกรีดร้องและตะโกนด้วยคําหยาบคายที่แตกต่างกัน ส่วนมิตตี้ได้ถูกเพิกเฉยไปอย่างสมบูรณ์เสียแล้ว เขากลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น บ่อน้ำตาแตกและขดตัวเป็นลูกบอลด้วยความเจ็บปวด

จากนั้นข้าก็หยิบไม้ของมิตตี้ที่เขาใช้เป็นคทาออกมาและทุบศีรษะของพวกอันธพาลทุกคนเรียงตัว

พวกมันแยกย้ายกันไปทันทีและวิ่งหนีไป ก็ปกติดี

พอเสร็จแล้ว ข้าก็ขว้างไม้ออกจากหน้าต่างที่เปิดอยู่ เดินผ่านมิตตี้ที่ยังคงขดตัวอยู่บนพื้น ข้ายืนอยู่ข้างหน้าเกรซที่นั่งอยู่

"เจ้าเป็นอะไรไหม? โดนฉีดน้ำใส่หรือเปล่า?" ข้ามองดูเกรซอย่างใกล้ชิด

ผมสีดําที่เต็มไปด้วยดวงดาวของนางดูเหมือนจะไม่เปียกและไม่มีร่องรอยของน้ำบนเสื้อผ้าของนางเช่นกัน

บางทีนางคงตกใจอยู่กระมัง

"...แว่นตา"

"โอ้ อยู่ตรงนี้" ข้าหยิบแว่นตาที่ตกลงมาบนพื้นแล้วยื่นให้เกรซ

นางหยิบแว่นตาที่ข้าส่งไปให้และหลังจากแน่ใจว่ามันไม่มีอะไรผิดปกติ นางก็สวมมันไว้บนใบหน้าของนางพร้อมกับยกศีรษะขึ้นมาจ้องหน้าข้า

"...ข้าไม่เป็นอะไร"

ดวงตาสีฟ้าของนางเปล่งประกายระยิบระยับ ดูเหมือนว่านางจะจงใจยั้งมือไว้ไม่คิดต่อล้อต่อเถียงกับอันธพาลพวกนี้สินะ

อ๊าา สายตาของนางช่างน่ารักเหลือเกิน น่ารักจนข้าจะทนไม่ไหวแล้ว

"ไม่ต้องห่วงหรอก! เจ้าเองก็มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์นะ พอเจ้าอายุครบสิบขวบและเริ่มเรียนเวทมนตร์ พวกนั้นจะเสียใจแน่ที่รังแกเจ้า"

เมื่อมองไปทางเกรซที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้น ข้าก็นึกถึงเวลาและประสบการณ์ของตัวเองที่เคยถูกรังแกมาก่อน

ข้าไม่สามารถปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเช่นนี้ได้

ถึงแม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว ข้าถูกฆ่าโดย 'เอนเดอร์แมนเกรซ' แต่ข้าก็ไม่ถือความแค้นกับนางหรอก

ใช่แล้ว สาวน้อยน่ารักคนนี้ที่เพิ่งถูกรังแกคือ เอนเดอร์แมนที่น่ากลัวผู้ฆ่าข้าด้วยการตีเพียงครั้งเดียว

ส่วนตัวข้าน่ะเหรอ? ดูเหมือนว่าข้าจะกลับชาติมาเกิดในฐานะผู้เล่นมายคราฟ (หรือที่เรียกกันบ่อยว่า "คราฟเตอร์") ในโลกใหม่ที่แปลกประหลาดนี้

ข้าต้องใช้เวลาอย่างมากในการหาข้อสรุปว่าเกรซเป็นเอนเดอร์แมนที่ฆ่าข้า นอกจากนี้ตัวข้ายังมีพลังแห่งการคราฟด้วย

เกรซเองก็ดูเหมือนจะไม่มีความทรงจําใดๆ ในชีวิตก่อนเลย บางทีอาจเป็นเพราะนางคือมอนสเตอร์ที่ถูกโปรแกรมด้วยตัวเลขศูนย์และหนึ่ง

แต่ว่านาดงูจะแตกต่างจากเอนเดอร์แมนทั่วไป...เพราะนางคือเอนเดอร์ผู้หญิงหรือเปล่า?

แถมนางยังกลัวน้ำอีก

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นางได้รับบาดเจ็บทุกครั้งที่สัมผัสกับน้ำ

ส่วนถ้าพูดในแบบของโลกใบใหม่นี้คือ 'เกรซถูกเกลียดชังโดยธาตุน้ำของโลกใบนี้'

สิ่งนี้คือระบบเวทย์มนตร์ของโลกนี้ ซึ่งเหล่านักเวทย์จะเพรียกหาเหล่าธาตุเพื่อขอพลังจากพวกเขา ตัวอย่างเช่นถ้าต้องการลูกไฟ ผู้ใช้ก็จะสวดคาถาเพื่อสื่อสารกับธาตุไฟในชั้นบรรยากาศและพวกเขาก็จะให้ลูกไฟหนึ่งลูก

ธาตุน้ำเองก็เช่นกัน พวกมันมีอยู่ทั่วไป

เช่น น้ำฝน น้ำทะเล น้ำในทะเลสาบ เป็นต้น ทุกครั้งที่เกรซสัมผัสกับน้ำที่มีธาตุน้ำอยู่ข้างใน นางจะได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม 'น้ำแปรรูป' ไม่ได้ถือว่าเป็นธาตุน้ำ ดังนั้นนางจึงปลอดภัยที่จะดื่มน้ำแปรรูป การดื่มน้ำซุป ดื่มน้ำร้อน อาบน้ำร้อนจึงสามารถทำได้เป็นปกติ

นอกจากนี้เกรซยังโกรธทุกครั้งที่มีคนมองมายังที่ดวงตาของนางโดยตรง ผู้ใดที่ทำเช่นนั้นก็จะถูกนางจ้องเขม็งกลับไป

ดังนั้นข้าจึงสร้างแว่นตาพิเศษขึ้นมาเพื่อนางเพียงคนเดียว

ส่วนวิธีการสร้าง ข้าขอเล่าทีหลังแล้วกัน

สรุปก็คือ นางมีสีผมประหลาด แพ้ธาตุน้ำตามธรรมชาติและบรรยากาศแปลกๆ เมื่อมองสายตาของนาง มันจึงทำให้นางมักตกเป็นเป้าของพวกบ้าๆ อยู่เสมอ

เกรซได้รับการปฏิบัติเหมือนกับเป็นเด็กต้องคําสาปของสถานเลี้ยงเด็กกําพร้า ทำให้การทารุณกรรม การกลั่นแกล้ง คำดูถูกก็มักจะพุ่งเป้าไปที่นางเสมอ

จะว่าไปแล้ว เกรซดูจะเทเลพอร์ตไม่ได้สินะ หวังว่าพอนางโตขึ้น นางจะทำได้นะ

"วอลสัน! เจ้าเด็กซน มีเรื่องอีกแล้วเหรอเนี่ย?! คืนนี้เจ้าไปนอนห้องเด็กซนเลย!" เสียงตะโกนของแม่ชีเฒ่าดังก้องไปทั่วห้องโถง

เฮ้อ ยัยแม่เฒ่าเจ้าปัญหาอีกแล้ว

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด