บทที่ 354: หลางซัวผู้โกรธเกรี้ยว
“อืม ถ้าเขาไม่ตอบโต้พวกเราอีกก็คงไม่เป็นไร” เสี่ยวสือโถวพยักหน้ารับน้อย ๆ
หลังจากได้ยินคำพูดของหูเจียวเจียว เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
เขาเชื่อมั่นในคำพูดของพี่สาวคนนี้มาก
…
ในขณะเดียวกัน
เหนือเทือกเขาชางเฟิง
หลังจากที่หลางซัวออกคำสั่งเด็ดขาด กลุ่มภูตหมาป่าก็ได้ลงไปค้นใต้หน้าผากันทุกซอกทุกมุม
เวลาต่อมา ลูกน้องกลุ่มหนึ่งกำลังหมอบอยู่แทบเท้าของผู้เป็นนาย
“หัวหน้า เราค้นหาทั่วหน้าผาแล้ว แต่ไม่พบร่างของผู้หญิงคนนั้นเลย”
“ถึงจะมีศพมากมายอยู่ด้านล่าง แต่ทั้งหมดเป็นศพที่ตายไปนานแล้ว ไม่มีใครตกลงไปเพิ่มอีก…”
เสียงของภูตหมาป่าที่กำลังรายงานอ่อนลงเรื่อย ๆ
พวกเขาสัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาที่ฉายมาจากเหนือหัวของตน
ไม่นานภูตคนหนึ่งก็รวบรวมความกล้าสรุปออกมาว่า
“หัวหน้า ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตาย นางน่าจะยังมีชีวิตอยู่”
แต่หลายคนก็เห็นว่านางตกลงไปกับตาตัวเอง
จากระดับความสูงนั้น แม้แต่ภูตชายก็ร่างแหลกคาที่
ยามนี้ใบหน้าของหลางซัวมืดลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ดวงตาเรียวยาวลึกล้ำเป็นประกายคมกริบ
“ดี! ช่างเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการจริง ๆ!” หมาป่าหนุ่มเปล่งเสียงเย็นเยียบ
ถ้าเขายังคิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้ แสดงว่าสมองของเขามีปัญหาแล้ว
ผู้หญิงสารเลวนั่นเล่นงานเขาไว้เจ็บแสบถึงทรวง!
นางไม่เพียงแค่ทำลายเหมืองหินดำ ยุยงให้ทาสหนีออกไปด้วยกัน แต่นางยังพรากหมอผีเพียงคนเดียวในเผ่าไปด้วย!
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนของแม่จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์
แล้วตอนนี้นางยังทำให้เขาคิดว่านางตายแล้วและไม่ไล่ตามนางอีกต่อไป
แต่หญิงสาวไม่รู้ว่าชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าหมาป่าจะยอมเสียทั้งเวลาและกำลังคนไปมากในการลงไปที่ด้านล่างของหน้าผาเพื่อค้นหาร่างของนาง และค้นพบแผนการของอีกฝ่ายในที่สุด
บัดนี้หลางซัวบดกรามแน่น แล้วกระแทกกำปั้นเข้าใส่บ้านไม้ไผ่ที่อยู่ใกล้เคียง
ปัง!
แค่การโจมตีครั้งเดียวก็ทำให้บ้านไม้ไผ่พังไปครึ่งหลัง!
ไม่นานไม้ไผ่ที่หัก 2-3 ท่อนก็พุ่งออกมาแทงเข้าที่แขนขาของพวกลูกน้อง ทำให้คนที่ถูกลูกหลงส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“อ๊ากกกกก!”
ตอนนี้หัวหน้ากำลังโกรธจัด
พวกเขาไม่เคยเห็นหัวหน้าโกรธมากขนาดนี้มาก่อน
“หาตัวนางให้เจอ!”
“อีนังสารเลวนั่น ถ้าข้าเจอนาง ข้าจะถลกหนัง แล่เนื้อออกทีละชิ้นแล้วป้อนให้ลูกนางกินต่อหน้านางซะ..”
ดวงตาของหลางซัวนั้นดุร้ายและกระหายเลือด พร้อมกับรูม่านตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำดูน่ากลัวอย่างยิ่ง
ภาพที่ปรากฏส่งผลให้เหล่าลิ่วล้อรู้สึกหนาวสั่นพลางคิดว่าผู้หญิงคนนี้ถึงวาระแล้ว นางกล้ามาทำให้หัวหน้าโกรธ ในชีวิตนี้นางจะหาความสงบสุขไม่ได้อีกแน่นอน
“พวกเจ้าจะมัวนั่งบื้ออยู่ทำไม?”
หลังจากชายหนุ่มพูดจบ เขาก็สังเกตเห็นว่ากลุ่มภูตหมาป่าที่อยู่บนพื้นยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“รีบไปจับตัวผู้หญิงคนนั้นมาสิ เจ้าจะให้ข้าไปเองหรือไง?”
“ไม่ ข้าไม่กล้า”
“ไปกันเถอะ...”
พวกลูกน้องพากันตัวสั่นขณะลุกขึ้นจากพื้น แล้วรีบวิ่งออกไปแบบไม่คิดชีวิต
ในตอนนั้นเอง เสียงแหบแห้งของใครบางคนก็หยุดพวกเขาไว้
“ช้าก่อน”
ภูตหมาป่าหันกลับมาเห็นว่าเป็นอูหลิวที่รั้งพวกตนไว้ ดังนั้นภูตทั้งหมดจึงรีบก้าวออกไปให้พ้นทาง
“อูหลิว เจ้าหมายความว่ายังไง?” สีหน้าของหลางซัวไม่ค่อยสู้ดีนัก ในขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เจ้าจะแทรกแซงการตัดสินใจของข้างั้นหรือ?”
น้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชาและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“หัวหน้า ข้าไม่อยากยุ่งกับการตัดสินใจของท่าน แต่ตอนนี้เหมืองหินดำของเผ่าถูกทำลายยังไม่ได้รับการซ่อมแซม สิ่งสำคัญคือเราต้องซ่อมแซมเหมืองหินดำให้เร็วที่สุด” ชายชราเดินมาจับไหล่ภูตหมาป่าคนที่ได้รับคำสั่ง พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยกับผู้เป็นนาย
ปัจจุบันหลังจากที่มีเหตุการณ์เหมืองถูกทำลาย เวลาก็ผ่านไปกว่า 1 เดือนแล้ว แต่เหมืองหินดำก็แทบจะไม่ได้รับการซ่อมแซมเลย
เพราะว่าทุกคนในเผ่าถูกหลางซัวส่งไปค้นหาศพของจิ้งจอกสาวที่ด้านล่างหน้าผา
เขาอดทนรอให้หัวหน้าเผ่าทำตามใจตัวเองมาเดือนหนึ่งแล้ว
ตอนนี้ชายชรารู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตาย เขาจะต้องไม่ปล่อยให้หลางซัวเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้อีกและทำให้แผนของตนต้องคลาดเคลื่อน
“คำก็เหมืองหินดำ… สองคำก็เหมืองหินดำ แล้วเมื่อไหร่มันจะซ่อมเสร็จ!!” ใบหน้าของหลางซัวเต็มไปด้วยความโกรธ และแววตาของเขาก็บ่งบอกว่าหมดความอดทนแล้ว
เขารอแทบไม่ไหวที่จะได้หั่นร่างผู้หญิงคนนั้นออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อบรรเทาความเกลียดชังในใจของตน
“เมื่อข้าจับผู้หญิงคนนั้นมาได้ ข้าจะนำทาสทั้งหมดที่นางเอาไปกลับมา หลังจากนี้การซ่อมแซมเหมืองหินดำจะเป็นเรื่องง่าย ทำไมเจ้าต้องรีบร้อนซ่อมมันด้วย” หมาป่าหนุ่มโบกมืออย่างกระวนกระวาย และเขาไม่ได้ตั้งใจฟังอีกฝ่ายเลย
หากจะพูดให้ถูกก็คือตอนนี้เขาไม่รับฟังใครทั้งนั้น โดยที่ในดวงตาสีเขียวมีเพียงความกระหายเลือด
เมื่ออูหลิวเห็นสภาพบ้าคลั่งของอีกคน นัยน์ตาของเขาก็เป็นประกายด้วยความไม่พอใจ เขาจึงขมวดคิ้วพร้อมกับตะโกนเสียงดัง
“หัวหน้า!”
วินาทีนั้นตาของชายแก่สบกับรูม่านตาสีเขียวของหลางซัว ทำให้ดวงตาของฝ่ายที่ถูกจ้องมองแข็งค้างอยู่ครู่หนึ่ง
“หัวหน้า เรื่องนี้เราไม่ควรรีบร้อน รอให้เหมืองหินดำซ่อมเสร็จก่อนดีกว่า แล้วค่อยเอาอาวุธของเราไปใช้ จากนั้นท่านจะจับใครก็ได้ตามที่ท่านต้องการ”
เสียงที่อูหลิวพูดนั้นดังก้องอยู่ในหูของหัวหน้าเผ่าหมาป่า ราวกับว่ามันแฝงไปด้วยอาคมอันรุนแรง
แล้วความอาฆาตแค้นในดวงตาของหลางซัวได้จางหายไปอย่างสมบูรณ์
จากนั้นชายหนุ่มลดสายตาลงต่ำ ทำให้ยากที่จะมองเห็นอารมณ์ของเจ้าตัว ณ ตอนนี้
แม้แต่เสียงที่เคยคลั่งก็สงบลงไป แล้วร่างของเขาก็แข็งทื่อชั่วขณะหนึ่ง
“เอาล่ะ เจ้าจะทำอะไรก็ทำ”
ทางด้านอูหลิวเม้มริมฝีปากพลางกุมมือแน่น ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“หัวหน้าเป็นคนฉลาด ข้าจะจัดคนไปซ่อมแซมเหมืองหินดำเดี๋ยวนี้เลย”
เหมืองหินดำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในความคิดของชายชรา
ในตอนแรก อูหลิวมองเห็นความกระหายเลือดในตัวของหลางซัวและใช้มันเพื่อบงการเขา ทำให้เขาสามารถช่วยให้ตนบรรลุเป้าหมายได้
แต่ภูตอีกกาเฒ่าคาดไม่ถึงว่าภายใต้การควบคุมของตัวเอง จิตอาฆาตของชายหนุ่มก็ยังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการกระทำของเขาก็โหดร้ายป่าเถื่อนมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งเขาเกือบจะกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร
ตอนนี้ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะเชื่อฟังคำพูดของเขาด้วยซ้ำ
มันทำให้เขาต้องเร่งแผนการให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นกว่าเดิม และเมื่อเขาไม่สามารถควบคุมอีกฝ่ายได้ หมาป่าตัวนี้ก็จะไร้ประโยชน์
นั่นหมายความว่ามันถึงเวลาตายของหลางซัวแล้วเช่นกัน
หลังจากที่อูหลิวพูดจบ ดวงตาอันดุร้ายของเขาก็มืดลง
ก่อนที่เขาจะจากไปพร้อมกับภูตหมาป่าที่อยู่รอบตัว โดยทิ้งผู้เป็นหัวหน้าเผ่าไว้ตามลำพัง ขณะนั้นหมาป่าหนุ่มยืนอยู่ท่ามกลางหิมะเป็นเวลานาน ราวกับว่าเขาไม่กลัวความหนาวเหน็บและไม่รู้สึกถึงความเย็นที่กัดกินผิวหนัง
ส่วนภูตหมาป่า 2-3 คนที่อยู่ด้านหลังละสายตาจากหลางซัวแล้วถอนหายใจยาว
“เหล่าอู ขอบคุณที่มาช่วยพวกเรา”
“วันนี้หัวหน้าน่ากลัวมาก ข้าคิดว่าตัวเองจะต้องตายแล้ว!”
“ใช่ ใครจะไปรู้ว่าหัวหน้าจะหมกมุ่นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นมาก นางก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง...”
ในสายตาของลูกน้อง หัวหน้าคือสิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือดและโหดร้ายที่สุด แต่เหล่าอูกลับตรงกันข้าม เขาเป็นคนจิตใจดีและเป็นมิตรที่สุด
นอกจากนี้เขายังช่วยทุกคนจากเงื้อมมือของหัวหน้าได้ตั้งหลายครั้ง
หลังจากที่ภูตหมาป่าละสายตาจากหลางซัว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดคุยและแสดงความขอบคุณต่ออูหลิว
“ฮึ”
มีเพียงเสียงแผ่วเบาดังออกมาจากเสื้อคลุมสีดำกว้าง
ภายใต้เงามืด ชายชรายกมุมปากขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย