ตอนที่แล้วบทที่ 43
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 45

บทที่ 44


บทที่ 44

สวี่ล่ายอยากแทรกแผ่นดินหนี เขาไม่มีอาจารย์สอน ไม่มีใครคอยชี้แนะ อาศัยความสามารถของตัวเองฝึกฝนทีละเล็กทีละน้อย ดังนั้นจะไปรู้เรื่องพื้นฐานเช่นนี้ได้อย่างไร?

สวี่ล่ายเกาหลังศีรษะอย่างเขินอาย พยักหน้าให้น่าหลันซือเยี่ยนอย่างเป็นกันเอง แสดงท่าทีว่าตนได้ยินแล้ว

“พี่ชายฟาง เตาหลอมที่ดีนอกจากช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จแล้ว บางเตายังมีผลพวงพิเศษ ด้วยเหตุนี้ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลจึงพิถีพิถันในการเลือกเตาหลอมมาก”

คำตอบจากความปรารถนาดีของน่าหลันซือเยี่ยน ทำให้หัวใจของสวี่ล่ายรู้สึกอบอุ่น

แม้ว่าเขาจะไม่เห็นรูปลักษณ์หน้าตาของน่าหลันซือเยี่ยนชัดๆ แต่นางก็ได้ทิ้งความทรงจำดีๆไว้ในใจเขาอย่างลึกล้ำ

สวี่ล่ายยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าอีกครั้ง แสดงว่าเข้าใจ

ณ ขณะนี้ ผู้ทดสอบที่ได้รับการประเมินทุกคนพลิกฝ่ามือ ‘พรึ่บ พรึ่บ’ เพลิงฟ้าดินหลากสีปรากฏขึ้น

“ได้ไงกัน?” สวี่ล่ายอึ้งไปพักหนึ่งไม่คาดคิดว่าสาวกจากทุกตระกูลในที่นี้ ทุกคนจะมีเพลิงฟ้าดินในครอบครอง

“เหอ เหอ ดูท่าพวกตระกูลใหญ่คงทุ่มเงินไม่น้อยเพื่อคว้าพวกมันมา แล้วมอบให้ลูกหลานตัวเองมาทดสอบในครั้งนี้”

สวี่ล่ายแอบส่ายหัว จากนั้นมุมปากยกโค้งงอเล็กน้อย  “ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็น! ว่าเพลิงฟ้าดินที่แท้จริงมันเป็นยังไง!”

“เพลิงต้านมังกร!”

สวี่ล่ายพลิกฝ่ามือตัวเอง โคจรกระแสปราณบริสุทธิ์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม……

“เพลิงต้านมังกร! เพลิงต้านมังกร......”

ไม่ว่าสวี่ล่ายจะเรียกร้องอย่างไร เพลิงต้านมังกรในตันเถียนก็ยังคงเวียนว่ายเอื่อยเฉื่อย ไม่ฟังคำสั่งเลย

“เฮ้ย! นี่เจ้าจงใจกลั่นแกล้งข้าใช่ไหม?” ตอนนี้สวี่ล่ายทั้งโกรธและสับสน เวลานี้คือการโอ้อวดเพลิงฟ้าดิน!

อย่างไรก็ตาม เพลิงต้านมังกรกลับผิดแปลกไป ไม่เพียงไม่ฟังการเรียกของสวี่ล่าย แต่ยังเมินเขา เฉกเช่นเดียวกับตอนเขาหลอมรวมเพลิงฟ้าดินเข้ากับตัวเองในครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม โชคดีที่เพลิงต้านมังกรไม่ได้เกิดการต่อต้านและอาละวาดฆ่าเจ้าของๆมัน มิฉะนั้นสวี่ล่ายจะพบโศกนาฏกรรม

“พรืด! ฮ่าฮ่า! ไอ้ผีอัปลักษณ์นี่ไม่มีเพลิงฟ้าดินหรอกหรือ?”

“เหอ เหอ กะแล้วเขาต้องเป็นคนบ้านนอก”

“ข้าพนันได้เลยว่า เจ้าคนบ้านนอกนี่ต้องยืมใช้ไฟอำพันแน่นอน”

เสียงหัวเราะของสาวกรอบข้าง กระแทกแก้วหูของสวี่ล่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า สวี่ล่ายมึนงงรู้สึกว่าอีกาดำบินอยู่เหนือหัวตัวเอง

“ให้ตายเถอะ!” สวี่ล่ายกัดฟัน ครั้งนี้เขาคงได้พับเสื่อกลับบ้านแล้วกระมัง

แต่ในตอนนี้เอง...

พรึบ!

รัศมีแสงวิญญาณสว่างวาบ จากนั้นเสียงของไฟอำพันก็ดังขึ้น

วู้มมม วู้มมม……

“เฮ้ย พวกเจ้าดูสิ...”

“ไม่ ... ไม่ใช่กระมัง ...”

“นั่น...”

สวี่ล่ายหันศีรษะไปตามเสียง เห็นเพียงน่าหลันซือเยี่ยนเปิดค่ายกลไฟอำพันใต้โต๊ะทำงาน

ไม่ใช่แค่สวี่ล่าย แม้สายตาของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งหมดจ้องมองที่น่าหลันซือเยี่ยน ใครจะไปคิด ว่าด้วยฐานะใหญ่โตของตระกูลที่มี เธอกลับเลือกใช้ไฟอำพันในการหลอมวัสดุ

สวี่ล่ายแอบยกนิ้วโป้งให้ ผู้ใดเหมาะสมแก่การถูกเรียกว่าเทพธิดา

งดงามหน้าตาดี?

ไม่ใช่!

มีหุ่นดินระเบิด

ก็ไม่ใช่!

เทพธิดาที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ที่สวยงาม หรือร่างกายอันร้อนแรง หากแต่ขอแค่มีบุคลิกอ่อนโยน จิตใจดีเช่นน่าหลันซือเยี่ยนต่างหาก!

ในฐานะตระกูลผู้ประสานค่ายกล น่าหลันซือเยี่ยนย่อมมีเพลิงฟ้าดินระดับสูงเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามเธอในขณะนี้ ไม่ได้นำมันออกมาอวดอ้าง แต่เริ่มใช้งานไฟอำพันธรรมดาๆ

ทำไมเธอถึงทำเช่นนั้นล่ะ? ผู้มีปัญญาจะเข้าใจได้ทันทีที่เห็น ว่าเธอทำเพื่อให้สวี่ล่ายยังคงรักษาศักดิ์ศรีที่เหลือเพียงเล็กน้อยเอาไว้ สถานการณ์ที่น่าอายของสวี่ล่ายได้รับการแก้ไขไปโดยปริยาย

หากทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะสวี่ล่ายมีเย่เสวี่ยหลิงอยู่ในใจแล้ว เกรงว่าในเวลานี้เขาคงใช้วิธีการต่างๆ เพื่อไล่จีบเธออย่างแน่นอน

สวี่ล่ายปรับความคิดตัวเอง เริ่มกลับมามีกำลังใจ ดวงตาเปล่งประกายด้วยความมั่นใจอีกครั้ง

“วู้มมม วู้มมม……”

ไฟอำพันเปิดขึ้น สวี่ล่ายวางเตาหลอมสีเงินและรอให้มันร้อนขึ้น จากนั้นตรวจสอบวัสดุในถาดเงินทันที

“แก่นโลหะ แก่นทองแดง แก่นเงิน ศิลาดำ กระดูกสัตว์...”

สวี่ล่ายพยักหน้า ดูเหมือนพวกมันทั้งหมดจะเป็นแร่ขั้นต้น กระดูกสัตว์ และสมุนไพรบางชนิด

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว สวี่ล่ายยื่นมือออกมาแตะเตาหลอมสีเงินที่กำลังร้อนอยู่

“โอ๊ย~!ร้อนจัง! ฟู่ ฟู่ว ...” สวี่ล่ายรีบชักมือออกอย่างรวดเร็ว แล้วเป่าลมเย็นใส่ฝ่ามือแรงๆ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าเด็กนี่มันบ้าจริงๆ”

“ฮี่ ฮี่ ไอ้โง่ วัดอุณหภูมิบนเตาด้วยมือจะมีประโยชน์อย่างไร”

“บอกแล้วไงว่าเขาเป็นแค่คนบ้านนอก”

เสียงหัวเราะรอบข้างดังขึ้นอีกครั้ง และในครั้งนี้ สวี่ล่ายเพียงยิ้ม และสังเกตสายตาของฝูงชนโดยรอบอย่างระมัดระวัง

ใช่แล้ว ในความเป็นจริงสวี่ล่ายจงใจทำมันโดยเจตนา เขาแค่อยากรู้ ว่าตัวเองตอนนี้ ได้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนจริงหรือไม่?

หาก ‘ไม่’ ก็คงต้องหาจังหวะดีๆต่อไป แต่เมื่อ ‘ใช่’ แล้วก็ต้องทำให้ทุกคนตกตะลึง!

การสังเกตของสวี่ล่ายจบลง เขาเอื้อมมือเดียวไปคว้าของในถาดเงินลวกๆ แล้วโยนทั้งหมดลงในเตาหลอมสีเงิน

“เฮ้ย เฮ้ย ไอ้หมอนี่โง่หรือเปล่า โยนวัสดุมากมายเข้าไปเช่นนั้นได้ยังไง?”

“ข้าเดาว่า เขาคงเสียสติไปแล้ว”

“เจ้าหมอนี่เหมือนจะโยนวัสดุห้าชนิดเข้าไป”

“ฮึ่ม หลอมห้าวัสดุในครั้งเดียว เขาคิดว่าตัวเองเป็นระดับปรจารย์ผู้ประสานค่ายกลหรือไร?” หลินจื่อชิงตะคอกอย่างเย็นชา ไม่พลาดโอกาสผสมโรงด่าทอสวี่ล่าย

สวี่ล่ายไม่สนใจพวกเขา เนื่องจากตัวเองได้กลายเป็นจุดสนใจแล้ว แน่นอนว่าต้องทำบางสิ่งให้ทุกคนตะลึง!

“ฮ่า!” สวี่ล่ายยื่นฝ่ามือกระตุ้นไฟอำพัน เปลวเพลิงปะทุขึ้นในพริบตา

“วู้มมม วู้มมม ...”

“ทักษะหลอมซ้ำซ้อน!?” น่าหลันซือเยี่ยนจ้องมองสวี่ล่ายด้วยความประหลาดใจ อธิบายวิธีการหลอมที่สวี่ล่ายใช้อยู่ในปัจจุบันในประโยคเดียว

“ฮี่ ฮี่ ใช่แล้ว มันคือทักษะหลอมซ้ำซ้อน!” มุมปากของปรมาจารย์ว่านโค้งงอเล็กน้อย พยักหน้าและชมเชย “ข้าเพิ่งพูดไปว่าเขาเป็นศิษย์ของปรมาจารย์เฉิน แล้วจะเป็นแค่คนธรรมดาได้อย่างไร?”

“ทักษะหลอม ... ทักษะหลอมซ้ำซ้อน?”

“นั่นคืออะไร?”

ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แค่เหล่าสาวกที่กำลังทำการทดสอบเท่านั้น แม้แต่ผู้อาวุโสของตระกูลใหญ่ที่กำลังนั่งดูอยู่ ก็เบิกตากว้างไม่ต่างกัน แสดงสีหน้าเหลือเชื่อ

ทักษะหลอมซ้ำซ้อน คือทักษะลับที่สามารถหลอมวัสดุหลายชนิดได้ในเวลาเดียวกัน

ทักษะหลอมซ้ำซ้อนมักใช้เพื่อประหยัดเวลาในการหลอมวัสดุ เป็นทักษะลับสุดยอดที่ใช้เพื่อย่นระยะเวลา

โดยทั่วไปทักษะลับนี้มีไว้สำหรับผู้ที่มีพลังจิตแก่กล้าฐานบำเพ็ญเพียรขั้นสูงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ที่กำลังแสดงมันอยู่นี้คือชายรุ่นเยาว์เท่านั้น นี่ย่อมทำให้ผู้ชมตะลึงโดยธรรมชาติ

น่าหลันซือเยี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็คว้าวัสดุจำนวนหนึ่งและโยนมันเข้าไปในเตาหลอมโดยไม่ได้หันมามองเช่นกัน สองมือกางส่งถ่ายปราณบริสุทธิ์ เริ่มใช้ออกด้วยทักษะหลอมซ้ำซ้อนเฉกเช่นเดียวกัน

“หือ? ไม่เลว สมแล้วที่เป็นชนชั้นสูงที่ได้รับการฝึกมาจากตระกูลผู้ประสานค่ายกล พอมีฝีมืออยู่บ้าง” ปรมาจารย์ไป๋ลูบเคราตัวเอง กล่าวชมเบาๆ

“ใช่ ดูเหมือนในบัญชีรายชื่อขั้นสูงของพวกเรา ในที่สุดก็มีรุ่นผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลที่เหมาะสม” ปรมาจารย์ว่านยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าถี่ๆ

“ฮ่า!”

พลังจิตของน่าหลันซือเยี่ยนเปิดกว้างเต็มที่ มีความตั้งใจอย่างมากที่จะแข่งขันกับสวี่ล่าย

วู้มมม วู้มมม ...

ไฟอำพันลุกโชน อุณหภูมิในอากาศไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิของเหล่าผู้ทดสอบโดยรอบที่ใช้เพลิงภูติและเพลิงสัตว์ร้าย

“ให้ตายเถอะ!” หลินจื่อชิงกัดฟัน ตอนนี้เขากลายเป็นคนนอกอย่างสมบูรณ์ ทำได้แต่ดูสวี่ล่ายและน่าหลันซือเยี่ยนแสดงได้เท่านั้น

ในเวลาเพียงไม่กี่นาที สวี่ล่ายและน่าหลันซือเยี่ยนตะโกนและตบเตาหลอมในเวลาเดียวกัน

ป้าง! ป้าง!

ตามด้วยการเคลื่อนไหวด้วยมือเดียว ห้าวัสดุที่หลอมลอยออกมาอย่างช้าๆ

“ให้ตาย! นั่นพวกเขาหลอมกันเสร็จแล้ว?”

“มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?”

“นี่... นี่พวกเขายังเป็นคนอยู่ไหม?”

สาวกทุกคนที่มาประเมินต่างตกตะลึง บางคนเพิ่งหลอมวัสดุชิ้นแรกเสร็จ

ณ ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลขั้นต้นสองคนเร่งเดินเข้าไป นำวัสดุที่หลอมโดยสวี่ล่ายและน่าหลันซือเยี่ยนออกมามอบให้กรรมการตัดสินที่หน้าเวที

“อืม ไม่เลว ฟางเซี่ยนและน่าหลันซือเยี่ยนมีคุณสมบัติครบถ้วน!” ปรมาจารย์ไป๋ยิ้มเล็กน้อย ประกาศผลโดยตรง

สวี่ล่ายและน่าหลันซือเยี่ยนมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างยิ้มแย้มชื่นชม จากนั้นนั่งลงในท่าขัดสมาธิ ฟื้นฟูปราณบริสุทธิ์ในร่างกาย

ไม่นาน การประเมินรอบสองก็สิ้นสุดลงแล้ว

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลขั้นต้นขึ้นมาบนเวที  นำวัสดุที่ผู้ทดสอบแต่ละคนหลอมมาตัดสิน

“ไม่เลว เกือบทุกคนผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด”

“โฮ่ โฮ่ศิษย์พี่ว่าน ดูท่าพวกตระกูลใหญ่จะมีความสามารถจริงๆ” ปรมาจารย์ไป๋ได้เห็นผลงานเช่นนี้ ก็มีความสุขมากในหัวใจ

“ใช่ ใช่ มีคำกล่าวว่า คลื่นลูกหลังของแม่น้ำแยงซีจะกลืนคลื่นลูกหน้าเสมอ ดูท่าการประชันในวันนี้ ผลลัพธ์คงคาดเดาไม่ได้แล้ว” ปรมาจารย์ว่านชำเลืองมองสวี่ล่ายและน่าหลันซือเยี่ยนด้วยความตั้งใจอย่างสุดซึ้ง

“ดีล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเรามารอดูกัน” ปรมาจารย์ไป๋ยิ้มเล็กน้อย เริ่มประกาศผลการประเมินรอบที่สอง

“การประเมินรอบที่สอง ทั้งหมดผ่าน! ต่อไปเราจะเข้าสู่การประเมินรอบที่สาม หลอมหินประสาน”

แค่เสียงแผ่วลง ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลขั้นต้นอีกกลุ่มก็ถือถาดเงินมา คราวนี้บนถาดเงินแต่ละแผ่นมีแหวนมิติวางอยู่

ทุกคนเข้าใจ ว่าหินประสานต้องใช้วัสดุจำนวนมาก เมื่อการหลอมเสร็จแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงการประสานค่ายกลลงในหิน ถึงจุดนี้ ความต้องการวัสดุจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ในฐานะพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล การยอมให้ใช้วัสดุจำนวนมากในครั้งเดียวก็ถือว่าเป็นการแสดงพลังอำนาจอย่างหนึ่งเช่นกัน

การหลอมหินประสานเป็นทักษะพื้นฐานที่สุดของการประสานค่ายกล หากผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลไม่สามารถหลอมหินประสานได้ เช่นนั้นพวกเขาก็มีแต่ต้องถูกผลักเข้าสังกัดกลุ่มขั้นต้น

ในตอนนี้ เหล่าผู้ทดสอบเริ่มแยกแยะวัสดุเพื่อหลอมเป็นหินประสานที่เหมาะสมกับการสลักค่ายกลลงในครั้งต่อไป

ตัวอย่างเช่น สวี่ล่ายตั้งใจจะประสานค่ายกลไฟ เช่นนั้นหินประสานที่เขาต้องหลอม ก็จำเป็นต้องใช้วัสดุที่มาจากธาตุไฟ

ณ ขณะนี้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่สวี่ล่ายและน่าหลันซือเยี่ยนแม้แต่ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลหลายคนก็เริ่มคาดเดาว่าหินประสานใดที่ทั้งคู่จะหลอม

สวี่ล่ายยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งครุ่นคิด ในท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะหลอมหินประสานระดับ 2 ขั้นสูงสุด

คิดได้แบบนี้ สวี่ล่ายลูบแหวนมิติ นำวัสดุธาตุไฟออกมาและโยนลงเตาหลอมสีเงินแล้วเริ่มหลอม

“อืม? ดูเหมือนว่าหลานชายฟางกำลังวางแผนที่จะหลอมหินประสานธาตุไฟ”

“เอ๊ะ? นี่ไม่ถูกต้อง เหตุใดเขาถึงนำวัสดุบางอย่างที่มีธาตุน้ำเข้าไปด้วย?”

“หรือเขาต้องการจะ...”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด