ตอนที่แล้วบทที่ 42
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44

บทที่ 43


บทที่ 43

เดิมสวี่ล่ายตั้งใจจะปกปิดตัวตนอยู่แล้ว หลังจากได้รับคุณสมบัติผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล ก็จะหาทางตีสนิทตระกูลหลิน เพื่อหาโอกาสที่จะขโมยทักษะฝึกประสานหนึ่งไร้ขอบเขต

แต่ใครจะคิด ว่ารูปลักษณ์น่าเกลียดที่ปลอมแปลงนี้ จะเตะตาคนใจแคบ

“อย่าหยาบคาย หลานชายฟางเซี่ยนเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์เฉิน ในแง่สถานะ ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหลินของเจ้า...”

คำพูดของปรมาจารย์ว่านดังก้องไปทั่วห้องโถงด้านใน มันไม่ต่างกับการดุหลินจื่อชิงอย่างเต็มปากเต็มคำ

เวลานี้ ใบหน้าของหลินจื่อชิงเขียวคล้ำ ไม่คิดเลยว่าผีอัปลักษณ์ที่แต่งตัวเป็นขอทาน จะถูกปรมาจารย์แห่งพันธมิตรให้ความสําคัญมาก เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง

ณ ตอนนี้ สตรีตาฟ้าที่อยู่ด้านข้างค่อยๆ ก้าวมาข้างหน้าและขอโทษ  “ปรมาจารย์ว่านโปรดสงบสติอารมณ์ ศิษย์พี่หลินเพียงเลอะเลือนไปชั่วขณะ ไม่ได้ตั้งใจ ขอท่านอย่าตำหนิเขา”

“อืม ช่างมันเถอะ แต่หากมีครั้งต่อไป ข้าจะไม่ปรานี” ปรมาจารย์ว่านเห็นสตรีตาฟ้าขอร้อง ความโกรธบนใบหน้าเขาผ่อนคลายลงมาก

ไม่รอช้า สตรีตาฟ้าหันมาอีกทาง โน้มตัวเอ่ยขอโทษสวี่ล่าย “พี่ชายฟางผู้นี้ ศิษย์พี่หลินไม่ได้ตั้งใจว่าท่าน โปรดให้อภัยเขาด้วย”

สวี่ล่ายเห็นอีกฝ่ายยอมอ่อนข้อถึงเพียงนี้ ก็ประสานสองกำปั้นตัวเอง คารวะคืน “ผู้แซ่ฟางจะไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ”

“ขอบคุณพี่ชายฟางสำหรับความใจกว้าง ไม่ทราบข้าขอเรียนถามชื่อของพี่ชายได้หรือไม่? โอ้ น้องสาวแซ่น่าหลัน นามซือเยี่ยน”

“ที่แท้ก็แม่นางน่าหลัน ผู้น้อยแซ่ฟาง นามเซี่ยน” สวี่ล่ายตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับคำนับอีกครั้ง

“ข้าขอให้การประเมินของพี่ชายฟางราบรื่น ประสบความสำเร็จในการเลื่อนตำแหน่ง”

“ข้าก็ขอให้เแม่นางน่าหลันโชคดีเช่นกัน”

น่าหลันซือเยี่ยนยิ้มเล็กน้อย ผงกศีรษะตัวเองเบาๆรับคำ

“ฮู้~!” สวี่ล่ายแอบปาดเหงื่อบนหน้าผากตัวเอง ไม่คิดว่าการพูดคุยกับน้องสาวน่าหลันจะเป็นพิธีรีตองอะไรขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม สามารถเห็นได้จากเรื่องนี้ ว่าสตรีที่ชื่อน่าหลันซือเยี่ยนนั้นแตกต่างจากผู้อื่นจริงๆ สวี่ล่ายเกิดความประทับใจในตัวนางเพิ่มขึ้น

“หลานชายฟางเซี่ยน ลุงยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ หลานชายสามารถพักผ่อนได้ที่นี่ การประเมินอย่างเป็นทางการจะพร้อมในอีกสักครู่” ปรมาจารย์ว่านเห็นว่าเรื่องราวได้คลี่คลายแล้ว ก็หันศีรษะมาพูดกับสวี่ล่าย

“ปรมาจารย์ว่าน เชิญทำสิ่งที่ท่านต้องทำเถิด” สวี่ล่ายรีบประสานกำปั้นตอบรับ

“อืม ข้าขอให้หลานชายฟางเซี่ยนผ่านการประเมินอย่างราบรื่น”

“ผู้เยาว์จะทำให้ดีที่สุด”

“โฮ่ โฮ่ ประเสริฐ แล้วข้าจะตั้งตารอชม” ปรมาจารย์ว่านยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและจากไป

“ผีอัปลักษณ์! ข้ากับเจ้าจะได้เห็นดีกัน!” หลังจากปรมาจารย์ว่านจากไป หลินจื่อชิงจ้องสวี่ล่ายด้วยใบหน้าเกลียดชัง แอบสาบานในใจว่าจะหาโอกาสยิงศรดอกนี้ล้างแค้นคืนให้จงได้

สวี่ล่ายกลอกตาและแสร้งทำเป็นไม่เห็น เมื่อไม่มีอะไรทำไปก็หันไปดูรอบๆ

เห็นแค่เพียงห้องด้านในนี้ไม่ใหญ่มาก มีเก้าอี้หินวางเรียงรายอยู่ประมาณ 30 กว่าตัว ไม่ไกลมีโต๊ะขนาดเล็กนับสิบตั้งอยู่ และบนโต๊ะติดตั้งค่ายกลไฟอำพันขนาดเล็กเอาไว้ สมควรเป็นสถานที่สำหรับใช้หลอมหินประสานค่ายกล

อีกทั้งใต้โต๊ะแต่ละตัว ยังมีการติดตั้งค่ายกลป้องกันแยกต่างหาก สวี่ล่ายชำเลืองมองคร่าวๆ พบว่านอกเหนือไปจากผลการป้องกันของค่ายกลแล้ว มันยังส่งผลต่อการดูดซับพลังงานในระดับหนึ่ง

สำหรับเรื่องนี้ สวี่ล่ายเข้าใจดี เพราะระหว่างการหลอมประสานค่ายกล มันย่อมมีความเสี่ยง หากล้มเหลว อาจเกิดแรงระเบิดลุกลามไปโดนผู้อื่น ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีค่ายกลที่คอยดูดซับพลังงาน

เวลาผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม ผู้อาวุโสจากหลายตระกูลพาเหล่าสาวกเข้ามา ไม่นาน ทั้งห้องโถงด้านในก็แออัดไปด้วยผู้คน จนสวี่ล่ายถูกบีบเข้ามุม

ณ ขณะนี้ เสียงฝีเท้าดังขึ้น ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลเดินออกมาจากหลังเวที นอกเหนือจากปรมาจารย์ว่านและไป๋ที่สวี่ล่ายเพิ่งรู้จักแล้ว ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลคนอื่นๆล้วนใส่ชุดคลุมสีดำ และมีดาวบนอกอย่างน้อย 7 ดวงขึ้นไป มองก็รู้ว่าตำแหน่งไม่ต่ำตม

สวี่ล่ายเพิ่งตรวจสอบม้วนเหล็กดำ และทราบว่าชุดคลุมดำแสดงถึงผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลขั้นต้น ส่วนชุดคลุมขาวนั้นอยู่ในระดับปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล

“สวัสดี ปรมาจารย์ไป๋”

“ปรมาจารย์ว่าน ไม่ได้เจอกันนาน”

“สวัสดีปรมาจารย์ทุกท่าน”

ณ ขณะนี้ คนรอบข้างเข้ามาทักทายทีละคน กระทั่งสวี่ล่ายก็ต้องประสานสองกำปั้นแสดงความเคารพพวกเขา

“โฮ่ โฮ่ สวัสดีสหายทุกท่าน ผู้น้อยว่านเฉียนเหลียง เป็นผู้ดูแลพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลประจำรัฐต้าหยาน พวกท่านเกือบทั้งหมดที่นี่ต่างเป็นคนรู้จักเก่าแก่  เพื่อประหยัดเวลา ผู้แซ่ว่านขอไม่เดินคารวะทุกท่านแล้ว” ว่านเฉียนเหลียงยิ้มเล็กน้อย ประสานกำปั้นหมุนไปรอบๆ

“ในอดีต การประเมินระดับของพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลเรา ปกติจะให้แสดงทีละคน แต่วันนี้เนื่องจากชนชั้นสูงของตระกูลและนิกายสำคัญต่างมารวมกันที่นี่ พวกเราจึงถือโอกาสนี้จัดการประชัน ว่าตระกูลหรือนิกายใดนั้นฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลได้ยอดเยี่ยมกว่ากัน”

“แน่นอน นี่มิใช่การประชันกันอย่างไร้ประโยชน์ ใครเป็นผู้ชนะในอันดับสูงสุด ทางพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่เอาไว้ให้แล้ว นั่นคือสามารถเข้าไปในคลังสมบัติ แล้วเลือกบันทึกค่ายกลใดค่ายกลหนึ่งออกไปได้ตามใจชอบ”

เสียงของปรมาจารย์ว่านแผ่วลง ทั่วห้องโถงด้านในก็เดือดพล่านทันที

“อะไรนะ? บันทึกค่ายกล?”

“โอ้พระเจ้า! คาดไม่ถึงว่าจะได้รับบันทึกค่ายกลเป็นรางวัล!”

“สมกับที่เป็นพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล พวกเขาช่างใจกว้าง”

สวี่ล่ายกระพริบตา มองคนรอบข้างที่มีแต่สายตาละโมบ ก็รู้ได้ทันทีว่าบันทึกค่ายกลในคลังต้องไม่ธรรมดา

สวี่ล่ายแอบประหลาดใจ แต่ก็ตั้งใจว่าจะถือโอกาสนี้สร้างแรงผลักดัน โฆษณาตัวเองหรืออะไรทำนองนั้น

“เอาล่ะ ทุกท่านเสียเวลามามากแล้ว พวกเราจะเริ่มการประเมินรอบแรก ณ บัดนี้

ปรมาจารย์ไป๋กระแอมในลำคอและพูดต่อ  “อะแฮ่ม การประเมินครั้งแรก เป็นการทดสอบความรู้พื้นฐานด้านศาสตร์แร่ สมุนไพร วัสดุที่ใช้หลอม และรวมถึงวิธีการประสานค่ายกลตามลำดับ ผู้ทดสอบที่ผ่านได้อย่างราบรื่น จะได้รับสมญานามผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลหนึ่งดาว และเสื้อคลุมผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลสีดำ...”

เพียงแงต่พูดถึงจุดนี้ ปรมาจารย์ไป๋ที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยแทรกขึ้น

“ศิษย์น้องไป๋ ผู้ทดสอบทุกคนที่เข้าร่วมการประเมินผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลในวันนี้ เกือบทั้งหมดเป็นชนชั้นสูงที่ได้รับการฝึกฝนจากตระกูลใหญ่และนิกายต่างๆ ข้าเกรงว่าความรู้พื้นฐานเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องทดสอบอีกต่อไป เพื่อประหยัดเวลา เราข้ามการประเมินครั้งแรก ไปการทดสอบที่สองเลยดีกว่า”

“ศิษย์พี่ว่านพูดถูก เช่นนั้นพวกเราข้ามไปการทดสอบที่สองเรื่องการหลอมกันเลยเถิด”ปรมาจารย์ไป๋ยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าเห็นด้วย

“การประเมินรอบที่สอง เป็นการทดสอบการหลอมเหลววัสดุประสานค่ายกล ขอให้ทุกคนที่เข้าร่วมการประเมิน เลือกโต๊ะทำงานขนาดเล็กด้วยตัวเอง อีกสักครู่ทางเราจะจัดหาวัสดุขั้นต้นมากกว่ายี่สิบชนิดมาให้พวกเจ้าทำการหลอม ใครก็ตามที่สามารถหลอมได้อย่างน้อยห้าชนิด ก็ผ่านการทดสอบนี้”

ปรมาจารย์ไป๋ปรบมือ แปะ แปะ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลขั้นต้นทยอยเดินออกมาจากหลังเวที ทุกคนถือถาดเงินไว้ในมือ บนถาดมีวัสดุขั้นต้นยี่สิบกว่าสีที่แตกต่างกัน

ณ ขณะนี้ ผู้ทดสอบทุกคนที่เข้าร่วมในการประเมินผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล พากันเลือกโต๊ะทำงานที่เหมาะสม พร้อมเริ่มทำการหลอม

สวี่ล่ายไม่รีบร้อน หาตําแหน่งที่ไม่สะดุดตาแล้วยืนแบบสบายๆ แต่ในตอนนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยดังมาข้างหูเขา

“พี่ชายฟาง ข้าขอให้ท่านได้รับชัยชนะ”

สวี่ล่ายหันศีรษะตัวเอง บังเอิญเห็นน่าหลันซือเยี่ยนหันมาหาตัวเองเล็กน้อย

สวี่ล่ายพยักหน้าตอบกลับโดยเร็ว “ข้าก็ขอให้น้องสาวน่าหลันประสบความสำเร็จเช่นกัน”

“ฮึ่ม!”

เสียงแค่นเย็นชาดังขึ้น สวี่ล่ายหันศีรษะมอง และพบว่าหลินจื่อชิงกำลังจ้องมาที่ตัวเองอย่างดุร้าย

“เฮ้อ…” สวี่ล่ายถอนหายใจเล็กน้อย “ยังคิดจะตามหาเรื่องข้าอีก ทำไมคนในโลกนี้ใจแคบนักนะ”

สวี่ล่ายเบือนหน้าหนี คนประเภทนี้ไม่สมควรได้รับความสนใจ

“อะแฮ่ม เอาหล่ะ ตอนนี้ผู้ทดสอบทุกคนสามารถจุดไฟอำพัน เริ่มหลอมวัสดุได้”

ปรมาจารย์ไป๋ออกคำสั่ง ผู้ทดสอบทุกคนเต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่า รัศมีแสงวิญญาณสว่างขึ้นและพวกเขาก็หยิบเตาหลอมออกมา

สวี่ล่ายหยิบเตาหลอมสีเงินออกมาอย่างรวดเร็วและเตรียมพร้อมหลอม

อย่างไรก็ตาม……

“ฮี่ฮี่ พวกเจ้าดู ชายผู้นั้นเอาเตาหลอมโอสถออกมา”

“ไม่มีทาง? เป็นเตาหลอมโอสถจริงๆหรือ?”

“ฮ่าฮ่า ชายผู้นี้ไม่ใช่ว่าเขามาทดสอบผิดพันธมิตรกระมัง?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า......”

สวี่ล่ายตกตะลึง ไม่รู้ว่าตัวเองผิดพลาดตรงไหน ก้มมองเตาหลอมสีเงินของตัวเอง จากนั้นมองเตาหลอมของคนอื่นๆ และพบว่ารูปร่างกับสีแทบไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เกือบทุกคนมองตัวเองด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้เกิดความอึดอัดไปทั่วตัว

“พี่ชายฟาง......”

ณ ขณะนี้ เสียงไพเราะเบาๆผ่านเข้ามาในหูของสวี่ล่าย

“ทักษะส่งข้อความลับ?”

สวี่ล่ายผงะเล็กน้อย ถือโอกาสหันหัวไปมอง เห็นเพียงน่าหลันซือเยี่ยนก้มหน้าก้มตา คัดแยกวัสดุบนถาดเงินตัวเอง เตรียมเลือกวัตถุดิบชั้นดีมากลั่น

ทักษะส่งข้อความลับ คือการใช้พลังจิตที่แรงกล้า บีบอัดคำพูดแล้วส่งออกไป มีผู้รับเท่านั้นที่จะได้ยิน  และบุคคลภายนอกไม่สามารถสังเกตเห็นได้

สวี่ล่ายแอบประหลาดใจ ไม่คิดว่าพลังจิตของน่าหลันซือเยี่ยนจะทรงพลังขนาดนี้

“ที่พี่ฟางกำลังใช้อยู่คือเตาต้มยา แม้รูปลักษณ์จะไม่แตกต่างจากเตาหลอมมากนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลส่วนใหญ่ยังคงมีความพิถีพิถันในการเลือกเตาหลอม หากพี่ฟางมีโอกาส ควรหาซื้อเตาหลอมสำหรับหลอมวัสดุจะดีกว่า”

“บัดซบ! ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ขายขี้หน้าผู้คนแล้ว!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด