บทที่ 38

วันนี้ลง 38 39

บทที่ 38

“ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว?”

แม้ว่าสวี่ล่ายจะยังไม่กระจ่างชัดว่าอาวุธระดับสมบัติชั้นยอดเล่มนี้มันยอดเยี่ยมเพียงใด แต่สังเกตจากสายตาอันละโมบของผู้คนรอบข้าง ก็จะเห็นได้ว่า สมบัตินี้ต้องไม่เลวแน่ๆ

หลานซินถือกระบี่ไว้ในมือข้างหนึ่ง แสดงให้ทุกคนได้ชม

“กระบี่ดาวตกแม่ลูกเล่มนี้ ตัวกระบี่ยาวสามอิงฉื่อ กว้างสามชุ่น ทั้งเล่มเป็นสีคราม น้ำหนัก 12 จิน ใช้เหล็กดำริมฝั่ง , หินมรกต , ผลึกคราม , หินแก่นเมฆา และกระดูกของสัตว์ปีศาจระดับ 2 กับ 3 ในการหลอม ผู้สร้างคือรองผู้นำพันธมิตรการหลอมปรมาจารย์ซ่ง โดยมีปรมาจารย์หวางจากพันธมิตรประสานค่ายกลให้ความร่วมมือ”

“อะไรนะ สองปรมาจารย์ร่วมมือกันสร้าง?”

“ของชิ้นนี้เป็นถึงอาวุธชั้นยอด แต่พวกเขายังกล้าเสี่ยงทำการประสานค่ายกลลงไป?”

ทันทีที่ได้ยินว่ากระบี่นี้ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือของสองปรมาจารย์ ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ

“หือ? มีกระทั่งการประสานค่ายกลเข้าไป ดูท่ากระบี่เล่มนี้จะไม่ธรรมดา”สวี่ล่ายจ้องค้างเล็กน้อย ย้อนนึกถึงง้าวกรีดนภาที่ละลายไปแล้ว ตอนนั้นมันก็มีอักขระยันต์ชุดหนึ่งที่สลักผนึกโดยผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลเช่นกัน

“ที่กระบี่เล่มนี้ชื่อว่ากระบี่ดาวตกแม่ลูก ก็เพราะตัวกระบี่สามารถแยกส่วนออกเป็น 13 เล่มเล็กเพื่อต่อกรกับศัตรูได้” หลานซินเพิ่งพูดจบ ปราณบริสุทธิ์ในร่างกายถูกฉีดเข้าไปในกระบี่ดาวตกแม่ลูกในมือ อักขระยันต์ในกระบี่เปล่งประกายทันที

หึ่ง หึ่ง~！

ค่ายกลในกระบี่ส่งเสียงอื้ออึงออกมา หลังจากนั้นหลานซินชี้มือข้างหนึ่ง “จงคลาย!”

หวืออออ หวืออออ หวืออออ....

กระบี่แตกตัวในพริบตา เปลี่ยนเป็นดาราแสงสีคราม 13 ดวง หมุนรอบหลานซินอย่างช้าๆ

เวลานี้ทุกคนสังเกตเห็น ว่าในมือของหลานซินยังเหลือกระบี่เล่มบางที่ยาวราวๆ 2 อิงฉื่อและกว้าง 2 ชุ่นอยู่ มันเปล่งแสงจางๆ

“นี่คือ...?”

ดวงตาของสวี่ล่ายเป็นประกาย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหนือกระบี่แม่ในมือของหลานซิน มีค่ายกลขนาดเล็กที่กำลังหมุนวนอย่างช้าๆ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”

สวี่ล่ายเข้าใจทันที ปรากฎว่ากระบี่นี้อาศัยกระบี่แม่ในการควบคุมกระบี่ลูกทั้งสิบสามจากระยะไกลในการต่อสู้กับศัตรู  ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงสามารถรุกและรับเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสกุดหัวศัตรูได้โดยไม่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าประชิดตัว

“ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าการประสานค่ายกลจะนำมาประยุกต์ใช้เช่นนี้ได้ด้วย”

สวี่ล่ายลูบคางตัวเอง ลอบยินดีในใจ “หากในอนาคตมีโอกาส ข้าคงต้องตีสนิท ผู้เชี่ยวชาญการหลอมเอาไว้บ้างแล้ว ...”

สวี่ล่ายจินตนาการถึงการได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญการหลอม ให้อีกฝ่ายสร้างอาวุธขั้นสูงให้แก่เขา ถึงตอนนั้นปัญหาเรื่องการอัพเกรดดาบกระหายเลือดก็จะหมดไป

ในเวลานี้หลานซินยังคงอธิบายต่อ “กระบี่นี้นอกจากจะอาศัยค่ายกลควบคุมด้วยปราณบริสุทธิ์แล้ว ผู้ใช้ยังต้องมีพลังจิตที่แก่กล้าเพียงพอที่จะสั่งการมันเป็นเวลานาน อย่างบ่าวมีพลังจิตจำกัด ควบคุมและสั่งการกระบี่ลูกทั้ง 13 เล่มได้แค่ในระยะสิบอิงฉื่อเท่านั้น”

หลานซินว่าจบ ก็ถอนพลังจิตของเธอออกอย่างช้าๆ คืนกระบี่ 13 เล่มให้กับกระบี่แม่ในมือ

“อ้อ? ที่แท้กระบี่ดาวตกแม่ลูกชุดนี้จำเป็นต้องใช้พลังจิตจำนวนมากในการควบคุม?”

“ดูท่าว่าแม้ได้ครอบครองสมบัติชิ้นนี้ ข้าคงใช้ไม่ได้อยู่ดี”

“ใช่ ใช่”

แม้ว่าหลายคนในสถานที่ประมูลจะใจสั่นเล็กน้อย แต่หลายคนรู้ว่าไม่เหมาะกับตน จึงเลิกสนใจกระบี่ในมือหลานซิน

“ใช้พลังจิตจำนวนมากในการควบคุมงั้นหรือ?” สวี่ล่ายยิ้มเล็กน้อย ทักษะฝึกประสานหนึ่งไร้ขอบเขตของตน เดิมมันเป็นของผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล นอกจากนี้ยังมีบันทึกสร้างค่ายกลสวรรค์แตกตื่นที่ช่วยเสริมสร้างพลังจิต สวี่ล่ายจึงมีความมั่นใจมาก ว่าหากเขาได้กระบี่ดาวตกแม่ลูกนี้มาครอง จะสามารถกุดหัวศัตรูในระยะ 50 อิงฉื่อได้อย่างแน่นอน

“เอาล่ะๆ ข้อดีและข้อเสียของกระบี่ดาวตกเล่มนี้ก็บอกไปแล้ว ต่อไปราคาประมูลเริ่มต้นของมันจะอยู่ที่ 2,000 หินดวงดาวขั้นต้น เคาะราคาเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 100 หินดวงดาว เริ่มได้!”

หลานซินเพิ่งพูดจบ มีบางคนใจร้อนอดไม่ไหว เสนอราคาออกไป

“ข้าให้ 2,000!”

“2,100 หินดวงดาว!”

“ข้าขอเสนอ 2,200 หินดวงดาว!”

สวี่ล่ายนั่งรออย่างเงียบๆ ไม่ได้รีบร้อนที่จะลงมือ เพราะเขาเข้าใจดี ตอนนี้เป็นช่วงคนกำลังแย่งกันประมูล ต่อให้เสนอราคาไปก็ไม่ได้ตามต้องการ เอาไว้เมื่อราคาใกล้ถึงจุดอิ่มตัว เขาค่อยเสนอราคาทีเดียว

เวลาล่วงเลยไป ราคาของกระบี่ดาวตกพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึง 8,000 หินดวงดาว เสียงค่อยเบาลง

“8,200 หินดวงดาว!”

ณ จุดนี้ หลานซินเริ่มนับถอยหลังการประมูล

สวี่ล่ายรู้สึกว่าควรแก่เวลาแล้ว แม้ยังคงมีคนเสนอราคาเพิ่ม แต่ส่วนใหญ่เพิ่มครั้งละ 100 - 200 หินดวงดาว

“ข้ายินดีจ่าย 10,000 หินดวงดาวขั้นต้น!”

สวี่ล่ายเพิ่งพูดจบ ก็สามารถเรียกสายตาคนทั้งสถานที่ประมูลได้ในพริบตา

“ชายผู้นี้คือใคร?”

“คาดไม่ถึงว่าจะเพิ่มราคาโดดขึ้นหลักหมื่น”

“ร่ำรวยจริงๆ”

สวี่ล่ายยิ้มเล็กน้อย เกิดความรู้สึกว่าวิธีนี้ของตัวเองค่อนข้างได้ผล มันหยุดนักบู๊ทุกคนที่พร้อมจะเพิ่มราคาประมูล

“ยอดเยี่ยม! สหายผู้นี้เสนอราคา 10,000 หินดวงดาว มีใครให้สูงกว่านี้หรือไม่?” หลานซินยิ้มเล็กน้อย เกิดความคิดว่าราคานี้สอดคล้องกับที่เธอประเมินไว้ในใจแล้ว

“หินดวงดาวขั้นต้น 10,000 ก้อน ครั้งที่หนึ่ง!” หลานซินเริ่มนับถอยหลัง

สวี่ล่ายพยายามสงบหัวใจดวงน้อยๆที่กำลังตื่นเต้น รอนับสาม

“หินดวงดาวขั้นต้น 10,000 ก้อน ครั้งที่สอง!”

“หินดวงดาวขั้นต้น 10,000 ก้อน ครั้งที่ ...!”

ก่อนที่หลานซินจะประกาศจบผลการประมูล ทันใดนั้นมีคนยืนขึ้นในระยะไกล

“11,000 หินดวงดาว!”

ฮือฮา--!

เกิดเสียงอึกทึกในสถานที่จัดงานประมูลอีกครั้ง

“หมื่นกว่าแล้วยังมีคนแย่งกันอยู่?”

“พวกเขาเป็นใครกัน?”

“อาจเป็นคนจากตระกูลใหญ่?”

สวี่ล่ายขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะมีใครมาแย่งตัวเอง หันศีรษะไปมองสองสามครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นตระกูลใดหรือเป็นฝ่ายใด

“12,000 หินดวงดาว!” สวี่ล่ายยกมือขึ้นอีกครั้งโดยไม่ลังเล

“หมื่น......” ชายผู้นั้นกำลังจะยืนขึ้นและเสนอราคาอีกครั้ง แต่กลับถูกคนข้างตัวดึงไว้

“นายน้อย พวกเรามาเพื่อสมบัติตกทอด อย่าเสียหินดวงดาวไปกับของไร้ประโยชน์”

“ข้า... ก็ได้!” ‘นายน้อย’ คนนั้นกัดฟัน ค่อยๆ ลดมือที่ยกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ

“หินดวงดาว 12,000 ก้อน มีใครต้องการเพิ่มราคาอีกไหม?”

ป้าง!

“ปิดประมูล!”

ค้อนไม้ทุบลง สวี่ล่ายได้กระบี่ดาวตกสมหวัง

“ฮู้ว~！แพงจริงๆ ประมูลครั้งเดียวใช้หินดวงดาวทั้งหมดในมือ แถมยังค้างชำระอีกพันนึงด้วย” สวี่ล่ายส่ายหัวพร้อมถอนหายใจเบาๆ โชคยังดีที่หินประสานค่ายกลของเขาขายได้ในราคาสูง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินจ่ายในภายหลัง

“เอาล่ะ ทุกท่าน รายการต่อไปก็เป็นอาวุธระดับสมบัติเช่นกัน แม้ว่ามันจะอยู่แค่ในขั้นสูงเท่านั้น แต่ก็เป็นอาวุธประเภทป้องกันที่หาได้ยาก”

หลานซินเพิ่งพูดจบ เธอก็นำโล่ทรงเพชรสีแดงขนาดเล็กออกมา

“โล่อัคคีนี้ ถูกหลอมโดยปรมาจารย์หวู่แห่งพันธมิตรอาวุธ ใช้แก่นโลหะ แก่นทองแดง และแก่นเงิน จากนั้นสกัดวัสดุหายากอย่างหินอัคคีขั้น 3 เข้าไป โล่นี้มีความสูง 2 อิงฉื่อ 3 ชุ่น ยาว 7 ชุ่น มันสามารถป้องกันการโจมตีเต็มรูปแบบของผู้ชำนาญการต่อสู้ในขอบเขตรวมวิญญาณได้”

“อุปกรณ์ป้องกันระดับสมบัติ?”

“สมบัตินี้หายากจริงๆ”

“หากมีมันในมือ ตำแหน่งชนะเลิศงานประลองก็ไม่ใช่แค่ฝัน!”

เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้งในสถานที่ประมูล แต่คนส่วนใหญ่ยังคงคงรักษาความเยือกเย็น

เพราะยังไงซะ คุณภาพของโล่นี้ไม่สูงนัก มูลค่าของมันอาจใช้ไม่ได้ดังที่โฆษณา

สวี่ล่ายรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อคิดถึงหินดวงดาวในมือ ในที่สุดก็ตัดสินใจยอมแพ้

“เอาล่ะ เริ่มประมูลกันที่ 1,000 หินดวงดาว เสนอราคาเพิ่มแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 100 เริ่มประมูลได้!”

“1,000 หินดวงดาว!”

“ข้าเสนอราคา 1,100”

“หินดวงดาว 1,500 ก้อน!”

“ข้ายอมจ่าย 3,000...”

สวี่ล่ายมองไปรอบๆ และพบว่าคนที่แย่งกันเสนอราคาโล่อัคคีนี้มีไม่มากนัก

ป้าง!

“จบประมูลที่ 5,100 หินดวงดาว!”

หลานซินทุบค้อนไม้ ปิดการขายโล่อัคคี

ในการประมูลรอบต่อไป อาวุธระดับสมบัติปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง มีหลายชิ้นเป็นของชั้นยอด และแฝงผลคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง

ซึ่งมันช่วยยืนยันให้สวี่ล่ายได้ว่า อาวุธหลายรายการ ส่วนใหญ่จะมีการประสานค่ายกลลงไปเพื่อเพิ่มพลัง

เวลาล่วงเลยผ่านไป การประมูลดำเนินมาถึงครึ่งทางแล้ว แต่ความกระตือรือร้นของฝูงชนยังคงร้อนแรง

ภายใต้คำอธิบายของหลานซิน สมบัติบางชิ้นที่เดิมธรรมดา ก็กลายเป็นหายากในแผ่นดิน กระทั่งสวี่ล่ายยังเผลอยื่นมือไปร่วมกันแย่งชิง ยอมติดหนี้พันธมิตรการค้าและได้สมบัติอีกสองชิ้นมาครอง

“ฮู้ว .. รายการประมูลชุดที่สองจบลงเพียงเท่านี้ การประมูลรอบต่อไป บ่าวต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อน เพราะสมบัติเล่อค่าต่อจากนี้ มันมีมูลค่ามหาศาลมาก เกินกว่าขอบเขตการประเมินของข้า”

หลานซินปาดเหงื่อบนหน้าผากของเธอ

“อะไรนะ? สมบัติต่อไปเกินกว่าขอบเขตการประเมินของหลานซินแล้ว?”

“หรือว่าต่อจากนี้ยังมีสมบัติชั้นเลิศปรากฏขึ้น?

“ดูท่าว่าการมาประมูลในวันนี้จะเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าแล้ว”

“การประมูลต่อไป จะดำเนินการโดยท่านอาจารย์ของข้า ขอทุกท่านปรบมือให้กับปรมาจารย์ฟาง --ฟางเฉาซิน!”

หลานซินเพิ่งพูดจบ เสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั่วงานประมูล

แปะ แปะ——！

“ขอบคุณ ขอบคุณ” ทันใดนั้นเงาร่างมนุษย์สว่างวาบ ชายชราหลังค่อมผมหงอกเดินขึ้นมาจากหลังเวที

“สวัสดีปรมาจารย์ฟาง”

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านปรากฏตัว”

ปรมาจารย์ฟางยิ้มเล็กน้อย โบกมือให้ทุกคน “ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำทักทายอันอบอุ่น เราผู้เฒ่าฟางเฉาซิน เดิมเกษียนตัวเองและกลับบ้านเกิดแล้ว แต่วันนี้ได้รับเชิญจากทางพันธมิตรการค้าว่านตง เพื่อเป็นผู้บรรยายการประมูลครั้งนี้อีกครั้ง ข้ารู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง”

“วันนี้ ทางพันธมิตรเราตอบรับคำขอจากตระกูลใหญ่ เพื่อนำสมบัติตกทอดจากบรรพชนมาขาย และข้าเชื่อว่าพวกท่านทุกคนมาที่นี่เพื่อสมบัตินี้”

ทันทีที่กล่าวถึง ‘สมบัติตกทอดจากบรรพบุชน’ สถานที่จัดงานเริ่มไม่สงบอีกครั้ง

“ยอดเยี่ยม! ในที่สุดก็รอจนถึง ‘สมบัติตกทอดจากบรรพชน’ ชิ้นนี้แล้ว”

“ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง”

“สมบัติตกทอดจากบรรพชน!?”

เฝ้าดูฝูงชนโดยรอบที่กำลังตื่นเต้น สวี่ล่ายกระพริบตาอย่างโง่เขลาอยู่ข้างๆ

“พี่ชายคนนี้ ไม่ทราบว่า... สิ่งที่เรียกสมบัติตกทอดจากบรรพชน มันคือสมบัติใด?” สวี่ล่ายพูดกับชายร่างผอมข้างๆ เขา กระซิบถาม

“เจ้าไม่รู้หรือ?” ชายร่างผอมผงะ มองสวี่ล่ายด้วยความอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ข้าไม่รู้จริงๆ”สวี่ล่ายส่ายหัวอย่างแรง แสดงท่าทีว่าไม่ทราบ

“ข้าจะบอกเจ้า ภายในสถานที่จัดประมูล 8 ใน 10 ส่วนของคนในที่นี้ พวกเขามาเพื่อซื้อสมบัติตกทอดจากบรรพชน ว่ากันว่าสมบัตินี้คือเศษเสี้ยวของทักษะฝึกระดับธรณีที่หลงเหลือมาจากตระกูลโบราณ”