ตอนที่แล้วตอนที่ 107 การร่วงหล่นของนางฟ้าสีขาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 109 รางวัล

ตอนที่ 108 นี้เป็นการลงโทษ~


"นางฟ้าสีขาวผู้ร่วงหล่น... " หลังจากได้ยินชื่อเล่นดังกล่าวท่าทางของเซจิก็ดูเหม่อลอย

หลังจากคิดได้ เขารู้สึกว่าเขาเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าคาเดะจะทำหน้าที่แบบสุภาพแค่ผิวเผิน แต่เธอก็ยังคงเป็นลูกสาวของครอบครัวมาเฟียอยู่ดี!

ฉากที่ฝังแน่นที่สุดของเธอคือฉากที่เธอได้สอนกับผู้ชายใส่สูตสีดำพวกนั้น... หรือ ถ้าจะให้เจาะจงมากกว่านั้น ฉากนี้ร่วมกับท่าทางที่เอียงอายและท่าทางอึดอัดใจของเธอหลังจากนั้นด้วย มันแตกต่างกันแบบสุดขั้วเลย...

ผู้ที่เข้าไปในห้องของเธอด้วยเจตนาที่อยากจะเจอกับครูสาวคนนั้นบางทีอาจจะดูสุภาพในตอนแรก ถึงอย่างนั้นก็ตามเมื่อมันถูกเปิดเผยว่าพวกเขาไม่ได้มีปัญหาทางร่างกายหรือจิตใจเลย คาเอเดะจะโกรธและบรรยายสิ่งที่เลวร้ายออกมา

ความแตกต่างนี้มันเกือบจะเหมือนกับดร.เจคเคิลและมิสเตอร์ไฮด์(Dr.Jekyll and Mr.Hyde)* ซึ่งเมื่อรวมกับหน้าตาที่สวยงามของเธอแล้ว มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่ปล่อยให้นักเรียนชายมีความรู้สึกประทับใจลึกๆ ในความเป็นจริงบางคนอาจจะมีอารมณ์แปรปรวนอยู่ก็ได้

เซจิเข้าใจเรื่องนี้มันเกิดจากความน่ารักจากสิ่งที่คาดไม่ถึง

อาจจะมีคนโง่บางคนหลงเสน่ห์เรื่องนี้ก็ได้ พวกเขาอาจจะตกหลุมรักกับความสามารถพิเศษของเธอ และไปกระตุ้นความสนใจใหม่ๆและเปิดประตูสู่โลกของมาโซคิส หรืออะไรที่คล้ายกัน

'มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉันซักหน่อย'

เซจิไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นๆที่ได้รับเพียงแค่ของหวานอย่างเดียว**ในการเข้าคิวเพื่อเจอกับคาเอเดะ

ส่วนตัว เขารู้สึกว่าความน่ารักแบบนั้นคล้ายๆกับแบบใน 2 มิติ แต่ในความเป็นจริง... ตราบเท่าที่เขาไม่ได้เป็นตกเป็นเป้าหมายของการดูถูก มันก็อาจเป็นที่เรื่องยอมรับได้

สำหรับปฏิกิริยาของมิกะและชิอากิที่มีต่อเรื่องนี้-

"คุณจูมอนจิ... มีด้านแบบนั้นด้วยเหรอ?" สาวสวยผมเปียพูดอย่างตกใจ

"เฮ้ เฮ้~~ ดูเหมือนว่านี้จะน่าสนใจทีเดียว เซนโจ ลองไปดูด้วยกันเถอะ!" สาวทอมบอยมีรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า "ในฐานะเพื่อนสนิท ฉันควรจะไปและทักทายคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของมิกะซักหน่อย!"

"ชิอากิ!" มิกาพูดประท้วงอย่างโกรธเกรี้ยว

ถึงจะเป็นแบบนี้

แต่ไม่ว่าจะยังไง วันนี้ก็ยังคงเป็นวันที่เงียบสงบในโรงเรียนเหมือนเคย

...

หลังเลิกเรียน

เซจิมุ่งหน้าไปที่ร้านขายขนมหวาน

หลังจากที่เขามาถึงเขาก็ถูกเรียกตัวไปที่ห้องทำงานของริกะ ตามที่เขาคาดไว้

"ขอบคุณมาก ฮารุตะคุง"

หลังจากที่ได้เห็นเขา ริกะ อะมามิก็โค้งขอบคุณเซจิ

"ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องเลวร้ายนี้จะถูกเปิดออก... ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันไม่ได้สังเกตว่าครอบครัวของพวกเขามัน... "

ท่าทางของริกะเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

เธอตำหนิตัวเอง เนื่องจากไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติภายในครอบครัวของพี่ชายของเธอ

"ถ้าแค่ฉันให้ความสนใจเกี่ยวกับมันมากขึ้นในอดีต ฉันจะสามารถเจอมันได้ แต่... ฉันก็ไม่สนใจพวกเขามากพอ"

เซจิยังคงนิ่งอยู่

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ริกะก็ถอนหายใจก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง "ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็รู้สึกขอบคุณเธอมากจริงๆสำหรับสิ่งที่เธอได้ทำไป... ไม่เพียงแค่ฉัน ครอบครัวของเราทั้งหมดติดหนี้บุญคุณเธอมาก"

เซจิยิ้มตอบกลับ

"นั้นไม่จำเป็นต้องหรอกครับ ผู้จัดการ โฮชิคือรุ่นน้องและเพื่อนของผม- ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมควรจะทำก็แค่นั้น"

"นายแค่ทำในสิ่งที่นายควรจะทำ... " ริกะพูดต่อ "มีสักกี่คนบนโลกนี้กันที่จะทำขนาดนั้นเพราะเพื่อนที่พวกเขารู้จักกันแค่ในช่วงเวลาสั้นๆน่ะ?"

ริกะยิ้มขณะที่เธอมองตรงไปที่ใบหน้าของเซจิ"เด็กคนนั้น โฮชิ... เขายกให้นายเป็นไอดอลของเขา ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนั้น"

"ฉันภูมิใจที่ได้นายเป็นพนักงานของฉัน ฮารุตะคุง ฉันโชคดีจริงๆที่จ้างนายในตอนนั้น"

"แล้วคุณสามารถเพิ่มเงินเดือนของผมได้หรือเปล่าครับ?" เซจิกระพริบตาด้วยความพยายามที่จะทำตัวน่ารัก

ริกะหัวเราะออกมาดังๆแล้วพูดว่า "โทษที ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก แต่ถ้าเธอต้องการ ฉันก็สามารถให้เงินเธอจำนวนมากต่อหน้าทุกคนได้นะ!"

"ช่างมันเถอะ ผมไม่ต้องการที่จะถูกฆ่าจากรุ่นพี่ทานากะและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆหรอกนะครับ" เซจิยักไหล่และยกมือขึ้นและแบมือในท่าทางที่บอกว่าช่วยไม่ได้

หลังจากนี้พวกเขาก็หัวเราะกันออกมาอย่างเสียงดัง

เซจิไม่อยากได้เงินจากผู้จัดการจริงๆ ริกะเองรู้ด้วยว่าเขากำลังล้อเล่น ถ้าเธอเสนอให้เงินจริงๆเขาก็คงจะไม่ยอมรับมัน

เกิดความเงียบในช่วงเวลาสั้นๆ

"ฮารุตะคุงจริงๆแล้วฉันยังคงมีคำถามที่อยากถามอยู่... แม้ว่าฉันจะคิดถึงเหตุผลที่เป็นไปได้แล้ว แต่ฉันก็รู้สึกดีกว่าที่จะถามเธอโดยตรง" ริกะเงยหน้าขึ้นมองเซจิขณะที่แววตาของเธอเต็มไปด้วยแสงแปลกๆ "ตอนแรกทำไมเธอถึงไม่... ในเมื่อเธอได้รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากโฮชิแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ได้ติดต่อหาฉันในทันทีล่ะ?"

เซจิชะงักไปชั่วคราว

"ผู้จัดการ คุณก็คงคิดออกแล้ว ดังนั้นผมคงไม่จำเป็นต้องตอบหรอก มันน่าอับอายนะครับ"

"ทำไมเธอถึงอาย? " ริกะเดินเข้ามาใกล้ๆ และมีท่าทางที่อ่อนโยนในแววตาของเธอ

"เอ่อ... นั่นเป็นเพราะ... " เซจิหันหน้าไปทางอื่น "ตอนนั้นผมโกรธมาก ผมเลยอยากสร้างเรื่องขึ้นมาให้มันใหญ่โตก็เท่านั้น และผม... ก็ลืมไปซะสนิทเลย... เกี่ยวกับคุณ จนจบเรื่องเลย"

ริกะรู้สึกตะลึงกับสิ่งนี้

จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ในทันทีและหัวเราะออกมาดังๆ

"จริงๆเลยนะ ฮารุตะคุง... "

ริกะส่ายหัวของเธอเล็กน้อย ขณะที่ตาเธอตายังคงจ้องมองไปที่เขา

"นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเลยบอกว่ามันน่าอายไงครับ!" เซจิเกาไปที่แก้มอย่างเชื่องช้าและเบี่ยงสายตาอยู่ "ผู้จัดการ คุณเองก็อาจคิดมันออกได้ แต่ก็ยังถามผมอยู่อีก... "

'เฮอ งี่เง่า'

เขายังไม่ทันพูดจบประโยค... ริกะ อะมามิก็เดินเข้ามาหาเขาและจูบลงไปที่แก้มของเขา!

ความรู้สึกอ่อนนุ่ม สัมผัสที่อบอุ่น  และกลิ่นของความเป็นผู้ใหญ่...

เซจิตัวแข็งไปในทันที

"นี้เป็นการลงโทษสำหรับเด็กโง่ที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องนี้"

ริกะก้าวถอยหลังหลังหอมแก้มเบาๆ ขณะที่เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์

เธอได้คิดแล้วว่าเธอรู้ว่าเซจิต้องกังวลเกี่ยวกับความยากลำบากของเธอที่จะเข้าไปแทรกแซงสถานการณ์โดยอิงจากคำพูดของโฮชิ

เธอเป็นน้องสาวของพ่อของโฮชิ เช่นเดียวกันโฮชิและฝาแฝดเธอเป็นน้าของพวกเขา เป็นญาติพี่น้องของพวกเขา... ถ้าเธอได้เข้าไปแทรกแซงในความมืดมิดที่ห้อมล้อมของครอบครัวญาติของเธอ เธอจะต้องอยู่ภายใต้ความกดดันที่ยิ่งใหญ่

เธอมีสิทธิ์ที่จะแทรกแซง แต่สิทธิที่จะทำแบบนั้นได้ไม่ได้หมายความว่าจะทำได้โดยง่าย ถ้าเธอไม่ดึงมันออกอย่างถูกต้องเธอจะถูกปฏิเสธโดยทุกคนหรือแม้กระทั่งถูกมองว่าเป็นคนเลว

แม้ว่าสิ่งนั้นจะไม่ได้ถูกเปิดออกมา จากข้อสันนิษฐานว่าเธอสามารถเข้าแทรกแซงกิจการภายในครอบครัวได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของหลานชายของเธอ และเธอก็อาจจะมีวิธีที่สามารถกำจัดความมืดออกจากตัวพวกเขาได้ แล้วไงล่ะ?

บางครั้งการช่วยเหลือผู้อื่นจะไม่ถูกมองว่าเป็นความเมตตาจากพวกเขาเลย แม้ว่าคุณจะเป็นญาติที่มีสายเลือดเดียวกัน... หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะคุณเป็นญาติสนิท แต่สิ่งต่างๆก็ใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย

ในเวลานั้นการติดต่อริกะ อะมามิจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องในทางทฤษฎี มันเป็นวิธีการที่เหมาะสมและดีที่สุดที่จะใช้

แต่ในกรณีนี้ความรับผิดชอบทั้งหมดในการจัดการกับสถานการณ์ในครอบครัวนั้นจะตกไปเป็นภาระของริกะ อะมามิ

นั่นเป็นเหตุผลที่เซจิไม่ได้ทำอย่างนั้น

ในฐานะที่เป็นคนภายนอก เขาเลือกที่จะแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดด้วยตัวเองและเผชิญหน้ากับฝาแฝดกับเพื่อช่วยเพื่อนของเขา... หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในส่วนที่ยากที่สุดแล้วเขาก็ติดต่อกับริกะ

ผิวเผิน เขาทำให้เป็นระเบียบมากก่อนที่จะให้ริกะจัดการหลังจากเขา

แต่ในความเป็นจริงนี้คือความอ่อนโยนของเขา... หรือบางทีนี้เป็นทางที่เขาช่วยปกป้องเธอ

ริกะ อะมามิได้พิจารณาเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว และเข้าใจความตั้งใจของเขา

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้เคลื่อนไหว

เป้าหมายของเธอคือการให้เซจิที่ต้องเผชิญหน้ากับการที่ต้องฝืนบังคับให้เขานั้นยอมรับความอ่อนโยนของตัวเอง เพื่อที่จะทำให้เธอสามารถชื่นชมเขาได้

มันไม่ใช่เพราะครอบครัวของพี่ชายของเธอ-เธอต้องการชื่นชมเขาที่ปกป้องเธอจากปัญหาที่เดือดร้อนได้

ถึงอย่างนั้นก็ตามเธอไม่ได้คาดหวังว่าฮารุตะคุงจะเล่นบทคนโง่จนจบ ปกติแล้วเขาจะเป็นคนซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา แต่เขากลับหลอกเธอในเรื่องนี้!

'ฮ่าๆ ช่วยไม่ได้ละนะ'

หัวใจของริกะนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นเพราะงั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าจูบ... เป็นเด็กที่น่ารัก หล่อ และยังเงอะงะ

‘เพราะงั้นนี้คือบทลงโทษ ของคนโง่ที่กล้าหลอกคนอื่น’

-----------------------

*เรื่องย่อ ดร. เจคเคิล กับ มิสเตอร์ไฮด์

นวนิยายขนาดสั้นเรื่อง Strange Case of Dr Jekyll and Mr Hyde ของ รอเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน ที่ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2429 เป็นเรื่อง Dr.Jekyll ซึ่งมีสองตัวตนอยู่ในตัว

ในมุมมองของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ จิตของมนุษย์ทำงานโดยแบ่งเป็นจิตสำนึกกับจิตใต้สำนึก หากเราฝังความรู้สึกหรือสัญชาตญาณเลวร้ายเข้าไปหมกอยู่ในจิตใต้สำนึกนานๆ โดยที่เปลือกนอกพยายามทำตัวเป็นคนดี ก็จะสร้าง 'มิสเตอร์ไฮด์' ซ่อนอยู่ รอวันปะทุออกมา

ที่มา: https://pantip.com/topic/35202582

**who’d received their just desserts ประโยคนี้น่าจะแปลว่า ได้รับแต่ของดีๆหรือของชอบ โดยไม่เคยได้รับอะไรที่มันแย่ๆ (มั้ง)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด