ตอนที่แล้วตอนที่ 22 พลังตระหนกล่องลอย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 การแสดง

ตอนที่ 23 จู่โจม


แต่ในฐานะนักหลอมโอสถเฉินเฟยจึงได้สัมผัสสมุนไพรชนิดนี้ทุกวัน ไม่ว่าฉือเต๋อเฟิงจะทำของปลอมอย่างไรเฉินเฟยก็มองออก

“อะไร มีสมุนไพรปลอมอีกแล้ว!”

ฉือเต๋อเฟิงที่ทำเหมือนเพิ่งรู้ตะโกนเสียงดัง “น้องชาย มันไม่ร้ายแรงหรอก ข้ารู้อยู่แล้วว่าคนพวกนั้นไม่ซื่อสัตย์จึงให้พวกเขาเก็บมามากขึ้นเพื่อไม่ให้สมุนไพรสิบชุดของเจ้าขาดหาย”

ตามที่ฉือเต๋อเฟิงพูด เขาลากสมุนไพรออกจากห้องอื่นมาวางไว้หน้าเฉินเฟย

เฉินเฟยมองฉือเต๋อเฟิงที่เตรียมการแผนสองไว้ ถ้าเขาไม่เห็นก็ถือว่าได้กำไร ต่อให้เขาเห็นก็ยังมีแผนสำรอง

ฉือเต๋อเฟิงคนนี้มีพรสวรรค์จริงๆ

“ข้าจะดูอีกรอบ”

เฉินเฟยตรวจสอบสมุนไพรชุด หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าเฉินเฟยก็เปลี่ยนเป็นสีดำ ในนี้มีสมุนไพรปลอมปนอยู่ด้วย

เฉินเฟยลุกขึ้นมองฉือเต๋อเฟิง

“ยังมีของปลอมอีก? มากเกินไป นี่มันมากเกินไปแล้ว!”

เฉินเต๋อเฟิงส่ายหัว พลิกมือหยิบสมุนไพรจากด้านหลังส่งให้เฉินเฟย “ดูอีกที โชคดีที่ข้ามีมากพอ”

“…”

หนึ่งเค่อต่อมา เฉินเฟยออกจากตลาดมืดพร้อมกับห่อของสะพายหลัง พ่อค้าในตลาดมืดล้วนมีคุณลักษณะเดียว พวกเขาต่างเป็นทหารรับจ้าง เมื่อรู้แบบนั้นเฉินเฟยจึงไม่คิดหาคนอื่นมาแทนฉือเต๋อเฟิว

อย่างน้อยสมุนไพรที่ฉือเต๋อเฟิงมอบให้ก็มีคุณภาพดีและจัดส่งได้ทันเวลา

ย้อนกลับมาที่ลานเช่า เฉินเฟยเข้าไปในห้องหลอมโอสถและใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วยามในการหลอมสมุนไพรทั้งหมดให้เป็นโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ

ในขณะที่ความเชี่ยวชาญใกล้ถึงระดับรู้แจ้ง จำนวนโอสถที่หลอมได้ก็มีมากขึ้น เฉินเฟยสามารถหลอมสมุนไพรสิบชุดเป็นโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพได้สามสิบเอ็ดเม็ด

“การขายโอสถเหล่านี้จะทำให้เซียนชี้นำเป็นแบบง่ายได้”

เฉินเฟยอดยิ้มไม่ได้ เขาอยากได้วิชากระบี่นี้นานแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะมีกระบวนท่าสังหาร แม้จะเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองก็สามารถสู้กลับได้

เช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนที่เฉินเฟยจะออกจากบ้าน หลิวจวินมาหาเขา

“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”

เฉินเฟยเห็นหลิวจวินดูร้อนรนมาก

“เกิดอะไรขึ้น?” เฉินเฟยยื่นถ้วยชาและพูดด้วยรอยยิ้ม

“ผู้ดูแลซุน...ผู้ดูแลซุนฆ่าคนมากมายแล้วหนีไป!”

เมื่อหลิวจวินพูดคำนี้ออกมาร่างกายเขาก็สั่นโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าเขาเห็นศูนย์การแพทย์อาบไปด้วยเลือด

“อย่ากังวล ค่อยๆพูดเถอะ” สีหน้าเฉินเฟยเปลี่ยนเป็นจริงจัง

“ในตอนเช้ามีคนของบ้านหลักบอกให้ผู้ดูแลซุนไปพูดคุยที่ตระกูลจาง แต่สุดท้ายผู้ดูแลซุนหนีไป...”

หลิวจวินจิบชาและใจเย็นลงเล็กน้อย เขาเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนเช้าอย่างละเอียดให้เฉินเฟยฟัง

คนคุ้มกันตระกูลจางให้ซุนซู่ไปที่ตระกูลจาง ซุนซู่บอกกลับไปเอาของที่ห้องแต่เขาหนีออกไปทางลับที่อยู่ในห้อง

ใช่แล้ว ซุนซู่ขุดทางลับในห้องไว้ราวกับว่าเขาพร้อมโดนจับได้ตั้งนานแล้ว แต่คนคุ้มกันตระกูลจางที่มาครั้งนี้ระมัดระวังตัวมากจึงพบสิ่งผิดปกติทันที

พวกเขารีบเข้าไปในห้องและสู้กับซุนซู่

ซุนซู่แข็งแกร่งอย่างมาก ในบรรดาคนคุ้มกันทั้งห้ามีตายไปสองและซุนซู่ยังหนีรอดไปได้

ตระกูลจางโกรธเป็นอย่างยิ่ง พวกเขารายงานไปยังที่ว่าการอำเภอและเสนอรางวัลซุนซู่ด้วยเงินตัวเอง แม้ว่าจะให้เพียงข้อมูลของซุนซู่ก็สามารถรับเงินจำนวนมากได้

ในฐานะรองผู้ดูแลศูนย์การแพทย์ เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเฉินเฟยจึงต้องไปศูนย์การแพทย์

“หมอฉินตาย?”

หลังมาถึงศูนย์การแพทย์ได้ไม่นานก็ได้รับข่าวอีกอย่าง หมอฉินที่มาศูนย์การแพทย์เป่ยเฉิงเมื่อไม่กี่วันก่อนถูกฆ่าตายอยู่ที่ถนน

ฆาตกรสวมหมวกไม้ไผ่จึงเห็นหน้าได้ไม่ชัดเจน แต่เฉินเฟยรู้ดีว่าฆาตกรคือซุนซู่

“เป็นคนที่มีใจแก้แค้นรุนแรงจริง!”

เฉินเฟยพึมพำกับตัวเอง ซุนซู่คงเดาได้ว่าการที่เขาโดนเปิดเผยเกี่ยวข้องกับหมอฉินที่เพิ่งมาศูนย์การแพทย์เป่ยเฉิงไม่กี่วันก่อน

สิ่งที่เฉินเฟยคิดไม่ถึงคือหลังจากซุนซู่หนีออกจากศูนย์การแพทย์เขาไม่ได้ออกจากอำเภอทันทีแต่กลับไปฆ่าหมอฉินแทน ยังไม่ทันข้ามคืนก็แก้แค้นแล้ว โหดเหี้ยมมาก!

ทุกคนในศูนย์การแพทย์ต่างรู้เรื่องนี้ ดังนั้นตระกูลจางย่อมรู้เรื่องนี้เร็วกว่า

ตระกูลจางโกรธยิ่งกว่าเดิมเพราะการกระทำของซุนซู่สร้างความอับอายให้กับตระกูลจาง ไม่น่าแปลกใจที่จำนวนรางวัลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทันทีและมาถึงจุดที่เฉินเฟยรู้สึกอยากลงมือเมื่อเห็นจำนวนรางวัล

แต่เมื่อคิดถึงพลังของซุนซู่ในตอนนี้เฉินเฟยเลยล้มเลิกความคิดนี้

ตอนเช้าคนคุ้มกันไปห้าคน หนึ่งคนอยู่ในระดับหลอมกระดูกและสี่คนอยู่ในระดับขัดเกลากล้ามเนื้อ ซุนซู่โดนปิดล้อมแต่กลับฆ่าได้สองคนและยังหนีไปได้ คนตัวเล็กอย่างเฉินเฟยยังไม่พอสำหรับซุนซู่แน่นอน

ศูนย์การแพทย์เป่ยเฉิงอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงตลอดทั้งวันและทุกคนต่างเหม่อลอย

ตกกลางคืน เฉินเฟยออกจากศูนย์การแพทย์เดินกลับไปที่พัก

เขาเดินไปมาตามตรอกซอกซอยสองสามแห่ง เมื่อเฉินเฟยกำลังจะเดินเข้าไปในลานบ้านเขาก็หยุดเดินอย่างกะทันหัก หันมองไปรอบด้านด้วยความลังเลและค่อยๆถอยหลังไปสองสามก้าว

“ความรู้สึกเจ้าเฉียบแหลมจริง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนระวังตัวขนาดนี้!”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ทันใดนั้นร่างดำปรากฏที่ผนังลานบ้านและมองลงมาที่เฉินเฟย สายตาเย็นชาของเขาทำให้ร่างกายต้องสะท้าน

“ผู้ดูแลซุน?”

รูม่านตาเฉินเฟยหดตัว แม้ผู้มาเยือนจะปิดบังหน้าตาแต่เฉินเฟยบ่งบอกตัวตนได้จากการมองรูปร่าง

“ตอนนี้ข้าไม่ใช่ผู้ดูแลแล้ว เป็นเพียงสุนัขหลงทาง!” ซุนซู่หัวเราะเสียงต่ำ น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวราวกับว่าเข็มบางๆนับไม่ถ้วนกำลังทิ่มแทงคอ

“ผู้ดูแลซุนล้อเล่นแล้ว”

เฉินเฟยถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างเงียบๆ เขามองซุนซู่แล้วพูด “ไม่ทราบว่าผู้ดูแลซุนมาที่นี่ด้วยเรื่องอะไร?”

“วันนี้ข้าคิดอยู่พักหนึ่งว่าทำไมตระกูลจางถึงรู้เรื่องของข้า คนหนึ่งที่นึกได้คือคนสกุลฉิน ส่วนอีกคนคือเจ้า!”

ซุนซู่มองเฉินเฟยด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนออกจากอำเภอผิงหยินข้าต้องมาหาเจ้าก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่สบายใจนัก”

“ผู้ดูแลซุน ท่านเข้าใจผิดแล้ว!”

“ถ้าข้าคิดว่ามันถูกมันก็ถูก ส่วนเจ้าจะคิดอย่างไรมันไม่ใช่เรื่องของข้าไม่ใช่หรือ? ข้าต้องการฆ่าเข้า แล้วเจ้าจะทำอะไรได้!” ซูนซู่หัวเราะเสียงดัง

“ผู้ดูแลซุนพูดมีเหตุผล ลาก่อนผู้ดูแลซุน!”

เสียงเฉินเฟยแผ่วเบาลง ร่างกายเขาสั่นเทาและหายไปจากจุดนั้น

“คิดหนี? เจ้าถามข้าหรือยัง?”

ซุนซู่ตะคอกเย็นชา เขาเคลื่อนไหวตามเฉินเฟยไป หลังติดตามมาระยะหนึ่งรอยยิ้มซุนซู่ก็ค่อยๆหายไป

ซุนซู่คิดว่าสามารถจับเฉินเฟยได้ในไม่กี่ก้าว แต่ตอนนี้ระยะห่างจองทั้งสองกลับไกลออกไปเรื่อยๆ เพียงครู่เดียวทั้งสองฝ่ายก็ห่างกันหลายสิบหมี่

และเมื่อเวลาผ่านไประยะห่างนี้ก็ยังมากขึ้น

ดวงตาซุนซู่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เฉินเฟยเพิ่งทะลวงระดับขัดเกลาผิวหนังไม่ใช่หรือ?

นี่เป็นการเคลื่อนไหวของนักยุทธ์ขัดเกลาผิวหนัง?