ตอนที่แล้วบทที่ 44 - ไม่เรียนต่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46 – ออกจากโรงเรียน

บทที่ 45 – ความผูกพันฉันท์พี่น้อง


ตอนที่ผมไปหาเขา หม่าเคอกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้อง “พี่ใหญ่ อาจารย์ตี้ตามหาพี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่มีอะไร เขาแค่ไม่อยากให้ฉันเข้าเรียนที่สถาบันเวทย์มนต์หลวง”

ตอนนั้น ผมกับหม่าเคอมองหน้ากันอยู่ คำพูดของผมทำให้เขามีอาการประหลาดใจ “พี่ใหญ่ เวทย์มนต์ของพี่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น การไม่เรียนต่อถือเป็นการเสียเปล่า ทำไมอาจารย์ตี้ทำแบบนั้น เขาคิดอะไรอยู่?”

“นายไม่ต้องกังวลไป มันเป็นอย่างนี้” ผมอธิบายสิ่งที่อาจารย์ตี้บอกกับผมในห้องทำงานให้เขาฟัง “เป็นยังไงบ้าง? ไปด้วยกันกับฉัน ออกไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์กัน พวกเรา 2 พี่น้อง ต่อให้พวกเราเพิ่มระดับเวทย์ไม่ได้ พวกเราก็ยังได้เพิ่มความรู้ เพิ่มประสบการณ์”

หม่าเคอไม่ได้ตอบตกลงอย่างมีความสุขเหมือนที่ผมคิดไว้ หลังจากพึมพำกับตัวเองเล็กน้อย เขาก็พูดขึ้นมา “พี่ใหญ่ ให้เวลาผมลองคิดดูสักหน่อยได้มั้ย ผมคงต้องกลับไปปรึกษากับที่บ้านก่อนด้วย แล้วผมจะกลับมาบอกพี่พรุ่งนี้ ว่าผมตัดสินใจอย่างไร แบบนี้ดีมั้ย?”

ผมทุบเขาด้วยหมัด “เจ้าเด็กนี่ นี่ไม่เหมือนนายเลย ปกตินายตรงไปตรงมากว่านี้นี่ ไม่เป็นไร ฉันไม่บังคับนาย พรุ่งนี้เราค่อยมาคุยกันใหม่”

คำตอบของหม่าเคอทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก ผมแค่กลับไปฝึกเวทย์มนต์ด้วยตัวเอง

ตอนนี้ร่างกายของผมเติบโตขึ้นอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าเห็นแต่เพียงรูปร่างของผม คุณต้องคิดว่าผมเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแน่ ๆ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของผมยังดูเป็นเด็กอยู่ ผมไม่ได้หน้าแก่นะ! ข้อมูลส่วนตัวของผม ถ้าจะให้อธิบายให้ง่าย ๆ ก็ตามนี้เลย (แถมของหม่าเคอให้ด้วย)

ชื่อ เว่ย จางกง ส่วนสูง 181 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม

วิชาเวทย์หลัก ธาตุแสง วิชาเวทย์รอง ธาตุมิติ

สัตว์เวทย์มนต์ เสี่ยวจิน (มังกรทอง 5 กงเล็บ)

ความแข็งแกร่งของเวทย์มนต์โดยรวม อาจารย์เวทย์ (ยังไม่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เวทย์มนต์)

การควบคุมเวทย์มนต์ ระดับ S (ระดับแบ่งได้เป็น S A B C D E F)

พลังเวทย์ ระดับ A  การรับรู้เวทย์มนต์ ระดับ SS เวทย์ป้องกัน ระดับ A

เวทย์โจมตี ระดับ A  ความเร็ว ระดับ A (ลอยตัวไม่ได้)

การโจมตีทางกายภาพ ระดับ F  การป้องกันทางกายภาพ ระดับ F  ความทนทาน ระดับ D

ชื่อ ไซ หม่าเคอ ส่วนสูง 180 เซนติเมตร น้ำหนัก 74 กิโลกรัม

วิชาเวทย์หลัก ธาตุไฟ วิชาเวทย์รอง ธาตุลม

สัตว์เวทย์มนต์ สิงโตเพลิง (ผมไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่ไปหาสิงโตเพลิงประเภทเติบโตมาจากไหน? ตอนนี้มันเป็นสัตว์เวทย์ระดับ 8 แล้ว)

ความแข็งแกร่งของเวทย์มนต์โดยรวม อาจารย์เวทย์ (ยังไม่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เวทย์มนต์)

การควบคุมเวทย์มนต์ ระดับ S (ระดับแบ่งได้เป็น S A B C D E F)

พลังเวทย์ ระดับ B  การรับรู้เวทย์มนต์ ระดับ A เวทย์ป้องกัน ระดับ A

เวทย์โจมตี ระดับ A  ความเร็ว ระดับ A (ลอยตัวได้)

การโจมตีทางกายภาพ ระดับ F  การป้องกันทางกายภาพ ระดับ F  ความทนทาน ระดับ E

ด้วยความที่ทั้งผมและหม่าเคอเป็นพวกกินจุ ร่างกายของพวกเราโตเร็วมาก โดยเฉพาะส่วนสูงของเราที่ตอนนี้สูงกว่าผู้ใหญ่โดยทั่วไปเรียบร้อยแล้ว และด้วยรูปร่างหน้าตาของพวกเรา ตอนนี้พวกเรากลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในหมู่นักเรียนหญิงของโรงเรียนไปแล้ว แต่ว่านะ ผมไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ อีกอย่างผมพบว่าเด็กผู้หญิงมักจะน่ารำคาญ เลยไม่ได้ทำความรู้จักกับใครอย่างจริงจัง ส่วนหม่าเคอ นอกจากไห่เย่วแล้ว เขาก็ไม่ได้ไปตามยุ่ง ตามจีบเด็กผู้หญิงคนอื่นอีก สิ่งที่น่าตลกก็คือ ถึงผมกับไห่เย่วจะกลายเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่เธอก็ยังปฏิเสธที่จะทำความรู้จักหม่าเคอ น่าจะเป็นผลมาจากฉายาของเขา ‘เค้กข้าวหัวแดง’

ในวันต่อมา ผมไม่อยากรอคำตอบนาน ผมเลยจะรีบไปหาหม่าเคอ แต่เขามาหาผมก่อน หน้าของหม่าเคอแห้งเหี่ยว เห็นเขาเป็นแบบนี้ ผมเริ่มสังหรณ์ไม่ดี เป็นไปตามคาด หม่าเคอปฏิเสธที่จะเดินทางออกไปหาประสบการณ์พร้อมผม

“พี่ใหญ่....ผมเสียใจ ผมร่วมเดินทางไปกับพี่ไม่ได้” หม่าเคอบอกเสียงเบา

ผมยืดตัวตรงขึ้นทันที “ทำไม! ทำไมนายไม่ไป? อย่าบอกนะว่านาย...นายไม่อยากเดินทางกับฉัน? ไม่ใช่ว่าเราเป็นพี่น้องกันเหรอ?”

“ใช่ครับ เราเป็นพี่น้องกัน!” หม่าเคอตอบกลับอย่างแน่วแน่ “แต่พี่ใหญ่ ผมมีปัญหาที่เป็นความลับที่พูดให้พี่ฟังไม่ได้ ผมเสียใจจริง ๆ ที่เดินทางไปด้วยกับพี่ไม่ได้”

“ปัญหาประเภทไหน ถึงเป็นความลับจนบอกฉันไม่ได้? บอกมาเถอะ พวกเรา 2 คนช่วยกัน ต้องแก้ปัญหาได้แน่นอน” ผมยังไม่ยอมแพ้ สุดท้ายแล้ว ก็แค่เป็นเพียงเพราะผมยังไม่อยากที่จะต้องแยกจากบางคน ที่เป็นเหมือนกับพี่น้องของผมตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“ผมบอกพี่ไม่ได้จริง ๆ ผมบอกได้แค่ว่า มันเป็นปัญหาเกี่ยวกับทางครอบครัวของผม พวกเขาไม่ให้ผมไป”

ตลอดหลายปีที่อยู่ในโรงเรียนมาด้วยกัน ผมไม่เคยไปเที่ยวที่บ้านของหม่าเคอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมรู้เพียงแค่ว่าตระกูลของเขานั้นร่ำรวยมาก หลังจากได้ยินหม่าเคอพูดแบบนี้ ผมเริ่มค่อย ๆ สงบลง อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่สามารถบังคับให้คนอื่นทำตามใจผมได้ ถ้าเขาไม่ต้องการ

เรามองหน้ากันเงียบ ๆ อยู่นานทีเดียว ก่อนที่ผมจะเป็นคนทำลายความอึดอัด พูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันไปเถอะ ถ้าตระกูลของนายไม่อนุญาตให้นายไป อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร นายก็ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ตอนที่นายเข้าไปในสถาบันเวทย์มนต์หลวง อีก 2 ปีฉันก็กลับมาแล้ว” ตอนนี้ ผมรู้สึกอ้างว้างและโดดเดี่ยวมาก ดูเหมือนว่าผมจะต้องเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวผมเองในอนาคต นี่น่าจะเป็นแผนการของโชคชะตา ผมต้องเดินไปตามของผมด้วยตัวเอง

หม่าเคอเข้ามากอดผม “พี่ใหญ่...” เขาเริ่มร้องไห้ ผมพยายามอดทนตอนที่จับไหล่ของเขาอยู่ แต่ไม่ไหว น้ำตาของผมไหลออกมาแบบกลั้นไม่อยู่ด้วยอีกคน หลังจากที่อารมณ์อันอ่อนไหวของเราเริ่มดีขึ้น ผมปล่อยตัวเขา “ถึงเราจะต้องแยกกัน พวกเรายังเป็นพี่น้องกันตลอดไป”

“แน่นอน เป็นพี่น้องกันตลอดชีวิต” เขาหยุดไปสักพัก ก่อนจะพูดต่อ “พี่ใหญ่ พี่รู้มั้ย ใจผมอยากจะไปกับพี่ด้วยจริง ๆ แต่ผมควบคุมชีวิตของผมไม่ได้ทั้งหมด ผมต้องเชื่อฟังตระกูล ต้องทำตามที่พวกเขาวางแผนไว้ ถึงแม้ผมจะไม่ใช่ลูกชายคนโต แต่ผมก็ยังมีภาระผูกพัน และมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อพวกเขา ตระกูลผมเป็นตระกูลใหญ่ ดังนั้นผมต้องทำเต็มที่เพื่อตระกูลด้วย”

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันเข้าใจ นายไม่ต้องอธิบายให้ฉันฟัง พวกเราเป็นพี่น้องกัน ไม่ต้องพูดอะไรให้มันมากหรอก”

ผมเกือบที่จะตัดสินใจเดินกลับไปบอกอาจารย์ตี้แล้วว่า ผมจะไม่ออกเดินทางไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้ว แต่พอผมนึกถึงเส้นผมสีเทาของเขา และความคาดหวังอย่างสูงที่เขามีต่อผม ผมทำไม่ได้ ผมยังมีโอกาสกลับมาเจอกับหม่าเคออีก แต่อาจารย์ตี้? เขาอายุมากแล้ว เขายังจะมีกำลังพอที่จะเติมเต็มความฝันของเขา ยังมีกำลังพอที่จะสั่งสอนลูกศิษย์ที่มีความหวังบรรลุถึงระดับมหาเมธีเวทย์อีกคนหรือ? (บอกพวกคุณไว้ก่อนกันลืม อาจารย์ซิวออกเดินทางท่องโลกอยู่ หลังจากผมขึ้นปี 3 แล้ว เขาก็ไม่ได้มาเยี่ยมผมอีกเลย)

ในช่วงระหว่างเดือนสุดท้าย ผมใช้เวลาอยู่กันหม่าเคอเกือบตลอด ทุกวันเราจะออกไปหาอะไรกินด้วยกัน ฝึกเวทย์มนต์ และทำกิจกรรมร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตาม วันที่ต้องแยกย้ายก็มาถึง

ด้วยความแข็งแกร่งของผมตอนนี้ ผมไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการทดสอบจบการศึกษา ด้วยการยื่นใบรับรองระดับนักเวทย์สูงสุดที่ออกให้โดยสหพันธ์เวทย์มนต์ ผมก็จบการศึกษาได้อย่างราบรื่น (อาจารย์ตี้ไม่ต้องการให้ผมเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเอง กลัวว่าอาจารย์เวทย์อายุ 16 ปีจะทำให้โลกเกิดความแตกตื่น แต่แค่ระดับนักเวทย์สูงสุด ก็พอที่จะทำให้หลายคนอ้าปากค้างแล้ว)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด